ยามสายของการทำงาน พนักงานต่างก็วุ่นวายเคลียร์งานตรงหน้าอย่างตั้งอกและตั้งใจกัน ไม่กี่นาทีต่อมาเสียงประกาศจากบอสเจ้าของบริษัทสั่งทุกแผนกและทุกฝ่ายหยุดทำงาน และให้ออกมารวมตัวกันที่ห้องประชุมใหญ่ของบริษัท
“มีเรื่องด่วนหรือไงนะ บอสถึงเรียกประชุม”ฟ้าใสที่นั่งลงบนเก้าอี้หลังจากเข้ามาในห้องดังกล่าว
“ไม่รู้สิฟ้า อีกหน่อยก็คงรู้”ดาวนิลตอบพลางขยับแว่นตาตัวเอง วินาทีต่อมาประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดกว้างพร้อมปรากฎร่างของวาตะที่ข้างกายนั้นมีสาวสวยหน้าตาดีเดินตามเข้ามาติดๆ ทุกคนในห้องต่างส่งเสียงฮือฮาที่เห็นสาวสวย เพราะเธอนั้นสวยราวปานนางฟ้านางสวรรค์
“ทุกคนฟังทางนี้ครับ”ประธานกล่าวขึ้นหันมายังผู้หญิงผมยาวสีดำสนิทที่ยิ้มอย่างสง่า
“ใครคะบอส”ฟ้าใสถามอย่างคนอยากรู้
“เชิญคุณแนะนำตัวครับ”เขาถอยลงไปหนึ่งก้าวเพื่อให้หญิงสาวเป็นจุดเด่น เธอฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวสะอาดทุกซี่พร้อมยกมือขึ้นไหว้และกล่าวทักทายทุกคน
“สวัสดีทุกคนนะคะ ฉันชื่อเอเดลค่ะ”เพียงแค่แนะนำชื่อก็รู้สึกถึงความสูงสงมองยังไงไม่น่าจะใช่คนธรรมดา เธอไม่เหมาะที่จะเป็นพนักงานของบริษัทสักนิดหลายคนต่างก็คิดว่าคนนี้คือแฟนของบอสวาตะหรือเปล่านะ
“แฟนบอสแน่เลย”พนักงานคนหนึ่งกล่าว
“ไม่ใช่หรอกมั้ง”และอีกคนก็พูดว่าไม่ใช่แฟน
“เอาละๆ ผมจะแนะนำให้พวกคุณรู้จักว่าเอเดลคือใคร มาทำอะไรที่นี่”
“รีบๆเลยบอส อยากรู้จะแย่แล้ว”ฟ้าใสเร่งเจ้านายตัวเอง วาตะชี้นิ้วอย่างหยอกล้อลูกน้องสาว
“เอเดลคือหุ้นส่วนของบริษัทเรา และเธอก็ยังเป็นผู้ช่วยของผมด้วยครับ”วายุกล่าวจบทุกคนต่างปรบมือต้อนรับผู้ช่วยท่านประธานที่พ่วงตำแหน่งหุ้นส่วนอย่างกึกก้องสนั่นห้องประชุม และมีการเดินเข้ามาแนะนำตัวทีละคนเพื่อให้เธอได้รู้จักอย่างใกล้ชิด
“ชื่อฟ้าใสนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
“ฟ้าใส ชื่อสดชื่นดีนะคะเนี่ย”เอเดลเอ่ยปากแซว
“ชื่อดาวนิลค่ะ”คนที่เรียบร้อยแนะนำตัวเอง
“ดาวนิล น่ารักจังค่ะ”และก็เอ่ยชมความใสซื่อของดาวอีกคน เธอหันมามองคนสุดท้ายที่ยิ้มหวานอย่างคนไม่มีภัย เอเดลหรี่ตามองหน้าช่อขมิ้นอย่างสนใจ
“เอเดลค่ะ คุณชื่อ?”เอเดลเป็นฝ่ายทักช่อขมิ้นก่อนเฉยเลย
“ช่อขมิ้นค่ะ”ช่อแนะนำตัวเองให้เอเดลรู้จัก เอเดลมองหน้าหวานด้วยความสนใจมากเป็นพิเศษ พอรู้จักกันครบทุกฝ่ายและทุกแผนกต่างแยกย้ายไปทำงานตามปกติจนกระทั่งถึงเวลาพักเที่ยง
“อิ่มเวอร์วังมากวันนี้”ฟ้าใสพูดพลางวางแก้วน้ำดื่มลงก่อนที่ตานั้นไปสะดุดที่แว่นของดาวนิล
“มองหน้าดาวทำไมฟ้า หรือมีข้าวติดเหรอ”ถามแล้วก็รีบหยิบกระจกในกระเป๋าขึ้นมาส่องแต่ก็ไม่มี
“ไม่มีนี่”ดาวนิลพูด
“ฟ้ายังไม่ทันพูดสักหน่อย”ช่อขมิ้นอมยิ้มแอบขำในความเปิ่นของเพื่อนตัวเอง
“แฮ่ะๆ”ดาวนิลยิ้มแห้งๆ
“แว่นเธอมันเก่าละนะฟ้า เปลี่ยนใหม่บ้างเหอะ”แว่นตาหนาแถมยังเก่าเพื่อนๆเคยบอกให้ดาวเปลี่ยนอยู่หลายครั้ง แต่ดาวนิลก็ไม่เห็นจะเปลี่ยนสักที
“นั่นสิดาว ช่อว่าแว่นอันนี้ใส่มานานมากละนะ”ช่อขมิ้นที่นั่งคั่นกลางระหว่างสองสาวหันมาคุยบอกดาวนิล ใส่ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยจนจบมาทำงาน ก็ไม่ยักจะเห็นเปลี่ยนใหม่ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
“มันแพง ดาวเสียดายเงินน่ะ”เหตุผลของดาวนิลทำเพื่อนทั้งสองส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ว่าแหละสาเหตุต้องเป็นเรื่องราคาแว่น
“นี่แว่น เงินเดือนไม่ใช่น้อยๆทำไมถึงซื้อไม่ได้”ดาวนิลน่ะทำงานเก่งหัวสมองไว ได้รับคำชมจากบอสอยู่เสมอแถมยังได้เงินพิเศษจากวาตะทุกเดือน แล้วใยเหตุใดถึงซื้อแว่นไม่ได้
“ก็บอกว่ามันแพงไงล่ะฟ้า”เพราะดาวไม่ใช่คนใช้เงินฟุ่มเฟื่อยเหมือนฟ้าใส เลยไม่ค่อยกล้าใช้เงินอันไหนพอจะประหยัดได้เธอก็ทำ แม้ว่าเงินเดือนที่ได้นั้นมีจำนวนมากอย่างที่ฟ้าใสพูดก็ตาม ไม่มีใครรู้หรอกว่าเงินมันสำคัญสำหรับบ้านของดาวแค่ไหน
“แม่เอาไปหมดเหมือนทุกครั้งใช่ไหม”แต่ความลับมันไม่เคยอยู่ได้นาน ดาวนิลหน้าสลดที่ช่อขมิ้นรู้ว่าแม่ใช้เงินเก่ง เธอจำได้ว่าเคยคุยโทรศัพท์จนทะเลาะกับคนทางบ้านเรื่องเงินเดือนของตัวเอง ตอนนั้นช่อขมิ้นมาล้างมือเลยได้ยินบทสนทนาทั้งหมด
“ใช่ แม่เราเขาจำเป็นต้องใช้เงิน”
“จริงหรือนี่ดาว”ฟ้าใสอุทาน
“........”ดาวนิลก้มหน้าหลบสายตาของเพื่อน
“ดาว”ช่อขมิ้นเอื้อมมือไปจับกุมมือของเพื่อน ดาวนิลน้ำตาคลอเบ้ารู้สึกอึดอัดและกดดันเหลือเกิน
“มีอะไรก็บอกเพื่อนดิดาว”ฟ้าใสวางมือทาบทับไปอีกคน
“ไม่มีอะไรหรอก”แม้ว่าปัญหาจะมีมากมายสักเพียงใดเธอก็ไม่เคยปริปากร้องบอกเพื่อนสักครั้ง เธอไม่อยากสร้างปัญหาให้เพื่อนไม่อยากรบกวนเรื่องเงินๆทองๆของคนอื่น
หลายสัปดาห์ผ่านมา...
ณ บริษัทยักษ์ใหญ่อันตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศ ตึกสูงเห็นเด่นชัดบ่งบอกถึงอำนาจและประกาศถึงความยิ่งใหญ่ของวงตระกูลว่าร่ำรวยและไพศาลเพียงใด
วายุเป็นคนเอาจริงเอาจังกับงาน เป็นคนทำงานหนักถึงได้ประสบความสำเสร็จแบบนี้ แต่ก็เป็นคนเจ้าชู้จัดหากมันเป็นเพียงแค่อดีตและปัจจุบันนั้นยังไม่เคยออกลวดออกลายใส่ใคร เขาเลิกเด็ดขาดและจงรักภักดิ์ดีต่อภรรยาผู้เดียว
“คุณวายุคะ”เลขาหน้าห้องต่อสายเข้ามาเพื่อรายงานตารางนัดหมายของวันนี้ ปลายนิ้วชี้กดปุ่มแล้วเอ่ยขึ้นว่า
“มีอะไร”
“ผู้ช่วยคนใหม่มาถึงแล้วค่ะ”
“ที่ผมนัดไว้สินะ”เขากำลังหาผู้ช่วยคนใหม่แทนคนเก่าที่ลาออกกลับไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด
“ค่ะ มาถึงสักพักแล้วค่ะ”
“ให้เขานั่งรออีกห้านาทีผมจะไป”
ห้านาทีต่อมาวายุก็ก้าวขาเข้ามาในห้องที่จัดเตรียมไว้ เขาต้องการคนที่มีฝีมือมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้ ใจจริงต้องการภรรยามาทำตำแหน่งนี้ด้วยซ้ำไป แต่เธอดื้อไงเลยไม่สามารถดึงมาได้อย่างที่ใจต้องการ เพียงแค่ก้าวขาเข้ามาคนที่นั่งรอก็ลุกขึ้นยืนผันร่างมายังคนใหม่
“สวัสดีค่ะคุณวายุ”หญิงสาวที่อยู่ในชุดเรียบร้อยและดูดีกล่าวทักทายเจ้านายคนใหม่ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ต่างจากอีกฝ่ายที่มีใบหน้าตกใจอย่างมาก นึกไม่ถึงว่าผู้ช่วยคนใหม่จะเป็นคนที่เขานั้นเพิ่งเจอมาเมื่อครั้งก่อน...
“คุณใบบัว”ชายหนุ่มร้องทักชื่อผู้ช่วยคนใหม่วายุค่อนข้างตกใจที่ผู้ช่วยคนใหม่คือเพื่อนของภรรยา ตอนเลขาส่งรายชื่อมาให้ชายหนุ่มไม่ได้เปิดอ่านเลยจึงไม่แปลกใจที่แสดงสีหน้าท่าทางอย่างนั้น
“จำฉันได้ด้วยหรือคะ”อีกฝ่ายยิ้มหวานถามออกไป
“ผมจำคนแม่น เชิญนั่ง”ผายมือให้หญิงสาวนั่งลงและพร้อมที่จะสัมภาษณ์เธอ ตลอดเวลาที่ถูกสัมภาษณ์ใบบัวตอบอย่างฉะฉานไม่มีติดขัดและแน่นอนว่าตรงตามที่วายุต้องการ เธอมีคุณสมบัติพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเขา
“ผมสนใจความสามารถของคุณนะ”เขานั่งอ่านข้อมูลของใบบัวจบจากนอกเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง มีความสามารถหลายด้านและที่สำคัญบุคลิกภาพของเธอก็เข้าตาด้วยแต่ไม่ได้เข้าที่ใจ ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นและคิดว่าคงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน