ขุนพล กดเบอร์โทร ของมุกตาพา ทันทีเพื่อจะถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ว่าโทรไม่ติด ไม่มีสัญญาณ เขาพยายามกด แต่ก็เหมือนเดิม เขาเปลี่ยนมาเป็น โทรเข้าไลน์ แต่ก็ไม่มีสัญญาณอะไรเลย ทำให้ตอนนี้ ขุนพลรู้สึกร้อนใจเป็นที่สุด
“รับสิ มุก รับสิ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มุก รับสิ “
ขุนพลเอ่ยเสียงเข้มมือก็พยายามกดโทรศัพท์ติดต่อไปที่มุกตาพา แต่ก็เหมือนเดิมติดต่อไม่ได้ ขณะที่ขุนพลกำลังพยายามติดต่อไปที่มุกตาพา ก็มีสายเรียกเข้า เมื่อดูชื่อก็คือ เทพฤทธิ์ เพื่อนรักของเขานั่นเอง
“ฮัลโหล”
“ไอ้ขุน มึงหายไปไหนมาวะ กูติดต่อมึงไม่ได้เลย กูคิดว่ามึงเป็นอะไรหรือเปล่า “เทพฤทธิ์เอ่ยเสียงดังมาตามสาย
“เออ เกิดเรื่องนิดหน่อย มึงจะตะโกนทำไม หูกูจะแตกอยู่แล้ว และอีกอย่างกูก็ยังไม่ตายโว้ย”
“เออ กูคิดว่ามึงเสียใจมากจนไม่อยากติดต่อใครกูกลัวมึงจะคิดสั้นนะสิไอ้ขุน”
เทพฤทธิ์บอกเพื่อนรักเสียงเข้ม เพราะเขาพยายามที่จะติดต่อขุนพลเพราะเขาคิดว่าขุนพลคงจะกำลังเสียใจ
“เดี๋ยวไอ้เทพ มึงพูดถึงเรื่องอะไร แล้วทำไมกูต้องเสียถึงขั้นอยากตายวะ”
“นี่มึงอย่าบอกว่ามึงทำใจได้แล้วเหรอ มึงเข้มแข็งขนาดนั้นเลยเหรอวะ ขุน มึงนี่สุดยอดจริง ๆ วะ “
เทพฤทธิ์ยังคงพูดต่อ แต่คนฟังอย่างขุนพลได้แต่ขมวดคิ้วว่าเพื่อนหมายถึงอะไรกันแน่
“เดี๋ยว ไอ้เทพ มึงพูดเรื่องอะไร กูไม่เข้าใจมึงอธิบายให้กูรู้เรื่องหน่อยได้ไหมวะ”
“มึงพูดเหมือนมึงไม่รู้เรื่องนี้ไอ้ขุน ตกลงมึงหายไปไหนมากันแน่”
เทพฤทธิ์เริ่มเอะใจเมื่อเพื่อนรัก พูดเหมือนไม่รู้อะไรเลย
ขุนพลเองก็สงสัยในคำพูดของเพื่อนเช่นกันว่าพูดแบบนี้หมายถึงอะไรกัน แน่
“กูอยู่โรงพยาบาล เกือบอาทิตย์ มีเรื่องนิดหน่อยวะ ว่าแต่มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไงวะเทพ มีเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ”
“มิน่า กูพยายามโทรหามึง มึงไม่รับ ได้ขุน กูก็นึกว่ามึงกำลังหลบไปรักษาแผลใจ “
“ไอ้ห่าเทพ พูดให้มันรู้เรื่องหน่อย มึงหมายความว่าอะไร “ ขุนพลถามเพื่อนอีกครั้ง
“ก็เรื่องที่มุกตาพาแต่งงานนะสิ กูก็นึกว่ามึงรู้เรื่องแล้ว ซะอีก “
“มึงว่าอะไรนะไอ้เทพ ใครแต่งงาน พูดใหม่อีกทีซิ”
ขุนพลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจ และคิดว่าตัวเองหูฝาด หรืออาจจะฟังผิดไป
“มุกตาพา คนรักของมึง นั่นละ เธอแต่งงานแล้ว อย่าบอกนะว่ามึงไม่รู้เรื่องนี้นะไอ้ขุน”
เทพฤทธิ์ถามตามสายมาแต่ว่าตอนนี้มีเพียงความเงียบ จากปลายสาย เท่านั้น
“ไอ้ขุน ไอ้ขุน มึงได้ยินที่กูพูดหรือเปล่าวะ ขุน มึงเป็นอะไรหรือเปล่า”
เทพฤทธิ์ เรียกตามสายมาเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากเพื่อนรักเลย
“ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมวะ มึงอำกูเล่นใช่ไหมวะ เทพมุกจะแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไง ก็เราสัญญากันแล้วว่าเราจะแต่งงานกัน หลังจากเรียนจบ”
ขุนพลพรั่งพรูคำพูดราวกับคนเสียสติ เมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนรักบอก หญิงคนรัก ของเขาแต่งงานแล้ว จะเป็นไปได้เช่นไร
“กูไม่ได้อำมึงเล่นนะโว้ย ไอ้ขุน ไม่เชื่อมึงก็โทรไปถามเธอเองเลยข่าวงานแต่งออกจะใหญ่โต ที่สำคัญเจ้าบ่าวแก่คราวพ่อเลยวะ “ เทพฤทธิ์ยังคงพูดต่อ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มุกจะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน ไม่จริง เป็นไปไม่ได้หรอก “ขุนพลเอ่ยเสียงพึมพำ
“ ไอ้ขุน มึงเป็นอะไรหรือเปล่าวะ ขุน ได้ยินกูเรียกไหมขุน”
ขุนพลไม่ได้ยินเสียงเรียกของเทพฤทธิ์ด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้เขารู้สึก อื้ออึงในหู สมองคิดถึงแต่คำบอกเล่าของเพื่อนรักเกี่ยวกับมุกตาพา คนรักของเขา
มือหนากดโทรเบอร์ของมุกตาพา แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ เลย เขานิ่งคิดก่อนจะนึกออกว่า เขามีเบอร์โทรของบ้านเธออยู่ เขาจึงกดหมายเลยโทรศัพท์ของบ้านเธอทันทีเขารอสัญญาณสักพักก็มีคนรับที่ปลายสาย
“บ้านพัฒนศาล ค่ะ“
“ขอสายคุณมุกตาพาครับ “
“คุณมุก ไม่อยู่ค่ะ “
“ไปไหนทราบไหมครับ “
“อ้อ คุณมุกไป ฮันนี่มูลที่ภูเก็ตค่ะ “
“อะไรนะครับ ฮันนี่มูลเหรอครับ คุณมุกแต่งงานแล้วอย่างนั้นเหรอครับ “
ขุนพล พยายามเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด ถึงแม้ว่าตอนนี้ หัวใจเขาแทบจะแตกเป็นเสี่ยงเมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากปลายสาย
“ค่ะ คุณมุกเพิ่งจะแต่งงานเมื่ออาทิตย์ที่แล้วค่ะ แล้วตอนนี้ก็ไปฮันนี่มูนที่ภูเก็ตค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบ จากปลายทำให้มือหนากำโทรศัพท์แน่นก่อนจะค่อย ๆ วางลงราวกับหมดแรง
“ฮัลโหล ฮัลโหล”
เสียงปลายสายเอ่ยเรียกดังไม่หยุดแต่ว่าตอนนี้ขุนพลไม่ได้ยินอะไรแล้ว เขานิ่งงันไปราวกับคนสติหลุดลอย
“คุณขุน เป็นอะไรหรือเปล่าคะ “ ภาวินีเดินเข้ามาหาเขานั่งนิ่งดวงตาเลื่อนลอย เมื่อเธอแอบได้ยินชายหนุ่มคุยโทรศัพท์เมื่อสักครู่
“ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ มุก ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ ที่ผ่านมาคุณแค่หลอกผมอย่างนั้นเหรอ”ขุนพลได้แต่เอ่ยพึมพำอย่างเลื่อนลอย
“คุณขุน คุณเป็นอะไรคะ”ภาวินีได้แต่จับไปที่แขนแกร่งและเขย่า เพื่อเรียกเขา
“ผมจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ “
“แต่ว่าคุณหมอ”
“ผมจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ รบกวนคุณช่วยจัดการให้ผมด้วย”
“เอ่อค่ะ ได้ค่ะ “
จากนั้น ภาวินีและ ขุนพลก็ออกจากโรงพยาบาล และสิ่งแรกที่เขาทำก็คือไปที่บ้าน ของมุกตาพา เพื่อให้แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็เหมือนเดิมคือ ไม่ได้พบเธอ ขุนพลได้แต่พาร่างกายที่เหมือนไร้วิญญาณกลับ บ้านที่เชียงราย เพียงเท่านั้น จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ 8 ปีแล้ว เขาและเธอเหมือนคนที่ตายจากกันไปแล้ว
“ผู้หญิง ใจร้าย ใจโลเล หลอกลวง หลายใจ “
เสียงทุ้มเอ่ยพึมพำ ก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มหมดในครั้งเดียวและก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง เวลาที่เขานั่งดื่ม บรั่นดีก็มักจะนึกถึง เรื่องราวนในอดีตตลอด และก็เป็นเขาที่รู้สึกเจ็บปวดและทรมาน ทั้ง ๆ ที่เขาเคยคิดว่าเขาไม่สนใจผู้หญิงหลายใจคนนี้แล้ว แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นเพราะในใจลึก ๆ เขาไม่มีทางจะลืมเธอได้เลยแม้สักวินาทีเดียว และเขาก็จะใช้ เหล้าเป็นตัวช่วยให้เขานอนหลับไปได้ในแต่ละวัน
บ้านบริรักษ์
“พ่อคะ อาทิตย์หน้า มุกต้องไปเชียงรายนะคะพ่อ “
“ จะไปเรื่องที่ดินแปลงนั้นเหรอ ลูก “คุณมนตรีเดินเข้านั่งข้าง ๆ ขณะที่เอ่ยถาม
“ค่ะคุณพ่อ มุกจะไปดูซะหน่อย เพราะ ว่ามุกอยากจะไปดูว่าที่แปลงนั้นจะทำอะไรได้บ้างค่ะ”
“ พ่อเคยไปดูที่แปลงนั้นครั้งหนึ่งนะ เป็นแปลงที่สวยและทำเลดีมาก แต่ว่า อำนาจให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินฟรี ๆ มานานแล้วถ้ามุกเข้าไป จะต้องจัดการให้ดีนะลูก เพราะมันเกี่ยวกับชาวบ้านที่นั้น เพราะถึงแม้จะเป็นที่ของเราแต่ว่า พวกเขาใช้ที่ตรงนั้นทำกินมานานมันย่อมกระทบกับพวกเขาแน่ ๆ ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร”
“ค่ะคุณพ่อ ไม่ต้องห่วงค่ะ มุกจะระวังและจัดการให้ดีค่ะ ว่าแต่คุณพ่อ จะไปสิงคโปร์วันไหนคะ”
“พรุ่งนี้ พ่อให้เลขาจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินพรุ่งนี้ตอนเช้า นะ พ่อถึงได้มาหามุกก่อนเพราะพรุ่งนี้เช้าพ่อต้องออกดินทางแต่เช้านะ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อเดินทางปลอดภัยนะคะ”
“อือ เอาละ พ่อต้องกลับบ้านแล้ว ว่าแต่ พวกนั้นยังมารบกวนมุกอีกหรือเปล่าลูก “
คุณมนตรีเอ่ยถามถึงครอบครัวของทะนง ญาติห่าง ๆของคุณอำนาจ มักจะมาหาเรื่องเธอตลอดเวลาหลังจากที่คุณอำนาจแต่งงานกับเธอและจากไป
และยิ่งไม่พอใจเมื่อรู้ว่า สมบัติทุกอย่าง คุณอำนาจทำพินัยกรรมยกให้มุกตาพาทั้งหมดนั่นเอง
“ก็มีบ้างค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ มุกจัดการได้ค่ะ ไม่ต้องห่วง “
“อือระวังตัวด้วยนะลูกคนพาลยังไงมันก็จะทำทุกวิถีทาง เพื่อทำร้ายเรา โดยไม่สนว่าถูกหรือผิด”
คุณมนตรีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ใช่ท่านเป็นห่วงมุกตาพา มาก เพราะการแต่งงานของเธอทำให้เกิดความไม่พอใจกับคนพวกนั้นเป็นอันมาก และเพราะอย่างนี้อำนาจเพื่อนของเขาจึงอยากแต่งงานกับมุกตาพา และยกสมบัติทั้งหมดให้กับเธอ
“ค่ะพ่อ พ่อกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ นี่ก็เย็นแล้ว มุกดูแลตัวเองได้ค่ะ พ่อ “
“อือ พ่อได้ยินแบบนี้พ่อก็วางใจ ถ้ามีอะไร โทรบอกพ่อได้ตลอดเวลานะ มุก เอาละพ่อไปละ “
“ค่ะ สวัสดีค่ะพ่อ เดินทางปลอดภัยนะคะ “
“อือ พ่อไปละ “
คุณมนตรีเดินออกไปขึ้นรถที่คนขับจอดรออยู่ที่คฤหาสน์หรูและก็กลับบ้านไป เมื่อพ่อของเธอกลับไปแล้ว มุกตาพาก็นั่งอะไรเพลิน ๆ ต่อ และก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้ง เมื่อเธอกลับมาที่บ้านเธอก็ต้องอยู่กับความเงียบเหงา ภายในคฤหาสน์หรูหลังนี้เพียงคนเดียวตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา หลังจากคุณอำนาจตายไปและเธอก็จำประโยคที่คุณอำนาจเอ่ยก่อนจะสิ้นลม
“มุก อาต้องขอโทษที่ทำให้มุกต้องสูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไป แต่ อาหวังว่า ทุกสิ่งทุกอย่างของอาจะชดเชยให้มุกได้ตลอดชีวิตนี้ ต่อไป มุกใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดีและมีความสุขเถอะ นะ”
และนี่ก็คือประโยคสุดท้ายที่ท่านเอ่ยบอกเธอ ก่อนที่ท่านจะจากโลกนี้ไปตลอดกาล
“มุกจะต้อง มีความสุขค่ะคุณอา มุกจะใช้ชีวิตให้มีความสุขค่ะ”มุกตาพาได้แต่เอ่ยพึมพำ