ตอนที่ 1 : ตัวซีเคร็ท
หนึ่งเดือนผ่านไป...
ติ้ด...
แกร่ก...
มือเรียวเล็กยื่นคีย์การ์ดแตะตรงบริเวณประตูก่อนจะเอื้อมไปบิดลูกบิดเพื่อเปิดประตูเข้าห้องพัก ทันทีที่เข้ามาในห้องริมฝีปากบางฉีกยิ้มและมองไปรอบห้องพักของตัวเองในจังหวัดเชียงใหม่ ขนาดห้องไม่ใหญ่มากแต่มีพื้นที่ใช้สอยแบ่งโซนชัดเจน มีของใช้ต่าง ๆ ที่ทางคอนโดนี้จัดเตรียมไว้ให้ผู้เข้าพักอยู่แล้ว เธอแค่มีเสื้อผ้ามาก็พร้อมอยู่ทันที ถึงแม้จะไม่ใช่ของราคาแพงแต่ทำให้ชิลินยิ้มไม่หุบที่ได้เริ่มต้นชีวิตนักศึกษาแบบเต็มตัว
เท้าเรียวเล็กเดินสำรวจห้องทุกซอกทุกมุม และเดินไปยังระเบียงด้านหลังที่พอมีพื้นที่ให้ตากเสื้อผ้าได้ หลังจากสำรวจจนพอใจเท้าเรียวเล็กเดินมานั่งที่โซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่กลางห้อง
ฟุบ
"ชีวิตนักศึกษาของชิลินเริ่มต้นขึ้นแล้ว"
ร่างเล็กล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาว ใบหน้าหวานมีแต่ความสุขและรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มใช้ชีวิตแบบนักศึกษาทั่วไปจริง ๆ โดยที่ไม่มีลูกน้องของพ่อคอยอารักขา ไม่มีรถราคาแพงคอยรับส่ง แต่เธอจะใช้รถสาธารณะไปมหา‘ลัย ถึงแม้พ่อจะถอยรถให้ใหม่และมีรถของตัวเองอยู่แล้วที่บ้านแต่เธอไม่ต้องการ
"ตื่นเต้นจัง พรุ่งนี้ก็ได้ไปมหา‘ลัยแล้วจะเจออะไรบ้างนะ แล้วจะได้ขึ้นรถสองแถวครั้งแรกด้วยตื่นเต้นเป็นบ้าเลย"
มหา'ลัย จ. เชียงใหม่
หญิงสาวร่างเล็กในชุดนักศึกษาตามระเบียบเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก เวลาเดินทำให้มีลมปะทะใบหน้าส่งผลให้ผมยาวสลวยสีน้ำตาลคาราเมลปลิวไสวไปตามแรงลมอ่อน ๆ จนเปิดเผยใบหน้าหวานรูปไข่ที่แต่งแต้มเครื่องสำอางแบบบางเบาเต็มรูปหน้า ใบหน้าหวานหันซ้ายแลขวาทีเพื่อหาคณะของตัวเอง ทันทีที่เห็นป้ายบอกทางไปยังคณะวิศวกรรมศาสตร์ทำให้เท้าเรียวเล็กก้าวไปตามทาง
"ไกลเหมือนกันแฮะ" ชิลินบ่นพึมพำเมื่อเดินมาได้สักพักแต่ยังไม่ถึงคณะตัวเอง จากหน้ามหา'ลัยมาถึงตรงนี้ก็ไกลใช่เล่น ทำเหงื่อออกได้พอสมควร
บรื้น บรื้น...
เสียงของรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คำรามเสียงดังลั่น ความดังทำให้คนที่กำลังเดินหันไปมองตามสัญชาตญาณ
บรื้นนน...
เสียงคำรามใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ชิลินหยุดยืนมองเพราะเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันนั้นทำให้เธอไม่สามารถละสายตาไปทางไหนได้ ต่อให้เขาจะสวมหมวกกันน็อกเต็มใบปิดบังใบหน้า แต่ความกำยำของร่างกายและวัดจากการนั่งคร่อมรถคันใหญ่ขนาดนี้ได้เขาคงเป็นผู้ชายหุ่นนายแบบที่สุดแสนเพอร์เฟค มองจากช่วงขาก็รู้ว่าเป็นคนสูงมากกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรแน่นอน
แต่เหมือนมีบางอย่างทำให้ส่ิงที่เธอกำลังมองหยุดลงตรงหน้ากะทันหันจนเกิดเสียงล้อของรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์เสียดสีกับพื้นผิวถนน
เอี๊ยดดด
"ถ้าไม่อยากตายก็หลบ" น้ำเสียงเข้มเปล่งออกมาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด และมองหญิงสาวในชุดนักศึกษาผ่านบานกระจกหมวกกันน็อก
น้ำเสียงของผู้ชายคนนี้ไม่น่าฟังเท่าไหร่จนทำให้เธอรู้สึกว่าเสียสายตาเปล่าที่จ้องมองมาตั้งนาน เขายังจอดรถนิ่งและเหมือนจ้องมองเธอผ่านหมวกกันน็อกทำให้เธอหันไปมองทางด้านหลังของตัวเองจึงรู้ว่าเป็นลานจอดรถและเขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นลานจอดรถบิ๊กไบค์สำหรับรุ่นพี่ปีสี่คณะวิศวะ
เท้าเรียวเล็กก้าวถอยหลังเพื่อเปิดทาง และยังจ้องมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจต่างจากตอนแรก
แค่พูดดี ๆ มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ ก็เธอไม่รู้ว่าตัวเองยืนขวางทางเข้าที่จอดรถ ทำเหมือนเธอฆ่าใครตายอย่างนั้นแหละ
ว่าแต่…
"รุ่นพี่คณะวิศวะงั้นเหรอ แค่ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่ากร่างน่าดู ขอให้เป็นรุ่นซีเคร็ทที่จุ่มเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ฉันไม่อยากได้ซีเคร็ทตัวนี้"
ชายหนุ่มสังเกตเห็นเด็กสาวในชุดนักศึกษายืนขมุบขมิบปาก ทั้งสายตา และสีหน้าบ่งบอกว่ากำลังด่าเขาอยู่ แถมไม่ได้ด่าในใจอีกต่างหาก ต่อให้ไม่ได้ยินแต่สีหน้าเธอแสดงออกอย่างชัดเจน ดูจากการแต่งตัวคงเป็นเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาเรียนวันนี้วันแรก
เพียงเสี้ยววินาทีรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์เคลื่อนตัวผ่านหน้าหญิงสาวไปแบบเฉียดฉิว เพราะเขาจงใจโฉบเข้าหาเธอด้วยความหมั่นไส้
"อ๊ายยย" ชิลินร้องออกมาเสียงหลงและด้วยสัญชาตญาณทำให้เธอกระโดดหลบอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ไม่ล้มลงไปกองกับพื้น
"เปิดเทอมวันแรกเหมือนจะได้คู่อริซะแล้วสิ"
ดวงตากลมโตมองเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ด้วยสายตาที่โกรธเคือง แค่สิ่งที่เขาทำก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าจงใจจะชนเธอ นี่ถ้าไม่เห็นว่าวันนี้เป็นวันแรกคงได้เข้าไปเคลียร์ให้จบ ๆ ไปแล้ว ลูกพ่อชาร์ลมันเลือดนักสู้ ถ้าไม่ผิดก็ไม่มีทางยอม แค่วันนี้อ่อนข้อให้ก่อนเถอะ
ชิลินเดินกระฟัดกระเฟียดด้วยอารมณ์หงุดหงิด เพื่อไปยังคณะตัวเองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่จอดรถบิ๊กไบค์
พอมาถึงใต้อาคารเรียนทำให้เห็นป้ายลงทะเบียนสำหรับเด็กปีหนึ่ง
ชิลินเดินไปทำตามขั้นตอนของรุ่นพี่ที่คอยแนะนำเสร็จสรรพ พร้อมกับรับป้ายคล้องคอที่เป็นชื่อตัวเองมาห้อยไว้ พอจะรู้มาบ้างว่าช่วงแรก ๆ ของการเปิดเทอมจะยังไม่ค่อยได้เรียน ส่วนใหญ่จะทำกิจกรรมรับน้องเพื่อสานสัมพันธ์
"มาคนเดียวเหรอ"
"อ่อ ใช่ ๆ" ชิลินระบายยิ้มให้กับเพื่อนนักศึกษาที่เข้ามาทักทาย รูปร่างหน้าตาสะสวยชวนมอง ฟังจากน้ำเสียงและรอยยิ้มก็รู้ว่ามาแบบเป็นมิตร
"มาเป็นเพื่อนกันไหม เราก็มาเรียนที่นี่คนเดียวเหมือนกัน แถมเป็นเด็กต่างจังหวัดไม่รู้จักใครเลย"
"ได้สิ่ เราก็มาจากกรุงเทพมาคนเดียวเหมือนกัน เราชื่อชิลิน"
"เราชื่อพราว ยินดีที่ได้รู้จักนะชิลิน"
ชิลินระบายยิ้มให้กับเพื่อนใหม่ การเจอเพื่อนในวันแรกก็ทำให้เธอรู้สึกโล่ง อย่างน้อยก็มีเพื่อนคอยไปไหนมาไหนด้วยกัน ถือว่าเป็นการเริ่มต้นในรั้วมหา'ลัยที่ดี ถ้าตัดเรื่องก่อนหน้านี้ออกไปจากสมอง
หญิงสาวร่างเล็กเดินมาพร้อมเพื่อนใหม่เพื่อมาต่อแถวตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง ริมฝีปากบางฉีกยิ้มให้กับคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเมื่อผู้หญิงคนนั้นหันมามองเธอพอดี เธอคนนี้หน้าตาสะสวยชวนมองอีกแล้ว
"สวัสดี"
"สวัสดีจ้ะ เราต้นหลิวนะ"
"เราชิลิน ส่วนนี่พราวเพื่อนที่เพิ่งเจอกันเมื่อกี้นี้"
"อ่อ...นี่เพื่อนเราอีกคนชื่อระริน"
ระรินก็สวยหวานใช่ย่อย สะกดสายตาเวลายิ้ม มหา‘ลัยนี้รวมพลสาวสวยหน้าตาดีหรือเปล่านะ…รวมถึงเธอด้วยที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ ถ้าเสร็จกิจกรรมช่วงเช้าเราไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันไหม" ชิลินเอ่ยปากชวน
"ได้สิ งั้นต่อจากนี้เราก็กลายเป็นแก๊งสี่สาวแสนซน" ต้นหลิวระบายยิ้มดีใจที่ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่
ทั้งสี่คนระบายยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร และยืนต่อแถวเรียงกันเพื่อรอฟังคำสั่งจากรุ่นพี่ในลำดับถัดไปว่าจะให้ทำอะไรต่อ