ขอนะครับ...3

1319 คำ
3 2 ปีต่อมา กรุงเทพ ภายในบ้านกาญจณัติห้องรับแขกแน่นถนัดไปด้วยบรรดาลูกน้องทั้งเก่าใหม่ทั้งหมดยืนก้มหัวให้ประมุขขององค์กรที่นั่งอยู่กลางโซฟาตัวยาวสีแดงสดดูทรงพลัง ปึง! ... เสียงวัตถุหนักกระทบกับโต๊ะไม้เนื้อดีทำเอาบางคนสะดุ้งตกใจกับท่าทีขึงขังที่ไม่คิดว่ามันจะมาจากคนที่ตัวเองนั้นคุ้นเคยดีตั้งแต่เด็ก “ใครเป็นคนคุมที่นั่น!” ผมกวาดตามองลูกน้องด้วยความหงุดหงิดใจความผิดนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่จะปล่อยผ่านไปแล้วใช้เงินแก้ปัญหา บ่อนใหญ่ที่เราพยายามปิดซ่อนจากสายตาตำรวจโดนบุกทลายยังไม่ต้องสืบว่ามีสายตำรวจหลุดรอดเข้ามามั้ยเพราะผมมั่นใจว่ามีแน่ระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้นทางเข้าออกที่มีหลายทางและระบบการคุ้มกันก็แน่นหนาอย่างดีลูกค้าที่จะเข้าไปเล่นได้ต้องเป็นเมมเบอร์และมีคีย์การ์ดประตูสุดท้ายทุกคน “ผมถามว่าใคร!” ตวาดออกไปอีกครั้ง “ผะ…ผมครับนายน้อย” มองลูกน้องทางฝั่งซ้ายที่ก้าวออกมาเขายังคงก้มหน้าสำนึกผิด “จะรับผิดชอบยังไง?” “…” ไม่มีคำอธิบายนอกจากก้มหน้าเอามือประสานกัน “เลือกเอาว่าต้องการแบบไหน” ผมมองโต๊ะตรงหน้าที่มีอาวุธหลายหลาก สนับมือ กระบอง มีด ดาบและปืน “ชุน…” “เงียบครับอาดิม!” ใช้หางตามองมือขวาของตัวเองและลำดับความสนิทให้เขาเป็นเหมือนญาติ อาดิมเป็นเพื่อนรักของพ่ออิฐครับสนิทกันมากเป็นเด็กพัทยาเหมือนกัน “อาจะจัดการเรื่องนี้ให้ชุนวางใจเถอะนะ” เขาพยายามกล่อมผมคงจะเห็นว่าผมเริ่มหงุดหงิด ก็ไม่ผิดนะครับผมหงุดหงิดจริงๆ ในหัวก็คิดว่าผมเลี้ยงทุกคนดีไปรึเปล่าอยู่สบายจนหย่อนยานขาดวินัยปล่อยให้ตำรวจเข้าถึงตัวง่ายๆ ไม่ระวังไม่ป้องกันใดๆ จนเสียหายหลายร้อยล้าน “ยังไงครับบ่อนถูกทลายไม่เหลือซากมูลค่าความเสียหายมันมากกว่าเงินเดือนของพวกนี้หลายล้านเท่า” “อารู้แต่ตอนนี้ชุน…” อาดิมไม่พูดต่อเลือกที่จะถอนใจ จะบอกว่าผมใจร้อนใช่มั้ย? ใช่… เพราะชุนคนเก่าที่ใจเย็นมองอะไรในแง่บวกมันตายไปได้ประมาณสองปีได้แล้วมั้ง เหลือแต่ชุนที่จริงจัง เด็ดขาด เข้มแข็ง ทรงพลังเพราะเลือดจากฝั่งป๊าที่ยังไหลเวียนอยู่ในร่างกาย “อะไรกันเนี่ยคนเต็มบ้านไปหมด” เสียงชิวเยว่โวยวายมาแต่ไกลผ่านไปไม่นานน้องสาวผมก็เบียดแทรกกลุ่มชายฉกรรจ์จนมายืนท้าวเอวจ้องผมด้วยท่าทางไม่พอใจเอามากๆ ก็ยังคงไม่แน่ใจต่อไปว่าใครเป็นพี่เป็นน้องนะครับ “ผีเข้าเหรอเฮียเรียกทุกคนมารวมตัวกันทำไม?” “ไม่ใช่เรื่องของเราขึ้นห้องไป” มองชิวเยว่แล้วก็มาสะดุดกับกระโปรงที่ผิดระเบียบ ที่ว่าผิดระเบียบน่ะไม่ใช่กฎของมหาลัยหรอกนะแต่เป็นกฎป๊าที่กำชับว่าห้ามชิวชิวใส่กระโปรงเข้ารูปและห้ามสั้นเด็ดขาดออกจากบ้านไปเรียนทุกวันชิวเยว่ก็จะใส่แต่พลีทบานคลุมเข่าแต่พอป๊าไปมาเก๊ากับพ่ออิฐได้สี่วันเท่านั้น “ไปเอากระโปรงตัวนี้มาจากไหนเฮียจะฟ้องป๊านะ” พูดแล้วก็หยิบมือถือมาทำท่าจะถ่ายรูป “เฮีย!” ชิวชิวเข้ามาตบมือถือผมลง “ถ้าไม่อยากให้เฮียฟ้องป๊าก็ขึ้นห้องไป” “เฮียร้ายอ่ะ!” “ตรงไหนเราทำผิดกฎป๊าเองนะ” “ฝากไว้ก่อนเหอะ!” ชิวเยว่ค้อนผมก่อนจะแหวกบรรดาลูกน้องเดินออกไป หันกลับมาสนใจปัญหาตรงหน้า “ยังไงเรื่องนี้ผมก็ปล่อยผ่านไม่ได้จะต้องมีคนรับผิดชอบมันคือกฎที่ทุกคนก็รู้ดี…เลือกสิถ้ายังไม่ตัดสินใจผมจะเลือกให้นะ” หันกลับไปมองลูกน้องด้วยแววตาสงบนิ่ง เขาขยับมาเลือกอาวุธที่เบาสุด “หึ…” หัวเราะในลำคอแต่ก็ยอมที่จะเคารพการตัดสินใจนั้น “ฝากด้วยนะครับอาดิมถ้าต่ำกว่า20เข็มผมถือว่าเป็นความผิดของอา” ขยับลุกขึ้นเดินผ่านบรรยาลูกน้องที่ขยับถอยให้ ยังหงุดหงิดอยู่ครับออกไปขับรถเล่นกันดีกว่า ขับรถไปสมองก็คิดแต่ปัญหาที่รุมเร้าผมยังอ่อนประสบการณ์ในสนามสีดำปนเทาผมรู้ตัวดีเกือบสองปีที่พยายามเรียนรู้มามันยังไม่ถึงเศษเสี้ยวของป๊าเลยครับ พอผมเข้ามาดูแลองค์กรป๊าก็เฟตออกไปเอาเวลาไปเที่ยวสวีทหวานกับพ่ออิฐนี่ก็ไปมาเก๊ากันแต่ผมว่าการไปของป๊าในครั้งนี้นั้นมันต้องมีงานปะปนอยู่ด้วยครับ ธุรกิจสีดำที่ป๊าทำอยู่ผมก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มันมีอะไรบ้างแต่ตอนนี้เหลือแค่บ่อนการพนันครบวงจรที่เปิดตามเมืองใหญ่และมีโครงการจะขยายเป็นคาสิโนในเกาะส่วนตัวที่ป๊าซื้อไว้ลงทุน บริษัทขนส่งอาชิงชิงเข้ามาบริหาร สถานบังเทิงที่พัทยารวมถึงโรงแรมในเครือกาญจณัติอาเชนก็เป็นคนดูแล ผมคิดว่าถ้าคาสิโนสร้างเสร็จป๊าก็คงเฟตตัวออกอย่างถาวร ในเมื่อบ่อนซึ่งตอนนี้เป็นรายได้หลักของครอบครัวผมเกิดปัญหาผมในฐานะผู้สืบทอดคนแต่ไปก็ต้องหาทางออกแต่บอกเลยว่าตอนนี้ยังคิดไม่ออกครับไม่แน่ใจว่าถ้าขับรถไปถึงพัทยาแล้วจะเป็นยังไง ขอไปหาตากับยายยืนดูทะเลให้สมองโล่งหน่อยแล้วกัน โทษใครไม่ได้เพราะเป็นผมเองที่ยืนยันว่าจะรับช่วงต่อบอกป๊าว่าจากนี้ขอใช้ชีวิตแบบลูกผู้ชายเสี่ยงอันตรายเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเรียนรู้รสชาติชีวิตเพื่อให้ตัวเองแข็งเกร่งขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้าอาชีพมาเฟียน่ะไม่เคยอยู่ในความคิดผมมาก่อน คำว่ามาเฟีย คำว่าองค์กร ผมไม่เคยเข้าใจแต่ตอนนี้ต้องจำกฎของแก๊งค์ให้ขึ้นใจเรียนรู้วิธีบริหารแบบนักธุรกิจและแบบวิถีมาเฟียไปพร้อมกัน ผมเปลี่ยนตัวเองขนาดนี้ต้องโทษคนบางคนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้มั้ยครับ? “แม่ง!” เผลอสบถและระบายอารมณ์กรุ่นโกรธด้วยการตบพวงมาลัย ปึก! สมองผมมันดันไปนึกถึงความทรงจำเก่าๆ ที่พยายามจะลืมเท่าไหร่ก็ยังไม่ลืมไปซะทีผ่านมากี่ปีก็ยังรู้สึกเหมือนเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อคืน จำ… ความวาบหวาม ร้อนรุ่ม และ… อารมณ์สับสน ปนปรารถนาก่อนที่ทั้งหมดจะสลายหายไปเหลือไว้เพียงความโกรธแค้นอาฆาต หมอนั่นหลอกผมด้วยคำว่า ‘ชอบ’ ครับ สุดท้าย… ก็ทิ้งผมไว้เมื่อความเร่าร้อนชั่วข้ามคืนดับสิ้นไปเช้ามาอารมณ์ก็จางหายไปพร้อมกับร่างกายเขาไม่เห็นหัวไม่เห็นเงาไม่ทิ้งอะไรไว้สักอย่าง คนที่ชอบกันจริงเขาไม่ทำแบบนี้ใช่มั้ยครับ? โดนหลอกครับผมรู้ดี… เจ็บตัวและเจ็บใจแถมมันยังทิ้งปมและปาดแผลที่ไม่สามารถบอกให้ใครรับรู้ได้ไว้ในใจผม ทำอะไรไม่ได้นอกจากด่าตัวเองซ้ำไปซ้ำมาสาบานกับตัวเองว่าจะเป็นคนใหม่ซึ่งผมก็ทำได้ดีมาตลอดระยะเวลาเกือบสองปีที่ว่า แม่กับอายตาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืนที่ผมหายไปน่ะมันเกิดอะไรกับผม ยอมรับว่าเพราะเรื่องนี้ทำให้พอเรียนจบผมก็กลับลงมาอยู่กรุงเทพ เจ็บแล้วต้องจำ และ ต้องระวังตัวให้ดีครับ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม