บทที่6

890 คำ
ไม่อย่างนั้นสิ่งที่ทำก็ไม่ต่างจากคนโง่ ที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง..แต่อีกเสี้ยวหนึ่งของความคิดสาวใหญ่ก็พยายามทำความเข้าใจ..ก็คงไม่แปลกเพราะยัยน้องณีเติบโตมาในครอบครัวเว้าๆ แหว่งๆ พังๆ รากฐานที่แย่...ไม่มีผู้ใหญ่ที่ดีชี้นำมอบความรักให้ เส้นทางชีวิตจะไปในทิศทางที่ถูกต้องก็คงยาก มือไวเท่าความคิด..มือถือเครื่องเก่าถูกเสริสหางานพาร์ทไทม์ใกล้มหาวิทยาลัย..ยังดีค่าเรียนปัจจุบันได้ทุนจากทางมหาวิทยาลัย แต่ไม่ใช่เพราะเจ้าของเดิมเรียนเก่ง..แต่หล่อนได้ทุนจากความสามารถพิเศษประเภทเด็กกิจกรรม..เนื่องจากสมัยเรียนมัธยมเคยไปประกวดประกวดนาฏศิลป์ระดับประเทศของที่โรงเรียนมาก่อน แต่ให้ตายเถอะ...ทุนที่ทางมหาวิทยาลัยให้มา..คงไม่ได้หมายถึงให้เธอขึ้นเวทีเพื่อทำกิจกรรม...ถ้าเป็นแบบนั้นจริงช่วยเอามีดมาแทงให้เธอตายพ้นๆ ไปเสียยังจะง่ายกว่า อย่าว่าแต่รำเลย แค่ไปยืนบนเวทีหล่อนก็ตัวแข็งเป็นหินแล้ว! ตอนที่รสาเปิดประตูเข้าห้องมาจึงเห็นสภาพเพื่อนสนิทนั่งถอนหายใจแล้วถอนหายใจอ**บนเตียง..คิ้วขมวดกันยุ่ง..ในมือเจ้าหล่อนถือกระดาษบางอย่าง..แม้แต่เสียงประตูที่เปิดเข้ามาคนเป็นเพื่อนก็ยังไม่รู้สึกตัว "ทำอะไรอยู่นะณี"ร่างเพรียวระหงพูดพร้อมกับวางกระเป๋าผ้าไว้บนโต๊ะทำการบ้านฝั่งตัวเอง...เสียงของรูมเมทส่งผลให้คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันไปมอง ภาพที่สาวใหญ่เห็นคือ ใบหน้ารูปไข่..จมูกโด่งเป็นสันสวยรับกับปากรูปกระจับ โดยเฉพาะนัยน์ตาหวานซึ้งราวกับจะตกคนเข้าไปในภวังค์ ผิวพรรณก็ขาวผ่องเนียนลออไปทั้งตัว...และใช่เจ้าหล่อนคือยัยน้องนางเอก!!! ลูกสาวในมโนของเธอนั่นเอง สวย...สวยเว่อร์วัง สวยพอๆ กับดาราตัวท็อปในวงการบันเทิงเลยละ "เธอ..ทำไมมองฉันแบบนั้นละ ยัยณี"ยัยน้องนางเอกยังคงทวนคำถาม มณีเมขลาจำใจอ้อมแอ้มตอบ "คือ ณีแค่แปลกใจนะ ทำไมวันนี้รสากลับเร็ว" "วันนี้แม่รสาไปทำบุญกับแก๊งเพื่อนนะ รสาเลยตั้งใจว่าจะกลับหอ..เพื่อจะทวนหนังสือก่อนสอบ" "อ๋อ" "ว่าแต่ณีเถอะ กำลังทำอะไรอยู่เหรอ..เห็นหน้ามุ่ยเชียว"คำถามพร้อมรอยยิ้มหวานอย่างใส่ใจ ชวนให้แม่ยก no.1 ถึงกับยิ้มกว้าง "พอดีณีว่าจะหางานพาร์ทไทม์ทำนะ" คำตอบของเพื่อนรัก ส่งผลให้รสาประหลาดใจเล็กน้อย..จริงอยู่เธอทั้งคู่เป็นเด็กทุน และมีฐานะยากจน ต่างคนต่างก็กู้เงินเพื่อการศึกษา เพื่อสำหรับใช้จ่ายระหว่างเรียน...เพียงแต่ข้อแตกต่างคือ รสาตั้งใจทำงานพิเศษเก็บเงินไว้ใช้จ่ายตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่ง ในขณะที่เพื่อนสาวเลือกจะทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารกลางคืนที่รายได้ดีกว่า..ซึ่งเจ้าตัวก็พึ่งออกจากงานเดิมมาได้ไม่ถึงสองเดือนดี จากการที่ไปทะเลาะกับแขกที่เข้ามาลวนลาม "แล้วณีไม่ปรึกษาเจ้กล้วยแล้วเหรอ"เจ้กล้วยที่รสาพูดถึง คือรุ่นพี่ที่เรียนจบไปแล้ว..ส่วนใหญ่มักแนะนำเรื่องสายงานกลางคืน เด็กn ไปจนเด็กเสี่ย ใบหน้าเล็กรูปหัวใจส่ายพรืดเป็นเชิงปฏิเสธทันที..งานสุดท้ายที่หญิงสาวหลงภพคิดจะทำคืองานในแหล่งอโคจร..ไม่ใช่อะไรเธอรู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่สายงานที่ตัวเองจะสามารถเอาตัวรอดได้..เธอไม่ลื่นไหลมากพอ จริงๆแล้วยัยน้องนางร้ายเบอร์สองเจ้าหล่อนก็เก่งใช่ย่อย..เพราะสามารถใช้สารพัดวิธีเอาตัวรอดจากปากเสือปากจระเข้ตลอดสองปีที่ทำงานกลางคืน..จวบจนถึงภาวะสุดท้ายที่มารดาโดนเจ้าหนี้กระทืบ เจ้าหล่อนถึงยอมด้านหน้าไปขอขายตัวดื้อๆ กับรุ่นพี่สุดฮอต "อื่ม เอาแบบนี้ดีมั้ย..ถ้าณีไม่ติดว่าเงินจะได้น้อยไป มาทำงานร้านขายไอศกรีมในห้างกับเรามั้ย"เพื่อนสาวแสนดีเริ่มชักชวน แต่ก่อนที่มณีเมขลาจะทันได้ตอบ เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์เครื่องถูกก็ดังขึ้นทันที..เบอร์ที่บันทึกไว้คือ 'พี่ณะของน้องณี' และมันก็ทำให้มณีเมขลาถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ...รีบตัดสายทิ้ง ก่อนจะมือไม้สั่นเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า 'ลูกเขยของมี๊' แต่เหมือนไอ้คนโทรมาจะเริ่มหัวร้อน...เขายังคงโทรจิกไม่เลิก..ดวงตายาวรีเหล่มองรูมเมท..แต่เจ้าตัวเลือกชุดใส่อยู่บ้านเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแทนแล้ว ไอ้คนมีชนักติดหลังจำใจต้องรับโทรศัพท์อย่างเสียไม่ได้ "นี้เธอ กล้าตัดสายฉันทิ้งเหรอ!!!"เสียงโวยยวายดังลั่นลอดออกมา จนหล่อนต้องใช้มืออีกข้างเพื่อปิดเสียง "อื่อขอโทษๆ ว่าแต่คุณมีอะไรหรือเปล่า" "ฉันไลน์ไป ทำไมเธอไม่เปิดอ่านห๊ะ อยากตายหรือไง!!" คำตอบของเขาเล่นเอามณีเมขลา เปิดแอปพลิเคชั่นที่ว่าขึ้นมาดูทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม