Art or love-3
@Gallery JNs
ในงานเปิดตัวรูปวาดล่าสุดของหญิงสาว ผลงานวาดภาพของเธอ ชื่อว่าพระอาทิตย์ที่ไม่เคยหลับไหล ที่เจนนิสตั้งชื่อเอง ดวงอาทิตย์ในภาพวาดส่องแสงประกายตกกระทบลงมาที่ภูผาอันแสนโดดเดี่ยว เพราะบนยอดภูผานั้นไม่มีแม้แต่หญ้าหรือต้นไม้ขึ้น แต่ภูผาลูกนี้กับสวยได้ด้วยพระอาทิตย์ดวงนี้
"ภาพวาดของลูกสาวแม่ทำไมดูโดดเดี่ยวจังนะ"จินดาผู้เป็นแม่ของหญิงสาวเอ่ยขึ้น
"มันก็เป็นเพียงแค่ภาพวาดนึง ที่หนูอยากจะวาดตามสไตล์ของหนูก็แค่นั้นค่ะ"
"ลูกแน่ใจหรอ..ลูกแค่ยังไม่ลืม..ตะ.."
"อย่าพูดถึงคนที่ขี้ขลาดเลยค่ะ"เจนนิสเอ่ยตัดบทจินดาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบทว่าแววตากับแฝงไปด้วยความรู้สึกที่สั่นระริก
"แม่จะไม่พูดถึงเขา แต่ลูกคงไม่ลืมเรื่องที่เราคุยกันไว้หรอกเนาะ"
"ไม่ลืมหรอกค่ะ.."
"ดีมากลูก..ลงไปสัมภาษณ์ข้างหน้างานกันเถอะ.."จินดาจูงมือลูกสาวคนสวยของเธอที่วันนี้แต่งตัวด้วยเดรสยาวผ่าข้างสีเทาพร้อมท่าปากสีแดงเลือดนกแต่ไม่เน้นแต่งหน้าหนักจนเกินไป ตามสไตล์ของหญิงสาวทำให้วันนี้เธอดูเซ็กซี่เป็นพิเศษ
บริเวณหน้างานเปิดตัวรูปวาดใหม่ของหญิงสาว เจนนิสเดินเข้าไปในวงสัมภาษณ์ของบรรดานักข่าวที่วันนี้มากันเยอะเป็นพิเศษ นักข่าวรัวซัตเตอร์กันถ่ายรูปเจนนิส พอได้รูปกันพอใจแล้วเริ่มเข้าสัมภาษณ์ถึงผลงานของเจนนิส
"คุณเจนนิสรู้สึกยังไงคะ กับรูปภาพพายุหมุนของคุณล่าสุดได้ไปประมูลถึงอเมริกาในราคาหลายร้อยล้านบาท"
"รู้สึกเฉยๆค่ะ"เจนนิสตอบด้วยใบหน้าเฉยชาเพราะรูปภาพนั้นก็แค่เป็นที่รองรับอารมณ์หลากหลายของเธอก็แค่นั้น
"เออ เออผู้ชายคนล่าสุดของคุณเจนนิสทำไมเขาถึงไม่ได้ไปต่อครับ.." นักข่าวชายเอ่ยถามออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะสรรพนามของเจนนิส ทุกคนรู้กันดี ว่าหญิงสาวนั้นเปลี่ยนผู้ชายมาเยอะหลายคนถ้าทำเธอไม่พอใจ หรือไม่ได้ดั่งใจเธอก็พร้อมเทและมีใหม่
"หึ เจนรอคำถามนี้พอดี ขอบคุณนะคะที่ถาม"เจนนิส่งยิ้มแสนหวานไปให้นักข่าวชายคนนั้น
"ผู้ชายคนนั้นขอฉันมีเซ็กส์ค่ะ" คำตอบของเจนนิสทำให้เกิดเสียงฮือฮาออกมา
"อ่ออย่างนี้นี่เอง คุณเจนนิสเลยบอกเลิกเขาใช่ไหมคะ.." นักข่าวสาวเอ่ยถามขึ้น ทำให้หญิงสาวตอบกลับด้วยใบหน้าอย่างเย้ยหยัน
"เจนไม่เคยคบกับเขานะคะ..อย่าเข้าใจผิดสิคะ" เจ้าของดวงตาเฉี่ยวเอ่ย คนอย่างเธอนะหรือจะจริงใจกับใครได้นาน
"แล้วอย่างนี้คุณเจนนิสคิดจะคบกับใครจริงจังไหมครับ"
"ไม่ค่ะ เจนไม่อยากมีปลอกคอ ความรักมันก็แค่เรื่องฉาบฉวย"
คำพูดของหญิงสาวทำให้นักข่าวหน้าเหว๋อออกมาพร้อมกัน บรรดานักข่าวที่ไม่กล้าสัมภาษณ์อะไรเจนนิสอีกเลยพุ่งเป้ามาที่จินดาผู้เป็นมารดาของเธอแทน
"อย่างนั้นพวกเราขอสัมภาษณ์คุณหญิงจินดาคุณแม่ของคุณเจนนิสได้ไหมครับ"
"เชิญตามสบายค่ะ"
เจนนิสเอ่ยกับนักข่าวพร้อมเดินเข้าไปใน Gallery จินดาได้แต่มองตามหลังเจนนิสอย่างหนักใจกับความคิดด้านลบของลูกสาวตัวเอง
"คุณหญิงจินดากลับมาเมืองไทยคราวนี้อยู่ถาวรเลยไหมคะ"นักข่าวเริ่มสัมภาษณ์จินดา
"ไม่ถาวรค่ะดิฉันกลับมาเพราะในครอบครัวนิษฐาวงศ์จะมีข่าวดีเร็วๆนี้ค่ะ"
"ลูกชายคนโตจะแต่งงานหรอคะ" นักข่าวผู้หญิงถามขึ้นอย่างตื่นเต้น
"ตาเจเคนยังไม่มีวี่แววหรอกค่ะ แต่เป็นลูกสาวดิฉันไม่แน่"
"ถ้าเป็นลูกสาวของคุณหญิงก็คือคุณเจนนิสนี่ครับ?" นักข่าวชายถามออกมาย่างงงงวย เพราะเมื่อกี้เจนนิสสัมภาษณ์หนังคนละม้วนกับผู้เป็นแม่ของเธอเลย
"อีกไม่นานรอฟังข่าวดีได้เลยค่ะ ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ" จินดายิ้มออกมาอย่างใจดีพร้อมเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที
"คุณน้องขา" ในระหว่างที่จินดาจะเดินกลับเข้าไปในงานก็ต้องหยุดชะงัก เพราะมีเสียงหญิงกลางวัยแทรกขึ้นซะก่อน
"คุณพี่รันณี" จินดาพึมพำขึ้นมาอย่างดีใจที่ได้เจอ เพื่อนรักสมัยอยู่อังกฤษ
"สวัสดีค่ะคุณคีรี คุณพี่น้องคิดถึงจังเลยค่ะ"จินดาเข้าไปกอดรัณณีด้วยมิตรภาพที่ดีต่อกัน
"ยินดีที่ได้เจออีกนะครับคุณหญิงจินดา"คีรีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
"ค่ะ"
"เอ๊ะ คุณแล้วตาคิรันเดินไปทางไหนแล้วคะ? เมื่อกี้ยังเดินตามมาติดๆอยู่เลย"รันณีเอ่ยถามผู้เป็นสามีพร้อมมองหาลูกชายตนเอง
"เอ่อ นายครับ..คุณคิรันเดินเข้าไปในGalleryแล้วครับ"บอดี้การ์ดที่ติดตามข้างหลังเอ่ยขึ้น
"เสียมารยาทจริงไอ้ลูกคนนี้" คีรีพูดขึ้นอย่างหัวเสียกับพฤติกรรมตามใจตัวเองของคิรัน
"เรื่องที่เราทำสัญญาใจกันเอาไว้ คุณพี่มีลูกชายแค่คนเดียวคือตาคิรันไม่มีลูกสาวให้ตาเจเคน งั้นเอาตาคิรันไปเป็นลูกเขยแทนนะคะ"
"เรื่องนั้นน้องไม่ซีเรียสเลยค่ะ นี่ถ้าคุณพิสานอยู่ด้วยก็คงจะดีใจไปด้วย"จินดาพูดถึงสามีที่ล่วงลับไปหลายปีด้วยสีหน้าเศร้า
"คุณน้องอย่าเศร้าไปเลยค่ะ เดี๋ยวคุณพิสานจะมีห่วงเปล่าๆ"รัณนีจับบ่าจินดาอย่างให้กำลังใจเพื่อนรักของตนเอง
"เราเข้าไปดูผลงานของหนูเจนนิสกันเถอะ จะได้หาไอ้ลูกชายตัวดีของคุณด้วย"คีรีเอ่ยตัดบทพร้อมเดินนำเข้าไปข้างในGalleryที่จัดโชว์ภาพวาดของเจนนิสทั้งหมด
อีกด้านนึงในGallery
มาเฟียหนุ่มเจ้าของหน้าหล่อเหลาดูน่าดึงดูดแต่กับแผ่รังสีความน่ากลัวออกมา พลอยทำให้ผู้หญิงรอบๆมองด้วยความสนใจแต่ก็ต้องหลบสายตาที่ดูน่าเกรงขามไปตามกัน ด้วยความกลัวเลยไม่กล้าคิดจะจีบหรือจะกรีดร้องในความหล่อของคิรันแม้แต่นิดเดี๋ยว คนตัวสูงเดินล้วงกระเป๋ากางเกงดูรูปภาพที่จัดโชว์มาเรื่อยๆจนมาหยุดรูปภาพนึง ในภาพเป็นรูปหัวใจที่แข็งเป็นหินจมอยู่ใต้มหาสมุทรก้นลึก เขาจึงมองภาพนี้อย่างนิ่งงั้นเขาพอจะรู้ความหมาย
"นายสนใจภาพนี้หรอครับ" กราฟเอ่ยถามผู้เป็นนาย
"หึ" คิรันไม่ตอบอะไรกราฟพร้อมเดินดูผลงานที่จัดโชว์ไปตลอดทางมาเรื่อยๆจนมาเจอเด็กผู้ชายคนนึงที่พยายามจะกระโดดเอาลูกโป่งที่ลอยเข้าไปติดกับกรอปรูปภาพแต่เอาไม่ถึง
"พี่ชายงับ เอาลูกโป่งให้หน่อย"
เด็กชายวัยห้าขวบเอ่ยพูดอย่างดูน่ารักแต่คิรันกับทำใบหน้าเรียบนิ่งพร้อมเดินหนีอย่างรำคาญแต่ต้องชะงักหยุดฝีเท้าไว้ เมื่อเด็กชายกระตุกขากางเกงของคิรันไว้ มองหน้าตาแป้วๆอย่างไร้เดียงสา
"น่ารำคาญจังว่ะ" คิรันเอื้อมมือขึ้นไปหยิบลูกโป่ง ทำให้เด็กน้อยยิ้มออกมาอย่างดีใจ แต่ก็ต้องเบะปาก เมื่อคิรันไม่ยอมคืนลูกโป่งให้แต่กลับใช้เข็มหมุดที่เสียบผ้าไว้อยู่จิ้มแตกต่อหน้าตาเด็กชายตัวน้อย
"แง้งงงง ละ..ลูก ฮึก..โป่งผม"
"หุบปาก ไม่นั้นฉันจะเอาเข็มนี่ทิ่มปากให้หยุด"
"แง้งงงงง ฮึกๆๆ กะ..กลัว..ละแล้ว"เด็กชายตัวน้อยพยายามห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้อย่างน่าสงสาร แต่คิรันกับยืนทำหน้าเฉยชาอย่างติดรำคาญ
"จะสะอึกทำไมว่ะ.."
"นาย นั่นเด็กนะครับกราฟ"เอ่ยขึ้นอย่างสงสารเด็กชายวัยห้าขวบเพราะคิรันคงรำคาญที่เด็กน้อยวอแวตนเลยกระทำนิสัยดิบเถืาอนใส่
"แล้วยังไง?" คิรันเอ่ยขึ้นแล้วเดินหนีไปอีกทางอย่างรำคาญ กราฟได้แต่ส่ายหัวให้กับนิสัยของผู้เป็นนายแล้วเดินตามหลังเงียบๆ ทิ้งให้เด็กชายวัยห้าขวบร้องอยู่อย่างนั้น
"ผู้ชายอะไร เลวร้ายใส่แม้กระทั่งเด็ก"เจนนิสพึมพำขึ้นพร้อมมองไปทางเด็กชายตัวน้อยที่ยืนสันระริกอย่างขวัญเสียพร้อมเดินเข้าไปอุ้มขึ้น
"นิวตั้นคนเก่งของพี่เจน..อย่าร้องนะครับ เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งนะครับ"
"ฮึก..พี่เจนนิส..น้องนิวจะ..เข็มแข็งครับ..ฮึก"เด็กชายวัยห้าขวบเริ่มหยุดร้องไห้พร้อมยิ้มให้หญิงสาวอย่างน่าเอ็นดู นิวตันเป็นลูกชายของพนักงานรุ่นพี่ที่หญิงสาวนั้นเคารพเลยทำให้เอ็นดูเป็นพิเศษ
"น้องนิวลูก ไปกวนอะไรพี่เจนนิสอีกลูก"อุษาที่วิ่งตามหาลูกชายอย่างใจหาย วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจนนิสอย่างเกรงใจเจ้านายสาว
"ไม่ได้กวนเลยค่ะ ใช่ไหมครับนิวตัน.."เจนนิสหันไปพูดกับอุษาแล้วก้มมองเด็กชายใบหน้าจิมลิ้มอย่างอ่อนโยน
"พี่เกือบลืมไปเลยมัวแต่ตามหาลูก คุณจินดาฝากพี่บอกให้คุณเจนนิสไปหาที่ห้องรับแขกกลางด้วยค่ะ.."
"อ่อค่ะ" เจนนิสส่งนิวตันให้อุษาแล้วเดินไปทางโซนห้องรับแขกกลางของGallery
เมื่อเจนนิสเดินเข้ามาในห้องรับแขกกลางก็ตีสีหน้านิ่งมองคิรันที่นั่งไขว้ห้างทำหน้าไม่สนโลกอยู่ เจนนิสมองคิรันอย่างไม่ถูกซะตากับการเจอครั้งแรก เธอเห็นพฤติกรรมของเขาที่รังแกแม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆทำให้เธอยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่
"หนูเจนนิสของป้า"รันณีหันไปเห็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ทางข้างหลังรัณนีพูดด้วยน้ำเสียงดี๊ด๊าสุดๆ คิรันหันมองด้วยความรู้สึกหลายหลาย เมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่ต้องหมั้นหมายด้วยคือเจนนิส ผู้หญิงร้ายกาจคนเดียวกันตอนเจอที่ผับ
"เจนนิสลูก นี่คุณลุงคีรีกับคุณป้ารันณี"จินดาเอ่ยบอกลูกสาวทำให้เจนนิสยกมือไหว้อย่างมีมารยาท
"เรียกแม่กับพ่อน่าจะดีกว่านะจ๊ะ เพราะอีกหน่อยก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว"รันณีพูดขึ้นอย่างใจดีส่วนคีรีได้แต่ยิ้มบางๆให้เจนนิส
"แล้วนี่พี่คิรันคู่หมั้นของหนูที่แม่เล่าให้ฟังไงจ๊ะ"
เจนนิสใช้สายตามองคิรันอย่างเฉยชาไม่ได้ยกมือไหว้ชายหนุ่มแต่อย่างใดแต่กับเดินไปนั่งข้างผู้เป็นแม่ การกระทำของหญิงสาวทำให้มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มมุมปากใส่เจนนิสที่นั่งประจันหน้าอยู่ฝั่งตรงข้าม ยิ้มของมาเฟียหนุ่มยากจะคาดเดาว่ากำลังคิดอะไรอยู่
"ปีนี้หนูเจนนิสอายุเท่าไหร่แล้วคะ" รันณีเอ่ยพูดทำลาย บรรยากาศที่เงียบในโต๊ะอาหาร
คำถามของรันณีทำให้คิรันเงยหน้ามองเจนนิสด้วยสายตานิ่งเรียบ
"ปีนี้ยัยเจนนิสอายุยี่สิบเอ็ดแล้วค่ะคุณพี่" จินดาตอบแทนลูกสาว
"หึ" พอคิรันรู้อายุอานามของเจนนิสก็หัวเราะในลำคอออกมาด้วยใบหน้าเย้ยหยันใส่หญิงสาว
"อายุห่างกับตาคิรันตั้งเก้าปี" คีรีเอ่ยขึ้นแล้วหันไปมองหน้าลูกชายตัวดีที่นั่งจ้องหน้าเจนนิสอยู่
"งั้นเราพูดเรื่องงานหมั้นที่จะเกิดขึ้นอีกในอาทิตย์หน้ากันดีกว่าค่ะ"
"จะไม่มีงานหมั้นเจนกับผู้ชายคนนี้ค่ะ"เจนนิสพูดจบก็ลุกออกจากห้องไปอย่างเสียมารยาท ทำให้คิรันขบกรามอย่างโมโห ลุกขึ้นเดินตามหญิงสาวออกไปเหมือนกัน
หมับ!! คิรันที่เดินตามเจนนิสออกมามาเฟียหนุ่มกระชากตัวหญิงสาวมาปะทะกับอกแกร่งอย่างแรงแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงน่ากลัว
"เธอคิดว่าเธอเป็นใครกัน.. ถึงกล้าปฏิเสธฉัน?"
คิรันจ้องไปในแววตาเฉี่ยวคมของหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง แต่เจนนิสกับหากลัวไม่ หญิงสาวจ้องกับเจ้าของตาดุดันกลับพลางพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน
"หึ นายก็แค่ผู้ชายคนที่ไม่ได้หมายเลขจากฉันก็เท่านั้น"
"..??"
___________