ร่างสูงรั้งเอวคอดเข้าประชิดลำตัวก่อนจะลากเธอไปที่เตียงทันที
ผู้ชายเป็นเพศที่ไม่เคยอดทนกับเรื่องแบบนั้นได้นาน ยิ่งกับคนตรงหน้าที่โลกสวย มองทุกคนเป็นคนดีไปซะหมด อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเธอตกเป็นของเล่นของเขาจริงๆ เธอยังจะอวดเก่งอวดดีได้อยู่อีกไหม
“เธอต้องภูมิใจนะที่เหตุการณ์ต่อจากนี้จะทำให้เธอได้ตอบแทนบุญคุณพี่ชายที่แสนดีของเธออย่างสมบูรณ์แบบ”
“ค่ะ”
“หึ!” เจโรมกระตุกปมผ้าขนหนูที่พันรอบเอวสอบแล้วกระชากออก อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะอวดเก่งได้สักแค่ไหน จะเก่งได้สักที่น้ำกันเชียว
“พูดกันรู้เรื่องแล้วก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลา” ฝ่ามือหนาเลื่อนเข้ามาลูบไล้ส่วนเว้าของเอวคอดของคนที่กำลังแก้ผ้าต่อหน้าเขา หลายครั้งเลยแหละที่หงุดหงิดกับหน้าซื่อๆ ตาใสๆ เพราะยิ่งเธอเป็นแบบนี้พี่ชายของเธอมันก็จะยิ่งใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อให้ตัวมันรอดอยู่ร่ำไป
“บะ เบาได้ไหมคะ” มิเกลหลุบตามองสะโพกขาวที่ถูกบีบเคล้นอย่างแรงจนเปื้อนรอยนิ้วมือเป็นปื้อแดง เธอไม่รู้ว่าเขาโกรธอะไรหรือกำลังไม่พอใจอะไร และทำไมต้องให้เธอเป็นฝ่ายรองรับอารมณ์ดิบเถื่อนแบบนี้
“แค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้วเหรอ” เจ้าของเสียงถามยกยิ้มอย่างเย้ยหยัน มือหนากระชากคนตัวเล็กลงไปที่เตียง ก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะก้าวตามขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนต่ำลงให้อยู่ในระดับเนินอกอวบ จังหวะที่ดวงตาคมหลุบมองต่ำพาลกระตุ้นหัวใจดวงน้อยให้เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง
“ดูเหมือนหัวใจเธอมันกำลังเต้นแรงนะ”
“เราอยู่ใกล้กันเกินไปมากกว่า ถ้าคุณขยับห่างกว่านี้คุณก็ไม่รู้สึกแบบนั้นแล้วค่ะ”
“จะบอกว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเหรอ”
“แล้วหนูต้องรู้สึกยังไงล่ะคะ”
“ของแบบนี้เธอต้องใช้ความรู้สึกของตัวเองตัดสินนะไม่ใช่มาบอกให้ฉันเป็นฝ่ายบอกเธออีกที”
“หนูแค่ไม่เคยอยู่ใกล้ใครมากขนาดนี้มาก่อน”
“แล้วพออยู่ใกล้ฉันเธอรู้สึกยังไง” มิเกลกลอกกลิ้งตาไปมาบนเสี้ยวใบหน้าคมคาย รอยยิ้มเล็กๆบนมุมปากของเขามันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ มันตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งต้องมาอยู่ใกล้กันในสภาพแบบนี้หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นแรง
“ฉันถามว่าเวลาอยู่ใกล้ฉันเธอรู้สึกแบบไหน”
“นะ หนูไม่รู้”
“ปากแข็ง”
“อะไรนะคะ”
“เธอน่ะปากแข็ง”
“ไม่ใช่นะคะ” มิเกลตอบโต้กลับคนที่หาว่าเธอปากแข็ง และยังคุยกันไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำเสียงโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้ดังจากเครื่องของเธอก็ดังขึ้นมาซะก่อน ดวงตาคมกริบที่เธอไม่กล้ามองนานๆ หันมองออกไปทางอื่นเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะลุกออกไปจากตัวเธอ
มิเกลเบือนหน้าหนีจากร่างกายของคนตัวโตที่เปลือยทั้งตัวไม่ต่างจากเธอ ทันทีที่เขาผละออกไปเธอรีบคว้าผ้าห่มมาคลุมตัวเอาไว้ทันที
มือหนากระชากโทรศัพท์มือถือมาเพ่งดูหน้าจอที่ปรากฏเบอร์โทรของเพื่อนสารเลวที่ทำเรื่องเหี้ยๆ กับเขาไว้ และวันนี้กลับเสนอหน้ามาขอความช่วยเหลือจากเขาอย่างหน้าด้านๆ
“มึงกล้าดียังไงถึงได้กล้าเสนอหน้าโทรหากู”
(กูมารอเจอมึงที่คลับ แต่มึงไม่ได้อยู่ที่นี่)
“แล้ว?”
(อย่าบอกนะว่ามึงไปหาน้องกู)
“มึงส่งน้องสาวมึงมาขัดดอกไม่ใช่เหรอ มึงคืนเงินกูเมื่อไหร่มึงก็มารับน้องมึงกลับไปโดยที่กูจะไม่คิดดอกเบี้ยเป็นตัวเงินเลยสักบาท กูก็มีสิทธิ์ทำอะไรกับน้องมึงก็ได้ไม่ใช่เหรอ”
(เรื่องนี้แหละโรมที่กูอยากคุยกับมึง หวังว่ามึงคงยังไม่ได้ทำอะไรน้องกูใช่ไหม)
“มึงเห็นกูโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ?” เพราะแบบนี้เหรอมันถึงได้ทำตัวเป็นเพื่อนสารเลวแย่งผู้หญิงของเพื่อน แอบแทงข้างหลังคนที่มันเรียกว่าเพื่อนได้อย่างเลือดเย็น
(มันไม่ใช่แบบนั้นนะโรม)
“มึงจะบอกว่ามึงไม่ได้เห็นกูเป็นไอ้หน้าโง่ และคนที่มึงมองว่าไม่โง่ดันถูกมึงแทงข้างหลังมาโดยตลอดงั้นเหรอ”
(กูรู้ว่าเรื่องนั้นกูผิด กูขอโทษ กูไม่มีอะไรจะแก้ตัวทั้งนั้น แต่เรื่องความรู้สึกมันไม่สามารถห้ามกันได้ไม่ใช่เหรอวะ)
“อ่า ถ้าพวกมึงจะบอกว่าพวกมึงรักกันนักก็เชิญรักกันต่อไปดิ รักให้มันตายไปข้างนึงอ่ะ”
(กูแค่จะขอตกลงกับมึงใหม่)
“เรื่อง?”
(กูขอเวลาเดือนนึงได้ไหม แค่เดือนเดียวแล้วกูจะรีบหาเงินไปคืนมึง มึงอย่ายุ่งกับน้องกูได้ไหม เขาไม่ควรต้องมาเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้)
“กูต้องทำทุกอย่างตามที่มึงของั้นเหรอ ในเมื่อเรื่องนี้คุยกันแล้ว เพราะอะไรกูถึงต้องเสียเวลามาคุยเรื่องนี้กับมึงอีก ทั้งที่น้องสาวของมึงอยู่ในห้องของกู อยู่บนเตียงของกู กูจะทำอะไรกับของของกูก็คงได้”
(กูขอเถอะโรม กูขอเวลาแค่หนึ่งเดือน กูจะหาเงินมาใช้หนี้มึงทุกบาททุกสตางค์ แต่ขอร้องว่าอย่ายุ่งกับน้องกูเลย)
“แต่เหมือนตอนแรกที่ตกลงกันไว้ไม่ใช่แบบนี้นะ”
(กูรู้ แต่กูสงสารน้องกู สุดท้ายมึงก็เห็นเขาเป็นแค่ของเล่น แค่สนุกด้วยชั่วครั้งชั่วคราว มึงแค่อยากเอาคืนกูก็แค่นั้น)
“แล้วไงวะ ในเมื่อมึงเลือกผู้หญิงคนนั้น มึงก็ต้องทนยอมเห็นน้องสาวมึงเป็นแค่ของเล่นของกูดิ ในเมื่อที่ผ่านมามึงก็เห็นแค่ความสุขของตัวเอง วันนี้มึงก็ต้องทนเจ็บปวดเพราะความสุขอีกทางที่มึงเลือกแค่นั้นเอง”
(ฟ้าไม่ได้รักมึงแค่นั้นเองโรม เขาไม่เคยรักมึงเลย กูกับเขาเรารักกัน เอาจริงๆ มึงมาทีหลังด้วยซ้ำ) การตอกย้ำถึงเรื่องเก่าๆ ที่เป็นบาดแผลในใจส่งผลให้เจโรมขบกรามแน่น
“แต่เพื่อนเหี้ยๆ อย่างมึงก็ไม่เคยคิดจะบอกกู”
(บอกไปแล้วมึงจะรับความจริงได้ไหม)
“ก็เลยหนีไป กะจะหนีไปเสวยสุขกันสองคนแต่ดันไปไม่รอดน่ะเหรอ แม่งเหี้ยฉิบหาย”
(กูขอโทษโรม เรื่องนั้นกูไม่มีอะไรจะเถียง กูขอโทษจริงๆ)
“กูไม่ให้โอกาสอะไรมึงทั้งนั้น ถ้าคิดจะยืมเงินกูฟรีๆ โดยที่กูไม่ได้อะไรกลับคืนมึงก็ต้องเอามาคืนกูตอนนี้เท่านั้นแล้วเอาน้องมึงกลับไป แต่ถ้าไม่มีปัญญาก็รับสภาพให้ได้ว่าน้องมึงจะตกเป็นของเล่นของกู กูจะเอาน้องมึงเล่นๆ จนกว่ามึงจะมีปัญญาใช้หนี้ ถึงตอนนั้นกูก็คงเบื่อน้องมึงพอดี แต่พอมาคิดไปคิดมา แค่นั้นกูว่ามันยังน้อยไปนะ น้องมึงก็เสียแค่ตัว แต่ถ้ากูทำให้น้องมึงรักกูแล้วพอกูเบื่อกูค่อยทิ้ง มันคงสะใจน่าดูมึงว่าไหม”
(ทำแบบนี้ให้ได้อะไรขึ้นมาวะ มึงต้องการแบบนั้นจริงๆ หรือไง)
“วิธีไหนที่จะทำให้มึงเจ็บปวดเหมือนที่กูเคยเจ็บ กูจะทำ”
(แต่ถ้าทำแบบนี้คนที่จะเจ็บไม่ได้มีแค่กูนะ แต่น้องกูที่มึงจะหลอกให้เขารักจะเจ็บไม่ต่างกัน)
“แล้วทำไมกูต้องแคร์”