“พี่เทียรเจสบอกให้เลิกยุ่งกับเจสไงว่ะ ตื๊ออยู่ได้น่ารำคาญชะมัด” แขนแกร่งถูกสะบัดออกอย่างไม่ไยดี ครั้นกำลังจะเดินหนีคนที่ตามตื๊ออยู่ก็ไม่ยอม วิ่งมาดักหน้าไม่ให้หนีไปไหน
“เจสกำลังทำให้พี่หมดความอดทนนะ” เสียงเข้มตวาดใส่คนฟังหน้าสั่น ไม่ได้สั่นเพราะกลัวแต่กำลังระงับความโกรธไม่ให้ยกมือขึ้นมาต่อยให้หน้าหันเสียก่อน
“ใครให้มึงอดทนครับ กูก็ไม่อยากทนแล้วเหมือนกัน จะตามทำไมนักหนาเป็นพวกโรคจิตรึไง”
“พี่ชอบเจสจริงๆ คบกับพี่เถอะนะ” น้ำเสียงเข้มเริ่มอ่อนลงเมื่อเห็นว่าใช้ไม้แข็งแล้วไปไม่รอด
“โทษทีนะพี่ เจสไม่คบใครเป็นแฟน เราตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอว่าแค่เอากันแก้เ****น”
เส้นความอดทนของเจสซี่ใกล้จะขาดเต็มทนจ้องคนตรงหน้าเขม็ง มันทั้งน่ารำคาญ น่าเหนื่อยใจเป็นที่สุด ตั้งแต่มีวันไนท์มานับครั้งไม่ถ้วน เทียรคือจุดด่างในหลักการของเขาเป็นที่สุด ทั้งตามตื๊อ ทั้งตามหึงหวง อยากจะสลัดทิ้งแต่สลัดยังไงก็ไม่หยุด หรือเขาควรพึ่งไปบุญของเพื่อนอย่างคิงส์ให้ช่วยจัดการให้ดี
“พี่รู้ว่าเจสก็มีใจให้พี่ ทำไมเจสไม่ยกเลิกกฎบ้าๆ นั่น แล้วมาลองคบกันดูล่ะ” คนพูดยิ้มอ่อน สาธยายสิ่งที่ตัวเองคิดเองเอ่อเองออกมา
“เหอะ! มีใจ? เจสไม่เคยมีใจให้พี่ มีแต่ตีนจะเอามั้ย จะรับแบบไหนดียำตีน ต้มยำตีนหรือรวมมิตรตีน ถ้าเลือกอย่างสุดท้ายเจสจะเรียกเพื่อนมาช่วยทำคงถึงเครื่องน่าดู”
ความอดทนของเจสซี่เริ่มไม่เหลือ อยากจะประเคนเท้าถีบความมั่นหน้านั้นทิ้งให้หมด เขาก็ว่าตัวเองไม่เคยให้ความหวังใครสักครั้ง อีกทั้งทุกคนที่ผ่านเข้ามาก็ล้วนเข้าใจความสัมพันธ์แบบนี้ไม่ตื๊อ ไม่ถาม ไม่อะไรทั้งนั้น คืนเดียวจบแต่นี่อะไรนอกจากไม่จบแล้วยังมั่นหน้ามั่นโหนกว่าเขาชอบมันอีก
“มันจะมากไปแล้วนะเจส พี่พยายามพูดดีด้วย…”
“กูไม่ต้องการครับ”
“เจสกำลังคิดหนักใช่มั้ย ฟังเสียงหัว…”
เทียรอ้าปากค้าง คำพูดสวยหรูที่เขาเตรียมมาถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อได้ยินเสียงหวานของผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินนวยนาดเข้ามา แถมยังเอาหน้าอกที่ล้นเสื้อนักศึกษาบดเบียดแขนแกร่งของคนที่เขากำลังสารภาพความในใจ
“พี่เจสขา~~”
“…”
เจสซี่หันขวับคอแทบหักไปมองคนที่กำลังบดเบียดเข้าหาเขาอย่างจงใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของอกอวบเต็มสองตา พบว่าเจ้าของเสียงไม่ใช่ใครที่ไหน ยัยนมโตหน้าสวยคู่อริจิกหัวตบแย่งผู้กับเขานั่นเอง
การกระทำที่น่าแปลกใจนนั่นทำเอาคิ้วเข้มของเขาเลิกขึ้นสูงด้วยความมึนงง เธอจะมาไม้ไหนอีกเนี่ย เมื่อวานเรายังปากดีใส่กันอยู่เลยหรือจะเอาคืน คือยังไง…
ยังเคืองอยู่อีกเหรอว่ะ ผู้หญิงแม่ง เจ้าคิดเจ้าแค้นชะมัด
“เบบี๋ของหนูอยู่นี่เอง หนูหาพี่ตั้งนาน ไหนว่าเราจะไปกิน…กันที่ห้องไงคะ” ดวงตาคู่สวยมองใบหน้าหล่อหยาดเยิ้ม ยั่วยวนกัดริมฝีปากเล่นพลางขยิบตาให้เจสซี่ไปหนึ่งที
“นี่เธอ เป็นใคร” เสียงเข้มของเทียรที่ยืนมองอยู่นานดังขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไร
“แล้วคุณเป็นใครคะ ไม่รู้เหรอว่าพี่เจสซี่มีเจ้าของ”
“เจ้าของ?”
“แหม…ถ้าจะมาจีบพี่เขาหรือพี่เขาไปจีบพี่ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีหนูพยายามคุมอยู่ เพิ่งเคยเลี้ยงหมาครั้งแรก มันเลยยังไม่ค่อยเชื่องสักเท่าไหร่นะคะ”
“หมา?” เจสซี่เอ่ยออกมาเสียงแผ่ว ยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย แขนแกร่งที่ถูกอีกฝ่ายบดเบียดรัดแน่นเปลี่ยนไปโอบเอวคอด แล้วหยิกเข้าที่เอวของเธอไปหนึ่งที
กล้าว่าเขาเป็นหมาเตรียมใจรึยังนังตัวแสบ
“อะ! หยอกอีกแล้วนะคะ รู้อยู่ว่าหนูมีอารมณ์เวลาพี่แตะเนื้อต้องตัวหนู” แพทเจ็บแปล๊บๆ จากการถูกหยิก แต่เธอก็แปรเปลี่ยนมันเป็นการยั่วยุผู้ชายทั้งสองคนแทน
เจ็บชะมัด
“เจส!! นี่มันอะไรกัน ไหนบอกแค่วันไนท์กับทุกคนไง แล้วนี่อะไร…กับผู้หญิงเนี่ยนะ”
“ผู้หญิงแล้วไงคะพี่ หนูอาจจะแซ่บกว่าพี่ก็ได้ ดูนมตูมๆ ของหนูสิคะ กินขาด” อกอวบอิ่มที่ล้นทะลักอยู่ในเสื้อแน่นๆ ส่ายไปส่ายมาต่อหน้าผู้ชายสองคนที่ยืนมองตาไม่กะพริบ ทั้งตะลึง ทั้งตกใจ
“หยุด!”
เจสซี่ได้สติดึงเธอกลับมาไว้ข้างกาย เขารู้ดีว่าเทียรโรคจิตพอสมควร ถ้าอีกฝ่ายเส้นความอดทนขาด เขาไม่รู้เลยว่ายัยปากแซ่บที่ดูท่าทางไม่เกรงกลัวอะไรจะรับมือไหวรึเปล่า ขนาดเขายังเลี่ยงการเผชิญหน้าแบบสุดๆ
“เหอะ! รสนิยมแย่ลง หรืออยากลองของใหม่ล่ะเจส”
“พอไม่ได้ดังใจก็ดูถูกคนอื่นเขาเหรอพี่ ไม่น่ารักเลยนะคะ”
“หยุดก่อนได้มั้ย อยากโดนมันต่อยหน้าหงายรึไง ฉันไม่ช่วยนะ” เจสซี่เอ่ยกระซิบแนบใบหู ได้ยินแบบนั้นคนฟังก็ถอยหลังกลับไปยืนที่เดิมไม่ใช่เพราะกลัวหรอก เธอมันเลือดนักสู้อยู่แล้วแค่ให้เกียรติสถานที่เฉยๆ
ความจริงแพทแค่เห็นคู่อริของตัวเองกำลังยืนคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ด้วยความแค้นเคืองในใจ สมองเลยสั่งการให้เดินเข้าไปเอาคืน ในเมื่อเขาแย่งผู้เธอ เธอก็จะเอาคืนด้วยการทำให้เขาพลาดผู้คนนี้
เอาะ! ที่เธอไม่แย่งผู้คืนเหมือนที่อีกฝ่ายทำเพราะผู้ชายคนนั้นไม่ได้ตรงไทป์ที่เธอต้องการ แย่งมาก็ไม่เกิดประโยชน์เลยเลือกทำลายแทนก็แล้วกัน
แต่ดูเหมือนสถานการณ์ตอนนี้มันเลยเถิดไปนิด คู่อริเธอมีอารมณ์โกรธขึ้นอย่างชัดเจนหรือระหว่างพวกเขาจะไม่ใช่แค่จีบกัน…
เป็นแฟนกันจริงเหรอว่ะ แต่เมื่อกี้เธอได้ยินว่าแค่วันไนท์ไม่ใช่เหรอ
“จะไปไหนล่ะค่ะเบบี๋ ไม่รอเอาหมากลับไปด้วยเหรอ” เสียงเข้มเอ่ยถามขึ้นพร้อมข้อมือของเธอที่ถูกเจสซี่คว้าไว้ไม่ให้เธอหนี
“หนูไปรอตรงโต๊ะไม้หินอ่อนก็ได้ค่ะ”
แพทสัมผัสได้ถึงสถานการณ์แปลกๆ ปกติผู้ชายเขาดิวกันรุนแรงถึงเพียงนี้เลยเหรอ ไม่ต้องใช้คำพูดสวยหรูรึยังไง หรือเพราะเธอเข้าไปขัดซะก่อนท่าทางถึงดูเปลี่ยนไป ยิ่งผู้ชายคนนั้นยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่
“ห้ามไปไหนไกล เรามีเรื่องต้องคุยกัน” เจสซี่กระซิบบอก พร้อมส่งสายตาคาดโทษ แพทเห็นแบบนั้นได้แต่ยิ้มอ่อนหมุนตัวเดินนวยนาดไปนั่งรอที่โต๊ะไม้หินอ่อนไม่ไกลมากนัก อยากจะหนีอยู่หรอกแต่สายตาคมคู่นั้นมองตาราวกับไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ แน่ ไม่น่าแหย่หนวดเสือเลยเรา จะโดนเสือทึ้งหัวป่ะเนี่ย
“อธิบายมาเจส ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” หลังจากแพทเดินออกไปเทียรก็ตวาดเสียงดัง จนคนฟังสะดุ้งตัวหันกลับมามองต้นเสียงด้วยความไม่พอใจ
“กูไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น”
“จะบอกว่าเป็นหมาของมันจริงดิ น่าสมเพชว่ะ”
“แล้วมันมีปัญหาตรงไหนไม่ทราบ อิจฉาที่กูมีเมียสวยหรือที่กูไม่เอามึง”
“สมเพชมากกว่า กูไม่น่าลดตัว”
“ลดตัว? เหอะ! แล้วแต่มึงจะคิดแล้วกัน แต่กูไม่เอาคนอย่างมึงจำไว้” เจสซี่เค้นเสียงหัวเราะออกมาจากในลำคอ ใครกันแน่ที่ควรพูดคำนั้น แต่ก็เอาเถอะแค่สลัดไอ้โรคจิตนี่ได้เขาก็พอใจแล้ว
“คิดว่ากูจะเอาคนอย่างมึงลงอีกเหรอ เสนียดว่ะเจสซี่ ถ้าเอากับผู้ชายกูจะไม่ว่า”
“เสือกเรื่องของกูครับ ไสหัวของมึงไป แล้วอย่ากลับมาให้กูเห็นหน้าอีก อีกอย่าง…อย่ายุ่งกับเมียกู ถึงกูทำอะไรมึงไม่ได้แต่เพื่อนกูทำได้อย่าลืมล่ะ”
“…” เทียรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก คำเตือนของเจสซี่ทำให้เขารู้สึกกลัวไม่น้อยไม่ใช่กลัวคนตรงหน้าแต่เป็นเพื่อนที่อีกฝ่ายกำลังพูดถึงต่างหาก ใครๆ ก็รู้ว่าคิงส์เป็นคนที่น่ากลัวแค่ไหน อย่าได้ลงไปเล่นโดยไม่จำเป็นมีแต่เสียกับเสียเท่านั้น
“ไปสิ! ยืนอยู่ทำซากอะไร”
หลังจากเทียรเดินออกไป เจสซี่ก็เดินไปหาคนที่แอบอ้างเป็นเจ้าของเขา ท่าทางชะเง้อมองจนคอแทบยาวเท่ายีราฟอยู่แล้ว จากอารมณ์เสียก็กลายเป็นอารมณ์ดีขึ้นมาซะดื้อๆ ซะงั้น