มีนเขยิบตัวเข้าไปนั่งอยู่ตรงหน้าหลวงพ่อ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยบวชเรียน เพราะเรียนจบมาก็ได้งานประจำทำทันที พอเปลี่ยนมาทำงานด้านนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ก็ไปได้ดีเสียจนเวลารัดตัว ความคิดจะบวชทดแทนคุณพ่อแม่อย่างที่ลูกผู้ชายไทยทุกคนพึงกระทำจึงไม่อยู่ในความคิดเขา ถึงแม่จะเคยพูดชักชวน และคะยั้นคะยอเขาหลายครั้งแล้วก็ตาม
หลวงพ่อยิ้มให้เขาอย่างเมตตา สอบถามชื่อและอายุ แม่ที่นั่งข้างๆ จ้องหลวงพ่อเขม็ง เพราะคาดหวังว่าหลวงพ่อจะดูดวงหรือต่อชะตาให้
แต่คำถามที่หลวงถามกับมายังลูกชายทำให้แม่ต้องมึนงง
"เคยอยู่กับปัจจุบันไหม" หลวงพ่อถาม มีนกระพริบตาปริบๆ เขาไม่เข้าใจในคำถาม 'หรือนี่จะเป็นปริศนาธรรม' ต่อให้ปัญหาเชาว์ง่ายๆ เขายังขี้เกียจจะคิดเลย นับประสาอะไรกับปัญหาทางธรรม
"ผมก็อยู่กับปัจจุบันตลอดนี่ครับ ไม่เคยย้อนอดีต หรือเดินทางไปอนาคตสักครั้ง" เขาไม่กล้ากวนตีนหลวงพ่อมากไปกว่านี้
"ตัวน่ะ อยู่ปัจจุบัน แต่ความคิดน่ะ ไปอดีตกับอนาคตตลอด" หลวงพ่อพูดทางวาจาเพียงเท่านี้ แล้วยิ้ม
'เมื่อตอนถวายสังฆทานก็คิดไปถึงผู้หญิงที่เจอเมื่อคืนนี่'
มีนตาค้าง อ้าปาก ตกตะลึง ประโยคเมื่อสักครู่เขาสาบานให้ตายโหง เขาไม่ได้ยินทางหู แต่ได้ยินในความคิด!!! มีนหันควับไปมองแม่ทันที แม่ยังอยู่ในท่าทางปกติเช่นเดิม ไม่ได้ตกตะลึงหรือมีท่าทีอย่างเขา แสดงว่าแม่ไม่ได้ยินอย่างที่เขาได้ยิน
"หลวงพ่อ" เขากล่าวอย่างแผ่วบา เสียงลอดออกมาได้อย่างเล็กน้อย
'โยมต้องไปขออโหสิกรรมเขานะ'
เขาไม่ได้ฝันไป หยิกเนื้อตัวเอง 'เจ็บ' แน่แล้ว แน่ชัดที่สุด เสียงที่เขาได้ยินในหัวไม่ใช่คิดไปเอง หรือพิษไข้ หรือเป็นเพราะเมาค้าง มีนยังคงอ้าปากค้าง ตกตะลึง กระพริบตาปริบๆ ไม่สามารถพูดคำใดออกมาได้
ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยพบเรื่องมหัศจรรย์เช่นนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต!!!
"หลวงพ่อจะสอนให้ ... หายใจเป็นไหม" ทันทีที่หลวงพ่อพูดคำนี้แม่ถึงกับขมวดคิ้ว ขยับปากจะพูดแต่มีนรีบชิงพูดเสียก่อน
"หายใจอยู่ แต่ไม่รู้ว่าหายใจเป็นหรือเปล่าครับ" เหตุการณ์เมื่อสักครู่ทำให้เขาไม่กล้าลองดีกับหลวงพ่ออีก ต่อให้แน่มาแค่ไหน แต่บัดนี้เขาแทบจะหมอบราบคาบแก้วให้กับหลวงพ่อ
"มาหลวงพ่อจะสอนให้ รู้สึกถึงลมหายใจที่เข้าออก หายใจสั้นก็ให้รู้ว่าสั้น หายใจยาวก็ให้รู้ว่ายาว รู้ลมที่มากระทบ ให้ตามรู้ไป รู้แค่นี้พอ รู้แค่ปัจจุบัน เมื่อรู้ปัจจุบัน อดีตและอนาคตก็เข้ามาไม่ได้"
เขาฟังอย่างตั้งใจ และทดลองทำทันทีอย่างไม่มีข้อกังขา มีนนั่งขัดสมาธิ หลับตา ปล่อยตัวตามสบาย ดูง่ายเท่านี้แต่ทั้งชีวิตเขาไม่เคย 'รู้สึก' ถึงลมหายใจสักครั้ง หายใจโดยไม่รู้สึกว่ากำลังหายใจมาทั้งชีวิต แต่ทันทีที่ทดลองทำ เพียงเสี้ยววินาทีก็พบตามจริงที่หลวงพ่อพูด
เมื่อรู้ถึงลมหายใจ สั้นก็รู้ ยาวก็รู้ ลมกระทบจมูกก็รู้ ทำหน้าที่เพียงแค่รับรู้ตามไป เสี้ยววินาทีที่รู้ ความคิดถึงรดาที่เจอเมื่อคืน และโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์ที่วางในอนาคตไม่สามารถเข้ามาแทรกในความคิดเขาได้
มีนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา พบกับหลวงพ่อที่มองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว วินาทีที่รู้ลมหายใจ ชีวิตไม่เหมือนเดิม
"ต่อไปขอให้ฝึกจนเป็นผู้รู้ที่ชำนาญนะ โยมจะพัฒนาได้เร็ว จนถึงขั้นรู้เกิด รู้ดับ" หลวงพ่อกล่าวและยิ้มอย่างเมตตา ถึงมีนจะไม่รู้ในความหมายของหลวงพ่อ ว่าอะไรคือ 'เกิด' อะไรคือ 'ดับ' แต่เขาก็รับฟังหลวงพ่อแต่โดยดี ตรงกันข้ามกับแม่ซึ่งมีอาการลุกลี้ลุกลน คันปากอยากจะให้หลวงพ่อเป่ามนต์กันผี หรืออะไรสักอย่างเพื่อปกป้องคุ้มครองลูกชาย
เมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลา มีนจึงกราบลาหลวงพ่อ เป็นการกราบที่มีความหมายที่สุดในชีวิตเขา
ขณะขับรถกลับแม่บ่นอุบมาตลอดทาง
"นึกว่าจะให้พระเครื่องสักองค์ หรือผ้ายันต์ก็ได้ เอาไว้ป้องกันภัย ป้องกันผี หรือเลขเด็ดสักงวดก็ยังดี" แม่หน้านิ่ว
พอแม่พูดเรื่องนี้ทำให้มีนคิดขึ้นมาได้
"เออแม่ แล้วที่หาขูดหาเลขต้นมะขามเป็นไงบ้าง รางวัลที่ 1 เลยไหม"
"รางวัลกะผีอะไรล่ะ ไม่เฉียดเลยด้วยซ้ำ" แม่กล่าวอย่างฉุน ๆ ทำตาประหลับประเหลือก ทำให้มีนหัวเราะลั่น
"รอนสันเลยไหมแม่ เผาแม่งเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า" เขาหัวเราะลั่นรถ นึกอยู่แล้วว่าผลต้องออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนแม่ยังบ่นไม่หาย
เขาส่งแม่ที่บ้านและขับรถกลับคอนโด ปฏิเสธที่จะนอนค้างที่บ้านเมื่อแม่ของเขาคะยั้นคะยอให้นอนบ้านบ้าง มีนเป็นคนรักอิสระเมื่ออยู่ที่บ้านกับแม่ ทำอะไรก็ไม่สะดวกนัก ตื่นสายก็โดนบ่น จะสูบบุหรี่ดื่มเบียร์ก็ทำได้ไม่สะดวก
เมื่อมาถึงคอนโด มีนจุดบุหรี่สูบหลังจากร่างกายสะอาดเมื่อได้อาบน้ำอุ่น คิดจะหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาดื่มสักขวด แต่อาการสะบัดร้อนสะบัดหนาวเกิดขึ้นกับเขาอีกครั้ง จึงเปลี่ยนความคิด เก็บขวดเบียร์เข้าที่เดิม
มีนกรอกยาเข้าปาก คิดจะนอนพักผ่อน แต่เมื่อดูนาฬิกาก็พบว่าขณะนี้เพิ่งจะสี่ทุ่มกว่าเท่านั้น เขาไม่เคยนอนเร็วขนาดนี้
มีนนอนอยู่บนเตียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อย ใจที่คิดว่าจะส่ง Line หารดาตั้งแต่เมื่อกลางวันผุดขึ้นมาอีกครั้ง
รดาเป็นเพื่อนคนเดียวในกลุ่มที่ดูเรียบร้อย และพูดน้อยที่สุด รดาเป็นคนสุดท้ายที่เข้ามาคลุกคลีในกลุ่มเพื่อนของเขา เกิดจากตอนที่ไปค่ายอาสาปีสุดท้ายด้วยกัน
ภาพสาวน้อยน่ารักเมื่อคืนปรากฎในความคิด จนเขาประหลาดใจว่าเหตุใดก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดจะจีบเธอเลย และรดาเองก็ไม่เคยมีท่าทีจะสนใจในตัวเขา อาจเป็นเพราะช่วงเรียนมหาวิทยาลัยเขาเป็นเสือผู้หญิงตัวยง เปลี่ยนแฟนบ่อยเป็นว่าเล่น เลยทำให้ผู้หญิงเรียบร้อยอย่างรดาไม่กล้าเข้ามามีความสัมพันธ์ในฐานะแฟนก็เป็นได้
แต่เป็นเพราะความประทับใจที่เจอเธอเมื่อคืน ทำให้มีนยังรู้สึกตึดตรึงใจอยู่ มีนกำลังคิดว่าจะพิมพ์ข้อความใดไปหาเธอดี แต่สุดท้ายเขาก็คิดไม่ออก ทำได้เพียงส่งสติ๊กเกอร์ไปเท่านั้น
ยาที่ทานเมื่อสักครู่เริ่มออกฤทธิ์ เขารู้สึกง่วงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เวลานี้ปกติจะเป็นเวลาที่นักล่าเหยื่อกลางคืนอย่างเขาจะตาสว่างที่สุด แต่เขาไม่อาจทนทานต่อฤทธิ์ยาได้ สุดท้ายมันได้นำเขาเข้าไปสู่ภวังค์ของนิทราโดยไม่ได้ดูข้อความที่ตอบกลับมา