ตอนที่2.ซังกุงสูงสุด
รุ่งเช้าของอีกวัน ท้องฟ้าปลอดโปร่งอากาศเย็นสบายเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการวิ่งเหยาะๆบริหารปอดให้แข็งแรง โยเกิร์ตงัดชุดวิ่งออกกำลังกายสีส้มสดใสแข่งกับลำแสงของพระอาทิตย์ยามโผล่พ้นจากผืนดิน หรือแม้กระทั่งเจ้าหนอนชาเขียวก็คงไม่กล้าออกมาต่อกรกับสีชุดของเธอแน่ๆ
เปิดเพลงป็อปเพราะๆใส่เฮดโฟนให้รู้ว่าไม่ต้องการคุยกับใครตอนนี้ แกล้งวิ่งผ่านหน้าบ้านเจ้าของรีสอร์ตเผื่อว่าจะได้ภาพสวยๆเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานส่งให้นายแม่ยุวดีกับพี่โย่งดูเป็นขวัญตาจะได้เลิกเยินยอเขาเสียที
"ชิ...คุณปวิชเขาดีคนรุ่นใหม่ไฟแรงใครได้ไปสบายไปทั้งชาติ ดีแตกสิไม่ว่า"
เธอหยุดวิ่งดูลาดเลาทำทีบิดเอวซ้ายทีขวาที ปั้นหุ่นสวยลดเอวให้บางกระชับพร้อมกับผ่อนลมหายใจออกมา
"พรู่..."
บิดเอวไปพร้อมๆกับชะเง้อชะแง้ สอดส่ายสายตาอยากรู้อยากเห็นเข้าไปในตัวบ้าน
ทางด้านปวิชที่ได้รับสาส์นจากแม่เมื่อวาน จิตใจเขาแห้งเหี่ยวลงฉับพลัน ไม่มีเรี่ยวแรงจะเหยียบคันเร่งออกไปท่องราตรี วันนี้จึงตื่นแต่เช้าแต่งตัวเนี้ยบสมกับเป็นเจ้าของรีสอร์ต กำลังออกจากบ้านก็พอดีกับแม่สาวไฟสีส้มมายืนบิดเอวอยู่หน้าบ้าน เขาจึงเดินออกไปทักทายเสียหน่อย
มือหนาแตะที่ไหล่บาง เห็นเม็ดเหงื่อเล็กๆเกาะพราวที่แผ่นหลังขาวเนียน ด้วยจิตอกุศลในตัว อยากดึงเจ้าสายเส้นเล็กที่ไขว้กันเล่นเสียเหลือเกิน พยายามสงบจิตใจลดมือกลับ ตามคำสั่งของขวัญชีวาพี่สะใภ้ว่าไม่ให้ยุ่งกับเพื่อนของเธอเด็ดขาด
"คุณ...คุณ..."
"อ๊ะ!.."
เจ้าของร่างแบบบางที่มีส่วนสูงต่ำกว่าเขาแค่คืบ หันมองตามมือหนาหรี่ตามองเขาพร้อมกับดึงเฮดโฟนออกจากใบหู
"อ่ะ...อ้าว นี่บอส มาตอนไหนคะหรือว่าเพิ่งกลับบ้าน แต่...เอ๊ะไม่เห็นมีรถเข้ามานี่คะหรือว่าถอดจิตมา"
ปวิชทำทีเสยผมที่ปรกลงมาแบบเท่ห์ๆ คิ้วหนาเลิกสูงเขารู้ว่าตัวเองฮอตมากในตอนนี้
"นี่คุณ...ที่มีเป็นร้อยเอเคอร์จะมาออกกำลังกายหน้าบ้านผม คิดอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย"
ฉันอยากจะเหวี่ยงเขานัก คนอะไรหลงตัวเองชะมัด
"ก็วิ่งมาเรื่อยๆแหละค่ะพอดีหายใจไม่ทัน ฝนตกหลายวันไม่ได้วิ่งปอดคงยังไม่เข้าที่น่ะค่ะ"
ปวิชเป็นห่วงจริงจัง เห็นสีหน้าหญิงสาวซีดๆหรือว่าเธออาจต้องการความช่วยเหลือจากเขา จับชายเสื้อแขนยาวพันขึ้นเหนือข้อศอกแบบลวกๆ ยกมืออังลมหายใจของตนเองตรวจเช็คกลิ่นปากแล้วยื่นมือแตะที่แผ่นหลังหญิงสาวอย่างเป็นห่วง สีหน้าจริงจังมาก
"โอเค พร้อมแล้วผมจะอนุเคราะห์ผายปอดให้"
ฉันอยากจะบ้าในสมองเขาคงมีแต่เรื่องพวกนี้ล่ะมั้ง ปัดมือหนาของเขาออกไป เขาคงไม่รู้ว่าคนอย่างโยเกิร์ตคนนี้ไม่มีวันเสียจูบแรกให้กับผู้ชายจอมเจ้าชู้หรอก บอกตรงๆว่ากลัวโรคติดต่อ
"ไม่ค่ะ...ฉันสบายดี ไปล่ะค่ะเดี๋ยวจะร้อน"
ปวิชเห็นท่าทีหญิงสาวแล้วนึกขำ นี่เขากลายเป็นคนจำพวกหื่นไม่เลือกไปแล้วใช่ไหมในสายตาของเธอเขาอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่า ถึงแม้เขาจะเรี่ยราดแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่เป็นคนจำพวก สมภารกินไก่วัด แน่นอน
จึงตะโกนไล่หลังไปว่า "นี่คุณ...ถ้าหายใจไม่ออกบอกผมนะ"
"ทำไมน้องชายคุณปิติน่ากลัวแท้วะ"
ในเวลานี้ฉันก็รีบโกยอ้าวใส่เกียร์หมาแบบไม่คิดชีวิต วิ่งมาจนใกล้จะถึง รีสอร์ตเกือบปะทะเข้ากับรถกระบะที่มีไข่อยู่เต็มท้ายรถ โชคดีที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำจนถึงกับชะลอตัว จึงไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
ปริ๊น!...ปริ๊น!
"อะไรอีกเนี่ย"
แก้วกัลยาลดกระจกชะโงกหน้าออกมาทักทายตามประสาคนคุ้นเคย
"คุณโยคนสวยครับแก้วมาส่งไข่ไก่ค่ะ"
ฉันเกือบทำรถเขาบุบไปแล้วถ้าคุณแก้วไม่บีบแตรเรียก
"ค่ะ...ค่ะ...คุณแก้วมาแต่เช้าเลยนะคะ"
แก้วกัลยายิ้มอ่อนโยนโบกมือริมฝีปากบางแย้มยิ้ม
"ใช่ค่ะ...เดี๋ยวเจอกันนะคะ"
ฉันโบกมือให้แก้วกัลยาสาวเท่ห์แห่งปี ในระแวกนี้รับรองว่าไม่มีใครทาบรัศมีเธอได้ การมาของเธอแต่ละครั้งเรียกเสียงฮือฮาจากพนักงานสาวของรีสอร์ตนี้ไม่น้อย
รถส่งไข่จากปิติฟาร์มเข้าจอดเทียบที่ด้านหลังของรีสอร์ต โดยมีพนักงานคอยรอต้อนรับตรวจนับและส่งเอกสารใบส่งของตามระบบ โดยมีนายบอมหัวหน้าคนงานเป็นคนจัดการ ส่วนแก้วกัลยาสัตวแพทย์ประจำฟาร์มของปิติ ที่เธอมาถึงรีสอร์ตแห่งนี้ก็เพราะหญิงสาวคนนี้ คุณเชฟคนสวย
เธออยากรู้จังว่าผู้หญิงสวยๆคนนี้ใครจะได้ใจเธอไปครอง
"คุณโย...ทางนี้ครับ"
แก้วกัลยาโบกมือเรียกหญิงสาวที่วิ่งเหยาะๆใกล้มาถึง ในมือเตรียมผ้าเย็นผืนเล็กนุ่มมือรอรับ ยิ้มกว้างจนตาหยี
"เช็ดเหงื่อหน่อยค่ะคุณโย"
โยเกิร์ตรับมาเช็ดที่ใบหน้าและลำคอ
"ขอบคุณค่ะคุณแก้ว"
ใบหน้าขาวใสอมชมพูในตาพราวระยิบเมื่อพูดคุยถูกคอกับแก้วกัลยา ทำเอาปวิชที่ตรวจตรารีสอร์ตได้ยินว่ารถไข่ไก่จากฟาร์มพี่ชายมาส่ง จึงออกมาดูเสียหน่อยพร้อมกับของบรรณาการถึงพี่สะใภ้เป็นครัวซองต์ไส้ชาเขียวที่ขวัญชีวาอยากกิน ยิ่งท้องอ่อนๆแบบนี้เขาประเคนของอร่อยถึงฟาร์มอยู่ทุกวัน
เมื่อเขาเห็นภาพหนึ่งสาวสวยกับอีกหนึ่งสาวเท่ห์ พูดคุยหัวเราะใส่กันหวานชื่น ขนาดเขาที่หล่อขนาดนี้สาวสวยยังไม่เคยยื่นไมตรีแบบนี้เลยสักครั้ง ไม่รู้เป็นเพราะอะไร
"หรือคุณจะชอบแบบสาวเท่ห์กันแน่"
แต่ยังไม่ทันที่แก้วกัลยาจะได้คุยให้ชุ่มปอด ไข่ไก่แถวสุดท้ายก็เสร็จพอดีพร้อมกับใบส่งของยัดใส่มือพนักงานของรีสอร์ต
บอมรีบตะโกนเรียก "ลูกพี่แก้วครับเสร็จแล้วครับ"
แก้วกัลยายื่นมือโอบที่แผ่นหลังแบบบาง ค้อมตัวลงนิดหน่อยกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน
"เอาไว้วันหยุดนะคุณโย เราไปทำสเต็กกินกันที่บ้านคุณหมอตัวเล็กดีไหมคะ"
"ดีค่ะ...โยกำลังคิดถึงขวัญเขาอยู่พอดี ไม่รู้แพ้ท้องหรือเปล่า ฝากคุณแก้วช่วยดูแลหน่อยแล้วกันนะคะ"
"ได้ครับ...ต้องรีบไปแล้วไอ้บอมมันรับจ๊อบแซะขี้หมูอีกหนึ่งรายการ มันชอบเรื่องขี้ขี้แบบนี้ ผิดกับผู้จัดการฟาร์มรายนั้นสำอางค์ชอบอยู่แต่ในห้องแอร์"
"เม้าท์คุณภู คราวหน้าโยจะฟ้อง"
สองคนหัวเราะร่วนคุยสนุก ขณะเดินไปส่งคุณแก้วที่รถก็เห็นท่านเจ้าของรีสอร์ตยื่นถุงขนมใบใหญ่ให้กับนายบอม เลิกคิ้วมองมาทางฉันกับคุณแก้ว ฉันรู้นะว่าเขาคิดอะไรจึงแกล้งคล้องแขนคุณแก้วไปจนถึงรถ โบกมือลามองจนท้ายรถหายไปจากสายตาจึงหันตัวกลับห้องพัก เตรียมตัวทำงานโดยไม่สนใจคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นสักนิด
ใบหน้าคมสันมองตามบั้นท้ายงอนงาม อกเอวสะโพกดึงดูดสายตาเขาไปทุกสัดส่วน หญิงสาวที่จัดได้ว่าสวยธรรมชาติอาจจะสวยกว่าสาวๆที่เขาควงอยู่ด้วยซ้ำ ใบหน้ารูปไข่มีเนื้อแก้มให้น่าหยิก ยิ่งกลีบปากบางแดงระเรื่อแม้ไม่ทาลิปสติก ดวงตากลมโตแต่ดุเอาเรื่องเมื่อยามโมโหหรือไม่ได้ดั่งใจ เรียวขาสวยงามสมส่วนผิวพรรณนวลเนียนน่าสัมผัส ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ติดตาตรึงใจเสียทุกครั้งไป
"สมภาร...สมภารไม่กินไก่วัด"
เขาจะต้องท่องให้ขึ้นใจไม่อย่างนั้นคงเสียการปกครองแย่ ถ้าเขาจีบแม่สาวไฟแรงสูงตาดุคนนี้อีกหน่อยลูกน้องจะเชื่อฟังเขาไหม การปกครองที่เขาอุตส่าห์สร้างไว้จะเสียขบวนไปหมดแน่ๆ
"สมภาร...สมภารไม่กินไก่วัด"
แม่ซังกุงโยเกิร์ต แม่หญิงต้องห้ามพี่สะใภ้เขาก็ห้ามไว้อีก
ออนไรท์