Kinn & KaemSai - 4 คนเมา

1284 คำ
ทันทีที่เกมเริ่มขึ้น แก้มใสก็ตื่นเต้นอย่างงุนงง เธอแทบไม่เคยเล่นเกมพวกนี้แบบจริงจังมาก่อน เลยได้แต่นั่งซุ่มอยู่หลังกำแพง รอดูสถานการณ์ "แก้มใส ซ้าย!" "ค่ะ!" เธอขานรับทันที และทำตามที่ครามบอกอย่างว่าง่ายผิด ฟินท์กับเพลงที่นั่งข้าง ๆ เริ่มทำหน้าเครียดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นพี่ครามพาเธอเข้าไปใกล้จุดชนะ "แก้มใส ยิงเลย!" "กดตรงไหน อ๊ะ! ได้แล้ว!" ปัง!! "เชี่ย! แก้มใส!" เสียงสบถของฟินท์กับเพลงดังลั่นเมื่อเห็นว่าแก้มใสปิดเกมได้อย่างสวยงาม! เธอชนะ! "เย้!! เราชนะ!" แก้มใสยกมือขึ้นไฮไฟว์กับพี่ครามด้วยความตื่นเต้น สะใจสุด ๆ ที่เอาชนะพวกฟินท์กับเพลงได้ “เหี้ยเอ้ย แพ้ได้ไงว่ะ” เพลงหัวเสียไม่เลิก “ไอ้พวกอ่อน” แก้มใสที่เอาชนะเพื่อนชายได้ก็เยาะเย้ยไปที “เพราะพี่ครามหรอก” เพลงจ้องตาเขม็งใส่เธออย่างไม่ยอมง่าย ๆ “ตัว ๆ ไหมล่ะ” แก้มใสที่ได้ใจกำลังสนุกก็นึกอยากท้าแข่ง “เอาไหมล่ะ ใครแพ้แดกเหล้าหมดแก้ว” ฟินท์เองก็เห็นด้วย “เพียว ๆ ด้วย” เพลงก็เสริมทับต่อ หมั่นไส้เพื่อนสาวเต็มทน “ได้ดิ” แก้มใสรับคำท้าทันที “เก่งไม่ไหว” ไทม์ที่ยืนดูอยู่นานเอ่ยพูดขึ้นเพราะเพื่อนสาวคนนี้ทั้งคออ่อน ทั้งไม่เก่งเล่นเกมแต่รับกลับกล้าคำท้าของเพลงและฟินท์อย่างมั่นใจในตัวเองสุด ๆ ทั้งที่ตาก่อนหน้าที่เธอชนะได้ก็เพราะคราม “กูไม่แบกนะ” ฟินท์ที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เอ่ยหนีความรับผิดชอบเป็นคนแรก “เออน่า กูนอนแม่งตรงนี้ก็ได้ จะเล่นไม่เล่น” คนตัวเล็กที่คันมือเต็มทนเอ่ยพูดให้จบ ๆ ไป “ชอบความกล้าของมึงว่ะ” เพลงที่นั่งข้าง ๆ ตบไหล่เพื่อนสาว “มา ๆ กูเริ่มก่อนชักจะง่วงแล้ว” ฟินท์เอ่ยพูดพร้อมกับกดเข้าเกม เริ่มเล่นไปได้ไม่กี่วินาทีก็เริ่มรู้ถึงสถานะการ “เหี้ย มึงขี้โกงอ่า” เสียงแหลมดังเจื้อยแจ้วไปถึงในครัว เป็นจังหวะเดียวกับที่คินท์ล้างจานเสร็จพอดี มือหนาล้วงเข้ากระเป๋ากางเกงและก้าวออกจากครัวมุ่งมายังพื้นที่ที่ทุกคนนั่งอยู่ “มึงไม่เก่งยอมรับเถอะว่ะ อย่าพูดมาก ยกให้หมด” สายตาคมมองไปยังเพลงที่กำลังยื่นเหล้าเพียว ๆ ให้คนตัวเล็กด้านข้าง มือเรียวของแก้มใสก็รับมาอย่างหน้าเสีย จ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่งท่ามกลางสายตาของทุกคน และในขณะที่มือเล็กกำลังจะยกแก้วขึ้นเพื่อดื่ม หมับ “พี่ดื่มแทนเราเอง” ครามจับเข้าที่ข้อแขนเรียวของแก้มใส คินท์ที่ยืนพิงโต๊ะอยู่ เด้งตัวลุกขึ้นทันที! แววตาคมกริบฉายชัดถึงความไม่พอใจ "ไม่ได้พี่!" เพลงจับมือครามออกจากแขนเรียวของเพื่อนสาวในทันที เห็นดังนั้นคินท์ก็กลับมานั่งพิงโต๊ะตามเดิมเพิ่มเติมคือเขากอดอกจ้องมองหน้าตึง การกระทำของคินท์ปรากฏต่อสายตาของไทม์ที่ยืนมองทุกคนผ่านกระใสจากด้านนอกมาสักพักแล้ว “ใครอีกไหมเรียงตัวมาเลย” เมื่อฤทธิ์ขมบาดคอร้อนผ่าวเข้าสู่ร่างกาย เลือดนักสู้ที่มีอยู่ในตัวก็พุ่งขึ้นเป็นหลายเท่า สิ้นเสียงท้า เพลงก็จัดแจงแข่งกับเพื่อนตัวเล็กต่อ ต่อมาก็เป็นไทม์ที่เดินเข้ามา และเป็นฟินท์ที่ขอแข่งอีกเพราะอยากมอมเหล้าเพื่อนสาวที่ชอบอวดเก่ง อยากให้เธอได้ดื่มเยอะ ๆ จนอ้วกจะได้เข็ดหลาบ เวลาผ่านไป… “เหี้ย กูแพ้ทุกคนเลย” เสียงหวานแหลมหูที่ท้าทายแข่งในตอนต้น ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นเสียงยานเอ่ยปากบ่นไม่หยุด “กูเตือนมึงแล้ว” ฟินท์เอ่ยพูด แต่เขาเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายขอแข่งกับคนตัวเล็กหลายรอบมากกว่าใคร ๆ “ใครจะแบกมันล่ะทีนี้” เพลงพูดขึ้นพร้อมกับจ้องมองเพื่อนสาวด้านข้างที่กำลังหัวพับคออ่อนส่ายไปมา “กูยังไหว” แก้มใสได้ยินทุกคำที่เพื่อนทั้งสองพูดถึง แต่แค่ทรงตัวไม่อยู่เท่านั้นเอง ร่างบางยืนขึ้น พยายามจะขึ้นไปด้านบนด้วยตัวเอง แต่แล้ว... “อ๊ะ” บ้านก็หมุนแรงจนทรงตัวไม่อยู่ หมับ แขนแกร่งของครามประคองร่างบางได้ทันพร้อม ๆ กับคินท์ สองพี่น้องต่างจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร “ปล่อยมันให้ไอ้คินท์เถอะพี่” ไทม์เอ่ยพูดขึ้น ครามจึงปล่อยแขนแกร่งออกจากร่างบางและถอยห่างออกมา จากนั้นคินท์ก็จัดการอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวหันก้าวขึ้นบันไดไปยังชั้นสองในทันที “เวียนหัว เบา ๆ หน่อยดิวะคินท์” เสียงเล็กเอ่ยพูดขึ้นเมื่อจังหวะก้าวเดินขึ้นบันไดของคินท์มันทำให้เธอเวียนหัวยิ่งกว่าเดิม “ยังดีที่มีสติรู้ว่าเป็นกู” สายตาคมก้มมองคนตัวเล็กเพียงแวบเดียว ก่อนจะมองตรงขึ้นไปยังชั้นสอง ทำเหมือนจะไม่สนใจในคำพูดของเธอ แต่ก็ยอมค่อย ๆ ก้าวทีขึ้นละขั้นอย่างเบาเท้า “ก็เป็นมึงทุกครั้ง” แขนเรียวยกคล้องคอแกร่ง ใบหน้าหวานซบลงอก ที่รู้ว่าเป็นคินท์เพราะกลิ่นน้ำหอมจากตัวเขา เธอจำกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของคินท์ได้ดี มันหอมเป็นพิเศษเมื่ออยู่บนตัวเขา “แขนมึงแข็งทำกูเจ็บ” แก้มใสเอ่ยพูดไม่หยุดและกระชับแขนเรียวที่คล้องคอแกร่งแน่นยิ่งขึ้น จนใบหน้าหวานเริ่มเข้าใกล้ซอกคอของเขาเรื่อย ๆ “ทำไมต้องเป็นคนมาส่งกูทุกครั้งด้วย” เสียงหวานพูดอยู่ที่ข้างหูเขาไม่หยุด “เมาแล้วก็ชอบถามมาก” ลมอุ่น ๆ จากปากเพื่อนสาวทำเอาคินท์ขนลุกซู่ไปทั้งตัว “เพราะมึงชอบกูไง ถึงมาส่งกูทุกครั้ง” เธอไม่ได้ยินคำพูดของคินท์เลยสักนิด เอาแต่ถามเองและตอบเองในภวังค์ของเธอ “ฉลาดอยู่เหมือนกันนี่” ริมฝีปากหนายกยิ้ม พร้อมกับวางร่างบางลงบนเตียง “แล้วไงกูต้องชอบมึงตอบไหม” เพราะแขนเรียวยังคล้องที่คอแกร่งอยู่ทำให้เขาต้องโน้มตัวลงไปตาม “ไม่จำเป็น แต่มึงอย่าไปรู้สึกกับคนใกล้ตัวกู” ใบหน้าทั้งสองอยู่ใกล้กันเพียงคืบ “หึง กูเหรอ…” ตาหวานเบิกกว้างขึ้นกว่าเดิมเพื่อจ้องดวงตาคมคู่หน้าให้ชัด ๆ “…สบายใจได้ กูไม่คบคนใกล้ตัวกูเหมือนกัน” จากเสียงยาน ๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่เมื่อเป็นประโยคนี้ เธอกลับพูดได้ชัดเจนขึ้นเหมือนคนปกติ สายตาก็จริงจังอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสองจ้องตากัน เขาเข้าใจในสิ่งที่เธอสื่อเป็นอย่างดี ว่าคนใกล้ตัวที่เธอหมายถึง นั่นก็คือ เขาเอง “นอนลงไป” คินท์พยายามแกะมือเล็กออกจากคอแกร่ง หมับ! มือเล็กเปลี่ยนจากคอแกร่งมากอบกุมใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ แขนทั้งสองข้างของคินท์ก็เปลี่ยนมาค้ำยันไว้กับเตียงคร่อมร่างบางไว้เช่นกัน “ผิวมึงโคตรดีเลย กูนี่ประโคมครีมทาเป็นถังแล้ว ทำไมผิวยังไม่ดีเท่ามึงเลยนะเนี่ย” เสียงหวานกลับมายืดยานเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อีกครั้ง “ไหน ขอดูหน้าชัด ๆ ดิ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม