“ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณไม่อยากดื่ม ผมก็จะไม่บังคับฝืนใจ” ดูเขาใช้คำในการแง่งอนเธอสิ ไลลานาเม้มปาก เสสายตามองวิวนอกหน้าต่าง
“ที่นี่สวยดีนะคะ คุณมาบ่อยหรือเปล่าคะ”
เธอพยายามเปลี่ยนเรื่อง ไฟซัลลอบยิ้มขณะจิบไวน์
“ครับ ที่นี่เป็นโรงแรมของคุณตาผมเอง” ในเมื่อเธออยากจะเปลี่ยนเรื่อง เขาก็จะตามน้ำให้ แต่อีกไม่นาน เธอต้องดื่มเป็นเพื่อนเขาแน่
“โรงแรมของคุณตาคุณหรือคะ”
“พูดให้ถูกก็คือตอนนี้เป็นของคุณลุงแล้วน่ะครับ คุณลุงเป็นพี่ชายคนโต คุณแม่ผมเป็นน้องสาวคนเล็ก ส่วนคุณแม่เจ้าศินเป็นน้องสาวคนกลางครับ”
“ที่แท้คุณศศินก็คือญาติฝั่งคุณแม่ของคุณนี่เอง ไม่แปลกใจแล้วค่ะว่าทำไมเขาถึงได้เก่งขนาดนั้น” รอยยิ้มหวานประดับริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้ม ไฟซัลเผลอกำแก้วในมือเล็กน้อย เขารู้สึกไม่ชอบใจที่เธอพูดถึงชายอื่นต่อหน้าต่อตาแบบนี้
“คุณรู้จักหมอนั่นด้วยหรือครับ”
“คะ?” ดวงตาหวานละจากภาพวิวเบื้องล่างกลับมาจ้องมองคนตรงหน้า
“ผมหมายถึงศศิน คุณรู้จักเขาด้วยเหรอครับ” น้ำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ชอบใจจริง ๆ นั่นแหละ
“อ้อ ฉันเห็นข่าวของคุณศศินในหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจที่คุณอลันอ่านเมื่อวันก่อนน่ะค่ะ พอคิดว่าจะได้มาร่วมงามเปิดตัวเครื่องเพชรของบริษัทเขา ฉันเลยถือโอกาสศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเขาเพิ่มเติมค่ะ”
“งั้นคุณคงจะทราบสินะครับว่าหมอนั่นเป็นนักธุรกิจหนุ่มสุดฮอตมากแค่ไหน”
“คะ?” มันเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้ยังไงกันนะ เธอไม่ได้ใส่ใจเรื่องความฮอตของศศินสักหน่อย
“หมอนั่นขึ้นเป็นประธานตั้งแต่อายุยังน้อยเลยกลายเป็นหนุ่มฮอตในแวดวงธุรกิจ เขาไม่เคยคบใครจริงจังด้วยนะครับ”
ไฟซัลกระดกไวน์แก้วที่สองจนหมดแล้วรินใหม่ ไลลานามองภาพนั้นด้วยสายตางุนงง เธอไม่ได้อยากรู้เรื่องของศศินเลยสักนิด ทำไมไฟซัลต้องพูดถึงมากมายขนาดนั้นกัน
“อย่าคิดจะชอบคนแบบนั้นเชียวนะครับ ถ้าคุณไม่อยากเสียใจ”
“อะไรกันคะ ฉันไม่ได้ชอบเขาเสียหน่อย ก็แค่รู้สึกชื่นชมในความสามารถของเขาเท่านั้นเองค่ะ”
“ชื่นชมก็ไม่ได้ครับ ผมหวง”
“คะ?” คราวนี้เธอชะงักค้าง พอถูกสายตาคม ๆ มองสื่อความหมายบางอย่าง ไลลานาทำตัวไม่ถูกจนเผลอหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มดับกระหาย “อึก…”
รสขมปนหวานละมุนลิ้นไหลลงลำคอ กลิ่นหอมหวานชวนน่าหลงใหลทำเธอถือแก้วไวน์นิ่งค้างชั่วขณะ
บ้าจริง… นี่เธอเผลอดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้วหรือนี่…
“รสชาติดีไหมครับ” ไฟซัลหยักยิ้มมุมปาก เขาทำให้ไลลานาเผลอดื่มไวน์สำเร็จ เมื่อครู่เขาไม่ได้ตั้งใจจะแสดงอารมณ์แบบนั้นออกไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้นับว่าดีเลยทีเดียว
“ค่ะ… ฉันไม่ควรเผลอตัวเลย” เธอหน้าเสีย ภาพของโบสถ์ลอยเข้ามาในความคิด สุดสัปดาห์นี้เธอคงได้สารภาพบาปยาวแน่ ๆ
“อย่าคิดมากเลยครับ มันก็แค่ไวน์เท่านั้นเอง ผมเองก็นับถือพระเจ้า การดื่มแอลกอฮอล์ไม่ถือว่าผิดศีล เพียงแค่ห้ามดื่มจนมึนเมาต่างหากล่ะครับ”
“นั่นเป็นเรื่องมุมมองของแต่ละคนค่ะ” เธอกัดริมฝีปาก มองแก้วไวน์บนโต๊ะตรงหน้าตัวเองอย่างชั่งใจ “จริง ๆ ฉันก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่เพราะว่าฉันไม่เคยดื่มมาก่อน จึงกังวลว่าอาจจะเมาได้ค่ะ”
“ถ้างั้นดื่มแค่แก้วนั้นแก้วเดียวก็ได้ใช่ไหมครับ ถือว่าให้เกียรติผม” แก้วไวน์ในมือไฟซัลยกขึ้นขอชนแก้วกับไลลานาอีกครั้ง เธอทำหน้าลำบากใจ แต่ก็ยอมยกแก้วขึ้นชนกับเขาเบา ๆ อย่างเสียไม่ได้ “แด่บรรยากาศสวย ๆ รอบตัวเราครับ”
“…” ริมฝีปากเล็กแตะบนปากแก้วเบา ๆ พลางยกจิบเล็กน้อย รสหวานละมุนเข้าสู่โพรงปากอีกครั้ง ความรู้สึกแปลกใหม่ทำให้หญิงสาวอดตื่นเต้นไม่ได้
ทางด้านไฟซัลที่ดื่มเป็นแก้วเท่าไหร่แล้วไม่ทราบหยักยิ้มมองหญิงสาวตรงหน้า สีหน้าและแววตาตื่นเต้นปนลังเลของเธอใต้แสงเทียนสลัวนั้นช่างน่ามองจริง ๆ เขาลุกขึ้นขยับเก้าอี้มาวางด้านข้างเธอ ไลลานาสะดุ้งหันมองเขาทันที
“ขอนั่งด้วยคนนะครับ มุมนี้มองวิวด้านหลังได้ชัดกว่า”
ไลลานาไม่อาจปฏิเสธคำขอของเขาได้ คนทั้งสองนั่งเคียงกันโดยมีภาพสวยงามของวิวยามค่ำคืนเบื้องล่างอยู่ตรงหน้า บรรยากาศรอบตัวอบอวลไปด้วยความโรแมนติค
“สวยจังเลยนะคะ” ดวงตาหวานเหม่อมองไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัวเลยว่าสายตาคมหาได้จับจ้องภาพเดียวกับเธอ แต่เขากำลังจ้องมองใบหน้าของเธอไม่ยอมละ
“ครับ สวยมากเลย”
ไลลานาละสายตากลับมามองคนข้างกายก่อนจะชะงักนิ่ง ดวงตาคมเข้มดุจมังกรระยิบระยับทอแสงไฟยามค่ำคืน ยามทั้งคู่สบตากันราวกับเวลารอบตัวหยุดหมุน
ไฟซัลขยับเข้าหาใบหน้าสวยที่เขาแสนคลั่งไคล้ เขาอยากจะครอบครองริมฝีปากจิ้มลิ้มนั่นเหลือเกิน และดั่งใจคิด… เขาไม่รอช้า
“…”
ไร้เสียงใด ๆ ภายในห้อง เมื่อริมฝีปากของคนทั้งสองสัมผัสกัน ไลลานาที่เผลอเคลิ้มกับสายตาพราวระยับเบิกตากว้างด้วยความตื่นตกใจ เธอกำมือแน่นทำท่าจะเบี่ยงหน้าหนี ทว่ากลับถูกฝ่ามือหนาประคองสองแก้มเอาไว้ ก่อนมือหนึ่งเลื่อนมารั้งท้ายทอยให้ริมฝีปากของทั้งคู่แนบชิดกันมากกว่าเดิม
“อือ…”