บทที่ 9 ความบังเอิญที่เจ็บปวด

1559 คำ
น้ำตาลลุกขึ้นมาทำขนมตั้งแต่ตีสาม เธอลงมือทำคนเดียวไปถึงตี่สี่กว่าวารุณีคุณแม่ของเธอจะตื่นขึ้นมาช่วยอีกแรง สองแม่ลูกร่วมแรงแข็งขัน แต่ดูเหมือนว่าอาการคุณแม่จะไม่ค่อยดี น้ำตาลจึงหันไปบอกคุณแม่ของเธอว่า "แม่นอนต่อก็ได้นะคะ แม่ไม่ค่อยสบายเดี๋ยวตาลทำเองก็ได้ค่ะ" "ขนมเยอะแยะ ทำยังไงทันล่ะลูก วันนี้ต้องมีส่งให้แม่ค้าที่รับไปขายประจำอีกไม่ใช่เหรอ" จริงสิ ชิฟฟ่อนและเอแคลร์เธอต้องทำทุกวันจันทร์และวันพุธ เพราะว่ามีเจ้าประจำมารับไปขายที่โรงเรียนมัธยม ตาย ๆ งานช้างเลยทีนี้ จะทำยังไงดี "ลืมใช่ไหม ยังไม่แก่เลย ขี้หลงขี้ลืมนะเรา" คุณแม่ดุกลาย ๆ ก่อนลงมือช่วยลูกสาวทำ เริ่มจากตวงส่วนผสมต่าง ๆ และคนให้เข้ากัน พวกขนมที่เป็นคุกกี้ธัญพืชไม่มีอะไรมาก แค่คนส่วนผสมทุกอย่างลงในภาชนะอะลูมิเนียม คุกกี้ชนิดนี้จะไม่ใช้น้ำตาลไม่ใช้แป้งเป็นส่วนผสม แต่จะใช้น้ำผึ้งแทนเพื่อเพิ่มความหวานและใส่เกลือลงไปนิด ๆ เพื่อความนัว คนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันแล้ว นำมาวางในพิมพ์ ปั้นให้เป็นแผ่นกลม ๆ สวยงาม และอบด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณยี่สิบนาที ขนมชนิดนี้ทำไม่ยาก แต่มันเสียเวลาตอนวางในพิมพ์ทีละชิ้นนี่แหละ มันต้องใช้เวลาพอสมควร ขนมทุกอย่างที่ทำด้วยมือ มันใช้เวลาทำกันทั้งนั้น ยิ่งเป็นงานละเอียด ยิ่งเหนื่อยและใช้เวลานาน สองแม่ลูกทำขนมกันจนถึงเจ็ดโมงเช้าน้ำตาลลุกขึ้นไปปลุกเจ้าตัวเล็กมาป้อนข้าวเหมือนเดิม แต่คุณแม่ของเธอเหนื่อยจนลุกไม่ขึ้น วารุณีพยายามเก็บอาการนี้เอาไว้ ไม่แสดงออกมากลัวว่าลูกจะเป็นห่วง น้ำตาลป้อนข้าวเสร็จแล้วมาแพ็กขนมต่อทันที ในระหว่างที่ทำขนมอยู่นั้น เธอมองหน้าคุณแม่ดูซีดเซียว "แม่ไปพักก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวตาลจัดการทางนี้เอง" แต่คนแก่พยายามสู้ อยากช่วยลูกสาวจนแพ็กขนมเสร็จจะได้นำไปส่งให้ทันเวลา ตลอดเวลาที่วารุณีแพ็กขนมอยู่นั้นเธออดทนมาก รู้สึกเหนื่อยจนเกือบหมดแรง แต่ไม่แสดงออกมา ทำเพียงแค่หยุดนิ่ง และลงมือแพ็กต่อไปจนกระทั่ง "เฮ้อ เสร็จเสียที" น้ำตาลมองขนมกองโตที่เธอพึ่งแพ็กเสร็จอย่างภูมิใจ ก่อนจะหันมาบอกคุณแม่ของเธอว่า "ตาลเอาข้าวตังไปด้วยนะแม่" "เอาไปทำไม เดี๋ยวข้าวตังก็ซนไปรบกวนคุณ ๆ เขา" "แต่ตาลอยากให้แม่พักผ่อนนะคะ" "แม่ไม่เป็นไรหรอก" เธอบอกลูกอย่างนั้นแต่พอลุกขึ้นแล้วกลับเวียนหัวหน้ามืดจะเป็นลม วารุณีรู้สึกเวียนหัวจนจับขอบโต๊ะเอาไว้แน่น น้ำตาลเห็นอย่างนั้นเกิดละล้าละลังขึ้นมา ถ้าจะเอาลูกไปด้วย ก็เป็นห่วงคุณแม่ที่อยู่ทางนี้ เอายังไงดี "คุณหมอคะ มารับขนมเองได้ไหมคะ" เธอโทรไปบอกคุณหมออนาวิน "ทำไมล่ะครับ" เขาก็ติดงานอยู่เหมือนกัน "คือ คือคุณแม่ตาลไม่สบายน่ะค่ะ" บอกไปตามความจริง คุณหมออนาวินหยุดคิดชั่วครู่ก่อนจะตอบมาว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวผมจะให้พี่ชายไปรับแทน" "ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ" รู้สึกผิดต่อลูกค้าจริง ๆ "ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ" หลังจากวางสาย เธอหันมาบอกคุณแม่ให้ขึ้นไปนอนพักผ่อนทันที เพราะท่านอาการไม่ค่อยจะดี หน้าตาดูเซียดเซียวเหมือนคนไม่มีเลือด ทำไมคุณแม่ของเธอ ถึงอาการหนักขนาดนี้นะ หรือว่าท่านมีอะไรปิดบัง ยังไม่ทันได้ไถ่ถามคุณแม่ ก็มีแขกคนสำคัญเดินเข้ามาในบ้านเสียก่อน คุณหมอปริญอยู่แถวนี้พอดี หลังจากไปส่งแฟนสาวที่สนามบิน เขาแวะเติมน้ำมันแถวบ้านเธอพอดี ซึ่งมันเป็นทางผ่านไปบ้านคุณย่าของเขา "ผมมารับขนมครับ มีใครอยู่ไหม" คุณหมอหนุ่มตะโกนเรียกเพราะเห็นว่าไม่มีใคร น้ำตาลอุ้มลูกวิ่งลงบันไดมาทันที ทำไมพี่ชายคุณหมอมาเร็วจัง เธอคิดในใจ "มาแล้วค่ะ มาแล้วค่ะ" อุ้มข้าวตังหน้าตั้งเดินลงบันไดบ้านมาเพราะได้ยินเสียงคนเรียก "น้ำตาล" หมอปริญมองหน้าเธออย่างตกตะลึง น้ำตาลก็ตกใจไม่แพ้กัน เธอถอยห่างอย่างตกใจเขามาทำอะไรที่นี่ หญิงสาวแทบหยุดหายใจ เธอกำลังลนลานจะถอยหนีแต่เสียงเข้มกลับดังขึ้นมา "เดี๋ยวก่อน จะหนีไปไหน ผมมาเอาขนม" คุณหมอหนุ่มบอกกับเธออย่างนั้น ก่อนจะมองเธออย่างแปลกใจ ใช่น้ำตาลที่ทำขนมแน่เหรอ เขามองเธออย่างตกตะลึง ก่อนจะกวาดสายตาไปทั่วบ้านเห็นกองขนมวางอยู่ตรงนั้น ใช่แล้วเป็นน้ำตาลคนเดียวกัน เขาไม่ยักรู้ว่าเธอเปลี่ยนอาชีพมาเป็นแม่ค้าขายขนมไม่ใช่เด็กเอ็นเหมือนเมื่อก่อน "มารับขนม" น้ำตาลทวนคำเสียงแผ่วเบา เพราะความรู้สึกอัดอั้นตันใจจนแทบหาเสียงตัวเองไม่เจอ ไม่คิดว่าเขาจะมาที่นี่ คิดว่าชาตินี้จะไม่เจอกันอีกแล้ว น้ำตาลพยายามกลืนก้อนสะอื้นลงคอ ก่อนจะพาลูกเดินหนีไปที่กรงเด็ก ทว่าคุณหมอหนุ่มกลับเดินตามเธอไป "ใช่ผมเป็นพี่ชายของอนาวิน ผมมารับขนม" เขาบอกกับเธอเสียงเรียบ น้ำตาลนึกรู้ทันที มิน่าล่ะ หน้าตาคล้าย ๆ กัน เธอเริ่มตั้งสติ เขาไม่ได้มาตามเธอเสียหน่อย จะหนีทำไม หญิงสาวพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น แม้จะตกใจอยู่มาก แต่ต้องทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร "เดี๋ยว เดี๋ยวรอสักครู่นะคะ" เธอพาลูกน้อย ไปวางที่กรงสำหรับเด็ก และเดินกลับออกมาหาเขา น้ำตาลเดินไปที่ขนมกองโตจับใส่ลังเตรียมส่งให้ลูกค้า ในตอนนี้เองคุณหมอปริญพึ่งสังเกตเห็นว่าเธอมีเด็ก และเด็กคนนี้ทำไม ทำไมหน้าตาคุ้นจัง เขารู้สึกแปลก ๆ รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดขึ้นมา หรือว่า "ลูกใคร" เขาเอ่ยถามเธอ ทำให้น้ำตาลเริ่มตกใจรีบเดินกลับไปที่กรงเด็กทันที เธอลนลานเหมือนอยากจะเอาลูกไปซ่อน ความเป็นแม่ท้องคนเดียว คลอดคนเดียว เลี้ยงลูกคนเดียวมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก เธอหวงแหนดั่งแก้วตาดวงใจ "ลูกฉันกับสามีค่ะ" ยืนบังลูกเอาไว้ กลัวเหลือเกิน กลัวว่าเขาจะมาแย่งลูกของเธอไป อันที่จริงเขาอาจไม่สนใจเลยก็ได้ แต่สัญชาตญาณความเป็นแม่ มันทำให้เธอต้องระวังภัย ระวังว่าเขาจะรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของใคร "คุณ คุณออกไปรอที่รถก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันขนออกไปให้" เธอบอกกับเขาเสียงสั่นพร้อมยืนบังลูกเอาไว้ อาการลนลานอย่างผิดปกติของน้ำตาล ทำให้นายแพทย์ปริญนึกสงสัยขึ้นมาทันที มีลูกกับคนอื่นแล้วทำไมทำท่าลุกลี้ลุกลนขนาดนั้น เหมือนกลัวว่าเขาจะมาแย่งลูกของเธอไป หรือว่า...หรือว่าเด็กคนนี้เกิดจากความสัมพันธ์กับเขาเมื่อสองปีที่แล้ว ไม่ใช่หรอกมั้งอาชีพอย่างน้ำตาล เธอคงไม่ปล่อยให้ท้องโดยไม่มีพ่อหรอก คงหาซื้อยาคุมและขายตัวต่อไป นายแพทย์หนุ่มคิดอย่างนั้น ก่อนที่น้ำตาลจะบอกอีกครั้งว่า "ออกไปเถอะค่ะ เดี๋ยวสามีฉันก็มาแล้ว " เธอกลัวเขาจะไม่เชื่อว่าเธอมีสามีเลยพูดแบบนั้นออกไป "แล้วสามีคุณจะมาเมื่อไหร่ล่ะ" เขาถามเธอเพราะเห็นท่าทางร้อนรน "อีกเดี๋ยวเดียวก็มาแล้วค่ะ คุณออกไปเถอะ อย่าเข้ามาไกล้มันจะดูไม่ดี" เธอยืนยันอีกครั้ง พยายามหาข้ออ้างให้เขาเดินออกไป นายแพทย์ปริญส่ายหัว ออกไปก็ได้วะ ไม่คิดอยากเข้าใกล้อยู่แล้ว นายแพทย์หนุ่มยอมเดินออกไป ถึงแม้ว่าน้ำตาลจะมีท่าทางแปลก ๆ ดูเหมือนคนมีความลับปกปิดเอาไว้ แต่ไม่ใช่หรอกมั้ง แล้วอีกอย่างเขาก็มองหน้าเด็กคนนั้นไม่ชัด มันคงไม่ใช่ลูกของเขาหรอก เพราะถ้าหากเป็นลูกของเขาจริง ผู้หญิงหาเงินอย่างน้ำตาล คงวิ่งแร่เข้าไปขอเงินเขาตั้งแต่วันแรกที่รู้ตัวเองว่าท้อง คงไม่ปล่อยให้เนิ่นนานมาถึงขนาดนี้หรอก นายแพทย์ปริญคิดอย่างนั้น และเดินออกจากบ้านไปรอที่รถของตัวเอง น้ำตาลเห็นว่าคุณหมอปริญเดินออกไปแล้ว จึงอุ้มลูกชายขึ้นมาจากกรงที่เจ้าตัวเล็กเข้าไปเล่นอยู่ในนั้น "แมะ แมะ เอิ้ก เอิ้ก เด็กน้อยไม่รู้อะไร นึกว่าแม่จะมาเล่นด้วย เพราะกำลังเล่นกับพี่สิงโตตัวโปรดอยู่พอดี "ไปลูกไปอยู่กับคุณยาย เดี๋ยวแม่ส่งขนมก่อน" เธอบอกกับข้าวตังและกำลังจะพาขึ้นไปหาคุณยายข้างบน แต่ทว่า.. โครม! เสียงของหล่นดังโครมคราม "แม่! น้ำตาลตกใจ หอบลูกชายวิ่งขึ้นไปทันที.
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม