บทนำ ภาระ(กิจ)หน้าร้อนกับดอกไม้ที่ยังไม่บาน

1121 คำ
แสงแดดเดือนเมษายนของประเทศไทยไม่เคยปรานีใคร โดยเฉพาะกับ ‘อัญภัทร’ หรือ ‘หนูอัญญา’ บัณฑิตจบใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งเตะฝุ่นว่างงานมาหมาด ๆ และตอนนี้... เธอกำลังยืนขาแข็งอยู่ท่ามกลางดงฝุ่นแดง ๆ ของจังหวัดชัยภูมิ “แม่นะแม่... บอกว่าไปสมัครงานที่ระยองก็ไม่ให้ไป ดันส่งมาตกระกำลำบากอะไรที่นี่เนี่ย!” หญิงสาวร่างบางในชุดเดรสลูกไม้สีขาว ที่ตอนนี้เริ่มกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนเพราะฝุ่น บ่นกระปอดกระแปดขณะลากกระเป๋าเดินทางใบยักษ์ไปตามทางลูกรัง มืออีกข้างพยายามกางร่มกันยูวีที่ดูจะสู้แรงแดดเปรี้ยง ๆ ตอนบ่ายสองไม่ไหว สาเหตุที่เธอต้องระเห็จมาไกลถึงอีสาน ทั้งที่ใจอยากนอนตากแอร์อยู่กรุงเทพฯ ก็เพราะคำสั่งประกาศิตจาก ‘คุณนายแม่’ สายมูเตลูตัวมัมตัวมารดานั่นเอง ย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว... ‘อัญญา... ซินแสบอกว่าดวงปีนี้ชงหนัก ตกงาน แฟนทิ้ง (ซึ่งก็จริง) หนักกว่านั้นถึงขั้นเลือดตกยางออก ทางแก้เดียวคือเอ็งต้องไปไหว้พระธาตุ แล้วไปรอดู‘ดอกกระเจียวบาน’ ที่ชัยภูมิ ไปขอพรกับดอกแรกที่มันแทงยอดขึ้นมา แล้วชีวิตเอ็งจะรุ่งโรจน์!’ ‘โธ่แม่! นี่มันเดือนเมษา! หน้าแล้ง! ดอกกระเจียวบ้านไหนมันจะบานตอนนี้ มันต้องหน้าฝนโน่น!’ เธอเถียงคอเป็นเอ็นในตอนนั้น ‘ก็ไปรอสิยะ! ไปดัดนิสัยซะบ้าง จบมาก็ยังไม่ได้ทำงานทำการ ไปอยู่กับป้าดวงญาติห่างๆ ของแม่ที่นั่น เขาฝากฝังเจ้าของไร่ไว้ให้แล้ว ไปช่วยงานเขาแลกข้าวแลกน้ำ รอจนกว่าดอกมันจะบานค่อยกลับมา!’ และนั่น... คือจุดเริ่มต้นของมหกรรมความซวย เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มดังมาจากด้านหลัง ทำให้อัญภัทรสะดุ้งสุดตัว รถกระบะโฟร์วิลคันใหญ่สีดำสนิทขับปาดหน้าเธอแล้วเบรกจนฝุ่นตลบ “แคกๆๆ!” หญิงสาวสำลักฝุ่นจนหน้าดำหน้าแดง รีบเอามือปิดจมูก ประตูรถฝั่งคนขับเปิดออก รองเท้าหนังราคาแพงเหยียบลงบนพื้นดินแห้งแล้ง ตามมาด้วยเจ้าของร่างสูงโปร่งที่ก้าวลงมายืนประจันหน้าเธอ อัญภัทรอึ้งไปชั่วขณะ... ไม่ใช่เพราะความสูงหรือหุ่นนายแบบของเขา แต่เป็นเพราะ ‘ออร่าความขาว’ ที่กระแทกตาเข้าอย่างจัง ผู้ชายตรงหน้าผิวขาวจัด... ขาวแบบไม่เกรงใจแดดเมืองไทย ขาวจนเธอที่ทาครีมกันแดดมาสิบชั้นยังต้องอาย ใบหน้าหล่อเหลานิ่งสนิทไร้อารมณ์ ดวงตาคมกริบภายใต้คิ้วเข้มจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาราวกับกำลังตีราคา!... และดูเหมือนผลการตีราคาจะออกมา ‘ติดลบ’ “อัญภัทร... ลูกสาวคุณน้าดวงใจใช่ไหม?” เสียงทุ้มถามห้วน ๆ ไม่มีหางเสียง “เอ่อ...ไม่ใช่ลูกค่ะเป็นหลานค่ะ หนูชื่ออัญญาเองค่ะ” เธอยกมือไหว้เก้ๆ กังๆ และแทนตัวเองว่าหนู ดูเหมือนเขาจะแก่กว่าเธอน่าจะอายุอานามสักสามสิบห้าได้ แต่เขาดูดีมาก ๆ ชายหนุ่มรับไหว้ด้วยการพยักหน้าเพียงนิดเดียว ก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียดแบบไม่คิดจะรักษามารยาท “ผมนึกว่าป้าดวงแกพูดเล่นเรื่องจะส่งหลานมาดัดนิสัย... ไม่นึกว่าจะส่งมาจริงๆ” “เอ่อ...” อัญภัทรหน้าชา “ผมชื่อ ‘หมอกคราม’ เจ้าของไร่นี้” เขาแนะนำตัวสั้นๆ สายตายังคงจับจ้องที่ชุดกระโปรงลูกไม้และรองเท้าส้นสูงของเธอด้วยความขัดใจ “บอกไว้ก่อนนะว่าที่นี่ไร่ ไม่ใช่รีสอร์ต และตอนนี้ก็ไม่ใช่หน้าฤดูท่องเที่ยว...!” เขากวาดตามองไปรอบๆ พื้นที่แห้งแล้งและฝุ่นสลับกับมองคนตรงหน้า ที่ใส่ชุดมาราวกับจะไปเที่ยวทุ่งดอกไม้ที่เชียงใหม่ “ดอกกระเจียวมันยังไม่บานหรอกคุณ... มาผิดฤดูแล้ว” “ทราบค่ะ...อัญภัทรกัดฟันตอบแต่คุณแม่บอกว่า...” “ช่างเถอะ มาแล้วก็แล้วกันไป” พ่อเลี้ยงหนุ่มตัดบทอย่างรำคาญใจ “ขึ้นรถ เดี๋ยวผมไปส่งที่พัก” อัญภัทรใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย อย่างน้อยเขาก็ยังมีน้ำใจไปส่ง... เธอรีบลากกระเป๋าจะไปขึ้นรถ แต่เขากลับยืนกอดอกนิ่ง ไม่คิดจะช่วยยกกระเป๋าใบหนักอึ้งขึ้นท้ายกระบะให้เลยสักนิด ‘ไอ้ผู้ชายหน้าขาวใจดำ!’ เธอก่นด่าในใจ พลางออกแรงยกกระเป๋าขึ้นรถด้วยทุลักทุเล รถกระบะแล่นเข้ามาลึกในเขตไร่ ผ่านบ้านเรือนไทยประยุกต์หลังใหญ่โตสวยงามที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนิน อัญภัทรยิ้มออก คิดในใจว่าอย่างน้อยที่พักก็น่าจะสบาย... แต่รถกระบะกลับไม่ได้เลี้ยวเข้าไปจอดที่บ้านหลังนั้น พ่อเลี้ยงหมอกครามขับเลยผ่านไป... ผ่านไป... จนถึงท้ายไร่ที่ติดกับชายป่า และจอดสนิทหน้าบ้านไม้ชั้นเดียวสภาพเก่าคร่ำครึ หลังคาสังกะสีเริ่มมีสนิมเกาะ “ถึงแล้ว” อัญภัทรมองบ้านตรงหน้าสลับกับหน้าหล่อๆ ของคนขับ ก่อนถามออกมา “เอ่อ... ที่นี่คือ...” “บ้านพักคนงานเก่า” เขาตอบหน้าตาย “ตอนนี้คนงานย้ายไปอยู่เรือนใหม่กันหมดแล้ว เหลือหลังนี้ว่างอยู่... คุณนอนที่นี่แหละ” “บ้านคนงาน!?” อัญภัทรตาโต “แต่... แต่คุณแม่บอกว่าป้าดวงฝากฝังหนูไว้กับคุณแล้วนี่คะ คุณแม่บอกว่าจะให้อยู่...” “ป้าดวงฝากให้ผมช่วยดูแล... ไม่ได้บอกให้ผมรับมาเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นคุณหนู”หมอกครามสวนกลับเสียงเรียบ เดินลงมายืนพิงรถ มองเธอด้วยสายตาที่ทำให้อัญภัทรรู้สึกตัวเล็กลงเหลือสองนิ้ว “ฟังนะคุณอัญญา... งานในไร่ผมยุ่งมาก ช่วงนี้ต้องเตรียมหน้าดิน ผมไม่มีเวลามานั่งเทกแคร์เด็กฝากหรือเด็กเส้นใครทั้งนั้น” เขาก้าวเข้ามาประชิดตัวเธอ ก้มลงมาจนลมหายใจอุ่นๆ รดหน้าผาก กลิ่นน้ำหอมราคาแพงผสมกลิ่นบุหรี่จางๆ ลอยมาแตะจมูก “อยู่ได้ก็อยู่... อยู่ไม่ได้ก็กลับไป ที่นี่ไม่ต้องการ ‘ภาระ’ เพิ่ม... เข้าใจตรงกันนะ?” พูดจบพ่อเลี้ยงหน้าหยกก็โยนกุญแจบ้านเก่าๆ ลงบนมือเธอ แล้วเดินกลับขึ้นรถ ขับออกไปทิ้งฝุ่นตลบใส่หน้าเธอเป็นรอบที่สอง อัญภัทรยืนกำกุญแจแน่น น้ำตาตกในท่ามกลางแดดเปรี้ยง “ ไอ้พ่อเลี้ยงบ้า! ไอ้คนใจร้าย! คอยดูเถอะ... ฉันจะอยู่ให้ได้ จะอยู่รอจนกว่าดอกกระเจียวบ้านี่มันจะบานประชดหน้าคุณเลย คอยดู!” เธอลากกระเป๋าเข้าบ้านพักคนงานเก่าๆ ด้วยความแค้นใจ ภารกิจรอคอยดอกไม้บานเริ่มขึ้นแล้ว... พร้อมกับสถานะ “ภาระ”ที่ถูกยัดเยียดให้ตั้งแต่วันแรก!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม