1359 คำ
๘ คืนหนึ่งในอีกสามเดือนต่อมาก่อนนอนหลับ ปภาวดีนั่งดูนิตยสารสำหรับแม่และเด็ก หล่อนดูมันทุกคืนจนจอมทัพต้องเอ่ยถาม “มีอะไรดีเห็นปูนดูทุกคืนเลย” เขาเอ่ยหลังจากขึ้นเตียงนอนสอดตัวเข้าไปภายใต้ผ้าห่มเรียบร้อย คนที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้รูปภาพหนูน้อยทั้งหญิงชายชะงัก รอยยิ้มที่เกลื่อนใบหน้าเมื่อครู่ก็ค่อยๆ จางลง “ก็... ไม่มีอะไรค่ะ ปูนแค่ชอบ ดูรูปภาพเด็กพวกนี้แล้วมีความสุขก็เท่านั้น” หญิงสาวตอบทว่าไม่ยอมสบตาเขา ทำให้ผู้เป็นสามีต้องนิ่วหน้าด้วยความสงสัย เขารู้หล่อนอยากมีลูก แต่มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจพลางบอก “นอนเถอะปูน ดึกแล้ว” ปภาวดีนิ่งไปอึดใจ ก่อนจะปิดหนังสือแล้ววางลง จอมทัพผ่อนร่างภรรยาลงนอนเรียบร้อย ห่มผ้าให้แล้วตะแคงกายนอนกอดหญิงสาว โดยไม่ลืมจูบแก้มนุ่มแผ่วเบา แล้วมองคนที่หลับตาลงด้วยความรู้สึกอ่อนล้า บางครั้งเขามีความรู้สึกทางเพศเฉกเช่นชายหนุ่มทั่วไป ทว่าจำต้องเก็บกดเอาไว้เพราะภรรยาไม่อาจให้เขาได้ ไม่ใช่เขาและหล่อนไม่พยายาม ทว่าหล่อนไม่มีอารมณ์ร่วม เขาจึงต้องหักดิบโดยไม่แตะต้องหล่อนมากไปกว่าที่ทำเมื่อครู่ เขาหันมาทุ่มเทให้กับงานเพื่อที่จะไม่ให้นึกคิดถึงเรื่องนั้น และมันก็ใช้ได้ผลดี เขาทำงานจนลืมไปว่าธรรมชาติของร่างกายเคยเรียกร้องเรื่องบนเตียง... วันต่อมาปภาพินท์ก้าวออกมาจากห้องของพี่สาว ใบหน้าหวานเคร่งเครียด ทำให้จอมทัพที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ต้องเอ่ยถาม “เป็นอะไรแป้ง ทำไมวันนี้ทำหน้าเครียด แล้วปูนล่ะยังไม่ออกมาอีกหรือ” วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ทั้งเขาและ ปภาพินท์จะช่วยกันดูแลปภาวดีกันเอง ส่วนจันทร์ถึงศุกร์เป็นหน้าที่ของพยาบาลพิเศษ... “พี่ปูนไม่ยอมออกมาจากห้องค่ะ” คำตอบของคนที่นั่งลงตรงข้ามทำให้ชายหนุ่มต้องส่ายหัว “พักนี้ปูนหงุดหงิดประจำ พี่ไม่รู้จะทำยังไง ชวนไปไหนก็ไม่ยอมไป วันๆ เอาแต่ดูรูปภาพเด็กๆ” ปภาพินท์เงยหน้าขึ้นมองพี่เขย แล้วหลุบตาลงมองมือตนเองทันที รู้สึกร้อนวูบวาบที่ผิวแก้มเมื่อคิดถึงคำขอร้องของพี่สาว... ‘แป้ง พี่อยากมีลูก’ เมื่อพี่สาวเอ่ยเช่นนั้น ปภาพินท์ก็ต้องผ่อนลมหายใจ ทว่าเมื่อสบนัยน์ตาหมองเศร้าก็ทำให้หญิงสาวเกิดความสงสาร ‘แป้งรู้ค่ะ แป้งเข้าใจ แต่พี่ปูนต้องทำใจนะคะ’ คำตอบของปภาพินท์ทำให้ปภาวดีน้ำตาคลอ พลางบอก ‘พี่มันคนบาปหรือไง ชีวิตถึงเป็นแบบนี้ แป้งช่วยพี่ได้ไหม’ จู่ๆ อีกฝ่ายก็มองด้วยสายตามีความหวัง ทำให้ ปภาพินท์ต้องถามด้วยความแปลกใจ ‘ช่วยเรื่องอะไรคะ ถ้าช่วยได้แป้งจะช่วยทันที’ เมื่อตอบเช่นนั้นปภาวดีก็ยิ้มกว้าง เกิดความหวังเต็มเปี่ยม ‘พี่รู้ว่าที่พี่จะพูดนี้มันฟังดูเห็นแก่ตัว แต่แป้งจ๋า พี่เหมือนคนที่ตายทั้งเป็น อย่างเดียวที่จะทำให้พี่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็คือลูก...’ ‘แล้วพี่ปูนจะมีได้ยังไงคะในเมื่อ...’ ปภาพินท์นิ่งงันเพียงแค่นั้น เมื่อสบตาวาววามของพี่สาว พลันใบหน้างามก็แดงก่ำแล้วรีบส่ายหน้าเบาๆ ‘ไม่ค่ะ เรื่องนี้แป้งช่วยไม่ได้ แป้ง...’ ‘อย่าเพิ่งปฏิเสธพี่สิแป้ง’ ‘แต่พี่ปูนกำลังจะขอเรื่องที่แป้งช่วยไม่ได้’ คำตอบนั้นทำเอาปภาวดีหน้าซีดลง หลังจากนั้นต่างคนจึงต่างเงียบไปนาน จนกระทั่งปภาวดีเอ่ยขึ้นมาว่า ‘ไม่เป็นไรจ้ะ พี่ผิดเอง ที่ขนาดนี้แล้วยังไม่เจียมตัวเจียมใจ เป็นภาระของใครต่อใครไม่พอ ยังจะขอเรื่องที่ทำได้ยากอีก พี่นี่มันช่างเห็นแก่ตัวจริงๆ’ พูดจบปภาวดีก็ร้องไห้ แล้วหมุนล้อรถเข็นตรงไปยังห้อง ภาพนั้นทำให้ปภาพินท์นึกได้ว่าพี่สาวของตนต้องหัวใจแตกสลายมานานแค่ไหน แล้วเหตุใดหล่อนจึงปฏิเสธคนที่มีชีวิตอยู่เหมือนตายทั้งเป็นแบบนี้ ผู้หญิงที่เคยเพียบพร้อมทุกอย่างเช่นปภาวดี ต้องมากลายเป็นคนพิการ ต้องสูญเสียลูก สูญเสียหน้าที่การงานที่รัก และตอนนี้ยังมาสูญเสียกำลังใจ หล่อนจะทำร้ายจิตใจพี่สาวคนเดียวได้ลงคอเชียวหรือ... หญิงสาวมองตามหลังพี่สาว ริมฝีปากกัดแน่น ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า ‘เรื่องนี้ถึงแป้งตกลงก็คงไม่มีประโยชน์ ถ้าพี่จอมไม่เห็นด้วย’ คำตอบของน้องสาวทำให้คนหัวใจแตกสลายซ้ำสองชะงัก ก่อนจะหันกลับมาพร้อมรอยยิ้ม ‘พี่จะพูดกับจอมเอง แล้วแป้งไม่ต้องกลัวว่าเอ่อ จะต้องทำอะไรแบบนั้น...’ คำพูดของพี่สาวทำให้ปภาพินท์แก้มแดง ปภาวดีเองก็ละอายใจที่ร้องขอเรื่องที่ยากเย็นแบบนี้ไป ‘พี่จะให้หมอใช้วิธีผสมเทียม ขอแค่แป้งยอมเป็นแม่อุ้มบุญให้กับพี่เท่านั้น นะแป้งนะ พี่ขอร้อง’ ปภาพินท์ถอนหายใจยาวเมื่อคิดถึงเรื่องที่พูดกับพี่สาว ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นได้คุยกับคนตรงหน้าแล้วหรือไม่ “แป้งรู้ไหมว่าปูนเป็นอะไร” จอมทัพเอ่ยถาม นัยน์ตาที่มองมาคล้ายคาดคั้น ทำเอาปภาพินท์รู้สึกอึดอัด “เอ่อ คือ...” หญิงสาวอึกอัก แต่ยังไม่ทันตอบเสียงหวานๆ ของปภาวดีก็ร้องเรียกสามีมาจากในห้อง “จอม... จอมคะ” ทั้งสองหันไปตามเสียงเรียก จอมทัพผ่อนลมหายใจแล้วลุกขึ้นเต็มความสูง เขายิ้มให้น้องสาวภรรยาแวบหนึ่งก่อนจะก้าวตรงไปยังห้องนอน ทำเอาคนตัวบางต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก พลางคิดสภาพตนที่ต้องอุ้มท้องขึ้นมาก็ให้รู้สึกแปลกๆ “ว่าไงปูน ทำไมไม่ออกไปข้างนอก” เขานั่งข้างภรรยา สบตาคู่งามเป็นคำถาม หญิงสาวยิ้มให้พลางจับมือเขาแล้วบอก “ปูนมีเรื่องอยากจะคุยกับจอม” นัยน์ตาสดใสและน้ำเสียงที่ฟังดูกระตือรือร้นทำให้จอมทัพอดยิ้มไม่ได้ เพราะนานมาแล้วที่เขาไม่ได้เห็นภรรยามีท่าทางราวกับกำลังดีใจอะไรสักอย่างเช่นนี้ “ได้สิ มีอะไรอย่างนั้นเหรอ แต่ให้เดาคงเป็นเรื่องดีมากแน่ๆ ไม่งั้นปูนของผมคงไม่ทำหน้าตาเหมือนอย่างกับว่าถูกล็อตเตอร์รีรางวัลที่หนึ่งอย่างนั้น” คนถูกกระเซ้ายิ้มหวาน พลางยกมือขึ้นลูบแผงอก สามีเบาๆ “ดีกว่านั้นอีก” คนฟังนิ่วหน้า รู้สึกแปลกๆ กับท่าทางเอาอกเอาใจของภรรยา “มีอะไรกันแน่เนี่ยหืม...” เขาโอบไหล่นุ่มของหญิงสาวเข้ามาชิด เกิดความรู้สึกต้องการในตัวหล่อนขึ้นมาทันทีที่หญิงสาวออเซาะ แต่เมื่อคิดถึงสภาพที่เป็นอยู่เขาก็ต้องคิดถึงเรื่องสยดสยองเพื่อดับฝันของตนเองลงเสีย พลางคิดว่าเขาจะทนกับความต้องการที่ไม่ได้รับการปลดปล่อยแบบนี้ไปได้อีกนานสักเท่าใดกัน... “คือ... ปูนจะมีลูกค่ะ” คำตอบของภรรยาทำเอาอารมณ์อ่อนไหวที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนต้องชะงักลงฉับพลัน เขานิ่งอึ้งและสบตาหญิงสาวด้วยความไม่เข้าใจ “ปูน... คุณพูดเล่นใช่ไหม” คนในอ้อมแขนยิ้มหวาน แล้วส่ายหน้าเบาๆ “ใครว่าปูนพูดเล่น พูดจริงต่างหากล่ะคะ” จอมทัพดันร่างภรรยาออกห่าง ใบหน้าเริ่มเครียดลงทันที พลางคิดในใจว่าทำไมภรรยาจึงทำใจไม่ได้เสียที มิหนำซ้ำยังฟั่นเฟือนถึงขั้นคิดว่าตนเองจะมีลูกได้ “ปูน ฟังผมนะ เรามีลูกไม่ได้อีกแล้ว คุณมีลูกไม่ได้...” “แต่แป้งมีได้ค่ะ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม