ตอนที่ 2.1 อย่างี่เง่า

1462 คำ
ตอนที่ 2.1 อย่างี่เง่า “นายให้มารับคุณเซลีนครับ” บอดีการ์ดหนุ่ม คนสนิทของรพีทัศน์ ว่าที่คู่หมั้นที่เพิ่งคุกเข่าขอเธอแต่งงานไปเมื่อไม่นาน...ที่สำคัญยังเป็นคนเดียวกับที่นัดเธอเมื่อเที่ยง...แล้วทิ้งให้เธอต้องรอ เจอกับเหตุไม่คาดฝันคนเดียวลำพัง เพียงเพื่อไปอยู่กับ....เพื่อนสนิทของเธอ! บอดี้การ์ดหนุ่ม เอ่ยกระซิบบอกเสียงเบา ระมัดระวังไม่อยากให้ใครในบริเวณนี้ได้ยิน ได้ยินเช่นนี้หัวใจหล่อนกลับเต้นแรงอย่างประหลาด ความเจ็บปวดที่หล่อนพยายามสะกดกลั้นเอาไว้กำลังกลับเข้ามาถาโถมหัวใจของเธออย่างหนัก พลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ใจจริงเธอนั้นยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเขาเลยสักนิด... คนรักที่หักหลังเธอได้อย่างเลือดเย็นที่สุด ! แม้ที่ผ่านมาเธอจะเคยยอมรับได้ เมื่อเขาเพิกเฉย ไม่ใส่ใจเธออย่างที่ควร อ้างเรื่องงานที่กำลังเพิ่งเริ่มต้น ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาใส่ใจ อ้างทุกอย่างที่คิดว่าจะเป็นข้ออ้าง...แม้กระทั่งข่าวลือหนาหูสารพัดว่าเขาแอบควงใครลับหลัง แต่เธอก็ยอมหลับหูหลับตา เพราะไม่เคยมีหลักฐาน ยอม...เพราะคำว่ารักคำเดียว ที่อำพรางสายตาเธอให้มืดบอด ยอมทนให้เขาทำร้ายเธอซ้ำ ๆ แต่ครั้งนี้...มันรุนแรงเกินกว่าที่ใจเธอจะรับไหว... เขากับผู้หญิงคนนั้น เพื่อนสนิทของเธอ! และเหมือนอีกฝ่ายจะเดาความคิดเธอในเวลานี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง “ผมมาคนเดียวครับ” ริมฝีปากบางขบเม้มแน่นอย่างใช้ความคิด “งั้น...เหรอคะ” “แล้วนายคุณให้มารับฉันไปที่ไหนเหรอคะ” “บ้านพักครับ คืนนี้คุณเซลีนคงจะขึ้นพักที่คอนโดนี้ไม่ได้แน่ กว่าจะตรวจสอบสภาพตึกเสร็จคงอีกนาน...นายเลยให้ผมมารับคุณไปนอนพักที่บ้านครับ” หญิงสาวได้ฟังเหตุผลนั้นนิ่งไปเล็กน้อย หากเป็นช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ความใส่ใจที่เขามีให้เธอคงจะตื้นตัน น้ำตาไหลด้วยความดีใจ ทว่า...ตอนนี้นั้น กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ลิญาณานิ่งคิดไปชั่วครู่ พลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เธอเองก็เหนื่อย เมื่อยล้า อยากจะพักเต็มทน “ค่ะ” “เชิญทางนี้ครับ” หล่อนพยักหน้า ทำทีรับรู้ ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แม้จะเจ็บแปลบบริเวณข้อเท้าจนเธอถึงกับนิ้วหน้า ซี๊ดปาดเบา ๆ แต่ก็เพียงแค่ครู่เดียว พยายามข่มความเจ็บปวด แต่เหมือนร่างกายที่มันรู้สึกเหนื่อยล้าอ่อนเพลียตลอดทั้งวัน จึงเกิดอาการวิงเวียนขึ้นมา ยืนเซไปเล็กน้อย “อุ้ยคุณเซลีน ไหวไหมคะ” ลูกบ้านที่นั่งอยู่ไม่ไกล เอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง ขณะที่เธอนั้นหันไปยิ้มบาง ๆ ให้กับหญิงคนนั้นพร้อมกับส่ายหน้า “ไม่เป็นอะไรค่ะ แค่ลุกเร็วไปหน่อย ขอบคุณนะคะ” “ค่า...เดินทางดี ๆ นะคะ” “ไหวหรือเปล่าครับ คุณเซลีน” ณภพสังเกตเห็นสีหน้าซีดเซียวของอีกฝ่าย นึกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย “ไหวค่ะ” ตอบรับเพียงเท่านั้น หล่อนพยายามตั้งสติ สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่แล้วค่อยเดินไปยังทิศทางดังกล่าวที่ ณภพ คนสนิทของเขาผายมือบอกไว้ก่อนหน้า รถอัลพาร์ด คันหรูสีดำมันเงาจอดอยู่ในมุมมืด ห่างไกลผู้คนพอสมควร ทว่า ทันทีที่เปิดประตูมองเข้ามาในรถนั้น กลับเห็นใครบางคนนั่งรออยู่ด้านใน พร้อมกับใครอีกคน...ที่ทำให้หล่อนแทบหยุดหายใจ สองมือกำแน่น พยายามสะกดกลั้นความเจ็บปวดนั้นไว้ แม้จะรู้สึกแย่แค่ไหน แต่เธอก็ไม่อยากเผยด้านอ่อนแอให้ใครได้เห็น โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้ “ทำไมเธอถึงมาอยู่ตรงนี้ ไอมิ” น้ำเสียงเย็นเหยือก เอ่ยถาม พลางจ้องมองไปยังเพื่อนสนิทของตนเอง ที่กำลังนั่งอยู่เคียงคนรักเธอได้อย่างหน้าตาเฉย ขณะที่หญิงสาวดังกล่าวเพียงแค่ฉีกยิ้มหวาน แล้วหันไปหาคนรักของเธอคล้ายกับต้องการให้เขาเป็นคนตอบ รพีทัศน์ถอนหายใจดัง คล้ายกับหงุดหงิด เมื่อได้ยินคำถามนั้นจากคนรัก “เมื่อบ่ายที่เธอเห็น ไอมิเขาแค่ไปคุยงานกับพี่ แล้วเกิดเหตุอย่างที่รู้นั่นล่ะ” สีหน้าคล้ายรำคาญที่จะต้องบอกเล่าหรืออธิบายให้เธอฟัง ในขณะที่หญิงสาวนั้นจ้องมองเขาด้วยความโกรธเคือง หากเธอมีเรี่ยวแรงกว่านี้อีกนิด...และเธอเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ไม่ต้องห่วงหน้าตาทางสังคม คงจะกรีดร้อง และลากผู้หญิงคนนั้นให้ลงมาจากที่นั่งตรงนั้น ลิญาณากลืนก้อนแข็ง ๆ ที่รี่ขึ้นมาจนจุกแน่นในอกอย่างยากลำบาก ข่มน้ำเสียงไม่ให้สั่นเครือ เอ่ยถามออกไปว่า “แล้วทำไมไอมิถึงอยู่ในชุดนั้นล่ะคะ” “เธอถามเอาอะไร เซลีน...เลิกงี่เง่าเอาแต่ใจสักทีนะ วันนี้พี่มีงานแล้วยังมาเจอเรื่องบ้า ๆ นี่ งานเสียหายมากแค่ไหนเธอรู้ไหม แล้วเธอยังมางอแง หึงไม่เข้าเรื่อง” “เซลีนหึงไม่เข้าเรื่องเหรอคะ??!!” ย้อนถามด้วยเสียงที่ดังและเริ่มสั่นเครือด้วยแรงอารมณ์ทั้งหมดที่มี ขณะปรายตามองไปยังเพื่อนสนิทตนเองที่นั่งเคียงคนรักของเธอนิ่ง ราวกับทองไม่รู้ร้อน ไม่คิดขยับ ด้วยความขุ่นเคือง เห็นเช่นนี้...ใครเล่าจะยอมรับได้ หล่อนจ้องมองนิ่งนาน ร่างบางสั่นระริก นัยน์ตาคู่สวยแดงก่ำ ด้วยอารมณ์ที่หลากหลายอัดแน่นในความรู้สึกเธอ ทั้งโกรธ ทั้งน้อยใจ เสียใจ หล่อนพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อตั้งสติ กลั้นใจถาม “แล้วจะให้เซลีนนั่งตรงไหนคะ” เมื่อได้ยินคำถามนั้น ระพีทัศน์ถึงกับ นิ่งไปชั่วอึดใจ พลางหันมามองหญิงสาวข้างตัวที่ยังคงนั่งพิงพนักเก้าอี้ด้วยสีหน้าคล้ายกับอ่อนแรง ทำทีเหมือนจะไม่สบาย “วันนี้ตอนที่ไอมิถ่ายแบบ ตึกมันโยก ไอมิเขาเลยล้มหัวฟาด ตกลงไปในน้ำ” ระพีทัศน์บอกกับแฟนสาว หลุบสายตามองต่ำลงเล็กน้อย “อืม...ตอนนี้เรายังปวดหัวอยู่เลย” ไอมินางแบบสาวสวย ชื่อดังยกมือขึ้นคลึงศีรษะทำท่าวิงเวียนขึ้นมาทันที “งั้นเธอก็ไปนั่งข้างหลังก่อนแล้วกัน ไอมิเขาไม่สบายอยู่” เมื่อได้ยินประโยคนั้นจากคนรัก ที่เหมือนจะอาทรคนอื่น มากว่าเธอที่เป็นแฟนสาว น่าขันที่เขาไม่คิดถามไถ่เธอสักคำ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บตรงไหนไหม ยังกลัวอยู่หรือเปล่า “เซลีนก็เจ็บ” “เจ็บตรงไหน” นิ่วหน้าถามเสียงเครียด คล้ายกับหงุดหงิดมากกว่าห่วงใย “ถ้าเจ็บก็รีบขึ้นมานั่ง จะยืนอยู่ทำไม” ลิญาณาถึงกับสะอึกอึ้งไปทันที สมองมึนงง ราวกับถูกค้อนปอนด์ขนาดใหญ่ทุบเข้ากลางศีรษะ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินถ้อยคำไร้เยื่อใยอย่างนั้นออกจากปากคนรัก หล่อนพรูลมหายใจยาว ก่อนมองเลยไปยังเบาะนั่งด้านหลังที่อยู่ถัดไปน้ำตาคลอ แต่พยายามสะกดกลั้นมันไว้ ริมฝีปากเม้มแน่น พยายามระงับอารมณ์ตัวเองที่กำลังพลุพล่านอยู่ภายในใจ ใบหน้าสวยเชิดขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่า อัดแน่นด้วยความรู้สึกทุกอย่างที่เธอมีในวันนี้ ตัดสินใจได้ในวินาทีนั้น “งั้นไม่เป็นไรค่ะ เซลีนจะอยู่ที่นี่” “อย่างี่เง่า พูดไม่รู้เรื่องได้ไหม เธอจะอยู่ไปได้ยังไง ตึกมันไหวขนาดนั้น ไม่กลัวเหรอไง” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยู่ได้” “งั้นก็ตามใจ อยากดื้อ ถือดี ใช้แต่อารมณ์ แล้วอย่าโทรไปตามให้ฉันมารับล่ะ” ได้ยินคำนั้นของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเธอ ลิญาณาถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลริน “ค่ะ” ตอบรับด้วยเสียงแข็งกระด้าง หล่อนถือดีอย่างที่เขาจริง ๆ นั่นล่ะ เพราะคิดว่าตนก็คงมีดีเหมือนกัน จะไม่ยอมให้เขาเหยียบย้ำ แล้วมองว่าเธอไม่มีทางดิ้นหนีไปไหน มือเลื่อนบานประตูอัตโนมัติปิดด้วยแรงทั้งหมดที่มี ปัง! เสียงปิดประตูดังสนั่น รถคันหรูแล่นกระชากออกไปทันที ใบหน้าสวยเชิดขึ้นเล็กน้อย หากเธอยอมก้าวเท้าขึ้นไปด้านหลัง นั่นหมายความเธอยอมรับ ในความสัมพันธ์ครั้งนี้ หล่อนไม่ใช่คนโง่ ที่จะตามเกมส์ของสองคนนั่นไม่ออก คำโกหกที่เขาใช้หลอกลวง เพียงเพราะคิดว่าเธอจะตามไม่ทัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม