“ดีเลย เท่าไหร่อาก็ไม่ว่า ขอแค่ให้ระบายสินค้าออกไปบางส่วนก็พอแล้ว…” ปรเมศบอกอย่างยินดีจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่
“ภูน่ารักที่สุดเลยค่ะ แบบนี้เราต้องฉลองกันแล้วนะคะคุณพ่อ” ด้านวิราณี ร่างระหงรีบลุกไปนั่งที่พักแขนข้างภูชิต ก่อนจะจุ๊บไปที่แก้มสากเบาๆ เธอเอ่ยอย่างดีใจ นัยน์ตาคมสวยแอบสบสายตากับบิดายิ้มๆ
“แต่ผมมีเงื่อนไขนะครับคุณอา” ภูชิตรีบเอ่ยขัดขึ้น
“ว่ามาได้เลย อาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ปรเมศเอ่ยอย่างใจป้ำ
“สินค้าทุกลังผมจะขอตรวจด้วยตัวเอง คุณอาจะว่าอะไรไหมครับ” ข้อเสนอของภูชิตเล่นเอาปรเมศถึงกับหุบยิ้มทันที ภูชิตจึงมั่นใจในทันทีว่าสินค้าที่บรรทุกส่งไปนั้นอาจจะไม่ชอบมาพากลแน่นอน
“ภูไม่เชื่อใจอาเหรอ?” ปรเมศเอ่ยถามใบหน้าเครียด
“ไม่ใช่เรื่องความเชื่อใจหรอกนะครับ แต่เป็นระเบียบที่ทางเราปฏิบัติ ส่วนสินค้าของคุณอาเป็นล็อตพิเศษ ผมไม่อยากให้ใครทำก็เลยจะลงไปทำเองนะครับ” ภูชิตเอ่ยอย่างใจเย็น
“ฮ่า…ฮ่า…ฮ่า ต้องอย่างนี้สิ อาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” นายปรเมศบอกยิ้มๆ ก่อนจะมองบุตรสาว “วีร่าเอารายละเอียดของสินค้าให้เลขาฯ ภูดูสิ”
“ค่ะคุณพ่อ” วิราณีรีบหยิบซองเอกสารแล้ววางไว้ลงบนตักของญานิน
หญิงสาวหันไปสบตาคมของเจ้านายหนุ่มก่อนจะเปิดอ่านรายละเอียดคร่าวๆ แล้วเก็บเอกสารกลับเข้าไปในซอง “เบื้องต้นเรียบร้อยค่ะเจ้านาย”
“…” ด้านปรเมศคลี่ยิ้มที่ทุกอย่างไม่ได้ยากอย่างที่เขาคิดไว้
“ได้เวลามื้อค่ำแล้ว ไปที่ห้องอาหารกันดีกว่าไหม?” นายปรเมศลุกขึ้นแล้วเป็นฝ่ายเดินนำไป วิราณีจับมือภูชิตให้ตามเธอไป ส่วนญานินหญิงสาวลังเลไม่อยากไปนั่งปั้นหน้าเธอจึงตั้งใจจะออกไปหาพี่ชายด้านนอก
“ไปกินข้าวด้วยกันสิญานิน” ทว่าภูชิตกลับไม่ยอม ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้ม
“เอ่อ…” หญิงสาวลังเล เล่นเอาวิราณีหมั่นไส้เพราะคิดว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นตัว
“มาสิยะ” วิราณีแว้ดเสียงใส่
“ค่ะ…” เมื่อหลบเลี่ยงไม่ได้ ญานินทำได้เพียงมองบนก่อนจะเดินตามทั้งสองไปอย่างเซ็งๆ
“นั่งเถอะวีร่า” นายปรเมศเห็นท่าทางของภูชิตที่แสดงออกว่าสนใจเลขาฯ ของตัวเองเป็นพิเศษก็มองใบหน้าบุตรสาวนิ่ง ส่วนวิราณีใบหน้าบึ้งพลางนั่งลงข้างๆ บิดา และแล้วอาหารมื้อค่ำอันแสนอึดอัดสำหรับญานินก็เริ่มต้นขึ้น
ระหว่างที่ทุกคนอยู่ในห้องอาหาร นนทรีก็นั่งคอยอยู่ในรถ จนกระทั่งชายฉกรรจ์ที่เดินตรวจตรารอบๆ บ้านไปกินข้าว นายตำรวจหนุ่มก็ลงจากรถเดินลัดเลาะไปตามพุ่มไม้ เล่นบทเป็นคุณตำรวจสายสืบตามหน้าที่ที่ตนได้รับมอบหมายจากกรมตำรวจ ผู้กองนนทรีพยายามแอบสืบหาหลักฐานของนายปรเมศอย่างเงียบๆ เมื่อดูลาดเลาแล้วนายตำรวจหนุ่มก็แอบปีนป่ายขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านเพื่อไปยังห้องทำงานของนายปรเมศ
เมื่อขึ้นไปถึงชั้นสองได้ นนทรีก็แฝงตัวแนบไปกับผนังห้อง สายตาที่โผล่ออกมาจากฮู้ดสีดำคอยแอบชำเลืองมองไปที่ประตูแต่ละห้อง จนกระทั่งมีชายฉกรรจ์คนหนึ่งออกมาจากห้องพร้อมกับกระดาษใบหนึ่ง คล้อยหลังไปไม่นานนนทรีก็แอบแทรกตัวเข้าไปในห้องๆ นั้น สายตาคมพลางกวาดมองห้องทำงานแล้วรีบหาสิ่งของที่ตนต้องการ ดวงตาคมมองประตูเป็นระยะๆ เพราะกลัวว่าจะมีคนแอบเข้ามา เมื่อพบเอกสารสำคัญ นนทรีก็ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปหลักฐานเหล่านั้นไว้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็หาหลักฐานที่ตนต้องการต่อ เมื่อสายตาเลื่อนมาถึงลิ้นชักตรงหน้า มือหนาก็รีบดึงมันออกมา ทว่าเจ้าลิ้นชักตรงหน้ากลับถูกล็อกเอาไว้ นนทรีจึงใช้วิชามารในการสะเดาะลูกกุญแจ ก่อนจะพบกับหลักฐานสำคัญอีกอย่างที่ต้องการ
“เส้นทางยาเสพติดของนายปรเมศ?” นนทรีคลี่ยิ้มแล้วถ่ายรูปเก็บหลักฐานไว้อย่างยินดี ทว่าเพียงไม่นานเสียงฝีเท้าคนก็เดินเข้ามาใกล้ๆ ว่าแล้วนายตำรวจหนุ่มก็รีบเก็บเอกสารลับกลับเข้าที่ ก่อนที่ร่างสูงจะรีบออกจากห้องทางระเบียง แล้วกระโดดลงบนพื้นหญ้าพอดี ซึ่งตรงกับจังหวะที่คนของนายปรเมศเห็นเข้าพอดีจึงรีบยิงปืนเข้าใส่ผู้กองหนุ่มรัวๆ
ปัง! ปัง! ปัง!
ด้านนนทรีเอง ชายหนุ่มอาศัยความมืดวิ่งไปหลบหลังพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว ทว่าคนของนายปรเมศกลับวิ่งไล่ล่าตามเขาอย่างไม่ลดละเช่นกัน แต่เพราะความมืดพวกมันกลับวิ่งผ่านจุดที่นนทรีซ่อนตัวอยู่ และเหตุการณ์เสียงปืนลั่นทำให้เจ้าของบ้าน ภูชิต และญานินถึงกับต้องออกมาดูที่หน้าบ้าน
“มีอะไร?” นายปรเมศรีบเอ่ยถามลูกน้อง
“มีคนแอบเข้าไปในห้องทำงานท่านครับ” เหล่าลูกสมุนรีบรายงาน เล่นเอานายปรเมศใบหน้าเครียดเกร็งกำมือเข้าหากันแน่นอย่างแค้นเคือง
“จับตัวมันมาให้ได้ ถ้าจับเป็นไม่ได้ก็ยิงมันทิ้งซะ!” นายปรเมศถึงกับเอ่ยเสียงเหี้ยม ส่วนภูชิตมองไปรอบๆ บริเวณเห็นนนทรีเดินออกมาจากมุมมืดแล้วเดินไปที่รถ ชายหนุ่มก็รีบขยับไปยืนใกล้ๆ นายปรเมศเพื่อบังไม่ให้อีกฝ่ายเห็นผู้กองหนุ่ม
“ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ คุณอาจะได้มีเวลาจัดการเรื่องคนที่มาบุกรุกได้สะดวก” ภูชิตรีบบอกลาเจ้าของบ้าน ด้านญานินเองก็พนมมือไหว้แล้วเดินตามเจ้านายอย่างรู้งาน ด้านวิราณีก็เกี่ยวแขนชายหนุ่มขณะเดินไปส่งอีกฝ่ายที่รถ
“…” พอมาถึงรถ ญานินก็ยืนอยู่ข้างๆ พี่ชายของเธอแล้ว ด้านภูชิตเห็นความผิดปกติในสายตาของเลขาฯ มือหนาก็รีบปลดมือของวิราณีออกทันที