ชีวิตของคนสองคน ที่แตกต่างกันใช้ชีวิตผ่านกาลเวลาที่ยาวนานในแต่ละวันที่พ้นผ่าน ยายหนูของผมเธอได้เจริญเติบโตในบ้านที่ผมคิดว่า อบอุ่นมากสำหรับเธอ แต่ความสวยงามของเธอนั้น มันช่างสะดุดตาเกินจะห้ามใจ กว่าที่คนจะไม่มองเธอ ในทุกวันที่เธอไปโรงเรียน ผมมักจะส่งให้แอลบอดี้การ์ดและคนขับรถคู่ใจของผม ไปรับและไปส่งเธอที่โรงเรียนทุกวัน
ในวันไหนที่ผมไม่ได้เข้าสวนส้มผมมักจะตื่นเช้าและพาสาวน้อยมู่ลี่ของผมไปโรงเรียนด้วยตัวเองในทุก ๆ เช้า แม้แต่วันไหนที่ผมเคลียร์งานเสร็จไว ผมก็จะไปรับเธอด้วยตัวเอง บัดนี้สาวน้อยมู่ลี่อายุ 15 ปี เธอยังคงติดการที่มีผมอยู่ด้วยในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะอาบน้ำจะกิน หรือว่านอน เราไม่เคยห่างกันเลย ผมพยายามเว้นระยะห่างกับเธอ เพราะว่าเธอโตเป็นสาวแล้ว
"มู่ลี่ขา ตื่นได้แล้วค่ะเช้าแล้วค่ะวันนี้ต้องไปโรงเรียน"
"คุณป๋าขาขออีก 5 นาทีได้ไหมคะ"
"ไม่ได้ครับเดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะไปอาบน้ำเร็ว"
"ก็ได้ค่ะเดี๋ยวมู่ลี่ไปอาบน้ำก่อนนะคะ"
"โอเค ครับเด็กดี เดี๋ยวป๋าลงไปรอด้านล่างนะครับ"
"ค่ะคุณป๋า"
ผมที่เดินขึ้นไปปลุกยายหนูมู่ลี่ของผมเป็นที่ประจำ ผมก็จะไปรอเธอแต่งตัวลงมา เพื่อทานข้าวเช้าพร้อมกันในทุก ๆ วันก่อนไปโรงเรียน
"คุณป๋าขา เสร็จแล้วค่ะ รอหนูนานไหมคะ"
"รอไม่นานครับ รีบลงมาทานข้าวเร็วเดี๋ยวสายครับ"
"นมทิมสวัสดีค่ะ วันนี้นมทิมทำอะไรให้มู่ลี่ทานคะ"
"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหนูมู่ลี่วันนี้นมทำ ข้าวต้มกุ้งที่คุณหนูมู่ลี่ชอบให้ทานนะคะ"
"ขอบคุณค่ะนมทิมรู้ใจมู่ลี่ที่สุดเลย แล้วก็สวยที่สุดในบ้านด้วยนะคะ"
"โอ๊ย..คุณหนูชมคนแก่แบบนี้ ก็เขินแย่สิคะ"
"ไม่เชื่อนมทิม ลองถามคุณป๋าดูสิคะว่าใครสวย ที่สุดในบ้าน"
"คุณป๋าขา ใครสวยที่สุด ในบ้านคะ"
"มาเร็ว ๆ เลยเรามัวแต่แกล้งนมทิม มาทานข้าวครับ"
"ฮิ ฮิ ฮิ ขอโทษค่ะ"
ยัยเด็กดื้อของผมทานข้าวเช้าเสร็จ ผมก็พร้อมไปส่งเธอที่โรงเรียนแล้ว สาวน้อยในวัย 15 ของเธอเริ่มมีหนุ่ม ๆ มาขาย ขนมจีบเธอแล้ว ผมเห็นแล้วขัดหูขัดตา ผมมักจะส่งสายตาดุดันส่งไปให้กับไอ้เด็กกะโหลกกะลาพวกนั้น อยากจะยิงทิ้งซะหนี้กระไร แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้ยายหนูของผมโกรธ ก็ต้องอดทนอดกลั้น ขณะที่รถแล่นออกไปในท้องถนน ยายหนูก็ยังไม่วายมาอ้อนปีนขึ้นมาบนตัก
"คุณป๋าขา วันนี้มู่ลี่เลิกเรียนเร็ว มู่ลี่ไปหาคุณป๋าที่บาร์ได้ไหมคะ"
"ได้สิครับ เดี๋ยวจะให้น้าแอลไปรับนะครับ"
"ขอบคุณค่ะคุณป๋าใจดีที่สุดเลย จุ๊บ"
"น้าแอลขาวันนี้มู่ลี่เลิกเรียน 14:00 น นะคะน้าแอลมารับมู่ลี่เร็วๆนะคะมู่ลี่จะได้รีบไปหาคุณป๋าที่ทำงานค่ะน้าแอลอย่ามาช้านะคะ"
"ครับคุณหนู น้าแอลจะรีบมาครับ"
ภาพที่เห็นจนชินติ ยายหนูตัวแสบมักจะมาอ้อนขอนั่งตักผมบนรถเสมอ แทบจะไม่เคยนั่งเบาะเองเลยสักครั้ง ตั้งแต่เล็กยันอายุ 15 ปี แต่ผมก็ห้ามเธอไม่ได้ มันเป็นความสุขของเธอ และของผมด้วยเช่นกัน
"มู่ลี่ขา จะถึงโรงเรียนแล้วค่ะ ลงจากตักของคุณป๋า ก่อนเร็วค่ะ".
"ไม่เอา!! ไม่อยากลงค่ะ ไม่อยากไปโรงเรียนแล้วไปทำงานกับคุณป๋าเลยได้ไหมคะ เบื่อมากเลยค่ะที่โรงเรียนวันนี้มีแต่วิชาคณิตศาสตร์มู่ลี่ไม่อยากเรียน"
"ไม่เอาสิคะ คนดีของคุณป๋า ไม่งองแงแบบนี้นะคะ เดี๋ยว 14:00 น คุณป๋าจะรีบมารับ ถ้าคุณป๋าไม่ติดงานนะคะเดี๋ยวจะมารับพร้อมน้าแอลด้วยค่ะ"
"คุณป๋าสัญญานะคะ ว่าจะมารับมู่ลี่วันนี้พร้อมน้าแอล แล้วเราจะไปที่ทำงานของคุณป๋าพร้อมกันค่ะ"
"ได้ครับ คุณป๋าสัญญาคุณป๋าจะมารับน้องมู่ลี่นะครับ"
"โอเคค่ะ งั้นมู่ลี่ไปในโรงเรียนก่อนนะคะ จุ๊บ "
ยายหนูมู่ลี่ของผม ก่อนขึ้นหรือลงรถจะต้องจุ๊บผมทุกครั้งวันไหนถ้าผมลืมเธอจะงอนไม่ยอมให้ผมเข้าห้องเธอเลย แต่สุดท้ายนอนไม่หลับต้องลากผ้าห่มเน่าของตัวเองมาเคาะประตูห้องของผม ฮ่า ฮ่า น่ารักไหมละครับ ยายหนูมู่ลี่เป็นเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียว ที่สามารถทำให้ผมอารมณ์เย็นลงได้ และไม่เคยดุเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตั้งแต่ที่เธออยู่กับผมมา เหมือนลูกน้องทุกคนของผม จะรู้จุดอ่อนของผม เมื่อไหร่ที่ผมโกรธมักจะวิ่งมาหายายหนูมู่ลี่ของผมเสมอ เพื่อให้ผ่อนโทษหนักให้กลายเป็นเบา
"ไอ้แอลงานที่บาร์เป็นยังไงบ้างได้ข่าวว่า 2-3 วันมีคนมาป่วนหรอ"
"พวกลูกเศรษฐีกำนันพวกนั้นแหละ ครับเจ้านาย เมาแล้วพาลไปทั่ว แต่ผมก็สั่งให้บอดี้การ์ดในผับจับตามองแล้วครับนายไม่ให้พวกมันก่อเรื่อง"
"ถ้าพวกมันก่อเรื่อง ยังไงแกก็บอกฉัน เพราะเท่าที่ดูไอ้พวกนี้มันน่าจะต้องโดนของจริงสักครั้ง ไม่งั้นพวกมันคงไม่หยุดก่อเรื่องแบบนี้แน่นอน"
"ได้ครับนาย ไม่ต้องห่วงผมได้สั่งให้เด็ก ๆ ทุกคนระวังตัวและตรวจสอบกล้องวงจรปิด ผลัดกันเฝ้าหน้าประตูทางเข้าและทางออกทั้งหมดแล้วครับ"
"ดีมากแอล เออ เดี๋ยววันนี้ฉันจะเข้าไปดูที่สวนส้มสักหน่อย แกขับรถไปส่งฉันที่นั่น เห็นว่าวันนี้มีลูกค้าจะมาเซ็นสัญญานำส้มเราส่งออก"
"ได้ครับเจ้านาย เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ"
ผมส่งยัยหนูมู่ลี่ไปโรงเรียนเสร็จแล้ว ผมก็เดินทางมาตรวจสวนส้ม เพราะวันนี้มีนัดกับลูกค้ารายใหญ่ ที่สนใจอยากได้ส้มเกรดพรีเมี่ยมส่งออกต่างประเทศ
"ได้ครับ วันนี้ลูกค้าที่จะมาดูสวนส้มของเรา เธอชื่อ คุณดาวัลย์นะครับ เธอค่อนข้างมี connection ในมือเยอะครับ ในการที่จะส่งออกสินค้าออกต่างประเทศครับเธอทำผลไม้ส่งออกเป็นหลักครับแล้วมีกิจการอสังหาริมทรัพย์บางส่วน เท่าที่ผมไปสืบมา แต่ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับเพราะเงินหมุนในมือ ไม่ทันครับเจ้านาย"
"ทำได้ดีมากแล้วฉันจะได้ระวังตัว"
ผมตรวจงานในไร่ส้มอยู่ แต่ก็พบความผิดปกติของส่วนด้านหลังของไร่ส้ม มีรอยการงัดแงะห้องเก็บอุปกรณ์ เป็นเขต หวงห้ามที่ผมไม่อนุญาต ให้ลูกน้องในสวนส้มเข้า นอกจาก บอดี้การ์ดเฉพาะเท่านั้น ในนั้นเป็นอุปกรณ์เรียกว่าอาวุธสงครามขนาดย่อมก็ว่าได้ ที่ผมต้องส่งออกไปรัสเซีย เป็นงานสีดำที่ผมทำอยู่กับคุณพ่อของผม ซึ่งเรามีแผนว่าจะต้องวางมือกัน ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อครอบครัวของเราให้มีความสุข ตอนนี้ศัตรูของผมเองก็รอบด้าน คนที่ผมห่วงที่สุดคือยายหนูนี่ของผม หากวันใดวันหนึ่งผมเป็นอะไรขึ้นมาเธอจะอยู่ยังไง
"แอลแกไปสืบมาซิว่าใครมันกล้ามาล้วงความลับของฉัน"
"ครับนาย ผมกำลังให้เด็กไล่ดูกล้องวงจรปิดทั้งหมดครับว่ามันเป็นใครที่กล้าเข้ามาในเขตหวงห้ามของเรา"
ผมที่นั่งรอลูกค้าเกือบไป 20 นาที คุณดาวัลย์ ได้เดินทางมาถึงเพื่อมาเซ็นสัญญาคอนเน็คชั่นการส่งออกส้มไปต่างประเทศ
" สวัสดีครับคุณดาวัลย์ ผมราฟาเอลครับ"
"สวัสดีค่ะคุณราฟาเอลยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
"เชิญเดินดูสวนของผมได้นะครับ มีข้อสงสัยตรงไหนสามารถสอบถามที่ผมโดยตรงหรือที่แอลก็ได้ครับ"
"ยินดีมากเลยค่ะขอบคุณมากนะคะที่ให้โอกาสได้มาร่วมงานกัน"
"ยินดีเช่นกันครับ งั้นเรามาเดินดูรอบ ๆ สวนส้มของผมกันครับ เผื่อมีตรงไหนที่เราจะช่วยกันพัฒนาได้"
"ได้ค่ะยินดีมากเลยค่ะ"
ผมที่พาคุณดาวัลย์เดินชมสวนรอบ ๆ เราก็ได้มีข้อคิดเห็นในการทำงานกันมากมาย จนเวลาล่วงเลยไปจนถึงบ่ายโมงครึ่ง
"คุณดาวัลย์ ครับเดี๋ยวผมน่าจะต้องขอตัวก่อน ถ้ามีปัญหาติดขัดตรงไหนเดี๋ยวให้ประสานงานกับแอลนะครับเดี๋ยวผมติดต่อกลับไปพอดีผมมีธุระด่วนครับ"
"ได้ค่ะยินดีมากเลยค่ะขอบคุณมากนะคะ"
“แอล เดี๋ยวเดินไปส่งคุณดาวันที่รถด้วย"
"ครับเจ้านายเชิญครับคุณดาวัลย์"
ตลอดเวลาที่เดินดูสวนกับลูกค้า จิตใจผมก็ไม่เป็นสุขเอา แต่ยกนาฬิกาข้อมือดูตลอดเวลา เพราะกลัวจะไปรับยายหนูที่โรงเรียนช้า ที่ผมนั่งรถไปก็คิดเรื่องราวมากมายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตตั้งแต่มียายหนูมู่ลี่ของผม ผมอยากจะวางมือในงานวงการสีดำทั้งหมด เพื่อให้ได้มีชีวิตอยู่กับเธอให้นานที่สุด