บทที่ 2 งานแลกข้าวกับความยาว...58

1787 คำ
“หิวข้าว... หรือหิว ‘อย่างอื่น’ กันแน่คุณอัญญา?” คำถามสองแง่สองง่ามที่หลุดออกมาจากริมฝีปากหยักสวยของพ่อเลี้ยงหน้ายักษ์ ทำให้อัญภัทรหน้าเหวอไปสามวินาที ก่อนสติจะกลับคืนเข้าร่างพร้อมความหมั่นไส้ระดับสิบ “หิวข้าวสิคะ! ใครจะไปหิว... หิวอย่างอื่นของคุณ!” เธอเถียงกลับเสียงแข็ง พยายามบังคับสายตาไม่ให้โฟกัสไปที่ยอดอกสีชมพูที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า เพราะสายตาไม่รักดีคอยจะมองต่ำกว่าสะดืออยู่เรื่อย “แล้วก็กรุณาใส่เสื้อด้วยค่ะ มันอุจาดตา!” “อุจาดตรงไหน?” หมอกครามเลิกคิ้ว ก้มมองแผงอกตัวเองแล้วยักไหล่ “ก็ธรรมชาติ... หรือคุณเห็นแล้วเกิดอารมณ์?” “หลงตัวเอง! ใครจะไปเกิดอารมณ์กับ... กับคนอย่างคุณได้!” “ปากเก่ง” เขาแค่นหัวเราะในลำคอ ดวงตาคมกริบกวาดมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “ปากเก่ง ๆ แบบนี้ หวังว่าจะทำงานเก่งเหมือนปากนะ” “หมายความว่าไงคะ?” “ที่ไร่ผมไม่มีนโยบายเลี้ยงคนว่างงาน ถ้าอยากกินข้าวเย็น... ก็ต้องทำงานแลก” ทำงาน...หึ๋ย...คนบอกว่าหิวยังบังคับให้ทำงานอีก ให้ตายเถอะ! หมอกครามไม่สนใจท่าทีกระฟัดกระเฟียดเดินไปหยิบตะกร้าหวายใบใหญ่ที่วางอยู่มุมระเบียง แล้วโยนโครมลงตรงหน้าเธอ ในนั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้ากองโต ทั้งเสื้อเชิ้ตเปื้อนโคลน กางเกงเล และ... กางเกงยีนส์ตัวหนาเตอะ “ซักกองนี้ให้หมด ซักมือนะ เครื่องซักผ้าเสีย... เสร็จเมื่อไหร่ค่อยไปกินข้าว” “หา!? ซักมือ! กองเท่าภูเขานี่นะ!” อัญภัทรกรีดร้อง “นี่คุณจะบ้าเหรอ ฉันเป็นแขกนะ ไม่ใช่แจ๋ว!” “งั้นก็เชิญหิวต่อไป... หรือจะกินตุ๊กแกที่บ้านพักแทนไก่ย่างก็ตามใจ” เขาพูดจบก็เดินกลับไปทิ้งตัวลงนั่งเอกเขนกบนเก้าอี้ตัวเดิม ยกขาขึ้นไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ “ไอ้... ไอ้พ่อเลี้ยงใจมาร!” อัญภัทรกัดฟันกรอด ท้องเจ้ากรรมก็ร้องประท้วงโครกครากจนไม่มีทางเลือก เธอจำใจลากตะกร้าผ้าไปที่ก๊อกน้ำข้างระเบียงอย่างกระฟัดกระเฟียด โดยที่พ่อเลี้ยงโหดนั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ ... เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง อัญภัทรนั่งยอง ๆ ขยี้ผ้าด้วยแรงแค้น ฟองผงซักฟอกกระเด็นเต็มหน้า แต่สิ่งที่ทำให้เธอหงุดหงิดยิ่งกว่างานหนัก คือ ‘ภาพวิว’ ตรงหน้า พ่อเลี้ยงหมอกครามไม่ได้ไปไหน เขานั่งอ่านเอกสารอยู่ใกล้ ๆ แถมยังจงใจขยับตัวไปมาอวดกล้ามเนื้ออยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็บิดขี้เกียจจนกล้ามท้องขึ้นเป็นลอนสวย เดี๋ยวก็ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้วปล่อยให้น้ำหยดไหลลงมาตามลำคอขาว ๆ ผ่านลูกกระเดือกเซ็กซี่ ลงมาที่แผงอก ‘โอ๊ย... จะอ่อยไปถึงไหนพ่อคุณ! ขาวกระแทกตาจนจะตาบอดแล้วเนี่ย! สาธุ... ขอให้เป็นกลากเกลื้อน!’ เธอแช่งในใจ แต่ตาก็อดไม่ได้ที่จะแอบชำเลืองมองไรขนอ่อน ๆ ที่หน้าท้องเขา “มองขนาดนั้น มาเช็ดตัวให้ผมเลยไหมล่ะ?” อยู่ ๆ เขาก็ถามขึ้นโดยไม่เงยหน้าจากแท็บเล็ตที่เหมือนกับทำงานนั้น “ใครมอง! ฉันมอง... มองนกมองไม้ต่างหาก!” อัญภัทรหน้าแดงแปร๊ด รีบก้มหน้าก้มตาคว้ากางเกงยีนส์ตัวใหญ่ของเขามาขยี้แก้เขิน “หนักชะมัด... ตัวก็ใหญ่ ขาก็ยาว ใส่เข้าไปได้ยังไงเนี่ย” เธอบ่นพึมพำขณะล้วงกระเป๋ากางเกงตามความเคยชินเพื่อเช็คของก่อนเอาผ้าลงน้ำ กริ๊ก... เสียงวัตถุบางอย่างร่วงลงมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ กระทบพื้นปูนข้างกะละมัง อัญภัทรชะงัก หันไปมองวัตถุชิ้นนั้น มันคือกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ สีดำวาววับที่ยังไม่ได้แกะซีล... กล่องถุงยางอนามัยยี่ห้อดังนำเข้าจากต่างประเทศ “ว้าย! ตาเถร!” เธออุทานลั่น รีบตะครุบมันขึ้นมาด้วยความตกใจ ‘พกของแบบนี้ติดตัวตลอดเวลาเลยเหรอ! ร้ายกาจที่สุด!’ หรือว่าเขาเป็นพวกขาดเซ็กส์ไม่ได้หรือเปล่านะ? แต่สิ่งที่ทำให้อัญภัทรช็อกยิ่งกว่าการเจอถุงยาง คือตัวเลขที่พิมพ์หราอยู่หน้ากล่อง [ Size 58 mm. ] ดวงตากลมโตเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน มือไม้สั่นระริก เธอเผลอกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากโดยไม่รู้ตัว สมองเริ่มประมวลผลทางคณิตศาสตร์อย่างรวดเร็ว ‘ห้าสิบแปด... ห้าสิบแปดมิล! นี่มันไซซ์ยุโรป! ไม่ใช่ไซซ์มาตรฐานชายไทยแล้ว!’ สายตาซุกซนแอบเหลือบไปมองเป้ากางเกงเลสีน้ำเงินของพ่อเลี้ยงที่นั่งอยู่ไม่ไกล ผ้าฝ้ายเนื้อบางพริ้วไหวแนบไปกับสรีระช่วงล่าง ทำให้นูนเด่นเห็นเป็นรูปทรงชัดเจน ยิ่งเขานั่งไขว่ห้าง มันยิ่งดู... อื้ม ‘คับแน่น’ จนน่าหวาดเสียว ‘คุณพระช่วย... มิน่าล่ะซินแสถึงบอกให้มาหาของดี... นี่มันไม่ใช่แค่ดอกกระเจียวแล้ว นี่มันท่อนซุงเลี่ยมทอง! ถ้าโดนเข้าไปทีเดียวมีหวัง... มดลูกสะเทือนยันชาติหน้า!’ ความคิดลามกสกปรกแบบเสียว ๆ ผุดขึ้นมาในหัวเป็นดอกเห็ด พร้อมกับภาพที่จินตนาการถึงท่าทางร่วมรักท่าต่าง ๆ พลันหน้าของอัญภัทรแดงก่ำจนลามไปถึงใบหู “เป็นอะไร? หน้าแดงเหมือนตูดลิง” เสียงเข้มทักขึ้น อัญภัทรสะดุ้งสุดตัว รีบกำกล่องความลับนั้นไว้แน่นแล้วซ่อนไว้ข้างหลัง “ปะ... เปล่าค่ะ! แดดมันร้อน! ร้อนมากกก!” พ่อเลี้ยงหมอกครามวางแท็บเล็ตลง แล้วลุกเดินเนิบนาบเข้ามาหาเธอ ร่างสูงใหญ่ค้ำหัวเธอไว้ ก้มลงมองด้วยสายตาจับผิด “แน่ใจนะว่าร้อนแดด... ไม่ใช่ร้อนรุ่ม?” เขาย่อตัวลงนั่งยอง ๆ ตรงหน้าเธอ ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ห่างแค่คืบ ลมหายใจอุ่น ๆ เป่ารดแก้ม “แล้วนั่นซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง... เอาออกมาดูซิ” “มะ... ไม่มีค่ะ! ขยะ! แค่ขยะ!” อัญภัทรเสียงหลง หัวใจเต้นโครมครามเหมือนจะกระดอนออกมานอกอก กลัวเขาจะรู้ว่าเธอแอบเห็น ‘ความลับไซซ์ 58’ ของเขาเข้าแล้ว! “ขยะอะไรทำไมต้องกำแน่นขนาดนั้น” หมอกครามไม่พูดเปล่า มือหนาเอื้อมไปคว้าข้อมือเล็กที่ไพล่ไปด้านหลัง “เอามาดู เดี๋ยวนี้!” “ไม่ให้! ปล่อยนะไอ้พ่อเลี้ยงโรคจิต!” อัญภัทรดิ้นพล่านเหมือนปลาไหลถูกน้ำร้อนลวก พยายามสะบัดข้อมือหนี แต่แรงมดรึจะสู้แรงราชสีห์อย่างพ่อเลี้ยงหนุ่มได้ ยิ่งเธอดิ้น เขายิ่งรุกไล่ต้อนจนแผ่นหลังบางแนบติดกับเสาไม้ “จะส่งมาดีๆ หรือจะให้ผม ‘ล้วง’ เอง?” เขาขู่เสียงต่ำ ใบหน้าคมคายโน้มลงมาใกล้จนจมูกแทบชนกัน “อย่านะ! กรี๊ดดด!” จังหวะที่หมอกครามกระชากมือเธอแรง ๆ อัญภัทรที่นั่งยอง ๆ จนขาชาอยู่แล้วก็เสียหลักหงายหลัง ตัวเธอล้มตึงลงไปบนพื้นปูนขัดมัน และด้วยสัญชาตญาณ มือหนาของพ่อเลี้ยงที่จับข้อมือเธออยู่ ก็ถูกดึงตามลงไปด้วย ทำให้ร่างสูงใหญ่ล้มลงมาทับร่างเล็กๆ ของเธอเต็มรัก! “ว้ายยย!” “เฮ้ย!” ตุ้บ! สภาพตอนนี้ล่อแหลมยิ่งกว่าฉาก NC ในซีรีส์ที่เธอดูเสียอีก อัญภัทรนอนหงายอยู่กับพื้น โดยมีร่างกำยำของพ่อเลี้ยงหมอกครามทาบทับอยู่ด้านบน แผงอกเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและเหงื่อแนบสนิทไปกับอกนุ่มนิ่มของเธอ หน้าขาแกร่งเบียดเสียดกับสะโพกผาย และที่พีคที่สุด... กล่องความลับไซซ์ 58 ในมือเธอมันหลุดกระเด็นออกไปตกอยู่ข้าง ๆ หัวของทั้งคู่ หันหน้าโชว์ตัวเลข 58 หราอวดให้คนขี้สงสัย! “อุ๊บ!” ลมหายใจของทั้งคู่ชะงักงัน ดวงตาสบกันในระยะประชิด อัญภัทรเห็นเงาตัวเองสะท้อนในดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขา กลิ่นกายชายหนุ่มผสมกลิ่นสบู่และกลิ่นเหงื่อจางๆ ลอยมาแตะจมูกจนเธอแทบจะเคลิ้ม แต่ก่อนที่บรรยากาศจะเลยเถิดไปมากกว่านี้... “วิ้วววว! โอ้โห... ร้อนแรงกว่าแดดประเทศไทยอีกเว้ยเพื่อนกู!” เสียงตะโกนยียวนกวนประสาทดังมาจากหน้าบันไดเรือน อัญภัทรเบิกตาโพลง รีบหันไปมองต้นเสียง ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบตำรวจสีกากีเต็มยศ ยืนกอดอกพิงเสามองดูเหตุการณ์อยู่ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่คาดว่าจะเป็นเพื่อนสนิทที่ดูเหมือนคนด้านบนตัวเธอจะหัวเสียนิด ๆ เมื่อเจอเขาที่นี่ “ไอ้เวรธีร์!” หมอกครามสบถออกมาอย่างหัวเสีย แม้ในใจบริพาษไปหลายคำก็เถอะ เขาคือ ‘สารวัตรธีร์’เพื่อนสนิทของหมอกครามที่เพิ่งขับรถสายตรวจเข้ามาจอดเมื่อกี้นี้ ซึ่งบ้านหลังนี้มักจะมีแขกผู้นี้มาเป็นประจำราวกับบ้านหลังนี้คือบ้านของสารวัตรธีร์ไปแล้ว สารวัตรหนุ่มส่ายหัวแสร้งทำท่ารับไม่ได้ “ไอ้หมอก... กูรู้นะว่ามึงมันพวกไฟแรงสูง แต่นี่มันบ่ายสามโมงกว่าเองนะเว้ย! ตะวันยังไม่ทันตกดิน มึงจะรีบ ‘เอากัน’ กลางระเบียงเลยเหรอวะ!?” “ไอ้เชี่ยธีร์!” หมอกครามสบถลั่น รีบดีดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ปัดฝุ่นตามตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่หูแดงก่ำลามไปถึงคอ ส่วนอัญภัทรน่ะเหรอ... สติหลุดลอยไปถึงดาวอังคารเรียบร้อยแล้ว เธอรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นนั่ง หน้าแดงแปร๊ดจนแทบจะระเบิดเป็นโกโก้ครั้นช์ รีบคว้ากล่องถุงยางเจ้าปัญหายัดใส่กระเป๋าเสื้อตัวเองด้วยความลนลาน แล้วชี้หน้าด่าแก้เกี้ยว “บ้า! บ้าที่สุด! ใครจะไปเอา... เอากับคนปากหมาแบบนี้! ฝันไปเถอะ!” พูดจบเธอก็วิ่งปรู๊ดหนีลงบันไดเรือนไป โดยไม่ทันได้ฟังคำตอบโต้ของพ่อเลี้ยง ปล่อยให้สองหนุ่มยืนมองตามหลัง สารวัตรธีร์เดินเข้ามาตบไหล่เพื่อนปุ ๆ สายตามองตามร่างบางที่วิ่งหนีไป “เด็กใหม่เหรอวะ? แจ่มว่ะ... ขาว สวย หมวย อึ๋ม สเปคมึงเลยนี่หว่า” หมอกครามปัดมือเพื่อนออก ยกมือลูบหน้าตัวเองแรง ๆ เพื่อไล่อารมณ์วูบวาบเมื่อครู่ “เด็กฝาก... ภาระทั้งนั้น” “ภาระ?” ธีร์เลิกคิ้วมองเพื่อนอย่างรู้ทัน “ภาระแบบไหนวะ ที่ทำให้เสือยิ้มยากอย่างมึง ‘ของขึ้น’ จนเป้าตุงขนาดนั้น?” พ่อเลี้ยงหนุ่มชะงัก ก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองที่มัน... ดันนูนขึ้นมาฟ้องความผิดจริงๆ เขาเงยหน้าขึ้น แยกเขี้ยวใส่เพื่อน “หุบปากไปเลยมึง... ถ้าไม่อยากแดกลูกปืนแทนข้าวเย็น!” “อุ้ย...ดุซะด้วยโว้ย...ก็แค่ขัดจังหวะเอง” หมอกครามไม่อยากฟังคำเพ้อเจ้อของไอ้ธีร์คนเลวแต่ต้องทำหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม