"เจ้ามีเรื่องอยากจะคุยอะไรกับข้า จะมาพูดหรือ ว่าข้าเป็นคนบงการนางน่ะ?"
"หื้ม? เจ้ารู้ด้วยหรือว่าข้าจะมาพูดเรื่องนี้น่ะ?"จือหานยกยิ้มแล้วหัวเราะคร้ำออกมาเบาๆ
"ถึงไม่ต้องให้พูดข้าก็รู้อยู่ดีว่าเจ้าเป็นคนทำ แต่ข้าจะไม่เอาความเรื่องนั้น แค่จะมาเตือน"
"เตือน? ฮ่า ฮ่า อย่าทำเป็นอวดอ้างรู้ดี อ้า!" มือคว้าเข้าที่ไหล่เล็กแล้วจับไว้แน่น แววตาจากตอนแรกที่ดูขี้เล่น ตอนนี้มันกลับกลายเป็นความจริงจังแผ่ขึ้นมาบนใบหน้า
"ถ้ายังไม่เลิกทำนิสัยเจ้ากี้เจ้าการ สักแต่ว่าใช้คนอื่นส่งเดช..." เงาดำปรากฏขึ้นมาจากร่างจือหานจนบรรยากาศครอบคลุมไปด้วยความมืด ซือซินถึงกับเริ่มสั่นเทา ดวงตาเบิกกว้างอย่างตื่นกลัว
"จ..จะทำอะไรข้าน่ะ!"
"ข้าจะให้เจ้าพวกนี้ตามหลอกหลอนเจ้าไปทุกที่จนวิปลาสไปเลย"
นิ้วเรียวยาวจิ้มลงบนปลายจมูกอย่างหยอกล้อก่อนที่เงาดำตะพุ่มๆ จากด้านหลังจะค่อยๆ ละลายหายไป หญิงสาวกำมือตัวเองบีบแน่น ทั้งที่แววตาจ้องมองอีกฝ่ายอย่างกล้าๆ กลัวๆ จือหานผละตัวออกห่างพลางหยิบเซาปิ่งบนถาดวางขึ้นมา
"ขนมนี่ข้าขอนะ อ่ออีกอย่าง" ใบหน้าเรียวหันมองอีกฝ่าย "ถ้าขืนพูดว่าตระกูลข้าเป็นพวกนอกรีต ข้าจะมาตัดลิ้นเจ้า"
ริมฝีปากกัดขนมคำโตจ้องมองอย่างเอาเป็นเอาตาย นิ้วมือชี้ตาตัวเองสลับไปมาเหมือนจะจับตาดู พลางเดินออกไปจากศาลา ใบหน้าซีดเซียวจ้องมองแผ่นหลังเดินหายออกไปตาไม่กะพริบด้วยท่าทางสั่นกลัวพร้อมกับมือที่กุมอก
"ท..เท่จัง"
...
"เฮ้อ..เซาปิ่งรสชาติยังอร่อยเหมือนเดิมแฮะ" จือหานเดินตรงเตร่มายังสวนด้านในของเหลียงผิงที่แสนสงบอีกครั้ง
"สวนนี่ก็ยังมีแต่ต้นไม้เหมือนเดิม ไม่คิดจะตัดแล้วปลูกอะไรที่มันสวยๆ หน่อยหรือไงนะ" เท้าเดินสาวตรงมายังใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่กลางแอ่งน้ำเล็กๆ
"เอาล่ะ นอนเล่นตรงนี้ดีกว่า"
"เหมี้ยว~"
"หื้ม.." ใบหน้าเงยหน้ามองตามเสียงที่ดังมาจาต้นไม้ แมวร่างปุ้มปุ้ยตัวเดิมที่เคยช่วยเอาไว้เมื่อครั้งก่อน กลับมายืนครางขอความช่วยเหลืออีกครั้ง
"จ..เจ้าอ้วน?" จือหานจ้องมองด้วยความแปลกใจสายตาสาดส่องมองไปรอบๆ สวนที่ไร้ผู้คนเดินผ่าน "อย่าบอกนะว่าติดบนต้นไม้อีกแล้วน่ะ แกเป็นแมวภาษาอะไรเนี่ย"
"เหมี้ยว~ '^' "
"อึก.. ย้าส์! อย่าร้องแบบนั้นได้ไหม รู้แล้วๆ จะปีนขึ้นไปช่วยเดี๋ยวนี้ล่ะ.. เฮ้อ.. แต่ฉันลงมาไม่ได้น่ะสิ แถวนี้ไม่มีใครอยู่ด้วย วันนี้จื่อฝานคงไม่มาที่นี่.. ช่างเถอะ" มือเล็กตะคุบลงบนกิ่งไม้พยามปีนขึ้นไปบนยอดที่มีเจ้าเหมี้ยวนั่งกระวนอยู่ "บ้าเอ้ย กระโปรงยาวแล้วมันปีนยากนะ"
"เหมี้ยว~"
"รู้แล้ว กำลังไปช่วยแล้วครับคุณเจ้านาย~"
ร่างปีนป่ายด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ แบบเดียวกับครั้งที่แล้ว ขณะเดียวกันนั้น ฝีเท้าเดินอย่างมั่นคงค่อยๆ เดินมายังสวนด้านในก่อนหยุดชะงักยืนมองอีกฝ่ายจากที่ไกลๆ "....."
"เย่! จับตัวได้แล้ว"
มือทั้งสองข้างอุ้มร่างท้วมของเจ้าแมวเจ้าปัญหาที่นำปัญหามาให้ ก่อนชูร่างยกสูงขึ้นแล้วเอาหน้าซุกไซร้ลงบนพุงอ้วนๆ ของมัน "เอาล่ะ เรามาติดอยู่บนต้นไม้ด้วยกันนะ ฮ่า ฮ่า" ใบหน้าขาวซีดจ้องมองลงไปยังพื้นเบื้องล่างที่สูงปรี๊ด "ตกลงไปขาหักแน่เลย.. เอาเถอะ เดี๋ยวเจอผู้โชคดีค่อยเรียกให้มาช่วยก็ได้ เน้อะเจ้านายอ้วน"
"เหมี้ยว~"
"อ่ะ.. เวรกรรม ชายกระโปรงติดกิ่งไม้" มือก้มจับชายกระโปรงสะบัดเบาๆ เพื่อให้กิ่งไม้ที่เกี่ยวพันหลุดออก แต่กลายเป็นว่ายิ่งสลัดให้แยกจากกัน ชายกระโปรงกลับยิ่งเกี่ยวกับกิ่งไม้อันอื่นเข้าไปเพิ่ม "เว้ยย อย่ามาติดแบบนี้สิ ถ้ากระโปรงขาดขึ้นมา คนอื่นได้เห็นขาอ่อนแสนสุภาพบุรุษในชุดคุณหนูกันพอดี ย๊าก! จงหลุดจงหลุด"
มือเขย่าชายกระโปรงอย่าสุดความสามารถ และแน่นอนว่าความพยายามนั้นไม่ได้สูญเปล่า ชายกระโปรงหลุดออกจากกิ่งไม้ในที่สุด ร่างรีบพยุงตัวขึ้นหลังจากหลุดพ้นจากความยากลำบาก
"อึก.. เหว๋อ! " แต่ด้วยความรีบจนเกินไปทำให้น้ำหนักจากแผ่นหลังใส่ลงมาเต็มทีจนทรงตัวไม่อยู่
"ว๊าก!!!" ร่างร่วงตกลงมาจากต้นไม้สูงพร้อมในมือที่กอดร่างเจ้าแมวไว้แน่น "ตายแล้วๆ ตายแน่ๆ! "
"ตุบ!"
"อ๊ากกกก เจ็บหลังจังเลย หลังหักแล้ว หลังหักแน่ๆ เจ็บๆ ว๊ากกก!" จือหานกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหลังจากรู้สึกถึงร่างที่กระทบลงกับอะไรสักอย่าง แต่มันกลับกลายเป็นความรู้สึกเบาลงแทนความเจ็บปวด
"หมอน ฉันตกลงบนหมอน....อึก.." แววตาเบิกกว้างจ้องมองใบหน้าเรียบนิ่งที่ทั้งสองมือของเขากำลังอุ้มร่างตนเองไว้อยู่ "ท..ท่านจ..จื่อฝาน..."
"......" สีหน้าทำอะไรไม่ถูกได้แต่กอดแมวที่อยู่ในมืออย่างเกร็งๆ พร้อมกับที่อีกฝ่ายเอาแต่ยืนอุ้มจ้องหน้าโดยไม่พูดอะไร "เอ่อ...ค..คือว่า..ข...ขอ..."
".....หนัก"
"ห..ห้ะ? อั๊ก!" มือหนาโยนร่างลงพื้นก้นจ้ำเบ้าเต็มแรง "โอ๊ย! อึก..อ้า! เจ็บๆ นี่! ท่านจื่อฝาน ท่านเป็นบ้าอะไรเนี่ย หนักก็วางดีๆสิ จะโยนข้าทำไม! อู้ย..." ร่างพยุงตัวขึ้นลูบก้นตัวเองช้าๆ
"...น่ารำคาญ"
"ชิ" ริมฝีปากบูดบึ้งพองแก้มเล็กน้อยจ้องจื่อฝานอย่างไม่ค่อยพอใจ แต่แล้วสายตาก็ค่อยๆ หรี่ลงเหมือนกำลังนึกอะไรออก "นี่ท่าน ข้ามีไรจะให้ด้วยแหละ"
"ไร้สาระ"
"ชิ ไม่เอาก็ไม่เอา"
"อะไรล่ะ?" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบพร้อมกับใบหน้ายกยิ้มของจือหานที่ดูเหมือกำลังสนุกอะไรสักอย่าง "ยื่นมือมาสิ" มือเรียวยาวค่อยๆ ยื่นมือส่งให้อย่างว่าง่าย ริมฝีปากฉีกยิ้มหัวเราะเล็กน้อยก่อนค่อยๆ วางคางตัวเองลงบนฝ่ามืออีกฝ่ายเบาๆ
"!"
"ข้าไง เอาไปสิ~" มือหนารีบชักออกอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเหมือนกำลังหงุดหงิด "ฮ่า ฮ่า ดูสิ ท่านหน้าแดงด้วยล่ะ คิคิ ฮ่า ฮ่า" มือกำไว้แน่นเพื่อไม่ให้โมโหมากเกินไป ขณะที่อีกฝ่ายกลับปล่อยหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย "เงียบ"
"คิคิ ท่านน่ารักจัง ฮ่า ฮ่า"
"เจ้า!"
"ฮ่า ฮ่า ฮื้อ... โอเคๆ ฮิฮิ ไม่หัวเราะแล้วก็ได้.... เฮ้อ...อึก! พรวด! ฮ่า ฮ่า โอ๊ยข้ากลั้นขำไม่ได้อ่ะ ฮ่า ฮ่า"
"ถ้าไม่หยุดหัวเราะแล้วอยู่เงียบๆ เจ้าก็ออกไปซะ" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบขยับตัวนั่งอิงใต้ต้นไม้พร้อมในมือยกขลุ่ยขึ้นมาใกล้ริมฝีปาก
"อ้ะ..." ไม่ทันได้เอ่ยตอบ เสียงดนตรีเริ่มบรรเลงดังขึ้นอย่างอ่อนโยนเป็นทำนองที่เข้ากับเสียงของสายน้ำที่ไหลเชี่ยว "..ว้าว.." มือกุมแมวไว้แน่น ร่างเล็กรีบขยับตัวลงนั่งใต้ต้นไม้ข้างๆ อีกฝ่ายพร้อมเงียหูฟังอย่างว่าง่าย "เสียงขลุ่ยของท่านนุ่มดีจัง" ใบหน้าหลับตาพริ้มฟังเสียงขลุ่ยที่ทำนองฟังดูเงียบสงบแต่เต็มไปด้วยความโดดเดี่ยว "ทำนองยังกับโดนบอกเลิกหรือแฟนคบชู้งั้นแหละ"
"....."
"ท่าน"
"...."
"ข้าฮัมเพลงประสานกับท่านได้ไหม?"
"...." ใบหน้าบูดบึ้งหลังจากอีกฝ่ายไม่ยอมตอบอะไรกลับมา พลางลูบหัวเจ้าแมวที่ตอนนี้นอนหลับอยู่บนตักของจือหาน "แล้วแต่เจ้า..." เสียงเอ่ยตอบแผ่วเบาขณะเริ่มเปล่าต่อเสียงทำนองของมันไม่ให้ขาดช่วง ริมฝีปากฉีกยิ้มจ้องมองท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าสะท้อนลงมาในแม่น้ำก่อนหลับตาพริ้มฮัมเพลงเบาๆ
สายลมพัดโบกเอาความเย็นผันผ่านไป เสียงขลุ่ยผสานเข้ากับทำนองที่อีกฝ่ายฮัมเบาๆ ไม่อาจคาดเดาว่าเวลาผ่านไปนานนับตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่กลับกลายเป็นเสียงขลุ่ยที่เป่าอยู่เพียงเสียงเดียวอย่างลำพัง
"ตุบ.."
".....? " หันมองเล็กน้อย จ้องมองอีกฝ่ายที่ผลอยหลับเอนศีรษะลงมาแนบไหล่ตนเอง ก่อนเสียงขลุ่ยจะค่อยๆ เงียบลง จื่อฝานยังคงจ้องมองใบหน้านั้นที่ยังหลับไร้การโต้ตอบแม้เสียงดนตรีจะหายไปแล้ว สายตาดูโดดเดี่ยวมือกำขลุ่ยเลานั้นแน่นยากที่จะหาคำตอบ นิ้วมือไล่ลูบลงบนปอยผมเล็กน้อยแต่รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนที่ไม่ค่อยได้เห็นจากเขานัก
"....โกหกข้าไม่ได้หรอก เฉินจือหาน"
ร่างค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจ้องมองใบหน้านั่นชั่วครู่พลางถอดเสื้อคลุมของตนเองคลุมร่างอีกฝ่ายไม่ให้ถูกกับลมมากจนเกินไป ฝีเท้าเดินก้าวออกไปจากสวนเพียงลำพัง ทิ้งไว้เพียงเสียงของสายลมที่ยังคงพัดออกไปอย่างแผ่วเบา