มุกตาพาอาบน้ำเปลี่ยนชุด เตรียมตัวที่จะเข้านอน แต่จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูก็ดังขึ้นเมื่อเธอดูชื่อที่อยู่ปลายสายก็ต้องยิ้มในหน้า และกดรับสาย
“ฮัลโหล ข่าวไวจริงนะคะคุณ ต่อ “
“มุก เธออยู่ที่ไหน ตอนนี้ อยู่โรงแรม ของคุณลุงหรือเปล่า”ต่อราบเอ่ยถามมาตามสาย
“ใช่ อยู่โรงแรมของญาตินายนั่นละ “
“ถ้าอย่างนั้น รอฉันสักครู่นะ เดี๋ยวฉันไปหา แล้วมาทานข้าวฟังเพลงด้วยกัน มาเชียงรายทั้งที วันนี้ฉันขอเลี้ยงเธอเอง “ต่อราบเอ่ยบอกเสียงสดใส
“ได้ แล้วคุณชัยละ อยู่ด้วยกันหรือเปล่า “มุกตาพาเอ่ยถามถึงชัยยศ
“ชัยหรือไปกรุงเทพ พรุ่งนี้ถึงจะกลับ “
“มิน่าละถึงได้โทรหาฉันได้นะ ที่แท้ แฟนไม่อยู่นี่เองแล้วทำไมนายไม่ไปกรุงเทพกับคุณชัยละ “
“ พอดีว่าฉันติดงานทางนี้เลยไม่ได้ไปนะสิ แต่ก็พอดีกับที่เธอมาเชียงรายฉันก็ไม่เหงานะสิ”ต่อราบเอ่ยมาตามสาย
“เอาอย่างนี้ดีกว่า เดี๋ยวนายรอฉันอยู่ตรงล๊อบบี้ของโรงแรมก็แล้วกัน นะ ต่อ ถ้ามาถึงแล้วก็โทรบอกบอกฉันหรือว่าส่งไลน์มาก็ได้เดี๋ยวฉันลงไปหานาย”
“อือ ได้ อีก 10 นาที ถึง” ต่อราบเอ่ยบอกแล้วก็วางสายไปส่วนมุกตาพาก็เปลี่ยนชุดเพื่อออกไปข้างนอกรอ
มุกตาพา รู้จักกับต่อราบเมื่อ 5 ปีที่แล้วพร้อม ๆ กับเพ็ญนภาและก็เป็นเพื่อนตลอดมา โดยที่โรงแรมนี้ก็เป็นของญาติของต่อราบ
เมื่อรออยู่สักพัก ไลน์ในโทรศัพท์ของเธอก็ส่งเสียงดังเมื่อเปิดอ่านก็เห็นข้อความจากต่อราบที่ส่งมาบอกว่าตอนนี้รออยู่ที่ ล็อบบี้ของโรงแรมแล้ว หลังจากอ่านข้อความจบมือเล็กก็หันไปหยิบกระเป๋าสบายและเดินออกจากห้องพักไปที่ลิฟท์ลงไปชั้นล่างทันที
มุกตาพาเดินออกมาที่หน้าล๊อบบี้ก็เห็นต่อราบที่โบกมือให้อยู่ในตอนนี้ เธอจึงได้ส่งยิ้มหวานให้กับเพื่อน
“รอนานไหม “
“ไม่หรอก ว่าแต่เราจะไปทานข้าวที่ไหน ไม่ทานที่โรงแรมของญาตินายหรือไง”
“ไปร้านอาหารข้าง ๆ นี่ดีกว่าบรรยากาศดีมาก เป็นร้านอาหารกึ่งผับ ก็เป็นของญาติฉันเหมือนกันนั่นล่ะ ไปกันเถอะ “
ต่อราบบอกและเดินนำมุกตาพาออกไปด้านนอกและตรงไปที่ร้านอาหารที่อยู่ข้าง ๆ ห่างจากตัวโรงแรมประมาณ 200 เมตร และเมื่อมาถึง มุกตาพาก็ต้องมองอย่างชื่นชม กับการจัดร้าน และบรรยากาศที่น่านั่งมาก ๆ และตอนนี้โต๊ะในร้านก็เกือบจะเต็มหมดแล้ว ซึ่งลูกค้าก็จะมีทั้งจากแขกที่พักที่โรงแรมและคนข้างนอกด้วยที่มาใช้บริการที่นี่
“คนเยอะเหมือนกันนะต่อ “มุกตาพาเอ่ยบอกเสียงค่อนข้างดังเพราะตอนนี้ บนเวทีก็กำลังเล่นดนตรีสดอยู่ทำให้เสียงดังพอสมควร
“อือ ที่นี่อาหารอร่อยนะมุก ฉันจะสั่งเมนูที่เป็น ซิกเนเจอร์ของร้านให้เธอชิม รับรองว่าอร่อย แน่นอน และอีกอย่าง นักร้องก็หล่อด้วยนะ “ต่อราบเอ่ยต่อในตอนท้ายทำให้มุกตาพาได้แต่ส่งค้อนให้กับเพื่อน เพราะจะดูกระดี้กระด๊าเป็นพิเศษเมื่อพูดถึงคนหล่อ
“เกินไปต่อ นี่เดียวชัยมารู้เข้าโกรธตายเลย “
“ฉันก็แค่พูดเล่น นั่นโต๊ะ ที่ฉันจองไว้ไปกันเถอะ ป่านนี้อาหารคงมารอแล้ว “
“นี่ใช้อภิสิทธิ์หรือเปล่าเนี๊ยะ ต่อ”
“ก็นิดหน่อย ไปกันเถอะหิวแล้ว “
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินเข้าไปที่โต๊ะที่ต่อราบจองไว้ล่วงหน้า ซึ่งเดินลึกเข้าไปด้านใน นั่นจึงทำให้ทั้งสองคนต้องเดินผ่านโต๊ะต่าง ๆ เข้าไป รวมถึงโต๊ะของสองหนุ่มที่กำลังนั่งดื่มกันอยู่ก่อนแล้ว
“เอ้ย ไอ้ขุน โลกมันจะกลมมากเกินไปหรือเปล่าว่ะ นั่นมึงดูนั่น”
เทพฤทธิ์ เอ่ยบอกเพื่อนเมื่อสายตาของเขา มองเห็น หนุ่มสาวสองคนที่กำลังเดินเข้ามาและกำลังจะผ่านโต๊ะของพวกเขาไป
“อะไรของมึงไอ้เทพ พูดถึงเรืองอะไร โลกกลมอะไร “
“โน้นมึงดูโน้น จะไม่ให้กูบอกว่าโลกกลมได้ยังไง “
“ไหนอะไร “
ขุนพลหันไปมองตามสายตาของเพื่อนรัก แล้วก็ต้องชะงักหัวใจเต้นรัวเมื่อคนคนนั้นก็คือมุกตาพานั่นเอง เมื่อมองอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็ต้องวาวโรจน์เมื่อเห็นว่าเธอเดินมากับชายหนุ่มอีกคน และก็ทำให้เขาเกิดความสงสัย เพราะเทพฤธิ์บอกว่าสามีของเธอแก่รุ่นพ่อ แต่คนนี้ไม่ใช่ ยังหนุ่มยังแน่นด้วยซ้ำไป หรือว่าเธอจะแอบผัวแก่มาเที่ยวกับหนุ่ม ๆ อย่างนั้นเหรอ
“ผู้หญิงสำส่อน “
“มึงว่าใครวะ ขุน”
“เปล่า ไม่มีอะไร เลิกสนใจคนอื่นได้แล้วนะ มาดื่มกันดีกว่า”
“อือ ว่าแต่ คุณมุกเธอมากับใครวะ เพื่อน เหรอ แต่ดูท่าทางสนิทสนมกันมากเลยนะ หรือว่า”
“มึงเลิกสงสัยเรื่องของคนอื่นได้แล้วน่า ไอ้เทพ ดื่มกันดีกว่า”
“กูก็แค่สงสัย “
“เลิกสงสัยแล้วดื่ม “
“เออ ๆ มาดื่มดีกว่า “
จากนั้นสองหนุ่มก็นั่งดื่มและพูดคุยกันต่อ ถึงแม้เขาจะพยายามจะบอกเพื่อนว่าไม่ให้สนใจ แต่ว่าตัวเขาเองต่างหากที่กำลังจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วตอนนี้ มันคอยจะคิดถึง คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะด้านใน อยู่ตลอดเวลา
“นี่ มุกเธอลองชิม จานนี้ อร่อย นะ ใครมาที่นี่ต้องสั่ง ลองดู “
ต่อราบตักอาหารใส่ในจานของมุกตาพา อย่างเอาอกเอาใจเพราะเขาอยากให้เพื่อนได้ชิมอาหาร ที่เขาบอกว่าอร่อย
“ขอบใจ หืม อร่อย จริง ๆ “
มุกตาพาตักอาหารเข้าปากเคี้ยว และพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อน
“ฉันบอกแล้วว่าอร่อย มาชนแก้วกันหน่อย นาน ๆ เธอจะมาเชียงรายซะที ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาเที่ยวก็เถอะ “
“อือ ก็ถือโอกาสเที่ยวด้วยเลยก็ได้นี่นาต่อ ฉันว่าจะอยู่ที่เชียงรายสัก อาทิตย์ จนกว่าเรื่องจะเรียบร้อย “
“นี่มุก ฉันถามเธอจริง ๆ เธอไม่คิดจะมีคนรักบ้างเลยเหรอ เพราะจะว่าไป เธอก็ตกพุ่มหม้ายมานานตั้งแต่ฉันรู้จักกับเธอ ฉันยังไม่เห็นว่าเธอจะมีใครเลยซักคนนะ ทั้ง ๆ ที่เธอก็ทั้งสวยทั้งเก่งขนาดนี้นะ”
“อือ ฉันคงมีดวงที่ต้องอยู่คนเดียวนะสิ ต่อ แต่ก็สบายใจดีออกไม่วุ่นวายกับใคร และไม่มีเรื่องกวนใจด้วย “
“แต่บางครั้งมันก็ต้องมีเพื่อนคู่คิดบ้าง เวลาที่เราเหงา ๆ หรือต้องการใครสักคนนะ “
“ไม่หรอก ฉันไม่มีเวลาที่ต้องเหงา และฉันก็ยุ่งกับงานทั้งวัน ไม่เห็นเหรอ “
“เฮ้อ พูดกับเธอนี่นะ แก้ตัวได้ตลอดเลย ฉันรู้ว่ามีคนมาจีบเธอทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ แต่เธอปฏิเสธทุกคน “
“นี่ เลิกพูดเรื่องฉันได้แล้วนะ มาดื่มกันเถอะ อุตส่าห์มาเที่ยวเชียงรายทั้งที มา”
“เออ ๆ ไม่พูดก็ไม่พูด มาชนแก้ว “
มุกตาพาได้แต่ยิ้มกับท่าทางขัดใจของเพื่อนเมื่อพูดเรื่องของเธอ เธอรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง อยากให้เธอมีใครสักคน แต่ว่า เธอรู้หัวใจของเธอดีว่าเพราะอะไรเธอจึงเลือกที่อยู่คนเดียวแบบนี้ ตั้งแต่ คุณอาอำนาจเสียไป เมื่อ 7 ปีก่อน
มุกตาพานั่งทานข้าวและดื่มอยู่สักพัก ก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะไปห้องน้ำ
“ต่อเดี๋ยวมานะ ฉันไปห้องน้ำก่อน “
“อือ ตามสบาย หรือว่าให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหมมุก”
“ไม่ต้อง ฉันไปเองได้ แค่นี้เอง”
“โอเค”
มุกตาพาเดินออกไปฝั่ง ที่เป็นห้องน้ำ โดยมีสายตาของใครอีกคนที่มองจ้องเธอตลอดเวลาไม่ใช่ใคร ขุนพล นั่นเอง
ขุนพลนั่งดื่มบรั่นดีกับเทพฤทธิ์ จนตอนนี้ เขาเริ่มจะเมา แล้ว และขณะที่นั่งดื่มสายตาของเขาก็คอยแต่จะมองจ้องไปที่คนที่อยู่โต๊ะด้านในตลอดเวลา และเทพฤทธิ์เองก็พอจะจับสังเกตได้ แต่ว่า เขาก็ไม่อยากขัดใจเพื่อนเพราะเขารู้ว่า เพื่อนของเขานั้น ยังคงรักและคิดถึงมุกตาพาตลอดระยะ เวลา 8 ปีที่ผ่านมา
“เทพ กูไปห้องน้ำก่อนนะ”
จู่ ๆ ขุนพลก็ลุกขึ้นและบอกเพื่อนว่าจะไปห้องน้ำ ทำให้คนที่กำลังยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มอย่างเทพฤทธิ์ ต้องเงยหน้ามอง ด้วยความสงสัย
“เดินไหวไหมวะ เมาหรือเปล่าไอ้ขุน “
“ไหว แค่มึน ๆ นิดหน่อยยังไม่เมาหรอกนะ บรั่นดีแค่นี้เมาก็เสียชื่อหมด” ขุนพลเอ่ยตอบแต่สายตาของเทพฤทธิ์ที่มองไปที่ขวดบรั่นดี ได้แต่ถอนหายใจ ไอ้คำว่าแค่นี้ของเพื่อนคือ ตอนนี้เหลือไม่ถึงครึ่งขวดด้วยซ้ำ
“เออ ๆ ไปเถอะ รีบไปรีบมา “
“อือ “
ขุนพลเดินตรงไปยังห้องน้ำ แต่ว่าเขาไม่ได้เข้าห้องน้ำอย่างที่บอกเพื่อน เพราะตอนนี้เขากำลังยืนรอใครบางคนอยู่นั่นเอง
มุกตาพาทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ขณะที่เธอกำลังจะเดินผ่านซุ้มต้นไม้ เพื่อที่จะเข้าไปด้านในร้าน เธอก็ต้องชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดินเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ขุน “
“อ้อ ยังจำผมได้นี่ นึกว่าจะทำเป็นไม่รู้จักกันเหมือนเมื่อตอนกลางวัน”
ขุนพลเอ่ยน้ำเสียงประชด และมองจ้องใบหน้าสวยของเธอ ผู้หญิงที่เขาไม่มีวันลืม ผู้หญิงที่เคยเป็นโลกทั้งใบของเขา และเป็นคนที่ทำลายโลกทั้งใบของเขาในเวลาเดียวกัน สายตาที่เขามองเธอตอนนี้ มีหลากหลายอารมณ์ความรู้สึก อยู่ในนั้น
“บังเอิญจังเลยนะคะ คุณมาทานข้าวที่นี่เหมือนกันหรือคะ “ มุกตาพา เอ่ยตอบด้วยท่าทีปกติ แต่ว่ามันกลับทำให้ขุนพลรู้สึกหมั่นไส้คนตรงหน้าจริง ๆ
“อ้อ ใช่ ผมมาทานข้าว แล้วคุณละ มาทานข้าวเหมือนกันนี่ แล้วมากับผู้ชายอื่น 2 ต่อ 2 แบบนี้ สามีไม่ว่าเหรอ หรือว่าแอบนัดกันมา อย่างว่าละนะ สามีแก่คราวพ่อหรือจะสู้ หนุ่ม ๆ ได้ “
ขุนพลเอ่ยเสียงเยาะในตอนท้าย และคำพูดนั้นทำให้มุกตาพารู้สึกไม่พอใจในคำพูดดูถูกของเขา และเธอก็พอจะรู้ว่าเขาคงจะโกรธ และเกลียดที่เธอ หนีไปแต่งงานกับคนอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองคนสัญญาจะแต่งงานกัน แต่นั่นเพราะเธอมีความจำเป็น ถ้าเขาจะเกลียดเธอ ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สุดท้ายเธอก็ยังรู้สึกเสียใจกับคำพูดของเขาอยู่ดี “ขอโทษค่ะ ฉันคงไม่จำเป็นต้องตอบเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวนะคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะคะ “
“จะรีบไปไหน คุยกันก่อนไม่ได้หรือไง”
“ฉันไม่มีเรื่องอะไรต้องคุยกับคุณนี่คะ “
“แน่ใจเหรอว่าไม่มี แม้แต่เรื่องเมื่อ.........”
“ค่ะไม่มี “
มุกตาพาเอ่ยจบและกำลังจะเดินไป แต่ก็ต้องตกใจเมื่อมือเล็กของเธอถูกมือหนาของขุนพลกระชากอย่างแรง จนทำให้ร่างเล็กเซถลาเข้าหาร่างแกร่งของเขาทันที
“เอ๊ะ นี่คุณ คุณจะทำอะไร”
**************************************