งามล่มเมือง
ผ่านพ้นไปอีกร่วมสัปดาห์ นับจากวันเกิดเหตุถ้ำมองโรคจิตปีนขึ้นหลังคาจวนเล็กบริเวณห้องอาบน้ำ บ่าวรับใช้ต่างนินทากันสนุกปากขึ้น เมื่อได้รู้ว่าชายชั่วผู้นั้นเพียงมาแอบดูหญิงอัปลักษณ์เปลือยกาย ซ่งลี่จินเจ็บแค้นในอกไม่น้อย แต่ทำได้เพียงเก็บตัวเงียบไม่สนใจเสียงหมูเสียงหมา ยังดีว่าความรู้ถึงสามี เขายังอุตส่าห์ใจดีส่งคนมาซ่อมรูโหว่ตรงหลังคาจวนให้
" คุณหนูโหมใช้แรงมากไปหรือไม่เจ้าคะ..."
" จริงด้วยเจ้าค่ะ คุณหนูรับสำรับเพียงผักกับหัวมันเล็กน้อย แต่กลับยกของหนักหลายชั่วยาม.."
มือขาวอวบที่ประดับรอยแผลเป็นจาง ๆ ยกไหดินเผาบรรจุน้ำเต็มไหขึ้นลง สลับกับค้างไว้ในท่ากางขาแอ่นสะโพกผาย ดูแล้วไม่งามยิ่งนักหากใครอื่นในจวนนี้มาพบเห็นเข้า จำได้ว่าครั้งแรกที่ลี่จินออกกำลังกายท่า สควอทปั้นก้นงอนงาม เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอ้ายกรีดร้องเสียแทบเป็นลม
" เล็กน้อยเท่านั้น...ฉัน...ข้าก็อยากเป็นสาวงามเหมือนกันนะ..ฮึ่บ..."
แน่ล่ะ ! ถึงจะไม่งามจนล่มเมืองเหมือนองค์หญิงหก แต่ศักดิ์ศรีของนางแบบระดับโลก เธอจะไม่ยอมให้ใครมาซุบซิบนินทาว่าเป็นหญิงอัปลักษณ์แน่ ! เดิมทีเจ้าของร่างนี้คงถูกเลี้ยงดูมาอย่างสุขสบายเกินไป ป่วยออดแอดก็เรียกหมอหลวง เน้นรักษาเพียงการกินยาต้ม ร่างกายไม่ได้รับโภชนาการและการออกกำลังที่ดี โดยรวมจึงกลายเป็นคนป่วยเรื้อรังสมบูรณ์แบบเช่นนี้
ผิดกับสตรีงามนางหนึ่ง ที่มาปรากฏกายแนะนำตนถึงจวนเล็กเมื่อหลายวันก่อน ร่างบางอรชร ผิวขาวราวหิมะ ผมดำยาวสลวยประดับด้วยปิ่นดอกเหมยเรียบง่าย ชุดแต่งกายสีฟ้าอ่อนเนื้อผ้าที่ชาวบ้านธรรมดาคงไม่มีปัญญาสวมใส่ ดูแล้วราวเทพเซียนเสด็จมาจุติ บ่าวไพร่ต่างตื่นเต้นคุกเข่าแนบพื้นกันแทบไม่ทัน หากแต่คนในวงการบันเทิงเห็นคนสวยหล่อมามากเช่นซ่งลี่จินกลับไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอะไรนัก
ก็งามแต่ไม่ได้ปานนั้น...
นี่คงงามมากแล้วสำหรับพันปีก่อน
ที่แน่นอนคือสตรีที่ยังไม่ทันแต่งงาน แต่ถือวิสาสะมาเดินเยี่ยมชมจวนว่าที่สามีเนี่ยสิ..
งามแล้วหรือ ?
' ท่านคงเป็นฮูหยินใหญ่ '
เสียงที่นุ่มนวลแช่มช้า เอ่ยทักลี่จินที่กำลังนั่งแช่เท้าในน้ำอุ่นยามบ่าย ในเมื่อมาโดยไม่ได้บอกกล่าว นอกจากสองสาวใช้คนสนิทที่รีบยอบกายลงแล้ว ลี่จินก็ยังคงนั่งแช่เท้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นึกย้อนดูก็เสียวสันคอวาบ..นั่นองค์หญิงเชียวนา..
' คารวะองค์หญิงหกขออภัยที่ฉัน..เอ้อ..หม่อมฉันเสียมารยาท ร่างกายอ่อนแอลุกนั่งไม่สะดวก '
' ไม่เป็นไรข้าไม่ถือสาพี่หญิง อีกหน่อยก็นับว่าต้องให้พี่หญิงช่วยชี้แนะแล้ว '
ชี้แนะ ? ชี้แนะอะไรกัน หน้าสามีนางยังไม่เคยเห็นแม้แต่เงา ในจวนก็มีแม่นมท่านแม่ทัพดูแลแทนทุกอย่าง เรียกได้ว่าไม่เปิดโอกาสให้ลี่จินได้เป็นฮูหยินของจวนเสียด้วยซ้ำ ทั้งยังมอบเบี้ยหวัดรายเดือนให้เพียงครึ่งเดียวจากคำสั่งท่านแม่ทัพ แต่ก็ช่างปะไร สินเดิมที่ทางบ้านมอบให้ กินใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด โชคดีจริง ๆ ที่ยังได้มาเกิดใหม่ในร่างคนรวย
' หม่อมฉันยังไม่เคยแม้แต่ปรนนิบัติท่านแม่ทัพ คงมิบังอาจชี้แนะเพคะ '
เมื่อได้รับคำตอบที่พออกพอใจแล้ว แม่สาวงามก็ส่งยิ้มพร้อมย้ายกายออกจากจวนเล็กหลังเก่าแต่โดยดี นี่สินะวิธีเอาตัวรอดในจวนแห่งนี้ ไม่มีปาก ไม่มีเสียง อยู่อย่างไม่มีตัวตนเข้าไว้ ผู้ใดก็คงคิดว่าเธอไม่อาจงอกเงยขึ้นมาทำอะไรได้
เท่านี้ก็สงบสุขแล้ว
รอแค่วันได้พบท่านแม่ทัพแล้วขอหย่ากับเขาไปซะก็สิ้นเรื่อง !
" ท่านแม่ทัพจะกลับจวนวันนี้แล้ว ไม่แจ้งข่าวให้แม่นมทราบหรือขอรับ "
" ทำไมต้องแจ้ง ? "
" ก็จะได้ปัดกวาดทำความสะอาดห้องท่านแม่ทัพ.."
สายตารำคาญถูกส่งผ่านจากบนหลังม้า มุ่งตรงสู่ทหารเอกที่เดินจูงม้ามาเคียงข้างกัน เขาเบื่อหน่ายนักกับความสู่รู้ไม่เป็นเวล่ำเวลาของอาซื่อ ยามนี้ห้องส่วนตัวในจวนของเขาคงไม่ส่วนตัวอีกต่อไปแล้ว เมื่อองค์หญิงหกให้นางกำนัลเทียวเข้าออกขนของใช้จากในวังมาจัดเตรียมก่อนงานแต่ง
จวนหลังเล็กของมารดาเขาต่างหากที่เป็นที่หมาย แม้บัดนี้จะตกทอดกลายเป็นของภรรยาเอกไปแล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเจ้าของจวน นางจะกล้าขัดหรือหากเขาจะพักอาศัย
" ข้าจะนอนที่จวนเล็ก "
" กับฮูหยินใหญ่น่ะหรือขอรับ ! "
อาซื่อเบิกตาโต มองนายเหนือหัวที่สะบัดกายลงจากหลังม้าด้วยท่วงท่าสง่าผ่าเผย ท่านแม่ทัพหรือก็รูปงามสมชายชาตรีปานนี้ เหตุใดแทนที่จะใจจดจ่อรอเข้าหอกับอนุแสนสวยถึงได้มุ่งไปหาฮูหยินอัปลักษณ์เสียได้ ! เขาชักจะเข้าใจท่านแม่นมขึ้นมาเสียแล้ว นางเองก็คงไม่ปลื้มนัก แต่มิอาจทำอันใดได้เช่นกันกับเขา !
" แปลกอย่างไร ? นางเป็นเมียข้าเหมือนกัน "
.
" ส่งคนไปแจ้งข่าวเตรียมสำรับเย็นและสุราที่จวนเล็ก "
" ขอรับ "
เรือนร่างสูงใหญ่เอ่ยจบก็หมุนกายมุ่งหน้าเข้าร้านผ้าไหมอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวงแคว้นต้าหลง ไม่ได้ให้ความสนใจทหารคู่กายที่ยังคงยืนตาค้างอยู่ที่เดิมอีก ใจนึกคิดแต่ว่าจะซื้อผ้าไหมสีชมพูอ่อนสักพับไปฝากภรรยา นางคงดีใจตามประสาสตรีกระมังหากสามีจะมอบของขวัญให้
ไม่ใช่ด้วยความเสน่หาฮูหยินใหญ่อะไรปานนั้น
แต่เพียงอยากสั่งสอนสาวงามล่มเมืองผู้หนึ่งให้รู้ไว้ว่า
ในเมื่อนางไม่ยอมแพ้ที่จะแต่งเข้าจวนเขา ยอมลดทอนศักดิ์ศรีอันสูงส่งมาเป็นอนุภรรยา
นางก็จะเป็นเพียงอนุภรรยาเท่านั้น