ตอนที่ 9

1213 คำ
ตอนที่ 9 เรื่องศึกสองแคว้นก็มิได้เกิดขึ้นมานานหลายปีด้วยเพราะมีสัญญาสงบศึกกัน ต่างฝ่ายต่างยื่นมือเข้าช่วยเหลือเกื้อหนุนกันเป็นอย่างดี ยามออกรบนั้นก็ได้อีกฝ่ายช่วยหนุนหลังส่งกองกำลังและเสบียงอาหารมาให้ มิเช่นนั้นเขาจะตกหลุมรักสตรีที่เป็นแม่ทัพอยู่ใต้เพียงหนึ่ง แต่อยู่เหนือคนนับแสนได้หรือ ภรรยาของเขาช่างเก่งกล้าไม่น้อย เหมาะสมกับตำแหน่งไท่จื่อเฟยยิ่งนัก แต่นางก็ไม่ชอบแล้วเขาจะทำอย่างไรดี “ข้าก็เป็นสามีของนางอีกคน” ท่านอ๋องเดินหน้ามุ่ยมา พลางนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามไท่จื่อ ทั้งสองต่างส่งสายตาฟาดฟันกันไม่ยั้ง ไม่มีใครยอมใคร หลิวชิงไม่ใส่ใจแล้วนางกำลังจะคีบเป็ดย่าง แต่ไท่จื่อกับคีบให้นางเอง จากนั้นก็เป็นท่านอ๋อง ต่างฝ่ายต่างเอาใจท้อง จนกับข้าวพูนถ้วยของนาง “นี่พวกท่านมาทางไหนไปทางนั้นเลย ข้าท้องอยู่นะ” หลิวชิงวางตะเกียบลงอย่างเสียงดัง แต่ความรุนแรงไม่น้อยตะเกียบเงินมันวาวนั่นงอจนเสียทรง ทำให้บุรุษทั้งสองนั่งตัวลีบเล็กทันใดพลางรู้สึกผิดนักที่ทำให้นางโมโหเช่นนี้ สีหน้าแต่ละคนก็ดูจะสลดลงไปมาก ยามเห็นคนท้องหงุดหงิดใส่ “ข้าขอโทษ” ท่านอ๋องเอ่ยขอโทษนางก่อน “ข้าก็ขอโทษนะ ภรรยา ต่อไปนี้จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว” ไท่จื่อไม่ยอมถ้อยคำนั้นเขาวางตัวเป็นสามีของนาง แต่เขาก็มิได้แต่งงานกับนาง “เอาละ ข้าจะเปิดอกคุยกับพวกท่านทั้งสองนะ ท่านอ๋องข้าคิดกับท่านคือ พี่ชาย และสหายที่เคียงบ่าเคียงไหล่ ให้คำปรึกษาอีกทั้งท่านยังเป็นคนเดียวที่ข้ารัก รักในแบบพี่ชาย มิได้คิดเป็นอย่างอื่น” หลิวชิงจ้องตาของท่านอ๋องอย่างแน่วแน่แม้จะรู้สึกผิดไม่น้อย ที่รู้ว่าพี่ชายนั้นคิดเช่นไร ท่านอ๋องรู้ว่านางจริงจังมากขนาดไหน เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงกลัวว่านางจะโมโห ยิ่งท้องใหญ่แบบนี้ยิ่งต้องระวังให้มาก “ส่วนท่านไท่จื่อ ท่านเป็นบิดาของลูกข้าจริง แต่ข้าไม่มีวันที่จะแต่งงงานเข้าตำหนักเป็นชายาของท่าน เพราะข้าไม่ชอบอยู่ในกรง ถึงจะเป็นกรงทอง คนอย่างข้าไม่ต้องการ ข้ายืนยันคำเดิมคือ ลูกของข้า ข้าเลี้ยงเองได้ ท่านมิต้องมาวุ่นวาย รู้เพียงแค่เขาทั้งสองเป็นลูกของท่านก็พอ” หลิวชิง เดินหนีพวกเขาทั้งสอง หิ้วท้องกลับไปห้อง สาวใช้รู้งาน จัดอาหารใส่ถาดแล้วนำเข้าไปในห้องนายสาวได้รองท้อง นางโมโหหิวด้วยที่เห็นพวกเขาสองคนทะเลาะกันเช่นนี้ นางไม่ชอบให้มีคนทะเลาะกัน “งั้นข้าก็ขอตัว” ท่านอ๋องเมื่อได้ยินน้องเอ่ยตัดบทแล้ว เขาจึงได้ขอกลับตำหนัก ไปซบตักของมารดาเสียหน่อย นางทำร้ายจิตใจเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เขาก็ไม่เข็ดเสียทีผู้เป็นบิดาก็คือฮ่องเต้ก็เข้าข้างหลานรักเสียเหลือเกิน เขาขอให้บิดาออกราชโองการแต่งตั้งนางเป็นหวางเฟย ของเขาบิดาคัดค้านทันที แถมยังถูกด่าทอกลับมาอีก บางทียังคิดว่า เขาหรือนางกันแน่ที่เป็นลูก “เชิญท่านอ๋อง” ไท่จื่อยกยิ้มอย่างคนมีชัยชนะ แท้จริงแล้วเขาเป็นบิดา แถมยังเป็นแฝดอีกด้วย เช่นนี้แล้วจะทำอันใดดีเล่า อย่างนี้ต้องฉลองเสียหน่อยแต่ก่อนจะฉลองนั้นต้องไปง้อภรรยาก่อน นางงอนให้แล้ว แถมยังหิวอีกด้วย อาหารเพียงน้อยนิดที่สาวใช้นำเข้าไปนางคงจะไม่อิ่มแน่ เขาจึงยกโต๊ะอาหารนั่นเข้าไปในห้องของนาง แค่มือเดียวโต๊ะตัวยาวก็ลอยสูงแถมไม่มีทีท่าว่าของที่วางอยู่ข้างบนนั่นจะหล่นลงมา “เข้ามาทำไม” หลิวชิงเห็นเขายกโต๊ะเข้ามารู้ว่านำอาหารมาให้ เพียงแค่ไม่พอใจเรื่องเมื่อครู่เท่านั้น “ข้าขอโทษนะจะไม่รั้งเจ้า แต่อยากอยู่ดูแลจนกว่าเจ้าจะอารมณ์ดี อีกสามสี่วันข้าจะกลับแคว้นฉู่แล้ว” เขาว่า กลับไปสะสางงานแล้วก็กลับมาดูแลนางที่นี่ เขาไม่อยากจะไปเลย กลัวทนความคิดถึงนางไม่ไหว อีกอย่างในเมื่อนางไม่ต้องการที่จะไปอยู่ที่แคว้นของเขา เช่นนั้นเขาก็ย้ายร่างของตนเองมาอยู่กับนางที่นี่ก็แล้วกัน เขาจะเป็นฝ่ายเสียสละเอง เพราะรักถึงได้ยอม และยอมทุกอย่างเพื่อนางคนเดียว “ดี เป็นความคิดที่ดี” หลิวชิงส่งยิ้มเล็กน้อยเพราะชอบใจนัก เขากลับเมื่อไหร่จวนของนางก็จะเข้าสู่ความสงบสุขอีกครั้ง แต่หารู้ไม่ว่าการกลับไปของเขาแล้วเขาจะกลับมาอีกครั้ง จวนของนางจะไม่สงบสุขอีกต่อไป “แต่ก่อนกลับข้าได้ยินว่า คืนนี้จะมีงานเลี้ยงต้อนรับเจ้ามิใช่หรือ” ไท่จื่อยิ้มขึ้น เขาได้ยินองค์ชายสามพูดคุยกับพระชายา ยามพวกเขากลับตำหนัก “ใช่ทำไมกัน แค่งานเลี้ยงธรรมดา หาได้มีอะไรพิเศษไม่” หลิวชิงยังเคี้ยวอาหารตุ้ย ๆ เพราะมีคนคอยแกะก้างปลาออกให้นาง เป็นไท่จื่อที่เขาดูแลนางราวกับว่าไม่อยากให้นางแกะเองเกรงว่าก้างจะติดคอ ดูท่านางจะหิวมาก เขาจึงต้องระวังเป็นพิเศษ ให้นางได้กินอิ่ม เขานั่งดูนางกินก็อิ่มท้องแล้ว แค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว มันอิ่มอกอิ่มใจนัก “เช่นนั้น ข้าจะไปเป็นเพื่อนของเจ้าดีหรือไม่” เขาเอ่ยขึ้น เพื่อไปประกาศตัว เขาคือสามีของท่านแม่ทัพหยางผู้เกรียงไกร “ก็แล้วแต่ท่าน อยากไปก็ไป” หลิวชิงยังสนใจแต่อาหาร เพราะมันอร่อยทุกอย่าง พรุ่งนี้ก็อยากกินอีก “แต่ข้าไปในนามสามีของเจ้านะ” เขาว่า นั่นคือความจริงในข้อนี้ที่เขาอยากให้คนอื่น โดยเฉพาะพวกคนสนิทของนางจะได้เลิกมาวุ่นวายนางเสียที เขาหวง หวงมากนับจากนี้ ห้ามใครมาวุ่นวายภรรยาของเขาอย่างเด็ดขาด “ได้ แต่มีข้อแม้ห้ามไปในฐานะไท่จื่อเด็ดขาด” หลิวชิงเอ่ยขึ้น ห้ามอีกฝ่ายประกาศตัว แท้จริงแล้วนางมิอยากจะตอบคำถามผู้คนในงาน คงจะต้องซักไซ้ไล่เลียงนางเป็นแน่ ขนาดขุนนางเกาคนนั้นก็ยังถูกนางจัดการต่อว่าในท้องพระโรง แต่ทว่าท่านลุงนั้นจัดการก่อน คืนนี้จะต้องมีคนสนใจเขาเป็นแน่ ที่เปิดตัวในฐานะสามีของนางเช่นนี้ ก็เขาช่างหล่อเหลาเสียจริง คนตัวโตเพียงแค่นางเอ่ยให้เขาไปด้วย เขาก็ดีใจจนเนื้อเต้นแล้ว หากนางไม่ให้เขาไปเขาก็คงจะเหงาหงอยอยู่ที่จวน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม