ตอนที่ 2

1167 คำ
วันถัดมา ช่อขมิ้นตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารให้กับสามี แม้ช่วงล่างจะเจ็บแปลบก็เหอะและด้วยหน้าที่ของศรีภรรยาจำต้องลากร่างลงจากเตียงนอน เพื่อเตรียมทุกอย่างก่อนที่สามีจะไปทำงาน “หอมจังเลย”วายุเดินส่งเสียงมาแต่ไกล กลิ่นของอาหารลอยเตะจมูก ทำให้สูดดมเอาความหอมเข้าปอด เขายืนมองภรรยาที่ตื่นมาเตรียมอาหารแต่เช้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหล่อนเตรียมให้พร้อม เขาแค่ตื่นนอนอาบน้ำแปรงฟัน สวมใส่เสื้อผ้าที่ภรรยาวางไว้ “ข้าวต้มกุ้งของวายุค่ะ” “ขอบคุณครับ”ชายหนุ่มยิ้มกว้างที่ภรรยาใส่ใจ คิดไม่ผิดสักนิดที่เลือกเธอมาเป็นคู่ชีวิต ช่อขมิ้นเก่งเรื่องงานบ้านงานเรือนงานครัว ทุกอย่างดูเป็นแม่ศรีเรือน เขาตักข้าวต้มที่เป็นของโปรดปรานเข้าปาก ทานมันอย่างเอร็ดอร่อย “อื้มม อร่อยที่สุด”ว่าจบก็ตักคำสุดท้ายเข้าปาก ภรรยารินน้ำเปล่าใส่แก้วก่อนจะส่งให้ ช่อขมิ้นเก็บถ้วยข้าวต้มเข้าไปในครัว ก่อนจะรีบออกมาเพื่อไปส่งสามีขึ้นรถ “ขับรถดีๆนะคะ”เธอพูดพลางจัดคอเสื้อและขยับเนคไทให้สามี วายุมองหน้าภรรยาด้วยหัวใจที่เต็มสุข เขารักเธอหมดใจจริงๆ “ตอนเย็นผมไปรับนะ” “ค่ะ รีบไปเดี๋ยวสายนะ” “ลืมอะไรหรือเปล่าเอ่ย” “ไม่ลืมหรอกค่ะ”ว่าจบช่อขมิ้นก็หอมไปที่แก้มทั้งสองของสามี เขาเองก็หอมกลับเช่นกัน ช่อขมิ้นยืนมองรถยนต์วายุแล่นออกจากบ้านจนพ้นประตูรั้ว ก่อนจะรีบจัดการตัวเองเตรียมไปทำงาน “ไอ้ช่อ ทางนี้”สาวร่างบางระหงลุกขึ้นส่งซิกเมื่ออีกฝ่ายมาถึง เสียงของฟ้าใสเพื่อนสนิทเอ่ยเรียกเมื่อเห็นว่าช่อขมิ้นเดินทางมาถึงที่ทำงาน ทั้งสองเป็นเพื่อนรักที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยอนุบาล เรียนจบพร้อมกันและตัดสินใจทำงานที่เดียวกันอีกด้วย “เกือบสายแน่ะ”ร่างบางบอกก่อนหย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ในห้องอาหาร “เป็นไง”ฟ้าใสถามเพื่อนรักถึงเรื่องเมื่อคืนด้วยน้ำเสียงจริงจัง คืนวันเข้าหอมันจะพิเศษอย่างที่ลือจริงหรือ หล่อนไม่เคยน่ะเพราะแม้แต่แฟนก็ยังไม่มี “อะไร”เธอแสร้งถามทั้งที่ทราบดีว่าฟ้าใสสื่อถึงอะไร ก่อนจะรีบทานน้ำเต้าหู้ร้อนๆที่คนตรงหน้าหิ้วมาฝากในทุกเช้ากลบเกลือนแก้อาการเขินอาย “หืม ไอ้ช่อคงจะ...”ฟ้าใสรู้ทันเบะปากมองบน หมั่นไส้ข้าวใหม่ปลามัน เธอไม่เห็นด้วยที่เพื่อนสนิทของเธอตัดสินใจแต่งงานกับวายุ หล่อนไม่ถูกชะตาและไม่มั่นใจเลยว่าเขาจะดี “ฟ้าก็ลองมีแฟน ก็จะรู้เอง” “ฝันไปเถอะ จะอยู่เป็นโสดจนแก่ตาย” หล่อนบอกอย่างไม่สะทกสะท้าน ไม่ชอบเอาใจใครไม่อยากต้องมาตามงอนง้อเมื่อทะเลาะกัน แบบเพื่อนรักของเธอกับสามีป้ายแดง เพราะฝ่ายชายขยันสร้างเรื่องและก่อปัญหาให้เพื่อนของหล่อนต้องเสียน้ำตา “ช่อ” “อ้าว ดาวมานานยัง” “ไม่นาน”เสียงหวานพูดตอบมาเบาๆขยับแว่นซึ่งเป็นนิสัยที่เคยตัวของเจ้าหล่อนไปเสียแล้ว “กระโปรงยาวทุกวัน ไม่สะดุดขาตัวเองหรือไง”ฟ้าใสเอ่ยถาม เพราะการแต่งกายของดาวนิลทั้งแก่เหมือนคุณป้าและยังล้าสมัยอีก “ไม่เลย ดาวชอบแบบนี้”สาวเจ้าตอบกลับเพื่อนด้วยใบหน้าที่ยิ้มเขิน ฟ้าใสที่นั่งกอดอกถึงกับมองบน ยอมแล้วในความชอบของเพื่อนคนนี้ ยัยแว่นหนาสมกับฉายาหล่อนจริงๆ ดาวนิล เพื่อนสนิทอีกคนของช่อขมิ้นบุคลิกเป็นคนพูดน้อย แต่งตัวเชยใส่แว่นหนาเตอะ เพื่อนในบริษัทมักตั้งฉายาและเรียกว่ายัยแว่นหนา ต่างขั้วกับฟ้าใสสาวมั่นที่นั่งฝั่งตรงข้าม ไม่ว่าจะด้วยนิสัยหรืออะไรหลายๆอย่าง พวกเธอก็สามารถคบและรักใคร่ปานพี่น้องท้องเดียวกัน “ดาวน้ำเต้าหู้ ฟ้าซื้อมาเผื่อ”ช่อขมิ้นดันแก้วให้กับเพื่อนรักที่นั่งข้างกัน “ขอบคุณจ้า” หลังจากที่นั่งทานอาหารเช้ากันเสร็จก็เข้าสู่เวลาทำงานอย่างจริงจัง ทั้งสามคนทำงานเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนย่านใจกลางเมืองหลวงของกรุงเทพมหานคร ผ่านมาเกือบสี่ชั่วโมงเต็มแต่ช่อขมิ้นก็ยังคงตั้งใจทำงานเคลียร์เอกสารกองโต ที่เลขาของเจ้านายฝากมาให้ช่วยแก้ไข ทั้งที่เป็นเวลาพักเที่ยงของเธอ “เธอทำอะไร”เสียงดังคมเข้มดังขึ้น ช่อขมิ้นละจากเอกสารเงยหน้ามองคนมาใหม่ “คะ เอ่อ พี่วาตะจะเอาอะไรหรือคะ”หญิงสาวอึกอักเมื่อคนตรงหน้าที่ยืนคิ้วขมวดเอ่ยถาม “พี่ถามว่าเธอกำลังทำอะไร?”วาตะชายหนุ่มรูปงามแฝดผู้พี่ของวายุสามีหล่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเข้มๆ เขาคือเจ้านายของช่อขมิ้นและเป็นเจ้าของบริษัทเอกชนแห่งนี้ด้วย “ทำงานค่ะ” “ไม่ใช่หน้าที่เธอสักหน่อย”เพราะเอกสารการประมูลมันคือหน้าที่ของนิดา เลขาหน้าห้องของเขาต่างหาก วาตะหยิบแฟ้มเอกสารที่ช่อขมิ้นทำขึ้นมา “ช่อทำเสร็จแล้วค่ะ พี่นิดากลัวพิมพ์ผิดเลยให้ช่อช่วยดู” “แต่เธอต้องอดข้าวเที่ยงเนี่ยนะ” เขาเอ่ยสวนขัดขึ้นมา ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอจะต้องทำตามคำสั่งเลขาของเขาด้วย วายุน้องชายจะคิดยังไงหากรู้ว่าเมียถูกใช้ให้ทำงานในเวลาพักเที่ยง เป็นเช่นนั้นมันก็จะไม่ให้เมียทำงานกับเขาที่นี่ ซึ่งวาตะเองก็คงไม่ยอม “ค่ะ ช่อเต็มใจ”หญิงสาวตอบออกไปตามความรู้สึก “เอาเถอะ พี่อนุญาตให้เธอไปพักในเวลางานได้” “ไม่เป็นไรค่ะ ช่อไม่หิว”เธอพูดพร้อมแสดงสีหน้าเกรงใจ ไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานคิดว่าเป็นน้องสะใภ้เจ้านายจะมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นๆไม่ได้ “เธออยากให้วายุเป็นห่วง?”ช่อขมิ้นชะงักกึกเผลอสบตาของวาตะเข้าให้ สายตาชายหนุ่มฉายแววดุดัน ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นปกติ “ไม่กลัวปวดท้อง?”วาตะทราบดีว่าช่อขมิ้นเป็นโรคกะเพาะหากรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา “กลัวค่ะ แต่ว่า...” “อยากให้วายุมาต่อว่าพี่” “เอ๋ ? ไม่ค่ะ ช่อไปพักเดี๋ยวนี้ก็ได้” “ดี งั้นรีบไปซะ”หญิงสาวก้มศีรษะเล็กน้อย ก้มหน้าเดินทอดน่องออกไปหน้าลิฟท์ “ทำไมไม่เป็นพี่” วาตะมองแผ่นหลังบางที่ก้าวห่างออกไปช้าๆและหายเข้าไปในที่สุด ด้วยสายตาที่อาวรณ์ต่อหญิงสาวที่ตนเองรัก ทำไมไม่เป็นเขาที่หญิงสาวนั้นรัก ทั้งๆที่เขาก็รักเธอมากรักไม่แพ้ใครทั้งนั้น โดยเฉพาะวายุน้องชายฝาแฝดของเขาเอง...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม