“แกไม่ต้องมาทำเสียงอ่อยดีใจอะไรแบบนั้นหรอก พี่เขาเอ็นดูก็อย่าดื้อล่ะ อยู่นี่ก็ตั้งใจเรียนให้จบ แม่ไปล่ะนะ”
เธอผลักลูกสาวให้ขยับเข้าไปหาคนที่จะรับอุปการะคนต่อไปอีกเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไป แล้วก็หันไปดึงแขนผู้เป็นสามีเพื่อจะลากอีกฝ่ายไปขึ้นรถ
“คุณกุ้ง เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะให้หนูเข็มไปกับเราด้วย เราจะไม่เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจนั้น”
“ก็ตอนนั้นไม่มีใครดูแลยัยเข็ม ตอนนี้มีแล้ว ทุกอย่างมันก็ต้องเปลี่ยนแปลงได้สิคะ”
“แต่ผมไม่เปลี่ยนใจ เข็มไปขึ้นรถแล้วไปกับลุง”
วิลล์กลับดึงมือเข็มขาวที่กำลังถูกแม่ผลักไสให้เดินตามเขาไปขึ้นรถ เขายังคงมีความตั้งใจเดิมที่จะให้เธอเดินทางไปกับเขา
“คุณวิลล์ค่ะ อย่าให้การตัดสินของเราทำให้ยัยเข็มต้องลำบากใจเลยนะคะ คุณวิลล์ก็รู้ว่ายัยเข็มต้องการเรียนต่อที่เมืองไทยมากแค่ไหน”
กุ้งนางดึงผู้เป็นสามีของเธอเข้ามาใกล้ๆ แล้วกระซิบกระซาบให้อีกฝ่ายจำยอมทิ้งนังตัวดีนั้นไว้ที่นี่
ด้วยก่อนหน้านี้เธอก็เป่าหูสามีแบบนี้แทบทุกวันเพื่อให้เขาเปลี่ยนใจไม่พานังตัวดีนั้นไปด้วย
“แต่ผมไม่อยากทิ้งหนูเข็มไว้ที่นี่คนเดียว”
เอ่ยขึ้นอย่างอึดอัดใจที่จะต้องเปลี่ยนการตัดสินใจนั้น ด้วยเขายังคงหวังดีกับเด็กสาวคนนั้นเสมอเหมือนกับเธอเป็นลูกของเขาอีกคนหนึ่ง ไม่เคยคิดรังเกียจหรือคิดอยากจะทอดทิ้งอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิด
“ก็นี่ไงคะ คุณฟีนิกส์รับปากจะดูแลยัยเข็มให้แล้ว”
“แต่ว่า”
“อย่าทำให้ความหวังของคุณฟีนิกส์มันดูแย่แบบนั้นสิคะ เราให้ยัยเข็มอยู่ที่นี่ไปก่อนแล้วถ้าไม่ดียังไงค่อยมารับตามไปทีหลังก็ได้ เรารีบไปกันเถอะค่ะใกล้ได้เวลาแล้วนะคะ ถ้าพลาดเที่ยวบินนี้ไปเราต้องไปไม่ทันดูหิมะแรกของที่นั่นแน่ๆ เลย”
ฉุดกระชากคนเป็นสามีด้วยท่าทางที่มันค่อนข้างสุภาพด้วยการบีบมือเขาแรงๆ กว่าเดิมสักหน่อยกับสีหน้าที่ดูเร่งรีบราวกับกลับจะตกเครื่องบินตาย เพื่อให้เขาเดินออกจากบ้านไปได้แล้ว
“แกรับปากแล้วนะว่าจะดูแลหนูเข็ม ยังไงฉันฝากด้วยก็แล้วกัน”
วิลล์จำต้องเปลี่ยนความคิดของเขาอย่างกะทันหันเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเดินทางจริงๆ สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องยอมปล่อยให้เด็กสาววัยกำลังเรียนได้ใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการอยู่ที่เมืองไทย โดยให้ลูกชายของเขานั้นเป็นคนดูแลต่อ
ฟีนิกส์ถึงจะร้ายกับทุกคนแต่สำหรับคนในครอบครัวลูกชายเขาน่าจะแยกแยะได้เพราะเขาก็โตมากแล้ว และก็คงปฏิบัติกับเด็กสาวเหมือนกับน้องสาวคนหนึ่งเพราะก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ
เขาคงไม่ต้องหวงอะไร ถ้ามีอะไรผิดพลาดเขาค่อยกลับมารับเข็มขาวไปอยู่ด้วยภายหลังก็ได้
“ครับคุณพ่อ เดินทางปลอดภัยนะครับ”
มาเฟียหนุ่มยิ้มส่งคนเป็นพ่อด้วยรอยยิ้มที่มันไร้ความรู้สึก ไม่มีแล้วความดีอกดีใจเหมือนก่อนหน้านี้ที่มันเคยแว๊บเข้ามา มีแต่ความเคียดแค้นที่มันกำลังลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
แล้วขบวนรถของคนที่กำลังเป็นอดีตมาเฟียอย่างวิลล์พร้อมกับภรรยาของเขาก็เดินทางออกจากบ้านไปยังสนามบิน เพื่อพาเขาและก็ภรรยาคู่ชีวิตไปใช้ชีวิตวัยเกษียณกันอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดของเขา ไม่คิดกลับมาเมืองไทยอีกเลย
“สุดท้าย พ่อก็หลงอีบ้านั้นอยู่ดี”
ฟีนิกส์ยืนส่งพ่อของเขาจนขบวนรถนั้นแล่นออกจากบ้านไปหมดแล้ว เขานั้นก็หันหน้ากลับเข้ามาภายในบ้านพร้อมกับลูกน้องคนสนิท
“เข้าบ้านสิ ไปกินของว่างรองท้องกันก่อนแล้วเดี๋ยวเราจะได้ออกไปทำธุระกัน”
ยังไม่ทันได้ก้าวเดินเลยสักก้าวหางตาของเขานั้นก็หันไปเห็นใบหน้าซีดๆ ของเธอเข้าพอดี ใบหน้านั้นดูกี่ครั้งก็น่าฆ่าให้ตายทุกทีเลยก็ว่าได้ ให้สาสมกับที่ทั้งเธอและก็แม่ของเธอทำให้แม่ของเขาต้องตรอมใจจนคิดสั้นฆ่าตัวตาย
“คะๆ ค่ะ”
เข็มขาวที่ยังยืนเหม่อลอยมองรถที่แล่นออกไปไกลจนมองไม่เห็นแล้ว หันหน้ามาตามเสียงที่เอ่ยทักเธอขึ้นอย่างตกใจ
เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดกับเธอ เพราะปกติแล้วเขากับเธอแม้จะเคยพบหน้ากัน เคยยิ้มให้กันบ้าง แต่ไม่เคยเอ่ยพูดจากันเลยแม้แต่คำเดียว
“ไปเตรียมรถ เดี๋ยวคุณหนูเขาจิบน้ำชาอิ่มกูจะพาออกไปนั่งรถเล่นซะหน่อย”
มาเฟียหนุ่มหันไปสั่งลูกน้อง ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้าน ไม่ได้หันไปสนใจว่าคนที่เขาเอ่ยชวนเข้าบ้านจะเดินตามไปหรือไม่ เพราะเธอก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น
“ครับนาย”
ลูกน้องพอได้รับคำสั่งก็รีบวิ่งกันให้วุ่น เพราะต้องไปส่งข่าวให้ขบวนรถของเจ้านายที่ไปจอดรออยู่ด้านนอกให้เคลื่อนเข้ามาภายในบ้าน และเริ่มตั้งขบวนให้พร้อมสำหรับการที่เจ้านายจะเดินทางในทันที
ห้ามมีอะไรผิดพลาดหรือติดขัดเป็นอันขาด เพราะเจ้านายของเขาไม่ชอบความผิดพลาด