“อร๊าย! ไม่นะ ซู๊ดดดด…” จังหวะนั้นเองช่างสะเทือนแรงปรารถนาของเจ้าช่างงามนัก เมื่อปลายลิ้นที่แสนร้ายกาจของประมุขหนุ่มนั้นกำลังแตะลิ้มกลีบปทุมช่องาม เรือนร่างเปลือยเปล่าที่สั่นระริกดุจนกน้อยยิ่งสั่นสะท้านหนักมากขึ้นกว่าเดิม เสียงสูดลมหายใจลึกของโฉมงามช่างเป็นเสียงที่ทรมานทั้งกายและใจนัก คล้ายกับเข้าใจถึงสัญชาตญาณดิบของเจ้าของร่างสิบฉื่อ ยิ่งนางดิ้นรนขัดขืนมากเท่าใด สุดท้ายแล้วคนที่ลำบากที่สุดก็คือตัวนางเอง เจียงหลีพยายามกัดริมฝีปากบางที่แตกและแห้งด้วยความทุกข์ระทม ทุกจังหวะที่ปลายลิ้นกำลังชอนไชกลีบบุปผา น้ำเสียงที่แสนแหบแห้งของโฉมงามที่พยายามสะกดกลั้นไม่ให้เปล่งออกมา ในท้ายที่สุดเจียงหลีก็ทนการถูกเคี่ยวกรำไม่ไหว ริมฝีปากบางค่อยๆ เปล่งเสียงครางกระเส่าในลำคอออกมาอย่างเบาที่สุด ทว่าท่วงทำนองที่เปล่งออกมาช่างคร่ำครวญนัก “อะ…อือ…อื้อ…ซี๊ดดดด” ริมฝีปากบางเผลอเผยอครางออกมาสุดจะกลั้น ท่วงทำนองของก

