ก่อนไปโรงพยาบาล เขาพาเธอกลับไปที่หอพัก มันยังเข้าไม่ได้จริง ๆ แบบที่เขาบอก แต่อย่างน้อยเธอก็ได้เจอเจ้ามอมและรู้ว่ามันยังปลอดภัยดี พี่ยามบอกว่าเจ้าของหอจะเอาไปเลี้ยงต่อที่บ้าน นัทธ์กมลลูบหัวเจ้าหมาน้อยอย่างห่อเหี่ยว ต่อไปนี้เธอคงไม่ได้เจอเจ้ามอมอีกแล้ว แต่ก็ยินดีกับมันด้วยที่จะได้ไปอยู่ในที่ที่สุขสบายกว่ามีเจ้าของเหมือนหมาตัวอื่นเขาสักที ส่วนข้าวของส่วนตัวของเธอคงต้องซื้อใหม่หมด ตอนขับรถออกมา นัทธ์กมลบอกให้เขาหย่อนเธอหน้าห้างสรรพสินค้าที่เป็นทางผ่าน แต่เขาบอกว่าไปโรงพยาบาลก่อน เดี๋ยวค่อยออกมาแวะซื้อตอนขากลับก็ได้ มาถึงเธอถึงเพิ่งรู้ตัวว่าโดนหลอก เขาไม่ได้ให้มานั่งรอเฉย ๆ
“เอาวัคซีนเอชพีวี* แบบฟลูแพ็คเกจเก้าสเตน (stain) เลยครับ”
คุณหมอบอกพยาบาล ใครเขาฆ่าเวลากันแบบนี้ ระหว่างรอเขาคุยรายละเอียดคนถูกหลอกมาได้แต่มองแผ่นหลังกว้างตาขุ่น
พอเขาคุยเสร็จหันกลับมาหาเท่านั้นล่ะ
“พี่เสี่ยงเหรอ” ชอบแอบนินทาเขาเป็นประจำว่ายักษ์ คราวนี้ถึงตาวิญญาณนางยักษ์เข้าสิงห์ตัวเองบ้าง ธีรกรเลิกคิ้วมองผู้หญิงใส่ชุดเดรสรองเท้าแตะ ตอนแรกไม่ค่อยเข้าใจ ก่อนจะเริ่มเก็ท
“ไม่ได้เสี่ยง” คนถูกตั้งข้อสงสัยส่ายหน้าระอา ดุเหมือนตอนถามนักศึกษาแพทย์แล้วตอบไม่ได้ ถึงเป็นเชื้อที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นหลักก็จริง แต่ก็ติดต่อทางอื่นได้ กินอาหาร ลูกบิด สายฉีด ใช้ห้องน้ำสาธารณะร่วมกันถึงจะความเสี่ยงต่ำแต่กันไว้ก็ดีกว่าแก้ไม่ใช่เหรอ วัคซีนนอกจากป้องกันมะเร็งปากมดลูก ยังกันได้อีกหลายโรค ความจริงควรฉีดทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ขนาดเขาแม่ยังจับฉีดตั้งแต่ยุควัคซีนเข้ามาแรก ๆ อายุสิบห้าสิบหก สมัยนี้ก็มีการรณรงค์ให้เด็กฉีดฟรีกันแล้ว แต่คงไม่ทันตอนสมัยเธออยู่ประถมหรอกมั้ง
อาจารย์หมอโรคติดเชื้อร่ายยาวมาเป็นชุด ลองได้ดุแล้วก็ดุต่อไม่หยุด โอเค สบายใจแล้ว แต่เธอกำลังงงตัวเองมากว่าหึงยังไงให้กลายเป็นผู้ประสบภัย หึงยังไงให้อยู่ ๆ ได้ฟิลลิ่งเหมือนโดนจับเข้าห้องเย็น
“ต้องฉีดสามเข็มนะ วันนี้ฉีดเข็มแรกได้เลย เข็มที่สองอีกสองเดือน เข็มสุดท้ายหกเดือน แล้วเดี๋ยวหาเวลามาฉีดหัดเยอรมันเพิ่มด้วย”
บอกหรือสั่ง โถ่ มนุษย์หมอช่างรอบคอบ แต่เธอยิ่งฟังยิ่งห่อเหี่ยว ต้องโดนเข็มจิ้มอีกแล้วเหรอ ยิ่งพอเหลือบหันไปเห็นราคาแพ็คเกจบนป้ายโฆษณาหน้าประตู
เกือบสามหมื่น!!
“พี่ไปดูคนไข้ก่อน เสร็จแล้วเราก็ไปหาอะไรกินนั่งรอข้างล่างแล้วกัน”
แต่ป๋าของยัยกระดิ่งหมาก็ยังไม่หยุดเปย์ ปลอบใจด้วยการยื่นแบงค์พันมาให้ ไม่ใช่ใบเดียวแต่ตั้งสองใบ !!
บอกไม่มีตังค์แต่ให้มาสองพันค่าขนมอะไรแพงขนาดนี้ ลองมานั่งนับดูทั้งโทรศัพท์ ค่าวัคซีน ยังไม่ถึงวันเขาเสียเงินกับเธอไปเกินครึ่งแสนแล้ว คำว่าไม่มีของเรานี่มันต่างกันราวฟ้ากับเหวจริง ๆ ลองเป็นไม่มีของเธอนะป่านนี้คงได้แค่นั่งต้มมาม่ากินอยู่ที่ห้อง ไม่ได้เดินแขนตึงลงมาร้านกาแฟชื่อดังที่กว่าจะหาเจอก็เล่นเอาหลงจนเหนื่อย หญิงสาวผู้แสนบอบบางที่พอได้เป็นเมียหมอก็เหมือนดวงพลิกผันพระศุกร์จะเข้าพระเสาร์จะแทรกมีเรื่องให้เจ็บตัวอยู่ตลอด นัทธ์กมลเยียวยาตัวเองด้วยลาเต้หนึ่งแก้วกับขนมอีกชิ้น เธอไลน์ไปถามตัวต้นเหตุด้วยว่าอยากได้อะไรไหม เขาทั้งไม่อ่านไม่ตอบสงสัยทำงานอยู่ แต่ช่างเขาเถอะ คาเฟอีนไม่ช่วยอะไรเลย ยานอนหลับดี ๆ นี่เอง นั่งอยู่ดี ๆ ก็เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ก่อนตกใจตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ เขาโทรมาบอกว่าเสร็จแล้ว
“พี่ไม่ต้องมาหรอก กริ๊งเดินไปเองถูก อือ…จริงๆ เดี๋ยวเจอกันที่รถเลยก็ได้”
ปลดไปคำโต เชื่อขนมกินได้ว่าเดี๋ยวได้หลงอีกรอบ แต่เธอไม่อยากให้เขาลงมา เผื่อได้งีบรอในรถสักสิบ สิบห้านาทีก็ยังดี
เจ้าของตังค์ฝากสั่งไอซ์อเมริกาโน่อีกแก้วด้วย แต่เกือบไม่ได้กินเพราะเดรสคอเต่ายาวถึงตาตุ่มพาซวย นัทธ์กมลเหยียบชายกระโปรงตัวเองจนเกือบหัวคะมำไปชนคนที่ผลักประตูหน้าร้านเข้ามา หญิงสาวรีบขอโทษขอโพย คู่กรณีบอกว่าไม่เป็นไร แต่ถึงกับผงะไปตอนเห็นหน้าเธอ
อะไรกัน…
ผู้หญิงหน้าสดยิ่งกว่าปลาในตลาด ถูกผู้ชายภูมิฐานหน้าที่การงานดีมองด้วยสายตาเหมือนอยากพูดอะไรแต่ไม่พูด พอขึ้นมาบนรถยื่นแก้วกาแฟให้เขาเสร็จ เธอเลยรีบหยิบมือถือขึ้นมาเปิดกล้องหน้าส่องหน้าตัวเองเป็นอย่างแรก อือ… ก็ไม่ได้นอนจนน้ำลายยืดติดมานี่น่า
แล้วอะไรกัน
“พี่ หน้ากริ๊งเป็นอะไรหรือเปล่า”
พอหาคำตอบเองไม่ได้เลยต้องหาตัวช่วยหันไปถามคนข้าง ๆ แทน ธีรกรยกกาแฟซดไปอึก มองคนตัวเล็กก็ปกติดีไม่มีอะไร แต่พอเข้าใจว่าทำไมยัยกระดิ่งหมาถึงพารานอยด์
‘เฮ้ย ๆ ไอ้เทมส์ นี่ใช่เด็กมึงหรือเปล่า’
‘ส่งรูปเห็นแต่ข้างหลัง’
‘เออ ๆ กูว่าใช่’
‘กูก็ว่าใช่’
‘เชี่ย ใช่แน่นอน’
‘โห แม่ง หลงเด็กตอนแก่ เป็นหนักนะมึงอ่ะ ถึงขนาดพกมาทำงานด้วยเลย’
‘แล้วชุดแม่ชีนี่ฝีมือมึง??’
เสือกดีจริง ๆ แต่เขาขี้เกียจเถียง เลยปล่อยสัตว์ลงไปเดินเล่นอีกตัวสองตัว แล้วตอนนี้ก็ชักอยากรู้ว่าไอ้พวกนี้ไปทำพิรุธอะไรไว้ ดูจากความเสียเซลล์ของเมียเขา