ต้นสายปลายเหตุ

1845 คำ
“อ๋อ! อันนี้ให้ผมเหรอ?” เจมีไนน์ก้มลงมองเหรียญในมืออย่างสนใจ รอยยิ้มบางคลี่ออกบนใบหน้าคมสัน “ใช่ค่ะ... ศาลเจ้าจัดทำไว้แค่ 299 ชิ้น แล้วนี่ก็เป็นชิ้นสุดท้ายพอดีเลยนะคะ” มือบางยื่นเหรียญระลึกให้อีกครั้ง พลางหลบตาคมกริบอย่างเงอะงะ แก้มแดงระเรื่อคล้ายลูกแมวที่เพิ่งถูกลูบหัว “ขอบคุณนะคะ” น้ำเสียงนุ่มนวลของชายรูปงามพร้อมรอยยิ้มจริงใจ ดวงตาประกายด้วยความเอ็นดู “วันนี้โชคดีจริง ๆ หลังจากนี้ผมคงมีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาแล้วสิ” “เอ่อ... แล้วก็…ขอรบกวนคุณผู้ชายช่วยเช็คอินที่ศาลเจ้าด้วยนะคะ เปิดเป็นสาธารณะได้ไหมคะ เรากำลังโปรโมตให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของพังงา... เผื่อจะเป็นจุดแวะก่อนเข้าภูเก็ตด้วยน่ะค่ะ” “ได้เลย เดี๋ยวผมจะแนะนำกับคนรู้จักด้วย” เขารับคำโดยไม่ลังเล ยิ้มให้ปรมาอีกครั้งอย่างใจดี “เอ่อ...คือ ไม่ทราบว่าคุณมาเที่ยวพังงาเหรอคะ?” “บ้านผมอยู่ภูเก็ตครับ จริง ๆ เคยมาที่นี่เมื่อนานมาแล้ว...น่าจะสักยี่สิบหกปีได้” ความทรงจำเก่า ๆ ผุดวาบขึ้นมาในหัว เจมีไนน์จำได้ดีเพราะครั้งหนึ่งเขาเคยมาที่นี่กับผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิต…อังศุมาริน “โห! ตอนนั้นถิงยังไม่เกิดเลยค่ะ” สาวน้อยหัวเราะเขิน ๆ เผลอแทนตัวด้วยชื่อเล่นโดยไม่รู้ตัว แต่มันกลับทำให้บรรยากาศดูเป็นกันเองอย่างน่าประหลาด “ชื่อถิงเหรอ? ลุงชื่อเจมส์นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เขาแกล้งเน้นเสียงคำว่า ลุง พร้อมหัวเราะเบา ๆ “ค่ะ...ลุงเจมส์—เอ๊ะ?! ลุงเหรอคะ? ใช่จริงเหรอ” ปรมามองตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่มีวี่แววของร่องรอยวัยเลยแม้แต่นิดเดียว หน้าเนียน ผิวดี หุ่นแน่นเหมือนนายแบบวัยสามสิบต้น ๆ มากกว่า “ยังไง...คราวหน้าเรียนเชิญใหม่นะคะ ลุงเจมส์” เธอเน้นคำว่า ลุง คืนบ้าง พร้อมส่งยิ้มทะเล้นกลับไป ตามคาด... อินสตาแกรมของศาลเจ้าได้รับการเช็คอินพร้อมภาพถ่าย และไม่กี่นาทีต่อมา โปรไฟล์ของเขาก็ปรากฏบนฟีดของเธอ: gemini_dylan World class and champion Bartender 🇦🇺/🇨🇳 Aussie-Chinese man Uncle! DM for work. WORK ONLY PLZ! “เจมีไนน์เหรอ... งั้นชื่อจริงของลุงเจมส์คือเจมีไนน์สินะ... แปลว่าราศีมิถุน?” ปรมาพึมพำขณะไถหน้าจอผ่านรูปภาพและคลิปวิดีโอของเขาทั้งตอนทำโชว์บาร์เทนเดอร์และโชว์ซิกแพ็คระหว่างเวทเทรนนิ่ง รูปล่าสุดคือเหรียญที่ระลึกวางบนฝ่ามือยาว ฉากหลังเป็นศาลเจ้าปึกกง พร้อมแคปชันว่า: “Make A Merit!” ปรมากดหัวใจ ส่งคอมเมนต์ว่า: “ขอบคุณมากค่ะ 🙏✨” แล้วก็กดติดตามเขาโดยไม่ทันคิดอะไร ไม่ถึงครึ่งวัน... เจมีไนน์ติดตามเธอกลับ พร้อมตอบกลับคอมเมนต์ว่า: “ยินดีค่ะ” “ตอบเป็นภาษาไทยเป๊ะเลย... ลุงเจมส์เป็นคนไทยปลอมตัวเป็นคนต่างชาติหรือเปล่านะ?” ปรมาอดหัวเราะเบา ๆ กับตัวเองไม่ได้ ……………….. ‘ถ้าเล่าให้หมอฟังโดนหาว่าเพ้อเจ้อแน่ ๆ ไอ้ตาลเอ๊ย’ ร่างบางปรือเปลือกตาคู่งาม ยกแขนเอี้ยวตัวบิดขี้เกียจ อ้าปากหาวอย่างไม่อายหมอกับพยาบาลมารุมตรวจร่างกาย อัยยาลิณณ์มองปฏิทินจึงทำให้รู้ว่ารอบนี้เธอหลับเกือบ 6 วันเลยทีเดียว แต่คราวนี้อยากลงตัวนอนหลับแล้วกลับไปที่เดิมยังไงก็ไม่รู้สินะ หลังออกจากโรงพยาบาลคนที่บ้านจะเชิญหมอทำขวัญมาทำพิธีรับขวัญเหมือนทุกครั้ง ข้อมือสองข้างของเธอจึงเต็มไปด้วยสายสิญจ์ ส่วนกับข้าวเย็นนี้คงหนีไม่พ้นเมนูไข่ต้มจากพิธีเช่นเคย “วันนี้กินยำไข่ต้มกันนะพวกเรา” บิดาวางจานกับข้าวลงบนโต๊ะอาหาร “รอบนี้คุณหมอว่าไงบ้างล่ะตาล” “ก็…เหมือน ๆ ทุกครั้งน่ะแหละแม่ ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” เธอเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ จนแก้มป่อง “งั้นก็กินเยอะ ๆ แล้วกัน ดูสิ ทำไอเอฟมาตั้งห้าวัน หุ่นลีนไปอีก” อธิพงษ์ผู้เป็นน้องชายและโค้ชดูแลสุขภาพพูดแซวพี่สาว ถ้าพี่สาวชื่อขนมตาล น้องชายจะชื่อเป็นอื่นไม่ได้นอกจากขนมต้ม ผู้ใหญ่ในซอยบ้านจะเรียกติดปากว่า ‘ไอ้ตาลกับไอ้ต้ม’ หรือไม่ก็ ‘ไอ้รักกับไอ้ยม’ กุมารคุมซอย “แม่ว่ายังดีนะที่ธันวาทำงานในแผนกนั้นพอดี เลยฝากให้เป็นหูเป็นตาแทนได้ นี่ถ้าเขาไม่ติดเข้าเวร แม่จะชวนมาเลี้ยงข้าวขอบคุณสักหน่อย” มารดากล่าวถึงนักเทคนิคการแพทย์รุ่นพี่ที่เรียนโรงเรียนเดียวกับลูก ๆ ที่สำคัญบ้านยังอยู่ละแวกเดียวกันเห็นหน้าค่าตากันมาแต่เด็กจึงสนิมสนมหมือนญาติ “พี่ธันปีนี้ก็สามสิบแล้วนะยังโสดอยู่เลย เป็นเกย์หรือเปล่า ดูติ๋ม ๆ เหนิบ ๆ มาแต่ไหนแต่ไรละ รอเปิดตัวหรือเปล่าไม่รู้” “ไอ้ต้มแกอย่าบู้บี้สิยะ คนเรียบร้อยต้องเป็นเกย์ทุกคนเลยเหรอ อีกอย่างคนสมัยนี้เขาเน้นอยู่เป็นโสดไม่แต่งงานกันย่ะ แกนี่หัวโบราณนะ” อัยยาลิณณ์หันมาแหวใส่ แต่อธิพงษ์รู้ดีว่าทำไมพี่สาวถึงดูเดือดเนื้อร้อนใจกับเรื่องทำนองนี้นัก “อยากหาเพื่อนขึ้นคานแบบตัวเองล่ะสินะ ยี่สิบแปดแล้วนะ เบาได้เบานะเมียทิพย์ดาราเกาหลี” “เอาสมองหมู ๆ คิดบ้างสิโว้ย ผู้ชายคนไหนจะยอมรับสิ่งที่ฉันเป็นได้วะไอ้ต้ม วันดีคืนดีเกิดฉันหลับยาวไป มันฉวยโอกาสไปมีเมียน้อยกันพอดี” อีกอย่างความคลั่งไคล้ไอดอลเกาหลีทำให้เธอไม่เคยสนใจหนุ่ม ๆ คนไหน เรียกว่าหน้าตาไม่เทียบเท่าดาราขวัญใจแม่ก็ไม่เอาทำผัว! ก่อนเข้านอนคืนนั้นอัยยาลิณณ์อดนึกถึงคนทางไกลไม่ได้ “หมอเจย์กำลังทำอะไรอยู่นะ หัวค่ำแบบนี้น่าจะเข้าเวรแหละ ส่วนเราก็ทำขนมตาลกับขนมต้มรอขายพรุ่งนี้เช้า สู้โว้ย!” มันคือของดีที่อยู่คู่กับร้านข้าวแกงตาล – ต้มมานาน ‘พี่ธันก็นะ เรียนจบสายวิทย์ ทำงานสายวิทย์ ทำไมยังเชื่อว่าผีมาตามเอาชีวิตตาลอยู่ได้’ อัยยาลิณณ์เคยพูดไว้เมื่อนานมาแล้ว โรคหลับลึกจะเกิดจากการเล่นพิเรนท์ในคราวนั้น? ธันวาและพรรคพวกไปลองดีในบ้านร้างที่ลือว่าเคยมีคนฆ่ากันตาย เขาท้าให้อัยยาลิณณ์ไปหยิบตุ๊กตานางรำในบ้านเพื่อแลกเงินทุกอย่างผ่านไปด้วยดีที่สำคัญไม่มีใครเจอเหตุการณ์แปลก ๆ ทว่ารุ่งขึ้นอัยยาลิณณ์นอนไม่ตื่นถึง 4 วันเต็ม ๆ ความจริงก็คือบ้านหลังนั้นไม่มีประวัติน่ากลัวอย่างที่ร่ำลือ ตุ๊กตานางรำก็เป็นของใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเพื่อสร้างบรรยากาศ อันที่จริงอัยยาลิณณ์เริ่มมีอาการแปลก ๆ มาได้สักระยะแล้ว มันไม่เกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่ธันวายังโทษตัวเองเรื่อยมา ธันวามองว่าการเป็นเจ้าหน้าที่ในโครงการวิจัยคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะดูแลเธออย่างใกล้ชิดโดยหวังว่าวันหนึ่งอัยยาลิณณ์จะเข้าใจและยอมเปิดใจให้เขาบ้าง หลังเคยสารภาพรักแต่ถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า… ไม่เคยคิดเกินคำว่าพี่ชาย ชายหนุ่มขยับแว่นใสให้กระชับใบหน้าหวานแบบหนุ่มเมืองเหนือ เรือนผมสีน้ำตาลเข้มยุ่งเล็กน้อยปรกหน้าผากได้ลุควันหยุดสบาย ๆ ในฐานะลูกค้าประจำของข้าวแกงตาล – ต้ม “วันนี้น้าแถมให้นะธันวา ขอบใจที่อุตส่าห์ดูแลลูกน้านะ” “ขอบคุณครับน้าแอน อันที่จริงธันก็แค่เข้ามาดูกราฟบนเครื่องวัดเท่านั้นเอง คนที่ดูแลขนมตาลหลัก ๆ จะเป็นพี่พยาบาลน่ะครับ ธันไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ แหะ ๆ” ธันวายกมือไหว้ขอบคุณแทบไม่ทันพลางยกยิ้มจนตาหยีปิดด้วยความเคอะเขิน “เอาน่าพวกน้าก็ถือว่าธันช่วยดูแลก็แล้วกัน” นางรู้สึกเสียดายที่ลูกสาวไม่ได้ชอบพอกับหนุ่มคนนี้ คนอะไรเรียนก็เก่ง หน้าตาก็ดี หน้าที่การงานก็เริ่ดเพราะงั้นจึงมีแต่คนอยากได้ธันวาเป็นลูกเขย “พี่ธันกินอะไรเป็นอาหาร” อัยยาลิณณ์ตะโกนทักทายจากหลังร้านก่อนจะโผล่หน้ามาทักทาย กินอะไรเป็นอาหาร…ถามเหมือนสารคดีสัตว์โลกน่ารักไม่มีผิด “วันนี้วันพระ พี่เลยกินผักกินหญ้าจ๊ะ” หมายถึงกินมังสวิรัสทุกวันพระ~หล่อแล้วจิตใจงามอีกนะพ่อคุณ “ตาลยุ่งอยู่เปล่า พอดีอาจารย์ฝากมาติดตามผลน่ะ” “มีอะไรน่ากังวลเหรอพี่ธัน” อัยยาลิณณ์เสร็จงานพอดีก็มาทรุดนั่งตรงข้ามกับธันวา “จริง ๆ ไม่ถือว่าน่ากังวลนะ แต่น่าสนใจตรงนี้” เขากางแผ่นกระดาษแสดงค่ากราฟให้เธอดู เหมือนจะมีบางอย่างแตกต่างจากครั้งก่อน “ก่อนหน้ายังดูเรียบ ๆ นะ แต่มันพุ่งขึ้นไปแล้วลดลงมาเท่าเดิมมันคือคลื่นสมองของคนตกใจน่ะ มันเกิดขึ้นหลายครั้งเลยนะ แถมคาดเดาไม่ได้ด้วย” “อ๋อ สงสัยตาลฝันละมั้ง” ดูจากช่วงเวลาและวันที่ก็รู้เลยว่าคงเป็นตอนที่เจอจักรทัศน์ครั้งแรกแล้วโดนกล่าวหาว่าบุกรุกห้องรวมถึงเหตุระทึกที่ห้องตรวจคืนนั้น “มันไม่เคยเป็นนี้มาก่อนน่ะสิ ตาลบอกว่าตอนหลับลึกก็ไม่เคยฝันด้วย อาจารย์สนใจความเปลี่ยนแปลงนี้นะ เพราะคนที่ฝันคือคนหลับไม่ลึก” ที่ผ่านมาอัยยาลิณณ์ไม่เคยฝันเลยสักครั้ง มันก็แค่มืดลงแล้วตื่นขึ้นมาก็เท่านั้น “แปลว่าภาวะหลับลึกอาจจะค่อย ๆ ดีขึ้นใช่มั้ยพี่ธัน” ดวงตาคู่งามส่องประกายความหวังเป็นข่าวดีาสำหรับเธอ ส่วนธันวาพยักหน้ารับนิ่ง ๆ “เป็นแค่สมมติฐานเบื้องต้นนะ เดี๋ยวอาจารย์คงเรียกไปถามเพิ่มเติมน่ะ” รุ่นพี่หลบสายตาจากอัยยาลิณณ์ขณะยกน้ำขึ้นมาจิบและเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน แต่จะให้ตอบยังว่ามันไม่ใช่ความฝัน เพราะเมื่อเอาชื่อคนและสถานที่ไปหาในอินเทอร์เน็ตปุ๊บก็เจอปั๊บ โดยเฉพาะจักรทัศน์และพี่สาวฝาแฝดก็เป็นถึงทายาทหมื่นล้านแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์เลย “ตาลจะได้เจอหมอเจย์อีกมั้ยนะ” อัยยาลิณณ์บ่นหาแต่นิ้วลั่นกดติดตามมนุษย์ลุงรูปหล่อ gemini_dylan ไปแล้ว ฮัดชิ้ว! คนที่อยู่ห่างออกไป 1,600 กิโลเมตรลูบปลายจมูกเบา ๆ ระหว่างเดินตรวจคนไข้ในหอผู้ป่วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม