ตอนที่ 2 ปลอบโยน
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ...หนูหอม" เสียงทุ้มของคนตรงหน้าเอ่ยทักทาย สิ่งที่ต้นหอมรู้สึกทึ่งก็คือ คุณอาที่คุณพ่อพูดถึงน่าจะมีอายุใกล้เคียงกับคุณพ่อหรือน้อยกว่านิดหน่อยสิ แต่นี่เขาทั้งหนุ่มทั้งหล่อ หล่อชนิดที่ว่า เธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนดูดีและมีเสน่ห์เท่ากับเขาคนนี้มาก่อนเลย
คุณพ่อของต้นหอมอายุมากแล้วก็จริงแต่คุณแม่ที่จากไปก่อนคุณพ่อนั้น ท่านมีอายุน้อยกว่าคุณพ่อเกือบยี่สิบปี พูดง่ายๆก็คือคุณพ่อแต่งงานมีลูกช้านั่นเอง
.
.
.
หลังจากที่คุณมิลอัล คุณพ่อของต้นหอมได้ฝากฝังลูกสาวไว้ให้กับน้องชายบุญธรรมเรียบร้อยแล้ว เวลาต่อมาท่านก็ได้สิ้นใจลงแบบสงบ คล้ายกับหมดห่วงแล้ว
"คุณพ่อ!!" เสียงต้นหอมร้องเรียกคุณพ่อของเธอทั้งน้ำตา พร้อมกับกอดร่างไร้วิญญาณของพ่อเอาไว้แน่น
"หนูหอม...ทำใจดีๆเอาไว้นะ คุณพ่อไปสบายแล้ว ท่านไม่ต้องทนเจ็บอีกแล้ว" อัคราฟ ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก เขารู้ว่าเธอรู้สึกยังไง การที่ได้เสียคนที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาเองก็เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว เขาเข้าใจเธอ แต่เขาก็อยากให้เธอยอมรับความจริง แล้วก้าวข้ามผ่านความรู้สึกแบบนี้ไปให้ได้
"คุณอา...หอมมีแค่คุณพ่อ หอมไม่เหลือใครแล้ว ฮื่อๆๆ"
"อาเข้าใจๆ แต่หนูหอมยังมีอาไง หยุดร้องไห้ก่อนนะ"
อัคราฟพาพี่ชายออกจากโรงพยาบาลแล้วจัดการร่างไร้วิญญาณด้วยพิธีทางศาสนาต่อไป โดยนำไปฝังอยู่ใกล้ๆกับภรรยาหรือคุณแม่ของต้นหอมตามคำสั่งเสียของพี่ชายที่บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
สองวันผ่านไป
อาการของต้นหอมก็ยังไม่ดีขึ้นเลย เธอมีอาการเศร้าโศกอย่างเห็นได้ชัด ร้องไห้น้ำตาซึมเก็บตัวเงียบไม่พูดไม่จาถามคำตอบคำ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันที่คุณพ่อของเธอได้สิ้นใจลงและจากโลกนี้ไปแล้ว
"คุณอัคราฟครับ จะให้ผมเปิดพินัยกรรมเลยมั้ยครับ" คุณทนายเองก็อยากเสร็จภารกิจชิ้นสุดท้ายนี้แล้วเหมือนกัน หลังจากนี้คุณทนายทองเอกคงหยุดทำงานแล้วไปใช้ชีวิตหลังเกษียณตามประสาคนแก่ทั่วไป
"รออีกสักวันสองวันเถอะ หนูหอมยังไม่ดีขึ้นเลย" อัคราฟกลัวว่าถ้าหลานสาวของเขาได้อ่านพินัยกรรมฉบับนี้แล้ว เธออาจจะแย่ลงมากไปกว่านี้ก็ได้ เขาจึงให้เลื่อนวันเปิดออกไปก่อน
ทุกคนรู้เรื่องเงื่อนไขในพินัยกรรมกันหมดยกเว้นต้นหอม ซึ่งในพินัยกรรมที่คุณพ่อของต้นหอมเขียนขึ้นมาก็เพื่อเธอ โดยเธอจะต้องทำตามในพินัยกรรมฉบับนั้น แต่สำหรับอัคราฟเงื่อนไขในพินัยกรรมฉบับนั้นไม่มีผลอะไรกับเขาทั้งสิ้น เพราะเขาเต็มใจดูแลหลานสาวคนนี้ให้อยู่แล้ว
"ถ้าอย่างนั้น อีกสองวันผมจะมาใหม่นะครับ"
"ครับ"
.
.
.
ในขณะที่ต้นหอมนั่งคิดถึงคุณพ่ออยู่ที่หลังบ้านเงียบๆคนเดียวนั้น เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็เดินใกล้เข้ามาทางด้านหลังของเธอ
"หนูหอม..." เธอหันไปมองเสียงเรียก เห็นเป็นคนที่คุณพ่อของเธอให้เธอเรียกเขาว่าคุณอา เขาเป็นคนจัดการทุกอย่างเรื่องคุณพ่อจนเสร็จ
"คุณอา..." อัคราฟทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะไม้ตัวเดียวกันกับที่ต้นหอมนั่งอยู่
"อาจะให้เวลาหนูหอมอีกสองวัน หลังจากนี้ห้ามให้อาเห็นน้ำตาของหนูหอมเด็ดขาด" น้ำเสียงของเขาฟังดูดุกว่าทุกครั้ง ดวงตาก็ดุ ถึงสายตาที่มองมาที่เธอจะดูอ่อนโยนเหมือนทุกครั้งก็ตาม
"ฮึก! คุณอาใจร้าย" หญิงสาวรีบต่อว่าเขาทั้งน้ำตา เขาตรงหน้าสำหรับเธอ ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากคนแปลกหน้าเลยสักนิด
ตั้งแต่เล็กจนโต เธอถูกเลี้ยงดูเอาอกเอาใจจากคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างกับไข่ในหินมาตลอด พอมาเจอเรื่องที่กระทบจิตใจเข้าหน่อย เธอจึงทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ค่อยได้
"อาให้หนูหอมร้องไห้ได้อีกตั้งสองวัน อาใจร้ายตรงไหน" น้ำเสียงของคุณอาหนุ่มเริ่มเบาลง เมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาวตรงหน้า เขาไม่เคยจะต้องมานั่งปลอบโยนใครแบบนี้มาก่อน ถ้าเธอไม่ใช่ลูกสาวของผู้มีพระคุณเขาคงไม่สนใจ
"หอมคิดถึงคุณพ่อ...ฮึก!"
"อาก็คิดถึง แต่เราจะมาจมปักอยู่แบบนี้ไม่ได้ อาทิตย์หน้าอาต้องกลับอิตาลีแล้ว หนูหอมเตรียมตัวให้พร้อมด้วยล่ะ" บอกให้เธอทราบ เผื่อว่าเธอจะยังไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องไปอยู่ที่อิตาลีถาวร
"เตรียมตัวอะไรคะ"
“ก็เตรียมตัวไปอยู่ที่อิตาลีกับอาไงคะ” ต้นหอมหันไปมองใบหน้าอันหล่อเหลาของคุณอาหนุ่ม เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้
“หอม...” เธอจะบอกว่า...เธอไม่อยากไปไหนทั้งนั้น แต่ประโยคเมื่อสักครู่ของเขา มันสะกดทำให้เธอลืมประโยคที่กำลังจะพูดไปสนิทเลย
"หิวมั้ย..." เขารู้ว่าเธอกินไม่ลงแต่ก็ต้องฝืนกิน
"หอมไม่หิวค่ะ"
"ไม่หิวก็ต้องกิน เดี๋ยวอาจะไปหาอะไรมาให้กินเอามั้ย"
"หอมกินไม่ลง"
"หนูหอมอย่าดื้อ หนูหอมโตแล้วไม่ใช่เด็กสักหน่อย ถ้าคุณพ่อรู้ว่าหนูหอมอดอาหารเพราะท่าน แล้วมานั่งร้องไห้อยู่แบบนี้ทั้งวัน คุณพ่อจะรู้สึกยังไง"
"ปกติเวลาหอมเสียใจ หอมก็จะมีคุณพ่อคอยปลอบ แต่...ตอนนี้หอมไม่มีคุณพ่ออีกแล้ว...ฮึก!" อัคราฟคว้าเอาตัวหญิงสาวเข้ามาสวมกอดเอาไว้ แล้วลูบแผ่นหลังเล็กให้เธอเบาๆ
ในเมื่อเธอต้องการคนปลอบโยนเขาก็จะเป็นให้ แต่สำหรับต้นหอมแล้วผู้ชายตรงหน้าสำหรับเธอคือคนแปลกหน้า อยู่ๆเขาก็คว้าเอาตัวของเธอเข้าไปกอด หัวใจของต้นหอมสั่นระรัวขึ้นมาเอาดื้อๆ ตัวของเธอแข็งทื่อ เธอไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนถูกเนื้อต้องตัวของเธอแบบนี้มาก่อน นอกจากคุณพ่อของเธอคนเดียวเท่านั้น
"เอ่อ...คุณอาปล่อยหอมก่อนค่ะ" อัคราฟไม่ได้มีเจตนาที่จะล่วงเกินเธอ เขาแค่อยากจะทำหน้าที่ของเขาเท่านั้น อีกอย่างยังไงผู้หญิงคนนี้ก็เป็นของเขา เรื่องนี้เขาไม่ได้เพิ่งรู้ แต่รู้มานานมากแล้ว
"เป็นอะไร ทำไมหน้าแดง ไม่สบายหรือเปล่า” มือของคุณอาหนุ่มแตะลงมาที่พวงแก้มของหญิงสาวทั้งสองข้างอีกครั้ง โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ตอนนี้ใบหน้าของต้นหอมแดงก่ำมากกว่าเดิมแถมยังเลอะไปด้วยคราบน้ำตา
“หอม...หิวแล้วค่ะ” เธอรีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากตรงนี้ทันที ด้วยความเขินอายอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหนมาก่อน รวมถึงหัวใจของเธอที่มันกำลังเต้นแรงผิดจังหวะนี้ด้วย
อัคราฟได้แต่มองตามแผ่นหลังเล็กของเธอไปอย่างไม่เข้าใจ เธอทำเหมือนไม่ชอบให้เขาปฏิบัติกับเธอแบบนี้ ทั้งๆที่มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยเลยที่อยากให้เขาปฏิบัติแบบนี้กับพวกหล่อน