บทที่1.2 พี่จริงจัง(2)
สเต็ปต่อไปของมังกร
หลังจากการพาตัวเองมาเจอหญิงสาว โดยสร้างสถานการณ์ราวพรหมลิขิต ชายหนุ่มก็เริ่มตามสืบตารางเรียน รวมทั้งกิจวัตรประจำวันของมะลิ จากนั้นก็ขยันพาตัวเองมาที่ตึกคณะเศรษฐศาสตร์ทุกวี่วัน
จนล่วงเข้าอาทิตย์ที่สอง...
“มาอีกแล้วเหรอ”
ใบเตยพูดพลางส่งสายตากรุ้มกริ่มให้เพื่อนรัก
“คนมีความรักก็แบบนี้แหละ”
จอมทัพถึงแม้จะไม่ค่อยชอบหน้ามังกรมากนัก แต่ก็ยินดีหากจะมีใครที่คู่ควรเข้ามาในชีวิตของเพื่อน
“เดี๋ยวนะ นี่อะไรอะ”
ความตาไวของใบเตย ที่เหลือบเห็นการ์ดใบเล็กที่ถูกสอดแนบมากับกุหลาบช่อโต
“ไปกินข้าวด้วยกันมั้ย ไปมั้ย?”
ใบเตยอ่านข้อความในการ์ด ก่อนจะหันมาถาม ใบหน้าของหล่อนแดงเรื่อ เขินอายราวกับว่าตนเองคือคนที่ถูกชวน ขณะที่มะลิก็หน้าแดงลามไปถึงกกหูไม่แพ้กัน
“แกพี่เขาตี๊อขนาดนี้แล้ว ถึงแกไปกับพี่เขา ก็ไม่ผิดนะเว้ย”
คำยุยงของใบเตยทำให้มะลิลังเลใจไม่น้อย ก่อนจะหันหน้าไปทางจอมทัพเพื่อขอความเห็น
“คนแบบนั้นถ้าไม่หวังฟันแล้วทิ้ง ก็น่าจะชอบแกจริง ๆ แหละ หล่อเลือกได้ขนาดนั้น จะทู่ซี้กับแกทำไมวะ ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้ว แกยังไม่ยอมคุยด้วยเลย เป็นฉันนะ หยิ่งแบบนี้ แมร่งหาใหม่ดีกว่า”
“เลวจริง ๆ ดีนะที่แกไม่หล่อเลือกได้แบบพี่มังกร”
“ขนาดฉันเลือกไม่ได้ อย่างแกก็ไม่ใช่สเปคฉัน”
หวังหาตัวช่วย ทว่าสองคนนี้ก็เริ่มทะเลาะกันอีกแล้ว มะลิได้แต่ถอนหายใจเฮือกยาว และนั่งรอคำตอบหลังจากศึกเล็ก ๆ นี้จบลง
“ไปเถอะมะลิ จะได้จบ ๆ แค่ไปกินข้าวเอง ไม่ดีก็ค่อยชิ่ง”
ใบเตยหันมาบอกเพื่อนสาวหลังจากทะเลาะกับจอมทัพเสร็จ เมื่อเห็นว่ามะลิยังลังเล ใบเตยก็ฉุดข้อมือหญิงสาวให้เดินตามมา
“จะดีเหรอ”
ปากเล็กถามออกไป ขณะที่สองเท้าเดินตามใบเตยไปอย่างว่าง่าย
มังกรที่ยืนรอคำตอบอยู่นาน หันกลับมาทางเสียงหวานที่ดังใกล้เข้ามา และนั่นเป็นวินาทีที่ทำให้หัวใจมังกรแทบหยุดเต้น ใบหน้าหวานที่ไร้กรอบแว่นหนาเตอะ ดวงตากลมสุกใส จมูกโด่งคมที่รับกับปากอิ่มสีเรื่อ ไหนจะพวงแก้มอมชมพูที่ไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม
แล้วจะเหลือเหตุผลอะไร...ที่เขาจะล้มเลิกเดิมพันนี้ได้ล่ะ
“ไง สนใจรับคำชวนพี่มั้ย”
“ไปค่ะเพื่อนหนูไปค่ะ”
หากไปแทนเธอได้ ใบเตยคงไปเองแล้วล่ะ
“เตยยย..”
มะลิปรามเพื่อนรักเสียงเบา มือเล็กก็กระตุกเสื้อของเพื่อน
“ตกลงไปใช่มั้ย?”
ชายหนุ่มถามซ้ำอีกครั้ง ขณะที่ดวงตาคมจดจ้องเพียงแต่ใบหน้าหวานของมะลิเท่านั้น
เขินอายเกินกว่าจะตอบออกไป
มัลลิกาพยักหน้าให้ช้า ๆ ขณะที่งุดหน้าต่ำ เพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มรับรู้ว่าเธอเขินอายเขามากแค่ไหน ทว่าพวงแก้มแดงเรื่อของเธอมันบอกทุกอย่างไปหมดแล้ว
‘ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด จะช้าจะเร็วก็ต้องเสร็จทุกราย’
“น้องมะลิอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ย”
มังกรถามขึ้นทำลายความเงียบ เมื่อทั้งคู่ออกจากมหาวิทยาลัยได้สักพัก
“อะไรก็ได้ค่ะ มะลิทานได้หมดค่ะ”
คำตอบของมะลิทำเอามังกรนิ่งไปชั่วขณะ เขาไม่รู้ว่าไอ้คำว่า ‘อะไรก็ได้’ ของเธอมันคืออะไรกันแน่
สุดท้ายหลังจากวนรถกว่าครึ่งชั่วโมง มังกรก็เลือกร้านอาหารใกล้มหาวิทยาลัย เขาไม่แน่ใจว่านี่จะนับเป็นเดตแรกได้ไหม ด้วยปกติชายหนุ่มไม่ถนัดที่จะทำอะไรทำนองนี้
ส่วนมากลากไปขึ้นเตียง แล้วก็แยกย้าย
“น้องมะลิอยากได้อะไรมั้ย เอากระเป๋า หรือรองเท้ามั้ย เดี๋ยวพี่พาไป”
“ไม่ค่ะ มะลิไม่อยากได้ค่ะ พี่มังกรชอบซื้อของแบบนี้ให้ผู้หญิงที่พี่พามาด้วยหรือคะ”
คำถามอย่างตรงไปตรงมา ทำเอามังกรหน้าชา ในเมื่อเธอหักหน้าเขาแทบไม่เหลือ
“ก็ปกติผู้หญิงชอบของแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
“งั้นก็เว้นมะลิไว้คนนึงนะคะ”
คำตอบของหญิงสาว ทำให้เธอดูแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เขาเคยควง แต่บางทีเธออาจจะแค่พยายามแสร้งทำ
“แล้วแบบนี้ พี่ไปรับน้องมะลิมาทานข้าวทุกวันได้มั้ย”
“พี่จะจีบหนูจริง ๆ เหรอ เพราะถ้าแค่เล่น ๆ แก้เบื่อ หนูว่าอย่าเสียเวลาเลยนะคะ”
ตรงกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว!
มะลิวางช้อนกับส้อมในมือลง เงยหน้าขึ้นและถามออกไปอย่างจริงจัง แววตาใสซื่อของเธอ บ่งบอกว่ามะลิไม่ได้ล้อเล่นกับคำถาม ด้วยเวลานี้เสียงซุบซิบนินทาเริ่มหนาหู อีกทั้งหญิงสาวเป็นเด็กทุน มัลลิกาจึงไม่อยากให้อะไรก็ตามแต่ส่งผลกระทบกับการเรียนของเธอทั้งนั้น
“พี่จริงจัง แต่ดูเหมือนเราจะไม่ค่อยชอบพี่เลยนะ”
มังกรจ้องเข้าไปในนัยน์ตาคู่สวย พร้อมกับคำพูดที่หนักแน่น ก่อนจะหลุบตาต่ำ ซุ่มเสียงที่เจือไปด้วยความเศร้าเล็ก ๆ ได้ผลชะงัดกับความรู้สึกของสาวน้อย
“มะลิไม่ได้หมายความแบบนั้นค่ะ มะลิแค่อยากจะบอกพี่มังกรว่า ถ้าพี่จะแค่จีบมะลิเพื่อฆ่าเวลา หรือเพื่อจุดประสงค์อะไรสักอย่างก็ตาม ขอร้องละค่ะ เราอย่าเสียเวลากันเลยนะคะ”
คำอธิบายของหล่อน ทำเอาคนฟังหน้าชาวูบ คงไม่ใช่เพราะเธอรู้อะไรมาหรอกนะ
“งั้นเดี๋ยวหนูรอดูได้เลย ว่าพี่จริงจัง และจริงใจกับมะลิแค่ไหน”
มังกรเริ่มสนุกกับความท้าทายตรงหน้า จากเดิมที่คิดว่าการที่เธอยอมเดินตามมาขึ้นรถง่าย ๆ ก็คงไม่มีอะไรยากแล้วหลังจากนี้ แต่ตอนนี้เห็นทีเขาคงต้องคิดใหม่
เหลืออีกแค่สามอาทิตย์ และเขาจะแพ้ไม่ได้!