บทที่ 8

1319 คำ
“สัสพัน มึงก็รู้ว่าน้องกูชอบมึง กูก็ไม่คิดจะปล่อยให้มึงมาชิมน้องกูฟรีๆ โดยที่มึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับน้องกู” ถึงเพชรแท้จะรู้ว่าเพื่อนไม่ใช่คนเลวร้าย แต่เพราะคบกันมานานจึงได้รู้ว่าถ้าไม่ใช่คนที่รัก พวกเขาก็กินแค่ครั้งสองครั้งแล้วทิ้ง “ก็ไม่ได้ไม่รู้สึก” “มึงรักไอ้พริกเหรอไอ้พัน” เพทายเอ่ยถามออกไปก็ลุ้นไป ใจหนึ่งก็อยากให้น้องสาวสวมหวัง อีกใจก็กลัวเพื่อนมันจะไม่จริงจัง “ก็…อืม” “อืม…อืมคือมึงชอบน้องกู” เพชรแท้ยังคงจี้พันร้อยต่อเมื่อมันไม่ยอมรับออกมาตรงๆ มัวแต่อืมเออ อยู่ได้ “เออ กูชอบน้องมึง ชอบมาหลายปีแล้วด้วย” คนห่ามอย่างพันร้อยไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องมาเขินอายกับการสารภาพว่าชอบน้องสาวเพื่อนแบบนี้ ยิ่งมันสองคนมองมาด้วยความสะใจ เขายิ่งอยากจะต่อยหน้าพวกมันสองพี่น้องสักคนละที “หึ หึ มึงกลายเป็นหมาครางเอ๋งๆ เหมือนที่พ่อกูบอกจริงด้วย” “ในที่สุดมึงก็เสร็จไอ้พริก” สองแฝดมองไปยังพันร้อยด้วยความสะใจ “ไอ้คนที่เคยตบหัวน้องกู แล้วบอกว่าไม่จูงน้องกู จะถูกน้องกูจูงแทนแล้ววะ” พันร้อยนั่งฟังเสียงเยาะเย้ยของพวกมันจนหนำใจ ก่อนคนตัวเล็กจะเดินออกมาในชุดนักศึกษาที่พร้อมไปเรียน เมื่อเขาอาสาไปส่งก็โดนพี่ชายอย่างพวกมันขัดขวางกลัวว่าเขาจะลากเธอไปกินต่อแทนที่จะได้ไปเรียน เขาจึงเรียกรถกลับบ้าน แต่ก่อนกลับคนตัวเล็กก็ยังไม่วายแอบหันมาขยิบตาให้เขาอย่างขี้ยั่ว มันน่านัก…มันน่าจับเย็บให้หายยั่วจริงเชียว ....................................................................................... ชั้นเรียนปีสี่ คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ คนดีนั่งมองเพื่อนสาวข้างกายที่เธอรู้สึกได้ว่ามันใกล้บ้าเต็มทน พลอยไพลินที่นั่งเดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวหาวแล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นมายิ้มแล้วฟุบลงกลับไปใหม่แบบเดิมซ้ำๆ “มึงเป็นอะไรอีพริกยกสวน อาการมึงเหมือนคนใกล้บ้าเข้าไปทุกที”เสียงหวานแสบหูของคนดีดังขัดจังหวะเพื่อนสนิทที่นอนฟุบลงกับโต๊ะจนสะดุ้ง “เปล่า กูแค่อารมณ์ดีและกูก็ง่วง” “ไปอารมณ์ดีเพราะผู้ชายคนไหนมา” “รู้ดีตลอด” “ก็สมองมึงมีอยู่แค่นั้น” “สมองกูก็มีอย่างอื่นด้วยเหอะ” “มีอะไรกับใครอีพริกเล่ามา กูอยากรู้จนตัวสั่น” “เจ้าเข้ามึงรึไง” “อ้าวพริกเป็นอะไรกันรึเปล่า ทำไมคนดีนั่งตัวสั่นอย่างนั้นละ” มาแล้วแม่ชีคนดีของอีพริก เธอเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงของ ณา กรุณา เพื่อนสนิทอีกคนที่เดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมนั่งลงข้างๆ เธออีกฝั่ง “ไม่มีอะไรมากหรอก เมื่อคืนก็แค่…แค่อ่านหนังสือเพลินไปหน่อยเดียวเองเลยง่วงนะ” “อ่านหนังสือ!!” สองเสียงร้องประสานกันอย่างไม่เชื่อหูกับสิ่งที่ได้ยิน คนอย่างพลอยไพลินที่เดินเข้ามาสมัครเรียนคณะนี้แบบงงๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อนรักเรียนไหนอีพริกเรียนด้วย แต่ละวันที่มาเรียนเธอมีเพื่อนให้พึ่งพา ส่วนตอนสอบได้แค่ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลให้ที่ตอบลงไปในข้อสอบมันถูกสักครึ่งหนึ่ง ก่อนส่งกระดาษคำตอบก็ยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัวแล้วก็เปล่งเสียงออกมาว่าสาธุ พร้อมกับพ่นน้ำลายใส่กระดาษคำตอบเป็นอันเสร็จพิธีในการสอบของคนอย่างอีพริก และไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าเธอสามารถสอบผ่านมาได้ทุกเทอมจริงๆ สองเพื่อนรักหันมองหน้าอีคนอ่านหนังสือเป็นตาเดียว โดยเฉพาะคนดีที่ทั้งมองทั้งเบ้ปาก กลอกตามองเพดานห้องอย่างไม่อยากจะเชื่อ รายงานก็ไม่ค่อยจะทำถ้าเพื่อนอย่างกรุณาไม่ขู่เข็ญ แล้วนี่อารมณ์ไหนกัน อ่านหนังสือเนี่ยนะไปบอกหมาใต้ตึกให้ฟังหมามันยังเมินต้องเดินหนีเหอะ “เป็นอะไร ไม่เชื่อเหรอ” “ใครจะไปเชื่อมึงค่ะอีพริก เมื่อกี้มึงยังบอกกูว่าอารมณ์ดีเพราะผู้ชายอยู่เลย” “จริงเหรอพริก ณาบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าสนใจเรื่องนั้นมากนัก รอให้เราเรียนจบก่อน” นั่นไง นี่คือเหตุผลที่พลอยไพลินไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อหน้าแม่ชีกรุณาผู้เคร่งในความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง จนเธอกับคนดีได้แต่ทำใจ “พริกรู้ณา ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย พริกแค่บ้าผู้ชายเอง ณาก็รู้”เธอเอ่ยบอกเพื่อนสนิทก่อนจะฟุบหลับลงบนโต๊ะด้วยความง่วง “นักศึกษานั่งที่ให้เรียบร้อยค่ะ” สิบนาทีผ่านไปเสียงอาจารย์ประจำวิชาภาษาอังกฤษเดินเข้ามา ก่อนจะเอ่ยคำทักทายนักศึกษาทุกคนที่อยู่ภายในห้องเรียนของวันนี้ “วันนี้อาจารย์ขอแนะนำอาจารย์พิเศษที่จะเข้ามาสอนแทนอาจารย์พัฒน์ที่ลาออกไป” เสียงฮือฮาดังขึ้นอย่างล้นหลามภายในห้องเรียนที่เงียบสงบเมื่อครู่ “นั่นอาจารย์จริงดิ หล่อเวอร์ๆ” “ดีกว่าอาจารย์พัฒน์เยอะเลย นี่มันอาหารตาชั้นหรูชัดๆ” “วันหลังฉันจะเข้าเรียนวิชานี้ทุกวัน สัญญาจะตั้งใจเรียน”  เหล่านักศึกษาสาวๆ ต่างพากันชื่นชมอาจารย์คนใหม่ไม่หยุดปาก เว้นเสียแต่คนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนโต๊ะ กับเพื่อนสนิทอย่างคนดีที่กำลังดูการแข่งขันเทควันโดในมือถืออย่างออกรส ส่วนกรุณาก็มองไปยังอาจารย์มาใหม่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเป็นปกติ “อาจารย์นับแสนจะมาสอนพวกเราหนึ่งเทอมเพราะฉะนั้นอย่าใจร้ายกับอาจารย์ให้มากนะทุกคน แล้วก็ตั้งใจเรียนกันด้วยไม่ใช่มองแต่หน้าอาจารย์กันแบบนี้ โดยเฉพาะสาวๆ” อาจารย์อดเอ่ยแซวเหล่าลูกศิษย์ไม่ได้ อย่าว่าแต่บรรดานักศึกษาสาวๆ ที่นั่งอยู่ในห้องเลย อาจารย์อย่างเธอก็รู้สึกหวั่นไหวไม่น้อยเมื่อเห็นใบหน้าหล่อนิ่งๆ นั้น “ได้ค่ะอาจารย์” เหล่านักศึกษาหญิงต่างตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน จะว่าไปในห้องนี้ก็มีผู้ชายอยู่แค่ไม่กี่คน จะเอาเสียงที่ไหนไปแข่งกับผู้หญิงที่มีนับสิบๆ คนกัน “ว่าแต่พลอยไพลินหายไปไหน” อาจารย์สาวเอ่ยถามด้วยความสงสัยถึงลูกศิษย์คนโปรดที่วันนี้ภายในห้องเรียนไร้ซึ่งเสียงของเธอ “…..” ไม่มีคำตอบจากเพื่อนในห้อง แต่ทุกคนหันไปทางหลังห้องเป็นตาเดียว จนกรุณาต้องรีบสะกิดเพื่อนสนิทที่กำลังหลับใหลในห้วงนิทราให้ตื่นขึ้น “พริก” “เอ่อ พริกบอกว่าเมื่อคืนอ่านหนังสือจนดึก วันนี้ก็เลยง่วงนิดหน่อยค่ะอาจารย์” กรุณายกยิ้มบางๆ ให้อาจารย์ออกปากแก้ตัวแทนเพื่อนสนิท ในขณะที่มือยังคงสะกิดและเขย่าร่างบางให้ตื่นขึ้น “พลอยไพลินเนี่ยนะ” อาจารย์สาวแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง เธอค่อนข้างสนิทกับทั้งสามสาวจึงพอรู้นิสัยของทั้งสามคนอยู่ไม่น้อย “คนดีช่วยพูดหน่อย” เมื่อไม่มีทางเลือกกรุณาจึงสะกิดคนดีที่นั่งอยู่อีกฝั่งของพลอยไพลินแทน “ว่าไงนะ” คนดีถอดหูฟังข้างหนึ่งออก ก่อนจะพบว่าภายในห้องเรียนมีบางอย่างผิดปกติ เธอมองไปยังหน้าห้องพบผู้มาใหม่และอาจารย์สาวยืนมองมาทางที่พวกเธอทั้งสามคน “เกิดอะไรขึ้นณา” คนดีเอ่ยกระซิบถามเสียงเบา “อาจารย์ถามหาพริกอะ แต่ณาปลุกเท่าไรพริกก็ไม่ตื่น”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม