มุกตาพาเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจและพยายามบิดข้อมือให้หลุดจากมือหนาของขุนพล
“ทำไมละ ทีกับไอ้หนุ่มคนนั้นไม่เห็นรังเกียจเลยนี่มุก”
ขุนพลเอ่ยเสียงเข้มและมองจ้องใบหน้าสวย ด้วยความรู้สึกคิดถึงใช่เขายอมรับว่าเขาไม่เคยลืมเธอได้เลยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ยิ่งเขาได้มาพบกับเธออีกครั้งแบบนี้เขายิ่งแน่ใจว่าเธอยังอยู่ในใจเขาเสมอ
“คุณเลิกพูดบ้า ๆ ซะทีแล้วก็ปล่อยฉันได้แล้ว “
“ทำไม รับความจริงไม่ได้เหรอมุก “
“ปล่อยฉันได้แล้วค่ะ ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้ทุกคนได้ยินว่าคุณกำลังลวนลามฉันนะคะ ปล่อยสิ”
“ลวนลามเหรอ ได้ถ้าอย่างนั้นก็ทำให้มันสมจริงสมจังหน่อยสิ “
ขุนพลเอ่ยจบก็ดึงร่างเล็กดันให้ไปอยู่หลังพุ่มไม้ที่ลับตาคนทันที มุกตาพาได้แต่ตกใจกับการกระทำของเขา
“นี่! คุณจะทำอะไรปล่อยนะ ปะ.......อื้อ อื้อ”
เสียงที่กำลังจะเปล่งออกมาต้องหายในลำคอเมื่อริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ ถูกริมฝีปากหนาของเขา ประกบปิดอย่างรวดเร็ว
ขุนพล บดจูบริมฝีปากอวบอิ่มของเธออย่างดุดัน ทั้งขบเม้ม ดูดดึง และพยายามที่จะสอดแทรกลิ้นหนาเข้าในโพรงปากเล็กของเธอ แต่มุกตาพาก็ไม่ยอมง่าย ๆ เช่น กัน เธอพยายามเบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากของเขา แต่มันก็เป็นไปได้ยาก เพราะมือหนาของเขาจับท้ายทอยของเธอล๊อคไว้ไม่ให้เบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากเขาได้อีกแล้ว
ในที่สุดลิ้นหนาของเขาก็สามารถสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากเล็กของเธอได้สำเร็จ ด้วยประสบการณ์และความชำนาญของเขา ที่สำคัญกว่านั้น คือ เขารู้สึกได้เธอจูบไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ จากที่เขาเคยจูบเธอเมื่อตอนที่คบกันตอนนั้นกับตอนนี้ไม่ได้ต่างกันเลย ทั้ง ๆ ที่เธอ ผ่านการแต่งงานมาแล้ว แต่ว่าเขาสัมผัสได้ว่าร่างกายของเธอ สั่นเทา ราวกับสาวแรกรุ่นที่ไม่เคยผ่านมือชายมาก่อน
มุกตาพา ต้องพ่ายแพ้ต่อสัมผัสจากขุนพล เพราะอ่อนด้อยประสบการณ์เหลือเกินและไหนจะ ความรู้สึกของหัวใจรัก ที่มีต่อขุนพลด้วยทำให้ เธอต้องโอนอ่อนไปกับสัมผัสของเขาในที่สุด
ริมฝีปากหนาของขุนพลยังคงบดเคล้าริมฝีปากบางของเธอไม่หยุดลิ้นหนาก็กระหวัดเกี่ยวพันลิ้นเล็กอย่างได้ใจ
เสียงครางงึมงำ ดังเป็นระยะ แข่งกับเสียงดูดดึงริมฝีปากสวยดังจ๊วบจ๊าบไม่หยุด มือหนาเปลี่ยนจากที่ล๊อคท้ายทอยสวยแน่นเมื่อสักครู่ เลื่อนลูบไล้มาที่แผ่นหลังเนียนและกดร่างเล็กให้แนบไปกับร่างหนาของเขา
ขณะที่อารมณ์ปรารถนาของทั่งคู่กำลังเตลิดนั้นเสียงคุยกันของแขกในร้านที่เดินมาทางห้องน้ำ ก็ดังใกล้มาเรื่อย ๆ ทำให้มุกตาพาได้สติ ออกแรงผลักอกแกร่งของเขาแรง ๆ ทำให้ ขุนพลที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ต้องผงะเซถอยหลัง
“เผี๊ยะ “ เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้าหล่อของเขาดัง ทำให้ใบหน้าหล่อต้องชาและแดงเป็นปื้นขึ้นทันที เพราะแรงตบ
ขุนพลใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม ก่อนจะหันมาจ้องมองใบหน้าสวยของมุกตาพาที่ตอนนี้ดวงตากลมโตวาวโรจน์ ด้วยความโกรธ
“คนเลว “
มุกตาพาพูดจบก็รีบเดินเข้าไปด้านในทันที โดยที่ขุนพลได้แต่ยกมือลูบแก้มสากของตัวเอง ก่อนจะแสยะยิ้มเยาะ
มุกตาพาเดินเข้ามาถึงโต๊ะ ที่ตอนนี้ ต่อราบนั่งรอเธออยู่ และเมื่อเขาเห็นสีหน้าของเพื่อนก็ต้อง แปลกใจและสงสัย
“มุก เธอเป็นอะไร ทำไมหน้าตาเป็นแบบนั้นละ “
“เปล่าไม่มีอะไร นายอิ่มหรือยัง ถ้าอิ่มแล้วกลับกันเถอะ ฉันอยากพักผ่อนแล้ว รู้สึกเหมือนจะไม่สบายเลยต่อ”
“อ้าวเหรอ ได้ ๆ ถ้าอย่างนั้นเราก็กลับกันเถอะไป เดินไหวหรือเปล่ามุก มาฉันถือกระเป๋าให้เธอเอง “
ต่อราบหยิบกระเป๋าสะพายของมุกตาพาขึ้นมาสะพายบนไหล่ และจับไปที่แขนเรียวของเธอและเดินออกไปนอกร้าน ด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน
แต่ว่าขณะที่ทั้งคู่เดินออกไปนั้น สายตาคมกริบของขุนพลก็มองจ้อง ด้วยความไม่พอใจ ยิ่งเห็นท่าทางของผู้ชายคนนั้นที่แสดงออกถึงความห่วงใยและจับมือถือแขนของมุกตาพาด้วยยิ่งทำให้เขารู้สึกโกรธ มาก ๆ ในตอนนนี้
“มองอะไรวะไอ้ขุน แล้วไปห้องน้ำประสาอะไร นานจังวะ “
เทพพฤธิ์เอ่ยต่อว่าเพื่อนรักก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่ม ส่วนขุนพลก็ยังคงจ้องมองคนทั้งคู่ไม่วางตา
“เฮ้ย กูถามว่ามึงมองอะไร อ้อ มุกคนรักเก่า นี่เอง ก็ไหนว่าไม่สนใจแล้วไง แล้วยังจะมองจ้องเขาไม่วางตาอีก ได้ขุน มึงนี้มันปากแข็ง จริง ๆ วะ“
“เทพ มึงมีเพื่อนที่เปิดบริษัทนักสืบใช่ไหมวะ “
“อือ ก็พอมี”
“ถ้าอย่างนั้นกูต้องการให้เพื่อนมึงสืบเรื่องเรื่องนึง”
“ทำไม มึงจะให้ตามสืบเรื่องของใคร อ้า อย่าบอกนะว่ามึงจะตามสืบเรื่องของคนรักเก่ามึงนะ “
เทพฤธิ์เอ่ยอย่างรู้ทัน ก่อนจะหันมาจ้องมองใบหน้าหล่อของเพื่อน
“แต่กูว่า เรื่องนี้มึงไม่จำเป็นต้องจ้างนักสืบหรอก”
“ไม่กูอยากรู้ ว่า 8 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรบ้าง และมีผู้ชายมาแล้วกี่คน “
“ไอ้บ้าแล้วมึงจะไปอยากรู้เรื่องของเขาทำไมวะ ก็เลิกกันแล้ว จะยุ่งเกี่ยวกันอีกทำไม และอีกอย่าง คนเขามีสามีแล้วมึงยังจะไปยุ่งทำไม ไอ้ขุน “
เทพฤทธิ์เอ่ยเตือนเพื่อนเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนรัก และเขาไม่อยากให้เพื่อนต้องมาจมปรักกับเรื่องนี้อีก กว่าจะเป็นผู้เป็นคนแบบนี้ได้ ต้องใช้เวลาหลายปี
“เถอะน่า กูให้สืบก็สืบเถอะน่า เอาแบบละเอียด”
“มึงนี่ เอาจริงเหรอวะ ไอ้ขุน “
“เออ กูแค่อยากรู้มึงให้เพื่อนมึงสืบให้กูหน่อย “
“เออ ๆ ก็ได้วะ แล้วทำใจให้ได้ด้วยถ้ารู้ว่าชีวิตเขากำลังมีความสุข และหวานแหว๋วกับสามีนะ อย่าหันมาแดกเหล้าเมาหัวราน้ำอีกก็แล้วกัน ไอ้ขุน”
“เออน่า ไม่มีแล้วโว้ย ไอ้ขุน คนนั้น นะไม่มีแล้ว “
ขุนพลเอ่ยตอบเสียงหนักแน่น ก่อนจะยกแล้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว และใจก็คิดถึงรถจูบเมื่อสักครู่ มันทั้งหอมหวาน และ รู้สึกดี ยิ่งเขาได้จูบเธอแบบนี้ ความรู้สึกคิดถึงและโหยหาที่เขาเก็บกักมาตลอดเวลา 8 ปี มันก็เหมือนจะล้นทะลักออกมา
ความปรารถนายิ่งเพิ่มมากขึ้น จากที่คิดว่าเขาไม่มีวันที่จะกลับไปตอแยผู้หญิงอย่างมุกตาพาอีก มันก็ไม่เป็นอย่างที่คิดแล้ว เพราะยิ่งตอนที่เขาเห็น ผู้ชายคนนั้นสนิทสนม ถึงเนื้อถึงตัวแบบนั้นเขายิ่งไม่พอใจ
มุกตาพากลับมาถึงห้องพัก ก็ต้อง ทิ้งตัวลงนอน ถอนหายใจ และนึกถึงเรื่องเมื่อสักครู่ ที่ขุนพลจูบเธอที่ร้านอาหาร
“ทำไมนะขุน ทำไมคุณถึงต้องทำแบบนี้ “
มุกตาพาได้แต่เอ่ยพึมพำและใจรู้สึกเจ็บ ลึก ๆ เพราะเธอคิดว่าจูบที่เขามอบให้ มันเหมือนเป็นการลงโทษ หรือเป็นจูบที่บ่งบอกถึงความโกรธ ที่เขามีต่อเธอ มากกว่าจะเป็นจูบด้วยความรักและคิดถึง
และถ้าเป็นแบบนี้ เธอคงจะต้องรีบจัดการเรื่องที่ให้เรียบร้อยและก็รีบกลับกรุงเทพจะดีกว่า เพราะถ้าขืนอยู่ที่นี่ ยังไงก็คงจะต้องเจอกันอีกแน่นอน ฉะนั้นทางที่ดีคือ เธอต้องไม่อยู่ที่นี่กลับกรุงเทพให้เร็วเป็นดีที่สุด
ขุนพล กลับมาถึงไร่ขุนเขา และแยกกับเทพฤทธิ์เพื่อจะพักผ่อน เพราะแต่ละคนก็ถือว่าเมา ทั้งคู่
หลังจากอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้ว ขุนพลก็มานั่งคิดถึงเรื่องที่ร้านอาหาร ระหว่างเขากับมุกตาพา จากที่ได้พบกันมันทำให้เขาแน่ใจว่าเขาไม่มีวันที่ลืมเธอได้เลยจริง ๆ
“มุก ทำไมผมถึงลืมคุณไม่ได้ ผ่านมา 8 ปีแล้ว แค่ผมได้พบหน้าคุณ ผมกลับรู้สึกตื่นเต้นได้ขนาดนี้กันมุก “
ขุนพลเอ่ยพึมพำ ในขณะที่สายตายังคงมองออกไปนอกระเบียงอย่างเลื่อนลอย
“ผมต้องรู้ให้ได้ว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมาคุณทำอะไรมาบ้าง สามีคุณจะดีกับคุณหรือไม่ ขอแค่นั้นมุก ผมขอแค่นั้น “
ขุนพลเอ่ยเสียงเบา ก่อนจะค่อยหลับตาลง และก็เผลอหลับไปในที่สุด
เช้าที่อากาศสดใส มุกตาพาอยู่ในชุด กางเกงยีนส์ รัดรูป และเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัว สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ดูทะมัดทะแมง เธอลงมาจากห้องพัก และเดินมาที่ล๊อบบี้ ของโรงแรมที่ตอนนี้ คุณพิทักษ์ มารออยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดีค่ะลุงพิทักษ์ รอนานไหมคะ”
“ไม่นานครับคุณมุก”
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะค่ะ ว่าแต่ คุณลุงนัดชาวบ้านมาพร้อมกันแล้วใช่ไหมค่ะ “
“ครับคุณมุก ตอนนี้ทุกคนมาที่รอไร่แล้วครับ “
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวชาวบ้านจะรอนานไปค่ะ”
จากนั้นมุกตาพาก็ขึ้นรถ ตรงไปที่ไร่ ของคุณพิทักษ์ ทันทีเพื่อที่จะไปตกลงกับชาวบ้านเรื่องที่ดินแปลงนั้นให้เรียบร้อยและชัดเจน ก่อนที่เธอจะกลับกรุงเทพ
เสียงนกร้องดังไม่อยู่ตามกิ่งไม้ทำให้ร่างหนาที่นอนที่เก้าอี้ด้านนอกระเบียงต้องสะดุ้งตื่น ก่อนจะบิดขี้เกียจไปมาด้วยความปวดเมื่อยตามร่างกาย เพราะเมื่อคืนเขานอนอยู่ที่เก้าอี้นี้ตลอดคืนนั่นเอง
ขุนพลลุกเดินเข้าไปในห้องเพื่ออาบน้ำให้ร่างกายสุดชื่น แต่ขณะที่เดินไป เขาก็ต้องจามติด ๆ กันหลายที
“ สงสัยจะเป็นหวัดซะแล้วสิเรา เฮ้อ “
ขุนพลได้แต่บ่นให้ตัวเอง และเดินเข้าไปอาบน้ำ และคราวนี้เขาเปลี่ยนเป็นอาบน้ำอุ่นแทนเพราะคิดว่าตัวเองคงจะเป็นหวัดซะแล้ว
เมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ขุนพลก็แต่งกายอยู่ในสภาพเรียบร้อย ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังรัว ๆ
“ไอ้ขุน โว้ย ไอ้ขุน ตื่นหรือยังวะ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เออ ๆ ตื่นแล้วโว้ย จะเคาะอะไรนักหนาวะ ไอ้เทพ “
ขุนพลเอ่ยเสียงดังและเดินไปเปิดประตู และก็เห็นเทพฤทธิ์ยืนอยู่หน้าประตู
“เราไปที่ไร่คุณพิทักษ์กันเถอะ “
“ทำไมวะ มีอะไรอย่างนั้นเหรอ ท่าทางตกใจมีเรื่องสำคัญอะไรหรือเปล่า”
“เออ เรื่องคนรักเก่าของมึงนั่นละ”
“ทำไมวะ เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอหรือว่าถูกจับได้ว่าแอบมีกิ๊กหรือไง “
“โอ้โหปากหรือวะนั่น ไอ้ขุน ทำเป็นพูดดีไป เถอะมึง”
“อ้าวแล้วมันเรื่องอะไรละ มึงก็พูดมาสิ”
“กูได้ข่าวว่าที่ไร่คุณพิทักษ์กำลังเกิดเรื่องวะ”
“เรื่องอะไร ร้ายแรงแค่ไหน กันละ “
“จะว่าร้ายแรงก็ไม่ แต่ว่าก็คงจะมีคนได้รับผลกระทบละน่า แกไม่อยากไปดูหน่อยหรือไงวะ ขุน “
“มันเป็นเรื่องภายในของเขานะเว้ย เราจะเข้าไปยุ่งไม่ได้ “
ขุนพลเอ่ยกับเพื่อนน้ำเสียงเรียบเหมือนไม่สนใจแต่อันที่จริงในใจตอนนี้ อยากจะพุ่งตรงไปที่นั่นเสียเดี๋ยวนี้เลย
“แต่กูได้ยินว่า เรื่องนี้ ไม่ธรรมดานะเหมือนกับว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้วะ “
เทพพฤทธิ์ เอ่ยบอกเสียงเข้ม และสายตาจ้องมองเพื่อนรัก และใจคิดว่า เขาจะดูสิว่าไอ้เพื่อนปากแข็งของเขาจะทนได้สักแค่ไหน จะไม่ยุ่งเรื่องนี้จริง ๆ นะเหรอ
“หมายความว่ายังไงวะไอ้เทพ มึงรู้อะไรมา”
“มึงไปมึงก็รู้เองละ และอีกอย่าง ที่ไร่คุณพิทักษ์ก็อยู่ไม่ไกลจากไร่ของมึงไม่ใช่หรือไง ไอ้ขุน “
ขุนพลได้แต่นิ่งคิด ตามคำพูดของเพื่อนรักอย่างเทพฤทธิ์ และรู้สึกกังวลเช่นกัน
*****************************