ตอนที่2 ยังไม่เก่งพอ

1195 คำ
ความหนักอึ้งของร่างกายทำให้เธอยากจะพยุงตัวเองขึ้นหลังจากรู้สึกตัว ภายในห้องยังคงสว่างจากแสงไฟที่ไม่มีใครได้ปิด และมันก็สว่างให้เห็นทุกแจ่มชัดแม้กระทั่งความทรงจำเมื่อคืนที่เธอรับรู้ทุกอย่างแต่กลับยับยั้งไม่ได้ “หึ!” วิวาห์แค่นเสียงให้กับความอัปยศของชีวิตซ้ำแล้วซ้ำอีกของตัวเองที่เผลอไผลนอนกับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีความยับยั้งช่างใจ แต่จะโทษใครได้ล่ะนอกจากตัวของเธอเอง สุดท้ายวิวาห์ก็เลือกจะพยุงตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบากก่อนสายตาจะสบเข้ากับแผ่นหลังที่มีกล้ามเนื้อแน่นของชายรายนั้นที่นอนคว่ำหน้าลงและหันใบหน้าไปอีกทาง เธอจำหน้าเขาได้และไม่จำเป็นต้องอยากเห็นอีกเลยสักนิด และที่สำคัญเธอไม่ต้องการเผชิญหน้ากับเขาในสถานการณ์ที่ทุกอย่างกลับมาปกติแบบนี้ วิวาห์ลุกออกจากเตียงอย่างแผ่วเบาพร้อมกับฝีเท้าไร้ซุ่มเสียงที่เดินอย่างยากลำบากไปหยิบเสื้อผ้าของเธอมาสวมใส่ฝั่งของเตียงที่เธอลงมาจนเรียบร้อยและตรงไปหยิบกระเป๋าบนโซฟาที่โยนทิ้งไว้แล้วเดินออกจากห้องพักแห่งนี้ไปอย่างไม่คิดจะต่อความยาวสิ่งใดกับชายแปลกหน้ารายนั้น เธอกลับมาขึ้นรถยนต์แบรนด์ยุโรปที่ตกทอดมาถึงมือของเธอได้เพราะมันคือคันเก่าที่สุดของบ้าน เป็นคันที่ไม่มีใครใช้นั่นเลยได้ถึงมือของเธอ แต่ความโชคดีคือด้วยฐานะทางบ้านที่แม้ว่ารถคันนี้จะเป็นคันเก่าสุดของบ้านแต่มันก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ยังนิยมและมีเต็มท้องถนนสามารถปกป้องการเดินทางให้แก่เธอได้อย่างสบายใจ เวลาตีสี่ของวันเริ่มกลับสู่ชีวิตวันใหม่ของใครหลายๆ คน แต่เธอพึ่งจะกลับเข้าบ้านที่ไม่ได้อยากกลับแต่ก็ทำได้เพียงกลับเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เป็นแหล่งซุกหัวนอนของเธอ บ้านที่มีคนคอยรับใช้จนแทบไม่ต้องทำอะไรเอง บ้านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและทันสมัย แต่ทุกอย่างมันไม่ใช่สำหรับเธอ เมื่อวิวาห์ลงจากรถแล้วพาตัวเองเดินลัดเลาะด้านข้างของคฤหาสน์หลังใหญ่ไปเรื่อยๆ จนมาถึงด้านหลังของมัน เธอเดินต่อไปอีกหน่อยและพบกับบ้านหลังเล็กที่อดีตเคยเป็นเรือนรับรองหรือเรือนพักผ่อนสำหรับความเป็นส่วนตัว มีหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำและบาร์ครัวเล็กๆ สำหรับอำนวยความสะดวก เพียงแต่มันไม่ได้สวยหรูอย่างในอดีตอีกแล้วเมื่อตอนนี้มันเป็นเหมือนรังน้อยของอดีตนายหญิงที่ต้องระเห็ดมาพักอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยตำแห่งที่เปลี่ยนไปอย่างน่าเวทนาจากความไว้เนื้อเชื่อใจชายผู้เป็นที่รัก เธอไม่อยากมากวนผู้เป็นแม่ที่สุขภาพไม่ดีเลยสักนิด แต่จากสิ่งที่ตัวเองได้ละเลยจนเหมือนพลาดพลั้งมันทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยจนอยากนอนกอดแม่และมากวนท่านเอาได้ “วาห์” เสียงแผ่วเบาของหญิงวัยกลางคนที่เคยสวยสง่าในอดีตแต่บัดนี้เหลือเพียงความซูบโทรมของร่างกายที่ประกาศให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของชีวิต “วาห์ทำแม่ตื่นเหรอ” เธอถามแม่เสียงเบาอย่างรู้สึกผิดทั้งที่พยายามทำทุกอย่างให้แผ่วเบาที่สุด “แม่นอนเยอะเลยรู้สึกตัวง่าย” เสียงแผ่วเบาตอบกลับพร้อมกับลุกขึ้นเปิดโคมไฟหัวเตียง “แม่นอนก่อนนะ เดี๋ยววาห์ไปอาบน้ำก่อน” แม้จะเหนื่อยจนอยากทิ้งตัว แต่ด้วยสภาพและกลิ่นแอลอฮอล์ที่หลงเหลือบวกกับกลิ่นของคาวนั่นทำให้เธอต้องชำระล้างมันให้ดีก่อนเข้าใกล้แม่ โชคดีที่ร่องรอยส่วนใหญ่อยู่ในร่มผ้าหมดทำให้เธอไม่ต้องเสียเวลาปกปิดมัน หลังจากชำระร่างกายด้วยเวลาอันรวดเร็วเสร็จก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของแม่ที่มันมีเสื้อผ้าของเธออยู่ไม่น้อยเพราะเธอมักจะมานอนที่นี่บ่อยมากกว่านอนห้องตัวเองที่บ้านใหญ่หยิบมาสวมใส่ก่อนจะเดินไปที่เตียงกว้างที่มีแม่ของเธอนั่งพิงหัวเตียงรออยู่ “ไปไหนมาล่ะลูกถึงกลับมาตอนนี้” คุณวันเพ็ญลูบหัวลูกสาวอย่างอ่อนโยนแล้วถามขึ้นอย่างรับรู้ว่าลูกสาวพึ่งกลับจากไหนด้วยชุดที่เธอใส่เข้ามา “วาห์ออกไปดื่มกับเพื่อนมาค่ะ ฉลองกับการเรียนจบ” แม้จะโกหกแต่ก็ไม่ได้หมดซะทีเดียว เพราะเธอพึ่งเคลียร์เรื่องเรียนทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมกับความคิดว่าหลังจากนี้จะทำยังไงต่อกับชีวิต นั่นเลยทำให้เธอพาตัวเองไปยังเลานจ์แห่งนั้นเพื่อคลายเครียด “ลูกแม่เก่งมาก” คุณวันเพ็ญชมลูกสาวของเธอขึ้นด้วยรอยยิ้มภูมิใจกับความตั้งใจในตัวลูกสาว “ยังหรอก วาห์ยังไม่เก่งมากพอ” เพราะถ้าเธอเก่งมากพอเธอจะต้องพาแม่ออกไปจากที่นี่ได้อย่างที่แม่จะไม่ลำบากและมีเงินไว้สำหรับรักษาแม่ แต่เพราะเธอถูกพ่อให้เรียนต่อเนื่องทำให้เธอไม่ได้ทำงานเพื่อหาเงินอย่างที่ตั้งใจในตอนจบปริญญาตรี แต่เพราะเธอรู้ดีว่าแม้จะทำงานหาเงินสุดท้ายมันก็ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่มี นั่นเลยทำให้เธอเลือกจะเชื่อฟังและเฝ้ารอเวลาที่เธอจะเก่งกว่านี้ เก่งพอพาแม่ออกไปสู่สภาพแววล้อมที่ดี “แม่รู้ว่าลูกห่วงใยแม่ แต่แม่ก็อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดีอย่างที่พ่อเขาให้ลูกได้” คุณวันเพ็ญทำได้เพียงปลอบโยนลูกสาวที่มีเธอเป็นตัวถ่วง แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้เพราะรู้ดีว่าตัวเองเป็นที่พึ่งพิงทางใจที่ดีที่สุดสำหรับลูกสาว “ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่มีความสุข” ไม่ใช่ชีวิตที่มีเพียบพร้อมทุกอย่างแต่ไร้ซึ่งความสุข แบบนี้เธอไม่นับว่าเป็นชีวิตที่ดี “แม่เชื่อว่าสักวันลูกสาวแม่จะทำในสิ่งที่ต้องการได้ แม่รอลูกอยู่ตรงนี้เสมอไม่ต้องกดดันตัวเองมากรู้ไหม” เธอปลอบโยนออกไปอย่างทุกครั้ง แม้ว่าเธอจะป่วยออดๆ แอดๆ แต่ก็ไม่ได้ป่วยถึงขั้นใกล้ตาย แค่ได้รับการรักษาและรับยาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดเธอก็ยังมีเวลาอยู่กับลูกสาวอีกหลายปีอาจจะเป็นสิบๆ ปีก็เป็นได้ นั่นเลยทำให้เธอไม่รีบร้อนและไม่อยากให้ลูกสาวกดดันตัวเอง “อื้ม วาห์จะทำให้มันให้ได้” วิวาห์เงยหน้าขึ้นมองแม่ตัวเองก่อนจะรับปากออกไปอย่างขันแข็งกับการได้รับกำลังใจอย่างเสมอมาจากผู้เป็นแม่ คนๆ เดียวที่ให้ความสบายใจแก่เธอได้ตลอดมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม