“ เด็กเอ็น ! ”
“ PR สาวสวย ! เฮียเบา ๆ สิ เดี๋ยวคนก็ได้ยินหมด ”
เช้าวันนี้เป็นวันแรกของการทำงานร่วมกับเลขาคนใหม่อย่างมีน โดยมีแนนพาเจ้าตัวเดินแนะนำไปทั่วออฟฟิศ ว่าต่อไปนี้มีนจะมาช่วยงานเฮียกวงในฐานะ ‘ ซ้อ ’ ฟังไม่ผิด เพราะทุกคนอ้าปากค้างกันทั้งแผนก โดยเฉพาะพวกสาว ๆ ที่เสียดายความโสด หล่อ รวย ของเจ้านาย
หลังตระเวนโชว์ตัวจนทั่วทุกชั้นแล้ว หน้าที่แรกของมีนในวันนี้คือถ่ายเอกสารหน้าสมุดบัญชีของบริษัททุกหน้า ไว้สำหรับการยื่นกู้สร้างโปรเจคกล้วยอบธัญพืชของโรงงาน เมื่อเห็นว่ามีนกำลังง่วนอยู่กับงานในห้องทำงานของแนน กวงจึงกวักมือเรียกเอาไอ้เลขาคนเก่าตัวดี เข้ามาคุยในห้องของตัวเองที่กั้นด้วยกระจกใส แต่ยังมองเห็นคนที่ถูกนินทาไปด้วยเต็มตา
มีนในวันนี้แต่งหน้าอ่อน ๆ อยู่ในชุดเดรสทำงานสุภาพ คลุมทับด้วยเสื้อสูทสีครีม แต่งตัวมีกาลเทศะโดยไม่ต้องให้กวงเป็นกังวล และไม่มีภาพลักษณ์ของคนทำงานกลางคืนแม้แต่น้อย
“ กระจกห้องหนาขนาดนี้ใครจะได้ยิน ”
“ ก็ไม่ต้องตะโกนไหมล่ะเฮีย ”
“ แล้วคิดยังไงไปหาเด็กแบบนี้มา ”
กวงถอนหายใจ เขาก็ผู้ชายคนหนึ่ง ผับบาร์สถานที่อโคจรก็ไปใช้บริการอยู่บ่อยครั้ง เด็กเอ็นเด็กดริ้งก็เคยเรียกใช้จนชิน แต่ไม่คิดว่าไอ้แนนมันจะไปหาอะไรแบบนี้มาให้ ส่วนตัวเขาไม่ได้มีปัญหากับอาชีพกลางคืน แต่อย่างที่บอกว่าคนอย่างไอ้กวงถ้าลงสนามแข่งมันต้องชนะเท่านั้น
วันดีคืนดีถ้ามีคนรู้อาชีพเก่าของเมียอัตราจ้าง คนที่จะโดนคำพูดถากถางมันทั้งกวงเอง พ่อแม่กวง รวมถึงมีนด้วย นั่นคือสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิด แค่นึกถึงฝีปากกรรไกรของอี๊สุ่ยก็ขนลุกแล้ว
“ แล้วน้องเขาทำงานดีไหมคะ ? ”
“ ก็ดี ”
“ แล้วเฮียมีปัญหาอะไรอีกคะ ? ”
“ เอ้า ? ”
กวงยกข้อมือที่สวมนาฬิกาเรือนแพงขึ้นมาเสยผม วันนี้ไม่ใช่เขา แต่เป็นไอ้แนนที่ครองร่างสตรีมีเมนส์เหรอวะ ถามนิดถามหน่อยก็ไม่ได้ นี่มันเรื่องคอขาดบาดตายอยู่นะ
“ ก็กลัวว่าความจะแตก เดี๋ยวจะมีปัญหา ”
“ แนนสัมภาษณ์มาหมดแล้วค่ะเฮีย ถึงเฮียจะให้เวลาแนนเฟ้นหาน้อยยิ่งกว่าไฟแดงลาดพร้าวก็ตาม ”
“ สัมว่า ? ”
“ น้องเขาเคยทำ PR ตั้งแต่สมัยอายุ 20 ต้น ๆ เน้นบินไปทำที่ต่างประเทศเพราะได้เงินเยอะกว่า แล้วก็ไม่อยากให้ใครรู้ด้วยว่าทำงานอะไร เพราะวงสังคมพ่อแม่น้องก็กว้างขวาง ”
เลขาสาวถอนหายใจด้วยความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ แนนไม่อยากจะตัดสินว่าทำไมน้องมีนไม่ได้ทำงานนั้น หรืองานนี้ เพราะงานมันมีให้ทำเยอะแยะมากมาย เธอเองก็ไม่ได้ไปยืนอยู่ในจุดที่เสียพ่อแม่ไปจนไม่เหลือใคร แล้วต้องปากกัดตีนถีบส่งตัวเองเรียนแบบนั้น ถ้ามัวมาทำงานค่าแรงวันละ 300 บาท มันพอที่ไหน
“ แล้วพออายุ 26 ก็ไม่ได้ทำแล้ว ลาวงการมาเป็นเอเจนซี่ที่ประสานงานให้พวกรุ่นน้อง ”
“ .... ”
“ เจ้าตัวเขาระวังชื่อเสียงตัวเองยิ่งกว่าเฮียอีกมั้ง และเรื่องนี้เขาขอว่าเป็นความลับ ”
กวงพยักหน้าเห็นด้วย อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็อย่าไปขุดมันขึ้นมาพูดถึงอีก คนเราเกิดมามันก็มีด้านมืดด้านสว่างกันทุกคน เขาเองก็ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีเลิศอะไรขนาดนั้น เลี้ยงเด็กเพื่อเป็นตัวแทนแฟนเก่าก็ทำมาแล้ว
“ ก็แล้วไป เฮียก็อยากรู้แค่นั้น ”
เรียวขายาวเจ้าของความสูง 182 เซนติเมตรในกางเกงสแล็ค นั่งไขว่ห้างกระดิกเท้าไปมา คิดคำนวณว่าอีกกี่วันจะถึงวันนัดรวมญาติครั้งใหม่ เผื่อว่าครั้งนี้กวงจะเป็นคนเลือกร้านและออกตังค์เอง เพราะร้านครั้งก่อนโต๊ะแออัดกับจำนวนสมาชิกในครอบครัวเกินไป และเขาไม่อยากนั่งใกล้อี๊สุ่ยกับน้องสะใภ้สักเท่าไหร่
“ แล้วเที่ยงนี้เฮียจะกินอะไรคะ เดี๋ยวแนนสั่งของเฮียกับซ้อทีเดียวเลย ”
“ คล่องปากจังวะ ”
กวงเอ่ยดุเลขาที่มันยืนทำหน้าทำตายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ล้อเลียน เข้าสู่วันที่สองแล้วเขายังไม่ชินที่มีนเรียกเฮีย แล้วคนอื่นเรียกมีนว่าซ้อเลย รู้สึกมวนท้องทุกครั้งที่ได้ยิน ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะมีวันนี้ แล้วนี่ไอ้พวกนี้มันพากันเรียกแบบไม่ตะขิดตะขวงใจได้ยังไง
“ ทำหน้าให้มันเหมือนคนมีเมียหน่อยค่ะเฮีย ”
“ หน้ายังไง ? ”
“ หน้าแป๊ะยิ้ม หน้ามีความสุข หน้ามีเมียเด็ก ”
“ กูก็ยังไม่แก่ เตะปิ๊บก็ดัง เตะมึงก็ได้ ”
เลขาสาวหัวเราะร่า อีกเรื่องที่ทำเฮียกวงวีนได้ง่าย ๆ คือเรื่องอายุ 39 ปีของเจ้าตัว ใคร ๆ ได้ยินก็ว่าวัยกลางคน แต่เจ้าตัวยืนยันว่ายังวัยรุ่นอยู่ เรี่ยวแรงยังดี หน้าตาก็ด้วย
“ ไม่ต้องสั่งมาหรอก ว่าจะพามีนไปหาอะไรกินข้างนอก ”
“ โอ๊ยยย รำคาญคนมีเมีย ! ทุกทีเห็นสิงอยู่แต่ในห้อง พอมีเมียแล้วจะไปกินข้างนอก ”
“ อิจฉาก็ไปหาผัวดิ ”
กวงว่าเท่านั้นก็ลุกยืนขึ้นเต็มความสูง คว้าเอากุญแจรถ BMW i7 คันโปรดขึ้นมาควง ก่อนผลักบานประตูออกไปบอกให้มีนหยุดมือจากงานที่ทำก่อน แนนได้แต่กอดอกยืนมองภาพที่ไม่คุ้นตาด้วยความเอ็นดู
ระวังเถอะตาแก่เย็นชา เดี๋ยวเมียเด็กจะเล่นงานเอา...
ร้านอาหารจีนที่พึ่งเปิดใหม่เป็นตัวเลือกที่กวงพาเมียอัตราจ้างมาทานมื้อเที่ยงด้วยกัน บรรยากาศภายในกว้างขวาง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้โทนจีนประดับม่านสีแดง มีทั้งโซนนั่งทานทั่วไปและห้องวีไอพี
“ ลูกค้ามาสองท่านนะคะ ”
“ ครับ ”
“ อ้าว บังเอิญจริงอากวง ”
เมื่อมีเสียงคนนอกทักทายมาจากด้านหลัง ร่างกายของคนสองคนก็เหมือนกับว่าเคลื่อนเข้าหากันโดยอัตโนมัติ ในสัญญามีเขียนไว้ชัดเจน ว่าเมื่อใดก็ตามที่บังเอิญเจอญาติโยมขึ้นต้นเรียกด้วยคำว่าอากวง มีนต้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที กวงโอบเอวพามีนหันกลับหลัง ในขณะที่มีนก็ยิ้มหวานยกมือไหว้ผู้ใหญ่
“ หวัดดีครับอี๊ ”
“ สวัสดีค่ะอี๊สุ่ย ”
เมียมืออาชีพยังทำหน้าที่ได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย ด้วยการจดจำญาติกวงไว้ได้ครบทุกคน เทรนข้อมูลโดยเลขาแนนคนเดิม ชายหนุ่มจึงยกยิ้มพึงพอใจ
“ เออ หวัดดี ๆ นี่ใครเหรออากวง ? ”
หญิงสูงวัยที่จูงมือหลานชายสองคนวัยมัธยมต้น ไล่สายตามองมีนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และจับตามองเป็นพิเศษกับฝ่ามือใหญ่ของหลานชายที่วางแปะอยู่ตรงเอวคอดเว้า ในขณะที่กวงกำลังรับไหว้จากหลาน ๆ
“ แฟนกวงครับ ชื่อน้องมีน ”
“ อายุเท่าไหร่ล่ะ ? ”
“ 28 ปี ค่ะอี๊ ”
“ นี่เหรออากวงที่ลื้อโม้ ไม่ใช่ว่าคบเด็กแล้วไปกันไม่รอดนา แต่ง ๆ เลิก ๆ อี๊ใส่ซองให้ลื้อแสนเดียวพอ ”
มีนคิ้วกระตุก คนคบกัน (ปลอม ๆ) ยังไม่ทันครบอาทิตย์ มาดูถูกว่าจะเลิกกันแล้ว อายุมีนห่างจากคุณกวง 11 ปีก็จริง แต่เธอไม่ใช่เด็กสาววัยใสที่จะคบใครแล้วเทง่าย ๆ อายุจะเข้า 30 ปีแล้ว ถ้าคบใครคงจริงจังวางแผนอนาคตร่วมกันแน่นอน
“ ไม่เลิกง่ายหรอกครับอี๊ กวงพึ่งพาน้องไปหาป๊าม๊าเมื่อวาน นี่ก็มาดูว่าร้านนี้ห้องวีไอพีใหญ่ไหม เผื่อนัดรวมญาติแนะนำให้ทุกคนรู้จัก แล้วนี่อี๊มากับหลานเหรอ ? ”
“ อาพิมอีวนรถหาที่จอดรถอยู่ เจอกันก็ดี มื้อนี้ให้ลื้อจ่าย ”
ชายหนุ่มยิ้มแห้ง เรื่องจ่ายไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือไม่ได้อยากจะร่วมโต๊ะกับป้าและน้องสะใภ้แต่แรก แต่มาถึงตอนนี้กวงก็คงยากจะเลี่ยงแล้ว
“ ขอโต๊ะสำหรับ 6 ที่ครับ ”
“ ได้ค่ะลูกค้า เชิญทางนี้ค่ะ ”
ร่างสูงเดินจับมือคู่มากับมีน มีอี๊สุ่ยและหลานสองคนเดินมาตามหลัง สักพักจึงเป็นน้องสะใภ้อย่างพิมที่เห็นหลังไว ๆ ของแม่สามีและลูกชายจึงตามมาสมทบ ไม่ทันได้มองว่ามีใครมากับกวงด้วย
“ อ้าว สวัสดีค่ะเฮีย ”
“ อืม ”
“ แล้วนี่... ”
“ น้องมีน เมียเฮีย ”
“ สวัสดีค่ะพี่พิม ”
มีนยกมือไหว้น้องสะใภ้ที่อายุมากกว่าเธอ 9 ปี อีกฝ่ายดูตกใจแต่ก็รับไหว้ ก่อนนั่งลงในตำแหน่งว่างข้างขวามือของพี่เขย สายตาของมีนจับตามองบรรยากาศรอบตัว ดูท่าคุณกวงจะไม่ลงรอยกับคุณป้าและน้องสะใภ้เท่าไหร่ กับหลาน ๆ ก็ดูห่างเหิน
“ แล้วอย่างนี้พวกลื้อมีแพลนจะแต่งกันเมื่อไหร่ แต่งที่ไหน ”
“ เร็ว ๆ นี้แหละครับอี๊ กวงก็จะสี่สิบปีหน้าแล้ว ส่วนงานก็เดี๋ยวให้ม๊าดูแลเรื่องสถานที่ ระดับคุณนายหลินเขาก็จัดใหญ่อยู่แล้ว อี๊ใส่สามล้านจะพอเหรอ ใส่สักห้าล้านสิ เจ้าของโรงสีเลยนาาา ”
สาวสูงวัยถลึงตามองหลานชาย เดี๋ยวนี้ปากคอมันเราะร้ายขึ้นมาก รู้จุดอ่อนว่าป้ามันเสียหน้าไม่ได้ มันก็ยิ่งพูดจากวนโทสะไปอีก !
“ แล้วลื้อจะมีลูกเลยไหม ยังมีไหวรึเปล่า ลูกอาไผ่อาพิมปีนี้ม.ต้นแล้ว ”
“ ว่าไงคะน้องมีน อี๊ถามว่าจะมีลูกเลยไหม ? ”
คุณกวงไม่ตอบคำถาม แต่โยนคำถามนั้นมาให้มีนตอบแทน อันที่จริงข้อนี้ก็มีในสัญญาเช่นกัน พวกเราต้องจัดงานแต่งงานจริง ๆ แต่ไม่จดทะเบียนสมรส งานอาจจะยิ่งใหญ่หน่อย ด้วยหน้าตาทางธุรกิจของครอบครัวหลี่เจริญ โดยรวมมีนมองว่าสมัยนี้คนไม่มาสนใจเรื่องผู้หญิงที่เคยแต่งงานมีสามีกันแล้ว เลยคิดว่าออกงานกับเขาสามปี ก็ไม่ได้เป็นระยะเวลาที่ดูน่าเกลียด ถ้าวันหนึ่งจะแยกทางกันไป แล้วต่างคนต่างมีชีวิตครอบครัวใหม่ ขอเพียงเรื่องบนเตียงที่ตกลงกันไว้ว่าจะไม่ก้าวก่าย ยังคงเป็นไปตามนั้นก็พอ
“ มีเลยสิคะ เฮียยังหนุ่มยังแน่นนะ ”
ภรรยามืออาชีพตอบเอาใจสามีอย่างรู้งาน ไม่ให้ต้องเสียหน้าต่อหน้าคุณป้าจอมบงการ แถมด้วยรอยยิ้มเอียงอายไปอีกหนึ่งครั้งพอให้ดูน่ารักสมจริง
“ เห็นไหมอี๊ น้องมีนคอนเฟริมว่ากวงยังหนุ่มยังแน่น ”
“ มีให้มันทันใช้ก็แล้วกัน ”
หญิงสูงวัยว่า ก่อนจะถูกขัดจังหวะด้วยบรรดาอาหารที่นำมาเสิร์ฟเรียงราย เมื่อครบแล้วกวงจึงเป็นคนคีบปลานึ่งซีอิ๋วหนึ่งคำลงบนจานของอี๊สุ่ยก่อนเป็นคนแรก เมื่อผู้อาวุโสกินแล้วคนอื่นจึงจะเริ่มกินได้
แก๊ก !
เสียงตะเกียบไม้เนื้อดีบังเอิญชนกันกลางอากาศเหนือจานว่างเปล่าของกวง มีนตกใจเล็กน้อย เธอคีบหมูทอดกระเทียมหนึ่งชิ้นตั้งใจจะวางลงที่จานสามีในนาม แต่บังเอิญชนเข้ากับตะเกียบของน้องสะใภ้ ที่คีบปลาหมึกผัดไข่เค็มมาจากอีกฝั่งเช่นกัน
“ เฮียกวงไม่กินกระเทียมนะคะน้องมีน ”
“ อ๋อ...ค่ะ... ”
ข้อนี้มีนไม่รู้ เธอว่าเธอก็จำข้อมูลของเขาเอาไว้ได้หมดแล้ว บางทีพี่แนนอาจจะลืม แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เขาไม่กินมีนก็กินเอง เพียงแค่หงุดหงิดใจที่หน้าที่มันขาดตกบกพร่องไปเท่านั้น
“ วางลงเถอะ เฮียกำลังหัดกินกระเทียม ”
“ .... ”
“ เมียคีบอะไรให้ก็อร่อยหมดอ่ะ ”
ชิ้นหมูทอดกระเทียมถูกวางลงข้างชิ้นปลาหมึกผัดไข่เค็มของน้องสะใภ้ อันที่จริงถ้าเขาไม่กินก็ไม่เป็นไรจริง ๆ แต่นี่เขาคีบกินด้วยสีหน้าสบาย ๆ แล้วยังถนอมน้ำใจมีนไม่ให้เสียหน้าอีกด้วย หญิงสาวจึงรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย ทยอยคีบอาหารอย่างอื่นเพิ่มให้เขาอีกเรื่อย ๆ สลับกับตอบคำถามที่ถามถี่ยิ่งกว่าสัมภาษณ์งานของอี๊สุ่ย
ส่วนมากก็คำถามเดิม ๆ ที่มีนเตรียมตัวมาดีแล้ว เช่นพวกลูกเต้าเหล่าใคร เรียนจบจากที่ไหน พ่อแม่ทำงานอะไร แล้วตัวมีนทำงานอะไร มีรายได้เท่าไหร่ต่อเดือน
“ ไอ้หยา ผู้หญิงมัวแต่ทำงานแล้วจะดูแลผัวยังไง ดูอาพิมนี่ดูแลป๊าม๊า ลูกเต้าก็วิ่งรับส่ง ”
มีนได้แต่ยิ้มรับ ทรงนี้มีงานทำก็ผิด ไม่มีงานทำก็จะผิดอยู่ดี เธอเลยไม่ถือสา เพราะคงไม่มีใครดีเท่าลูกสะใภ้ของอี๊สุ่ยแล้วล่ะ
“ ตอนนี้มีนมาทำงานเป็นเลขาให้เฮียที่ออฟฟิศ ดูแลกันจนเบื่อเลยค่ะอี๊ อีกหน่อยมีลูกค่อยว่ากันค่ะ ”
“ เลขงเลขาอะไร งานบริษัทผัว ลื้อก็ไม่ต้องยุ่งมากหรอก ”
เป็นอีกครั้งที่เมียมืออาชีพยิ้มรับ ญาติสามีในนามท่านนี้พูดจาไม่เข้าหูเอาเสียเลย เป็นคนประเภทแก่แล้วแก่เลย ขนาดเจอกันครั้งแรกยังขนาดนี้ นานไปจะขนาดไหน
“ ไม่ได้หรอกค่ะอี๊ พ่อแม่มีนบอกว่าเป็นผู้หญิงต้องทำตัวให้มีคุณค่า อย่าเกาะผัวกินไปวัน ๆ เราต้องมีเงินเป็นของตัวเอง วันไหนผัวมันไม่รักดีไปมีเมียน้อย... ”
“ .... ”
“ จะได้เชิดหน้าไปหาผัวใหม่ค่ะ ”
ข้อมูลนี้ลับสุดยอด...
เลขาแนนกระซิบมาว่าลูกชายอี๊สุ่ยเหลวเป๋วมาก ฉลาดหลักแหลม แต่ก็ขี้เกียจ กินเที่ยวใช้สมบัติที่บ้าน เอาเงินไปบำเรอเมียน้อยเป็นว่าเล่น ถึงอย่างนั้นก็เป็นลูกชายที่อี๊สุ่ยภูมิใจสุด ๆ และคอยนำมาเปรียบเทียบเฮียกวงทุกครั้งที่มีโอกาส ส่วนน้องสะใภ้เองก็ไม่เคยทำงาน ใช้เงินจากบ้านสามีอีกที หลายครั้งที่ร้องห่มร้องไห้มาระบายเรื่องหนักใจกับพี่เขยที่ออฟฟิศ
“ โชคดีนะคะที่เฮียกวงไม่ใช้พวกมักมากมีเมียน้อย ใช่ไหมคะเฮีย ? ”
“ ครับ.. ”