“เอม แกอยู่ไหน”
"พอดีรู้สึกพะอืดพะอม คงดื่มเยอะไปหน่อย”
“ไม่ไหวโทรมานะ จะให้พี่คิมเดินไปรับ”
เสียงที่หลุดจากสปีคเกอร์โฟนยิ่งทำปวีร์หัวเสีย เพื่อนก็ยัดเยียดสามีคนอื่นให้เหลือเกิน ทว่าแนนนี่นั้นไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนของกิ๊กตัวเองมีครอบครัวแล้ว ปวีร์เป็นผู้กดวางสาย ครั้นจากเดิมเป็นผู้รับแล้วรอฟังประโยคสนทนาของหญิงสาวทั้งคู่
“อ่ะพี่วีร์”
“ไปกับฉัน”
“เอมกลับเองได้ – ไม่ต้องไปส่ง”
คนตัวเล็กถูกดึงออกจากผับ พยายามยื้อรั้งตัวเองเอาไว้ก็เสียเปรียบคนตัวโตอย่างปวีร์อยู่วันยังค่ำ รู้สึกว่าตอนนี้กำลังตกอยู่ในหลุมลึกแทบหาทางออกไม่เจอ ดึงแขนตัวเองก็ถูกเขาบีบแน่นจนรู้สึกเจ็บและอ่อนแรงลง เมื่อต้องออกมาก่อนเวลา เฌอเอมทำได้เพียงส่งข้อความหาแนนนี่เพื่อบอกไม่ต้องเป็นห่วง ด้วยเหตุผลปวดหัวและภูมิแพ้กำเริบ
นั่นเป็นเพียงเหตุผลโกหก...
จากนั้นร่างน้อยๆ ถูกดันขึ้นรถ เฌอเอมกุมมือกันแน่น ขบริมฝีปากแล้วหายใจแรง นั่งสงบอย่างไม่มีทางต่อกร จิตใจก็แสนกระวนกระวายที่ต้องอยู่กับพี่ชายต่างสายเลือดเพียงลำพัง กระทั่งเธอรู้สึกว่าเส้นทางที่ขับเคลื่อนไปด้านหน้าเธอไม่คุ้นชินตาเอาเสียเลย
“พี่วีร์ ไม่ใช่ทางกลับบ้าน”
“...”
แม้จะได้ยิน ทว่าชายหนุ่มมีท่าทีไม่สนใจคนเอ่ยถาม ดวงตาก็ยังโฟกัสไปที่ถนนมืดๆ อาการเมาแสดงให้เห็นอยู่บ้างแต่ก็ยังประคองและควบคุมพวงมาลัยได้ดี
“ไหนบอกจะพากลับบ้าน”
“...”
“พี่วีร์ ไหนบอกจะพาเอมกลับบ้าน”
“พูดตอนไหนว่ากลับบ้าน”
หญิงสาวอ้าปากพะงาบค้างกลางอากาศเมื่อถูกสวนมาด้วยประโยคที่คาดถึง ครั้นนึกย้อนเหตุการณ์ที่อยู่ในบาร์ ปวีร์บอกเธอว่าจะพากลับ แต่เขาไม่ได้พูดเลยสักนิดว่ากลับไปไหน พลันนึกได้ก็นั่งใจเต้นระส่ำราวจะหัวใจวาย คุยกับตัวเองอย่าได้คิดมากและให้มีสติ ปวีร์แค่กลั่นแกล้งก็เท่านั้น
เฌอเอมนั่งเงียบและภาวนาให้จุดหมายนั้นคือบ้านหลังโต ในขณะที่อีกฝ่ายยิ้มเจ้าเล่ห์ เดาะลิ้นข้างกระพุ้งแก้ม พลางเหล่ดวงตามองคนอายุน้อยที่นั่งตัวงอเพราะความระแวง กระทั่งเฌอเอมรู้สึกว่ายานพาหนะนั้นเคลื่อนตัวช้าลง ชะเง้อคอมองเมื่อแถวนี้มันเป็นปริมณฑล คราวนี้ก้อนเนื้อน้อยๆ บนอกข้างซ้ายเต้นรัวราวกับมีปืนมาจี้เข้าที่เอว
พี่วีร์จะไปไหน มาทำอะไรแถวนี้...
เธอถามตัวเองอยู่ในใจ ยังไม่ทันจะได้ตริตรองคำตอบในความน่าจะเป็น พวงมาลัยรถคันหรูเลี้ยวซ้ายในทันที ที่นี่คือ LaLa_Aris_Hotel โรงแรมระดับห้าดาว ตกแต่งสไตท์โมเดิร์น
"พี่วีร์!! ไม่นะ ปล่อยเอมลงจะกลับบ้าน"
"ยังไงก็ได้กลับอยู่แล้ว แต่เป็นพรุ่งนี้เช้า"
เขาตอบด้วยน้ำเสียงยียวน พลางกระตุกมุมปากอย่างพอใจ เมื่อรถจอดนิ่งสนิทก็ลงมาเปิดประตูอีกฝั่ง กำเข้าที่ข้อมือเล็กดึงคนด้านในให้ตามลงมาด้วยกัน แรงกำลังที่มีของหญิงสาวก็ยื้ออย่างสุดฤทธิ์ ขอร้องให้ชายหนุ่มพากลับบ้าน แต่เหมือนว่าอีกฝ่ายจะชอบใจเสียเหลือเกินกับอาการหวาดหวั่นของเฌอเอม
“นอนด้วยกันคืนเดียวเอง – ทำไมต้องโวยวาย”
“ไม่!! กลับบ้าน พาเอมกลับบ้าน”
เพราะเรี่ยวแรงที่มีน้อยนิด ดึงแขนตัวเองกลับด้วยแรงเพียงหนึ่ง ก็ถูกคนแข็งแรงกว่ากระชากกลับจนแทบจะตกรถอยู่รอมร่อ เมื่อสู้ไหวก็กำมือแน่นแล้วทุบตีลงไหล่หนาดังตุบตับ
“ทุบเลย ทุบให้หนักๆ ถึงเวลาเอาคืนอย่าร้องแล้วกัน”
“ถอยไปนะ –ถอยเดี๋ยวนี้ปวีร์”
เมื่อถูกเรียกพี่ชื่ออย่างเดียวก็รู้สึกหัวเสีย เขารู้สึกว่าคนอายุกำลังลามปามผู้ใหญ่ ก็นั่นแหละทำตัวไม่คู่ควรแก่การเคารพมมันก็สมควรแล้ว ชายหนุ่มอุ้มเฌอเอมออกมาในท่าเจ้าสาว แล้วจะใช้เท้าถีบประตูดังปึ้ง คนในอ้อมแขนยังดิ้นไม่หยุดทั้งร้องเพื่อให้หยุดก็ไม่เป็นผล
แกร๊ก!!
ร่างแน่งน้อยถูกวางลงเตียงขนาดห้าฟุต เฌอเอมแปลกใจ ทำไมปวีร์ถึงเดินเข้าราวกับอยู่ที่นี่ประจำ ก่อนจะนึกได้ว่า เขามักจะจ้องที่พักแห่งนี้ไว้ให้ลูกค้าเวลาเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ดังนั้นปวีร์เลยเช่าไว้แบบรายเดือนไม่ต่างจากคอนโดหรืออพาร์ทเมนท์เพราะถูกกว่ารายวัน ครั้นหนึ่งเดือนมีลูกค้ามาใช้บริการถ่ายภาพที่สตูดิโอของเขาแทบจะทุกวัน
“นอนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน”
“ไม่นอน เอมไม่นอนเด็ดขาด”
“จะไปให้ได้ว่างั้น”
“ใช่ เอมจะกลับบ้าน”