ตอนที่ 3
ซวยแล้วซวยอีก
หลังจากเลิกเรียนในตอนเย็น ฉันก็รีบกลับมาที่คอนโดเพื่อจะได้เตรียมตัวไปทำงานต่อในช่วงหัวค่ำ แต่ทว่าเมื่อมาถึงที่หน้าคอนโด ฉันกลับต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะว่าพี่ชายตัวดีที่หายหัวหนีหนี้ไปนานหลายเดือน อยู่ ๆ ก็มาโผล่หัวยืนรออยู่ที่หน้าคอนโดเสียอย่างนั้น
“มาทำไม” ฉันเอ่ยถามน้ำเสียงเย็นชา
“โธ่...นวล อย่าทำเสียงเย็นชาแบบนั้นใส่พี่ซิ พี่ใจคอไม่ดีเลยนะ” พี่หนุ่ยพูดจีบปากจีบคอติดตลกจริตเกย์สาว หวังว่าจะทำให้ฉันยิ้มออกมาได้บ้าง แต่ไม่เลยสักนิด ฉันยังคงยืนมองหน้าเขานิ่งอยู่เช่นเดิม
“นวลไม่ขำนะพี่หนุ่ย พี่ยืมเงินนวลไป บอกเดือนหน้าจะเอามาคืน แต่นี่มันผ่านมากี่เดือนแล้ว พี่เล่นปิดมือถือ หนีหายหน้าไป นวลติดต่อพี่ไม่ได้เลย รู้มั้ยว่าตอนนี้นวลกำลังลำบากมากแค่ไหน"
“เออ ๆ ฉันรู้ว่าฉันผิด ฉันขอโทษแกมาก ๆ เลยนะ แต่ช่วงนี้ฉันเองก็แย่เหมือนกัน ชักหน้าไม่ถึงหลัง เงินค่าหอก็ไม่มีจะจ่าย ต้องไปขออาศัยอยู่ตามบ้านเพื่อนคนนู้นทีคนนี้ที ไม่ต่างอะไรกับหมาจรจัดนักหรอก”
“อ๋อเหรอ แล้วพี่กีวี่เพื่อนรักพี่ล่ะ เขาไม่คิดจะช่วยอะไรพี่หน่อยเลยเหรอ เห็นชวนกันไปตั้งตัวด้วยกันเสียดิบดี”
“โอ๊ย...แกอย่าพูดถึงมันเลยอีนังนั่นอ่ะ หลังจากที่ฉันกับมันลงทุนหุ้นกันเปิดร้านขายยำได้ไม่นาน ก็มีลูกค้าเป็นเด็กมาหาลัยมากินทุกวัน อีกีวี่มันก็เลยไปติดผู้ชาย เอาเงินไปเลี้ยงเด็กจนร้านเจ๊ง ฉันกับมันเลยแตกคอกันอยู่นี่ไง”
“อ้าว...แล้วเงินที่นวลให้ไปก็เท่ากับสูญเปล่าซิเนี่ย พี่หนุ่ยแบบนี้นวลไม่โอเคนะ ตอนนี้นวลเองก็แย่เหมือนกัน นวลต้องใช้เงิน”
“นี่...ฉันก็ไม่ได้อยากจะเบี้ยวแกนะ แต่ฉันก็ไม่รู้จะเอาเงินจากไหนมาคืนแกเหมือนกัน แถมตอนนี้ฉันยังติดหนี้พวกหมวกกันน็อกอีกตั้งสามหมื่น ดอกร้อยละยี่ ไม่มีตังค์ใช้คืนพวกมัน ก็เลยต้องหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ทุกวันนี้ไงล่ะ”
“ฮะ! อะไรนะ”
ฉันถึงกับต้องถามทวนอีกครั้ง นี่นังพี่ตัวดีนอกจากจะยังไม่มีเงินใช้หนี้ฉันแล้ว ยังจะหาเหาใส่หัวโดยการไปยืมหนี้นอกระบบมาอีกหรือ ช่างกล้า...
“ก็จะให้ฉันทำไงล่ะ เงินเอาไปลงทุนก็จมหาย เพื่อนรักก็ทรยศไปติดผัวเด็กอีก ฉันก็ต้องหาเงินมาหมุนสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่มั้ยล่ะ แต่แค่ว่ามันหมุนเงินไม่ทัน ก็เลยยังใช้หนี้พวกมันไม่ได้ก็เท่านั้นแหละ”
“พี่หนุ่ย พี่เป็นพี่ประสาอะไรวะ นอกจากฉันจะพึ่งพาพี่ไม่ได้แล้ว นี่พี่ยังสร้างแต่เรื่องอีก พี่รู้มั้ย ตอนนี้นวลก็ติดหนี้นอกระบบเหมือนกัน ถ้าเรื่องที่พี่มาวันนี้ เพราะจะมายืมเงินนวลอีกล่ะก็ ฝันไปเหอะ นวลไม่มีให้ยืมหรอกนะ”
ฉันพูดตัดบทเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินเข้าคอนโดไป แต่ทว่าพี่หนุ่ยก็ยังไม่ยอมลดละ พูดพล่ามออกท่าออกทางเล่นใหญ่เล่นโตจนคนที่เดินไปเดินมาแถวนั้นเริ่มหันมามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เอ๊อออ...ใช่ซี้ ฉันมันเป็นพี่ที่ไม่ได้เรื่อง หาทำแต่เรื่องให้แก ก็ดี งั้นแกก็ปล่อยให้ฉันโดนไอพวกทวงหนี้นั่นมากระทืบให้ตาย ๆ ไปเลยซินวล ฉันเองก็ไม่ได้อยากอยู่ให้แกมองฉันเป็นตัวภาระนักหรอก เอาเลยมั้ย ฉันจะได้โทรตามพวกมันมาที่นี่ มากระทืบให้ฉันตายคาตีนต่อหน้าแกเลยดีมั้ย”
พี่หนุ่ยควักมือถือออกมาทำท่าจะโทรออกหาพวกทวงหนี้ ถึงแม้ฉันจะโกรธและเหนื่อยใจกับนังพี่ตัวดีคนนี้มากแค่ไหน แต่ถึงยังไงพี่หนุ่ยก็คือญาติเพียงคนเดียวของฉันที่เหลืออยู่ สุดท้ายแล้วฉันก็ยอมใจอ่อน หันมามองพี่หนุ่ยตาละห้อยอีกจนได้
“สามหมื่นใช่มั้ย ถ้านวลหามาให้ได้ พี่เอาเงินไปใช้หนี้พวกนั้นแล้วจบเลยนะ พี่สัญญากับนวลได้มั้ย ว่าต่อจากนี้พี่ต้องหางานทำจริงจัง แล้วพอพี่มีเงินทุนพอจะสร้างตัวได้ ค่อยเอาเงินไปสร้างธุรกิจของตัวเอง”
“จริงเหรอนวล...แกยอมช่วยพี่แล้วเหรอ”
“อืม” ฉันรับปากสีหน้าหนักใจ
“พี่สัญญา คราวนี้นะพี่จะหางานทำ พี่จะไม่ทำให้แกผิดหวังอีก”
พี่หนุ่ยรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ พลางดึงตัวฉันเข้ามากอดแน่นราวกับตอกย้ำว่าเขาฝากความหวังไว้ที่ฉันแล้วนะ ก่อนที่เราทั้งคู่จะแยกย้ายจากกัน
เมื่อฉันขึ้นมาถึงหน้าห้องก็พบกับกระดาษโน้ตใบหนึ่งที่แปะไว้ที่หน้าห้อง เป็นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือหวัด ๆ เหมือนลายมือผู้ชายระบุว่ามาจากเจ้าหนี้ที่ฉันไปกู้เงินมาใจความว่า
‘ถึงคุณนวลนาง ทางเราจะเริ่มเก็บดอกเบี้ยคุณอาทิตย์นี้แล้วนะครับ หวังว่าจะมีเงินมาชำระตามที่ให้สัญญาไว้’
“ไอบ้าเอ๊ย...ทำไมต้องมาเขียนอะไรแบบนี้แปะไว้หน้าห้องคนอื่นเขาด้วยนะ”
ด้วยความรู้สึกอับอาย ฉันจึงจับกระชากกระดาษโน้ตนั้นออกจากประตูโดยไว ไม่รู้ว่ากว่าที่ฉันจะมาเจอกระดาษใบนี้ มีใครที่เดินผ่านไปผ่านมาแล้วได้เห็นไปแล้วบ้าง ป่านนี้ชาวคอนโดคงเอาไปลือกันสนุกปากแล้วว่าสาวห้องนี้เป็นหนี้นอกระบบตั้งแต่อายุยังน้อย
หนี้ตัวเองก็ยังไม่ได้เริ่มผ่อน ยังมีหนี้พี่เข้ามาให้กลุ้มใจเพิ่มอีก โว้ย...อีนวลจะบ้าตาย ฉันเสยผมพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านทวนเนื้องานอีกครั้งว่าต้องไปที่ไหน ทำอะไร อย่างไรบ้าง
“งานเอ็นที่คอนโด V อาคาร C ชั้น 8 ห้อง 802 ปาร์ตี้สละโสด”
แค่อ่านดูเนื้องานคร่าว ๆ ก็พอจะรู้แล้วว่างานนี้ฉันคงต้องเหนื่อยหนักแน่ เพราะคงจะมีแต่พวกผู้ชายบ้ากาม วัยกลัดมันที่มารวมตัวกันฉลองให้เพื่อนที่กำลังจะหมดอิสรภาพทางกายทางใจในเร็ววัน แถมงานนี้ ‘เจ๊โพนี่’ นายหน้ารับงานเอ็นวงเล็บมาบรรทัดสุดท้ายด้วยว่า งานนี้เป็นงานเอ็นแรง[1] ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มวีไอพี กระเป๋าหนัก ถ้าทำดี ทำถึง นอกจากค่าตัวที่ได้เยอะพอสมควรแล้วก็จะได้ทิปแบบจัดหนักตามไปด้วย
“เออ...เอาไงเอากันวะ เพื่อเงิน จะได้เอามาปลดหนี้สินให้มันจบ ๆ ไป”
คิดได้แบบนั้นฉันก็จัดการอาบน้ำ สระผม เตรียมตัวแต่งชุดแสนสวยสุดยั่ว ออกไปทำงานที่ฉันจำใจต้องรัก ภายในหัวก็ได้แต่คิดหาวิธีจะทำอย่างไรให้ลูกค้าในคืนนี้ถูกตาต้องใจฉันเป็นพิเศษ จะได้โกยเงินจากแขกได้ทีละเยอะ ๆ จะเหนื่อยทั้งทีก็ต้องเอาให้คุ้มซิคะงานนี้
**[1] งานเอ็นแรง เป็นงานงานเอนเตอร์เทนที่ค่อนข้างถึงเนื้อถึงตัว ซึ่งผู้ที่รับงานจะต้องทำใจว่าถ้ารับงานเอ็นแรงแล้ว อาจจะต้องมีการ กอด จูบ ลูบ คลำ บ้าง แต่ไม่มีการขึ้นเตียง