บทที่ 3.2 – หนีไม่พ้นคนใจร้าย (มาเป็นผู้หญิงของพี่) (จบตอน)

1475 คำ
เขาเจอเธอแล้ว ไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือซ้ำสองแน่! “น้องๆ มานี่หน่อย” ภานุกวักมือเรียกเด็กชายสวมชุดนักเรียนที่กำลังช่วยแม่ขายพวงมาลัยอย่างขะมักเขม้น “เอาเงินนี่ไปซื้อข้าวกล่องจากร้านนั้นนะ” เขาชี้ไปยังตำแหน่งที่ดาริกายืนอยู่ “แม่ค้าคนที่สวยๆ ใช่ไหมพี่” เด็กน้อยถามพลางสำรวจชายแปลกหน้าที่แต่งกายดูดีทุกกระเบียดนิ้ว “เออ คนนั้นแหละ ไปเหมามาให้หมดเลยนะ” “โหพี่ สองพันเลยเหรอ ร้านนั้นเขาขายข้าวแค่กล่องละยี่สิบบาทเองนะ สามสี่ร้อยก็พอมั้ง” เด็กนักเรียนทักท้วง “ไปเหมามาตามที่สั่ง ส่วนเงินทอน พี่ให้เป็นค่าขนม” ภานุยิ้มมุมปาก “ได้ครับพี่ รอแปบ เดี๋ยวผมมา” เด็กนักเรียนผู้โชคดีรีบวิ่งไปซื้อข้าวกล่องจากแม่ค้าหน้าหวานตามคำสั่งของชายแปลกหน้า ภานุลอบมองดาริกาผ่านกระจกข้างรถหรู เขาหัวเราะที่เห็นเธอทำหน้าอึ้งปนงงเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีเด็กนักเรียนเหมาข้าวกล่องจนหมดร้าน “มาละพี่” เด็กชายปาดเหงื่อสะบัดปกเสื้อระบายความร้อน “เอาไปแบ่งกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนกินนะ พี่ให้” “โห! ให้เงินแล้วยังให้ข้าวอีก ขอบคุณคร้าบ” เด็กชายดีใจยกมือไหว้ท่วมหัวก่อนรีบวิ่งกลับไปหาแม่ที่กำลังเก็บร้านอยู่ ภานุละสายตาจากสองแม่ลูกเพื่อสอดส่องพฤติกรรมของ ดาริกาต่อ หญิงสาวเตรียมเข็นรถกลับบ้านหลังขายของหมด เขาจึงรีบลงจากรถแล้วแสร้งทำทีจะแวะซื้อข้าวกล่องของเธอ “อ้าว ขายหมดแล้วเหรอ” ดาริกาคิดไม่ถึงว่าเขาจะรู้ว่าเธอขายของอยู่ที่ตลาดแห่งนี้ “งั้นก็ว่างแล้วสิ” ภานุจ้องใบหน้าหวานที่ทำเมินไม่สนใจการมาเยือนของเขา มือเรียวเก็บของใส่ใต้รถเข็นแล้วทำท่าจะเข็นรถจากไป ภานุดันลิ้นดุนกระพุ้งแก้มก่อนรีบขวางทางเอาไว้ “พี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อย” น้ำเสียงจริงจังกล่าว ดาริกาไม่สน “หลบไปค่ะ” เธอเข็นรถดันร่างเขาเป็นเชิงกดดันให้อีกฝ่ายยอมหลีกทาง แต่ผิดคาด ภานุยังคงยืนขวางทางนิ่งๆ นัยน์ตาแข็งกร้าวเริ่มฉายแววโทสะ เขาไม่ชอบเวลาที่คนตัวเล็กทำราวกับเขาเป็นตัวน่ารังเกียจ เป็นเชื้อโรคที่ไม่น่าอยู่ใกล้ ทีกับไอ้พวกผู้ชายที่เรียงรายมาซื้อของ แม่คุณยิ้มหวานหน้าบานไปถึงดาวอังคาร เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด “บอกว่าอยากคุยด้วย” คราวนี้หางเสียงทุ้มต่ำแสดงถึงอำนาจที่เธอต้องเกรงกลัว ดาริกาเตรียมเบี่ยงรถไปอีกทางและการกระทำเหล่านั้นก็ส่งผลให้ความอดทนของภานุขาดผึง “ปล่อยนะ! จะทำบ้าอะไร” ดาริกาพยายามสะบัดแขนออกจากมือหนา ดวงตากลมโตเริ่มหวาดหวั่น คนแถวนี้เริ่มส่งสายตาตั้งคำถามมองมายังเธอและเขา ช่วงเช้าแบบนี้เฮียใช้กับป้านวลก็ยังไม่ออกมาขายของ จะหาใครช่วยก็ไม่ได้ “ก็ผัวมาง้อแล้วนี่ไง ขอโทษที่ไม่ทำการบ้าน ต่อไปผัวจะขยันทำการบ้าน เช้า กลางวัน เย็น เลยนะจ๊ะเมียจ๋า” ภานุจงใจพูดเสียงดังให้คนแถวนี้ได้ยิน ดาริกาอับอายแก้มร้อนผ่าว “คนบ้า! พูดแบบนี้ได้ยังไง ฉันเสียหายนะ” สาวเจ้าดิ้นเร่า พอรู้ว่าเป็นเรื่องของผัวเมียคนที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่อยากยุ่ง จึงเลิกสนใจแล้วหันไปทำภารกิจของตัวเองต่อ “ได้เสียหายมากกว่านี้แน่ถ้าซินไม่ยอมขึ้นรถไปคุยกับพี่!” น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมกดดัน ดาริกาเม้มเรียวปากแน่น “ฉันจะไปได้ยังไง ต้องเอารถเข็นกลับไปเก็บที่บ้านก่อน” ดาริกาคิดชิ่งหนี เธอไม่มีวันยอมอยู่กับเขาสองต่อสองเด็ดขาด ภานุกวาดสายตามองไปรอบๆ ตลาดก็พบว่ามีร้านขายของชำอยู่ร้านหนึ่งใกล้ๆ กับตู้เอทีเอ็ม ความคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแวบเข้ามาในโสตประสาท ชายหนุ่มแย่งรถเข็นจากมือเรียวแล้วเข็นตรงไปยังเป้าหมายทันที “นี่คุณจะทำอะไร มายุ่งกับของๆ ฉันทำไม” ดาริการีบเดินตาม พยายามปัดมือเขาออกจากรถเข็นแต่ไม่สำเร็จ “ลุงครับ ผมฝากรถเข็นไว้ที่ร้านลุงสักชั่วโมงหนึ่งได้ไหมครับ” “หะ?” ลุงคนดังกล่าวถึงกับแปลกใจ “แล้วจะเอามาฝากไว้ที่ร้านลุงทำไม ไม่เอาๆ ไม่รับฝาก แกะกะหน้าร้านคนจะขายของ” “นี่ครับ” ภานุคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องมีปัญหา เขาหยิบเงินจำนวนหนึ่งส่งยื่นให้ลุงเจ้าของร้าน “คราวนี้ผมฝากได้หรือยังครับ” “โอ๊ย! ได้สิพ่อหนุ่ม ฝากไว้เป็นวันยังได้เลย มาๆ เข็นมาตรงนี้จะได้ไม่เกะกะลูกค้าหน้าร้านลุง มาๆ” ลุงเจ้าของร้านพอเห็นเม็ดเงินก็ยิ้มกว้างรีบเปิดทางให้ชายหนุ่มทำตามความต้องการได้อย่างสะดวก ดาริกาเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง ยิ่งเห็นเขาวางท่าใช้เงินแก้ปัญหาเพื่อก่อกวนเธอ ความรู้สึกดีๆ ที่พอมีหลงเหลือเปลี่ยนเป็นชิงชังจนไม่อยากมองหน้า “ไป!” ภานุดึงลากร่างบางไปยังรถหรูที่จอดอยู่ไม่ไกล “เข้าไปซิน อย่าให้พี่ต้องใช้กำลัง” สายตาดุดันบ่งบอกว่าเขาเอาจริง ดาริกาไม่อยากตกเป็นขี้ปากชาวบ้านไปมากกว่านี้จำต้องยอมนั่งรถมากับเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “คุณมีธุระอะไรก็รีบพูดมา” ใช้เวลานานหลายนาทีกว่าจะเค้นเสียงที่มีอยู่น้อยนิดเอ่ยถามเขาออกไป “พี่อยากคุยกับซินเรื่อง… อดีต” ภานุเองก็กระดากปากพอสมควร เขาไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ เพราะความเจ็บปวดยังไม่จางหาย ความแค้นความเกลียดชังที่มีต่อพี่ชายของหล่อนยังคงแล่นพล่านอยู่ทั่วอณูเนื้อ ตราบใดที่น้องสาวเพียงคนเดียวอย่างนินฐิสายังต้องร้องไห้อยู่ทุกวัน เขาก็ไม่อาจลืมความระยำที่ไอ้เพื่อนทรยศฝากไว้ได้ แต่หัวใจเจ้ากรรมนั้นไม่รักดี เกลียดพี่ก็ควรจะเกลียดน้องด้วยสิ “ไม่มีความจำเป็นต้องคุย ทุกอย่างมันจบไปแล้ว” “มันเพิ่งเริ่มต่างหาก!” มันเริ่มตั้งแต่วันที่เขาเจอเธออีกครั้ง พอกันทีกับความคิดถึงที่เกาะกินหัวใจมานานกว่าห้าปี พอกันทีกับความโหยหาที่เขาไขว่คว้าได้เพียงลม ต่อไปนี้เขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้เธอกลับมารักเขาอีกครั้ง “พี่รู้ว่าซินโกรธที่พี่ยึดสมบัติทุกอย่างของครอบครัวซิน แต่ซินก็รู้ว่าพี่ทำแบบนั้นไปเพราะอะไร” สองมือบังคับพวงมาลัยขับเคลื่อนรถยนต์แล่นสู่ท้องถนนอันยาวโพ้น แต่หางตาคมคายคอยเหลือบมองร่างบางอยู่เป็นระยะๆ “กรุณาจอดรถด้วยค่ะ ฉันจะลง” “ฟังพี่พูดให้จบก่อน” ภานุไม่ทำตาม ดาริกาปลดสายนิรภัยออกเตรียมจะเปิดประตูลงรถกลางทาง “บ้าเอ๊ย!” สารถีหนุ่มจำต้องหักพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าข้างทางเพื่อเคลียร์กับคนดื้อรั้นให้รู้เรื่อง “ปลดล็อคเดี๋ยวนี้!” “ซินไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับพี่” เสียงเข้มย้ำชัด ลมหายใจร้อนระอุประหนึ่งมีกองไฟนับร้อยสุมกองอยู่ในนั้น “คุณต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉัน ปลดล็อค!” ดาริกาไม่ยอม พยายามกระชากประตูรถเปิดออกแรงๆ ภานุกัดกรามจนขึ้นสันนูน สายตาที่เจ้าหล่อนใช้มองกันไม่ต่างอะไรกับน้ำกรดมีพิษที่ราดรดหัวใจแกร่งให้ย่อยยับ “พี่ไม่ปลด เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง” “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณทั้งนั้น” ทำไมเขาไม่ยอมจบสักที ต้องให้ตายกันไปข้างหนึ่งใช่ไหมถึงจะเลิกแค้น เลิกอาฆาตครอบครัวของเธอ “พี่จะคืนทุกอย่างให้ซิน!” ประโยคที่ทำให้ร่างบางหยุดทุกการเคลื่อนไหว ดวงตากลมโตหรี่มองเครื่องหน้าหล่อเหลาอย่างไม่เชื่อว่าเขาจะทำอย่างที่พูดได้จริงๆ “แต่มีข้อแม้” นั่นไง… คนใจจืดใจดำอย่างเขาน่ะหรือจะยอมคืนทุกอย่างให้ครอบครัวเธอโดยไม่หวังผลตอบแทน “ข้อแม้อะไร?” เสียงหวานสะบัดห้วน นัยน์ตาสีเหล็กกล้าทอประกายวาววับ ดาริกาลุ้นไปกับคำตอบพลางจดจ้องริมฝีปากหยักนิ่ง รอให้ชายหนุ่มเอ่ยข้อแม้ดังกล่าวออกมา “ซินต้องมาเป็นผู้หญิงของพี่!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม