ฝันวกวนเกิดขึ้นกับเขาอีกครั้ง มีนพบว่าตัวเองอยู่ในความมืด มองอะไรได้ไม่ถนัดนัก แต่เมื่อรอครู่ใหญ่ สายตาก็เริ่มคุ้นชินกับความมืด
'เชี่ยอะไรวะเนี่ยยยย' นี่คือสิ่งแรกที่เกิดขึ้นในหัว
มีแต่ต้นไม้ ต้นไม้ และต้นไม้
มันคือที่เดิมที่เขาฝันเมื่อวาน มีนรู้สึกมึนงงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า ไม่รู้ว่าภาพที่ปรากฎขณะนี้คือความฝันหรือความจริง ความมืดทำให้เขาเดินสะเปะสะปะจนไปสะดุดกับอะไรบางอย่างจนหน้าคะมำ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับต้นไม้ต้นใหญ่สูงตระหง่านขนาดหลายคนโอบ รากไม้ที่โผล่พ้นดินทำให้เขาสะดุดล้ม
มีนยันกายลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง เมื่อมองต้นไม้ใหญ่ได้เต็มตา เขาก็ต้องตะลึงกับความสูงและความใหญ่ของต้นไม้ต้นนี้ ในชีวิตนี้เขาไม่ค่อยจะมีโอกาสเห็นต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ได้บ่อยนัก นี่อาจจะเป็นต้นแรกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาก็เป็นได้
แต่แล้วเขาก็ต้องรีบหลับตาแน่น เบนหน้าหลบ พร้อมยกฝ่ามือขึ้นบังแสง เมื่อมีแสงสว่างจ้ากว่าสปอร์ตไลท์ เป็นลำแสงทอดยาวออกมาจากต้นไม้ใหญ่นั้น มีนรีบถอยหลังจนสะดุดขาตัวเองล้มลงกองกับพื้น พร้อมถอยกรูดอย่างเร็ว
"ตัวอะไรออกมาจากต้นไม้วะ" เขาพูดขณะหลับตาแน่น ยกมือขึ้นบังแสง ขาสองข้างก็ยังถีบพื้นดันตัวถอยหลังไม่หยุด
เสียงหัวเราะทรงพลังอำนาจ ดังขึ้นรอบกายเขา เขาระบุไม่ได้ว่าเป็นเสียงจากตรงหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลัง รู้แต่ว่าเสียงนั้นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ และก้องอยู่ในโสตประสาทของเขา
มันเป็นเสียงหัวเราะที่ทรงพลังอำนาจ แฝงไปด้วยอาการเย้ยหยันอย่างผู้มีชัย เมื่อฟังจากน้ำเสียงแล้วสัมผัสถึงจุดประสงค์ร้าย มากกว่าจุดประสงค์ดี
"ไอ้หนุ่ม ปากดีนักนะ เมื่อวานเยี่ยวรดข้า วันนี้ยังคิดจะมาเผาข้าอีกเหรอ" เสียงนั้นเป็นเสียงทุ้มต่ำของชายชรา เสียงทรงอำนาจแผ่กังวานไปทั่วบริเวณ
มีนที่พยายามเผยอเปลือกตาเพื่อดูเหตุการณ์ แต่กลับต้องพบกับแสงสว่างแรงจนเขาต้องหลับตาอีกครั้ง พูดออกมาเสียงดังทั้งหลับตาว่า
"อะไรวะ ใคร ลุงเป็นใคร" เขาตะโกนลั่น
"บ๊ะไอ้นี่ บังอาจเรียกลุงเลยว้อย ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คิดมาลองดีกับข้า" เสียงนี้ดังก้องวานอยู่รอบตัวมีน ดูมีอำนาจ ลึกลับอย่างประหลาด
มีนรู้สึกขนลุกอย่างไม่มีเหตุผล เขาไม่ได้รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย เพียงรู้สึกตกใจมากกว่า มีนลุกขึ้นยืน สูดลมหายใจลึก นึกถึงคำหลวงพ่อ 'ถ้าอยู่กับปัจจุบัน อดีตและอนาคตจะมาทำร้ายไม่ได้' จริงสิ สิ่งที่ทำร้ายเราได้มากที่สุดคือความคิดเราเอง ขนาดอดีตและอนาคตเขายังรู้วิธีไม่ให้มันเข้ามาทำร้ายได้เลย ไหนเลยจะต้องกลัวพวกผีห่าที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้
"แน่จริงแสดงตัวออกมาดิวะ ตัวต่อตัวไหม เล่นใช้อำนาจลึกลับแบบนี้ไม่แน่จริงนี่ มาเจอกันในโลกความจริงดิ เก่งแต่ในฝันเหรอวะ โธ่ไอ้แก่ ผมรู้นะว่าลุงเป็นใคร ไอ้เฒ่ามะขาม" มีนตะโกนลั่น
"หนอยย มึงไอ้เด็กเปรตตตต" เสียงเดือดดาลอย่างเหลืออดแผดดัง
ได้ยินเพียงเท่านี้หลังจากนั้นตัวเขาก็กระเด็นล้มลงก้มจั้มเบ้า จุกหน้าท้องเหมือนถูกถีบเข้าเต็มตีน มีนกุมท้องครางอู้ด้วยความเจ็บจุก เจ็บที่ท้องแต่ไม่ได้เจ็บที่ปาก จึงสามารถตะโกนด่า 'ไอ้เฒ่ามะขาม' ต่อได้
"ไม่แฟร์เลยนี่หว่า เล่นมาไม่ให้เห็นตัวแบบนี้ เหมือนทำคนไม่มีทางสู้ แน่จริงออกมาให้เห็นแล้วมาต่อยกันสักตั้งไหมไอ้เฒ่า" มีนตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาลเช่นกัน มือยังกุมท้องอยู่ ทำท่าจะลุกขึ้นมาแต่ก็ลุกมาได้แค่ครึ่งเดียว จากนั้นตัวเขาก็กระเด็นไปอีกที ครั้งนี้ไกลกว่าเดิม
มีนกระเด็นตัวลอยไปกระแทกต้นไม้ด้านหลัง รู้สึกเหมือนถูกเตะที่ยอดอก ครั้งนี้จุกทั้งท้อง แน่นหน้าอก เจ็บตรงหัวที่กระแทกต้นไม้ เมื่อจับไปที่หัวก็พบว่าหัวแตกและเลือดไหล
"เชี่ยยยย ... ในฝันเลือดออกได้ด้วย" มีนตาเบิกโพลง แม้จะอยู่ในความมืด แต่เขาก็พอจะมองได้ลางๆ ว่ามือเขาเปรอะไปด้วยเลือด และยังไม่ทันที่จะทำอะไรต่อ เขาก็รู้สึกถึงตีนหนักๆ ที่มาเหยียบบนแผ่นอกเขา มันเป็นตีนขนาดใหญ่เหมือนตีนช้าง น้ำหนักที่กดลงมาบนแผ่นอกเขาทำให้หายใจไม่ออก
"ไอ้เฒ่า เล่นท่าคอมโบเลยเหรอวะ" มีนกล่าวออกมาได้อย่างยากลำบาก พยายามจับตีนที่เหมือนตีนช้างออกจากอก
มีนหายใจไม่ได้ ดิ้นทุรนทุราย เอามือจับขาที่เหยียบมาบนหน้าอกเขา พยายามยกหรือดันออกแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สำเร็จ สัมผัสเขาบอกได้อย่างชัดเจนว่านี่คือ 'ขาคน' แต่มันต้องเป็นคนตัวยักษ์ ถึงได้มีตีนที่ใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้ ความทรมานในการหายใจไม่ออกทวีคูณอย่างรวดเร็ว
คำหลวงพ่อผุดขึ้นมา 'หายใจยาวก็รู้ หายใจสั้นก็รู้' แต่ตอนนี้เขาจะเอาลมหายใจที่ไหนมารู้!!! ในเมื่อมันหายใจไม่ได้!!! ปัดโธ่เว้ย!!!
มีนรวบรวมสติ เขาจะมาตายเพราะไอ้เฒ่ามะขามตายซากไม่ได้ ในเมื่อไม่มีลมหายให้รับรู้ เขาก็จะรู้ตรงที่มันไม่มีอะไรให้รู้นี่แหละ
มีนหยุดดิ้น กำหนดจิตอยู่ที่ปลายจมูก รู้สึกถึงความอึดอัดที่เกิดขึ้นกับร่างกาย รับรู้ถึงความเกร็งของใบหน้าและคิ้วที่กำลังขมวด ความรู้สึกของคนจมน้ำ หายใจไม่ได้ ความรู้สึกของคนใกล้ตายเป็นเช่นนี้เอง!!!
ทันใดนั้นมีนรู้สึกถึงหัวใจที่กำลังเต้นเป็นจังหวะ ซึ่งกำลังแผ่วจังหวะลง รับรู้แม้กระทั่งหัวใจห้องล่างซ้ายที่กำลังสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย และเลือดที่กำลังไหลเวียนในตัวเขาขณะนี้ ความมึนงงสับสน และอึดอัดแน่นที่เกิดกับเขาก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วินาที อันตรธานหายไปหมดสิ้น เหลือเพียงความเด่นชัดรู้ตัวทั่วร่างกาย ลืมแม้กระทั่งตีนหนักๆ ที่กำลังเหยียบอยู่บนแผ่นอก
ทันใดเขาก็รู้สึกถึงความโล่งสบายแผ่วเบา ปลอดโปร่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความอัดแน่นบนหน้าอกอันตรธารหายไปหมดสิ้น ลมหายใจกลับมาอีกครั้ง!!! ครั้งนี้เป็นลมหายใจที่ละเอียดขึ้น ยาวขึ้น มีนสัมผัสได้กระทั่งลมที่ผ่านเข้าช่องจมูก ตรงไปยังหลอดลม และเข้าไปหมุนเวียนในปอด มหัศจรรย์ยิ่งนัก!!!
เขาลืมตาขึ้น ไม่มีอะไรอยู่บนอกเขา ตีนไอ้เฒ่าหายไปแล้ว มีนรีบกระเด้งตัวขึ้นมายืน ภาพที่ปรากฎตรงหน้าคือ ชายชราคนหนึ่ง ไม่ใช่สิ!!! จะเรียกว่าคนได้ไหม???
ผีห่าที่อยู่ในร่างชายชราตัวหนึ่ง กำลังล้มเค้เก้อยู่กับพื้น ตีนชี้ฟ้า!!!
มีนรู้สึกสะใจเล็กๆ ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเหตุใด ที่ทำให้ไอ้เฒ่ามะขามสิ้นท่าได้เช่นนี้
ทันใดนั้นแสงสว่างเสมือนแดดยามเช้าส่องประกายไปทั่ว บริเวณโดยรอบจากมืดมนอนธการกลายเป็นสว่างสดใส มีประกายระยิบระยับเสมือนแสงแดดยามต้องแผ่นน้ำ แสงนั้นช่างนวลตา แม้จะเป็นแสงที่ส่องสว่าง แต่ไม่ทำให้ระคายเคืองเมื่อมองด้วยตาเนื้อ
เมื่อความสว่างปรากฎ ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าสถานที่นี้คือที่ใด มันคือป่าที่มีต้นมะขามยักษ์ที่แม่เขาบังคับให้พามาขูดขอหวย ส่วนไอ้เฒ่าที่นอนตีนชี้ฟ้าอยู่นี่ มันเป็นใคร??? นี่คือสิ่งที่มีนยังสงสัย