“สัสพัน มึงก็รู้ว่าน้องกูชอบมึง กูก็ไม่คิดจะปล่อยให้มึงมาชิมน้องกูฟรีๆ โดยที่มึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับน้องกู” ถึงเพชรแท้จะรู้ว่าเพื่อนไม่ใช่คนเลวร้าย แต่เพราะคบกันมานานจึงได้รู้ว่าถ้าไม่ใช่คนที่รัก พวกเขาก็กินแค่ครั้งสองครั้งแล้วทิ้ง
“ก็ไม่ได้ไม่รู้สึก”
“มึงรักไอ้พริกเหรอไอ้พัน” เพทายเอ่ยถามออกไปก็ลุ้นไป ใจหนึ่งก็อยากให้น้องสาวสวมหวัง อีกใจก็กลัวเพื่อนมันจะไม่จริงจัง
“ก็…อืม”
“อืม…อืมคือมึงชอบน้องกู” เพชรแท้ยังคงจี้พันร้อยต่อเมื่อมันไม่ยอมรับออกมาตรงๆ มัวแต่อืมเออ อยู่ได้
“เออ กูชอบน้องมึง ชอบมาหลายปีแล้วด้วย” คนห่ามอย่างพันร้อยไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องมาเขินอายกับการสารภาพว่าชอบน้องสาวเพื่อนแบบนี้ ยิ่งมันสองคนมองมาด้วยความสะใจ เขายิ่งอยากจะต่อยหน้าพวกมันสองพี่น้องสักคนละที
“หึ หึ มึงกลายเป็นหมาครางเอ๋งๆ เหมือนที่พ่อกูบอกจริงด้วย”
“ในที่สุดมึงก็เสร็จไอ้พริก” สองแฝดมองไปยังพันร้อยด้วยความสะใจ
“ไอ้คนที่เคยตบหัวน้องกู แล้วบอกว่าไม่จูงน้องกู จะถูกน้องกูจูงแทนแล้ววะ”
พันร้อยนั่งฟังเสียงเยาะเย้ยของพวกมันจนหนำใจ ก่อนคนตัวเล็กจะเดินออกมาในชุดนักศึกษาที่พร้อมไปเรียน เมื่อเขาอาสาไปส่งก็โดนพี่ชายอย่างพวกมันขัดขวางกลัวว่าเขาจะลากเธอไปกินต่อแทนที่จะได้ไปเรียน เขาจึงเรียกรถกลับบ้าน แต่ก่อนกลับคนตัวเล็กก็ยังไม่วายแอบหันมาขยิบตาให้เขาอย่างขี้ยั่ว
มันน่านัก…มันน่าจับเย็บให้หายยั่วจริงเชียว
.......................................................................................
ชั้นเรียนปีสี่ คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ
คนดีนั่งมองเพื่อนสาวข้างกายที่เธอรู้สึกได้ว่ามันใกล้บ้าเต็มทน พลอยไพลินที่นั่งเดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวหาวแล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นมายิ้มแล้วฟุบลงกลับไปใหม่แบบเดิมซ้ำๆ
“มึงเป็นอะไรอีพริกยกสวน อาการมึงเหมือนคนใกล้บ้าเข้าไปทุกที”เสียงหวานแสบหูของคนดีดังขัดจังหวะเพื่อนสนิทที่นอนฟุบลงกับโต๊ะจนสะดุ้ง
“เปล่า กูแค่อารมณ์ดีและกูก็ง่วง”
“ไปอารมณ์ดีเพราะผู้ชายคนไหนมา”
“รู้ดีตลอด”
“ก็สมองมึงมีอยู่แค่นั้น”
“สมองกูก็มีอย่างอื่นด้วยเหอะ”
“มีอะไรกับใครอีพริกเล่ามา กูอยากรู้จนตัวสั่น”
“เจ้าเข้ามึงรึไง”
“อ้าวพริกเป็นอะไรกันรึเปล่า ทำไมคนดีนั่งตัวสั่นอย่างนั้นละ”
มาแล้วแม่ชีคนดีของอีพริก เธอเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงของ ณา กรุณา เพื่อนสนิทอีกคนที่เดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมนั่งลงข้างๆ เธออีกฝั่ง
“ไม่มีอะไรมากหรอก เมื่อคืนก็แค่…แค่อ่านหนังสือเพลินไปหน่อยเดียวเองเลยง่วงนะ”
“อ่านหนังสือ!!” สองเสียงร้องประสานกันอย่างไม่เชื่อหูกับสิ่งที่ได้ยิน
คนอย่างพลอยไพลินที่เดินเข้ามาสมัครเรียนคณะนี้แบบงงๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อนรักเรียนไหนอีพริกเรียนด้วย
แต่ละวันที่มาเรียนเธอมีเพื่อนให้พึ่งพา ส่วนตอนสอบได้แค่ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลให้ที่ตอบลงไปในข้อสอบมันถูกสักครึ่งหนึ่ง ก่อนส่งกระดาษคำตอบก็ยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัวแล้วก็เปล่งเสียงออกมาว่าสาธุ พร้อมกับพ่นน้ำลายใส่กระดาษคำตอบเป็นอันเสร็จพิธีในการสอบของคนอย่างอีพริก และไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าเธอสามารถสอบผ่านมาได้ทุกเทอมจริงๆ
สองเพื่อนรักหันมองหน้าอีคนอ่านหนังสือเป็นตาเดียว โดยเฉพาะคนดีที่ทั้งมองทั้งเบ้ปาก กลอกตามองเพดานห้องอย่างไม่อยากจะเชื่อ รายงานก็ไม่ค่อยจะทำถ้าเพื่อนอย่างกรุณาไม่ขู่เข็ญ แล้วนี่อารมณ์ไหนกัน อ่านหนังสือเนี่ยนะไปบอกหมาใต้ตึกให้ฟังหมามันยังเมินต้องเดินหนีเหอะ
“เป็นอะไร ไม่เชื่อเหรอ”
“ใครจะไปเชื่อมึงค่ะอีพริก เมื่อกี้มึงยังบอกกูว่าอารมณ์ดีเพราะผู้ชายอยู่เลย”
“จริงเหรอพริก ณาบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าสนใจเรื่องนั้นมากนัก รอให้เราเรียนจบก่อน”
นั่นไง นี่คือเหตุผลที่พลอยไพลินไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อหน้าแม่ชีกรุณาผู้เคร่งในความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง จนเธอกับคนดีได้แต่ทำใจ
“พริกรู้ณา ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย พริกแค่บ้าผู้ชายเอง ณาก็รู้”เธอเอ่ยบอกเพื่อนสนิทก่อนจะฟุบหลับลงบนโต๊ะด้วยความง่วง
“นักศึกษานั่งที่ให้เรียบร้อยค่ะ” สิบนาทีผ่านไปเสียงอาจารย์ประจำวิชาภาษาอังกฤษเดินเข้ามา ก่อนจะเอ่ยคำทักทายนักศึกษาทุกคนที่อยู่ภายในห้องเรียนของวันนี้
“วันนี้อาจารย์ขอแนะนำอาจารย์พิเศษที่จะเข้ามาสอนแทนอาจารย์พัฒน์ที่ลาออกไป” เสียงฮือฮาดังขึ้นอย่างล้นหลามภายในห้องเรียนที่เงียบสงบเมื่อครู่
“นั่นอาจารย์จริงดิ หล่อเวอร์ๆ”
“ดีกว่าอาจารย์พัฒน์เยอะเลย นี่มันอาหารตาชั้นหรูชัดๆ”
“วันหลังฉันจะเข้าเรียนวิชานี้ทุกวัน สัญญาจะตั้งใจเรียน”
เหล่านักศึกษาสาวๆ ต่างพากันชื่นชมอาจารย์คนใหม่ไม่หยุดปาก เว้นเสียแต่คนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนโต๊ะ กับเพื่อนสนิทอย่างคนดีที่กำลังดูการแข่งขันเทควันโดในมือถืออย่างออกรส ส่วนกรุณาก็มองไปยังอาจารย์มาใหม่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเป็นปกติ
“อาจารย์นับแสนจะมาสอนพวกเราหนึ่งเทอมเพราะฉะนั้นอย่าใจร้ายกับอาจารย์ให้มากนะทุกคน แล้วก็ตั้งใจเรียนกันด้วยไม่ใช่มองแต่หน้าอาจารย์กันแบบนี้ โดยเฉพาะสาวๆ” อาจารย์อดเอ่ยแซวเหล่าลูกศิษย์ไม่ได้ อย่าว่าแต่บรรดานักศึกษาสาวๆ ที่นั่งอยู่ในห้องเลย อาจารย์อย่างเธอก็รู้สึกหวั่นไหวไม่น้อยเมื่อเห็นใบหน้าหล่อนิ่งๆ นั้น
“ได้ค่ะอาจารย์” เหล่านักศึกษาหญิงต่างตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน จะว่าไปในห้องนี้ก็มีผู้ชายอยู่แค่ไม่กี่คน จะเอาเสียงที่ไหนไปแข่งกับผู้หญิงที่มีนับสิบๆ คนกัน
“ว่าแต่พลอยไพลินหายไปไหน” อาจารย์สาวเอ่ยถามด้วยความสงสัยถึงลูกศิษย์คนโปรดที่วันนี้ภายในห้องเรียนไร้ซึ่งเสียงของเธอ
“…..” ไม่มีคำตอบจากเพื่อนในห้อง แต่ทุกคนหันไปทางหลังห้องเป็นตาเดียว จนกรุณาต้องรีบสะกิดเพื่อนสนิทที่กำลังหลับใหลในห้วงนิทราให้ตื่นขึ้น
“พริก”
“เอ่อ พริกบอกว่าเมื่อคืนอ่านหนังสือจนดึก วันนี้ก็เลยง่วงนิดหน่อยค่ะอาจารย์” กรุณายกยิ้มบางๆ ให้อาจารย์ออกปากแก้ตัวแทนเพื่อนสนิท ในขณะที่มือยังคงสะกิดและเขย่าร่างบางให้ตื่นขึ้น
“พลอยไพลินเนี่ยนะ” อาจารย์สาวแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง เธอค่อนข้างสนิทกับทั้งสามสาวจึงพอรู้นิสัยของทั้งสามคนอยู่ไม่น้อย
“คนดีช่วยพูดหน่อย” เมื่อไม่มีทางเลือกกรุณาจึงสะกิดคนดีที่นั่งอยู่อีกฝั่งของพลอยไพลินแทน
“ว่าไงนะ” คนดีถอดหูฟังข้างหนึ่งออก ก่อนจะพบว่าภายในห้องเรียนมีบางอย่างผิดปกติ เธอมองไปยังหน้าห้องพบผู้มาใหม่และอาจารย์สาวยืนมองมาทางที่พวกเธอทั้งสามคน
“เกิดอะไรขึ้นณา” คนดีเอ่ยกระซิบถามเสียงเบา
“อาจารย์ถามหาพริกอะ แต่ณาปลุกเท่าไรพริกก็ไม่ตื่น”