ตอนที่ 14 ภัยร้าย

1447 คำ
ถึงแม้ว่างานเลี้ยงฉลองจะสิ้นสุดลงไปแล้วแต่ความตื่นเต้นของผู้คนนั้นยังไม่สิ้นสุดลงโดยเฉพาะกับพลทหารอาสา ในที่สุดในวันนี้พวกมันก็ถูกปลดประจำการแล้วและยังได้รับรางวัลที่ทางการได้สัญญาเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเงินรางวัลหรือการได้รับชีวิตที่เป็นอิสระอีกครั้ง และในเวลานี้เองทางด้านตัวของคุณเหลียงนั้นตัวของเขาไม่ใช่เป็นทาสอีกต่อไปแล้วและตัวเขายังได้เงินมาตั้งตัวเป็นจำนวนหนึ่งสำหรับอดีตทาสเช่นเขานั้นเงินจำนวนนี้ถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อยเลยเพราะมันเป็นจำนวนเงินที่มากกว่า 100 เหรียญทอง เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ากว่าที่คนผู้หนึ่งจะหาเงินได้เป็นจำนวนมากขนาดนี้นั้นอาจจะต้องใช้เวลานานนับปี “หืม ชีวิตข้าหลังจากนี้ข้าควรที่จะทำอย่างไรดี” หลังจากที่ได้รับชีวิตที่อิสระมาแล้วนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรที่จะเริ่มอย่างไร เพราะตนเองนั้นเคยเป็นทาสมาทั้งชีวิตเคยแต่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อื่นมาตลอด “คุณเหลียงข้าได้ข่าวมาว่าตัวเจ้านั้นมีความสนิทสนมกับลี่ถังไม่มากก็น้อยนี่คือเงินรางวัลในส่วนของมันฝากเจ้านำไปให้ครอบครัวของมันด้วย” นายกองผู้หนึ่งกล่าวกับคุณเหลียง ถือว่าทางกองทัพนั้นมีความเมตตาต่อผู้เสียชีวิตอยู่ไม่น้อยถึงแม้ว่าตัวของพวกมันจะตกตายไปแล้วแต่อย่างน้อยครอบครัวของพวกมันก็จะได้ไม่ต้องลำบาก “ขอรับ เดียวข้าจะเป็นผู้เดินทางไปพบครอบครัวเขาเอง” จริงๆแล้วตัวของคุณเหลียงคิดที่จะอมเงินของสหายรักของตนผู้นี้ก็ได้ แน่นอนว่าจะไม่มีผู้ใดสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่คุณเหลียงเองก็ไม่คิดที่จะทำตัวของเขานั้นอยากจะพบเจอกับครอบครัวของลี่ถังเป็นอย่างมาก เพราะตัวของเขาในยามนี้นั้นก็ไม่รู้ว่าเป้าหมายต่อไปของตนควรที่จะทำอย่างไรดี การที่ไปพบเจอกับครอบครัวของสหายรักนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เลวเช่นกัน หมู่บ้านที่ลี่ถังอาศัยอยู่นั้นชื่อว่าหมู่บ้านสายหมอก อยู่ใจกลางป่าเขาหากต้องการที่จะเดินทางไปอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาเดินเท้า 3-4 วันกว่าที่จะไปถึงสำหรับตัวของคุณเหลียงแล้วการที่จะเดินทางไปที่เมืองแห่งนี้นั้นนับว่ามีความยากเย็นเป็นอย่างมากเพราะตัวของเขานั้นไม่เคยเดินทางไกลด้วยตัวคนเดียวมาก่อน ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะยากเย็นขนาดไหนตัวของคุณเหลียงก็ตั้งใจแล้วว่าจะต้องเดินทางไปให้จงได้ เพราะเขาได้ให้คำสัญญาต่อลี่ถังเอาไว้แล้วว่าจะดูแลครอบครัวของเขาอย่างดีที่สุดอย่างน้อยก็ควรมอบเงินในส่วนที่เขาควรจะได้ให้แก่พวกเขา คุณเหลียงเริ่มออกเดินทางไปในทัน ตลอดเส้นทางการเดินทางไปหมู่บ้านสายหมอกนั้นผ่านเมืองผ่านหมู่บ้านตั้งมากมายพอกล่าวถามเกี่ยวกับสถานที่ตั้งมีน้อยคนนักที่จะให้คำตอบกับเขาได้ ว่าสถานที่ที่เขาจะไปนั้นมันเป็นสถานที่ที่น้อยคนนั้นจะรู้จักถือว่าเป็นสถานที่ห่างไกลความเจริญอย่างแท้จริง “ท่านลุง อีกไกลมากไหมกว่าที่ตัวข้านั้นจะเดินทางไปถึงเมืองสายหมอก” คุณเหลียงกล่าวถามทางชายชราตรงหน้า ตัวของเขาในยามนี้นั้นก็เดินทางมาครึ่งวันแล้วแต่ก็ยังไม่ถึงสักทีแต่ตัวของเขานั้นหาได้รู้ไม่การที่จะเดินทางไปถึงที่หมู่บ้านแห่งนี้นั้นอย่างน้อยจะต้องใช้เวลา 3-4 วันตลอดไปถึง “เจ้ามันบ้าไปแล้วเจ้าหนุ่มหมู่บ้านสายหมอกมันไม่ใช่ที่ใกล้ๆเลยนะ เจ้าจะเดินทางไปด้วยเท้าอย่างงั้นเหรอทำไมไม่เดินทางด้วยรถม้าเล่า สถานที่แห่งนี้นั้นมีบริการให้เช่ารถม้าอยู่เป็นจำนวนไม่น้อยเลย” ชายวัยกลางคนกล่าวเตือนต่อคุณเหลียงด้วยความเป็นห่วงแน่นอนว่าตัวของเขานั้นรู้จักเส้นทางที่จะไปเมืองสายหมอกแต่มันเป็นระยะทางที่ไกลเป็นอย่างมากจะต้องเดินทางข้ามป่าเขามากมายเป็นไปได้ว่าอาจจะไปเจอกับโจรร้ายที่กลางทาง “ข้าไม่มีเงินมากมายถึงขนาดนั้นหรอกท่านลุงเพราะตัวของข้าในยามนี้นั้นจะต้องประหยัดอย่างถึงที่สุด เพื่อที่จะนำมาใช้จ่ายต่อสิ่งของที่จำเป็นภายในอนาคตท่านลุงได้โปรดบอกเส้นทางต่อข้าด้วย” คุณเหลียงกล่าวออกมาด้วยความนอบน้อมเป็นอย่างมากไม่ว่าใครที่พบเห็นก็ย่อมบังเกิดความรู้สึกเมตตาสงสารทั้งนั้น “เจ้าหนุ่มเจ้าก็เดินไปตามเส้นทางนี้แหละ แต่อย่างน้อยเจ้าอาจจะต้องใช้ระยะเดินทาง 3-4 วันกว่าที่จะไปถึง” ชายวัยกลางคนกล่าวแนะนำต่อคุณเหลียงถึงแม้ว่าจะอยู่ภายในป่าลึกแต่ก็พอที่จะมีป้ายนำทางอยู่บ้างหากมันเลือกเดินไปตามเส้นทางก็ย่อมที่จะพามันไปถึงจุดหมายที่มันต้องการ ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณด้วยความนอบน้อมหลังจากนั้นเขาก็ต้องขอตัวลาในทันทีจากคำบอกเล่าที่ตัวของเขาได้รับฟังนั้น เส้นทางยังอีกยาวไกลอยู่ไม่น้อยเลย แน่นอนว่าก่อนที่คุณเหลียงจะเดินทางเข้าไปในเส้นทางที่รกล้างไร้ผู้คนนั้นตัวของเขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพกพาเสบียงสำรองไปด้วย การที่จะต้องออกไปล่าสัตว์หาอาหารป่าเองนั้นไม่ใช่ทางถนัดของเขา ดังนั้นแล้วเขาจะออกล่าหาอาหารด้วยตัวเองก็ต่อเมื่อจำเป็นเท่านั้น หากซื้อของแห้งติดตัวไปเช่นนี้นั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่สะดวกสบายกว่าเยอะ คุณเหลียงเป็นคนที่มีร่างกายสูงใหญ่ดังนั้นแล้วตัวของเขาย่อมเป็นคนที่จะเจริญอาหารเป็นอย่างมาก และในระหว่างที่ตัวของเขากำลังซื้อของแห้งอยู่นั้นก็ไปเตะตาคนกลุ่มหนึ่งเข้า “เจ้าหมอนี่เป็นใครกัน ถ้าทางตัวของมันก็จะพอมีทรัพย์สินเงินทองอยู่บ้าง” ชายผู้ดูเหมือนเป็นหัวหน้านั้นกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความละโมบโลภมาก เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าพวกมันนั้นไม่ได้เป็นคนดีนัก “ลูกพี่ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นใคร แต่ข้าพอได้ยินมาว่าตัวของมันนั้นกำลังจะเดินทางไปที่หมู่บ้านสายหมอก” ผู้เป็นลูกน้องรีบกล่าวรายงานต่อลูกพี่ของตนเพราะภายในเมืองแห่งนี้เองก็ไม่ได้มีความกว้างขวางอะไรมากนัก แน่นอนว่าไม่ว่าผู้ใดจะไปไหนมาไหนก็ย่อมที่จะล่วงรู้ถึงกันหมด “ฮ่า ฮ่า คนผู้นี้เห็นทีไม่โง่ก็เสียสติไปแล้วจะเดินทางไปหมู่บ้านสายหมอกเพียงคนเดียวแถมเป็นการเดินทางด้วยเท้าซะอีก” ผู้เป็นลูกพี่หัวเราะในความโง่เขลาของคุณเหลียง “มันไม่มีปัญญาที่จะเช่ารถม้าเพื่อที่จะเดินทางข้ามไปต่างเมืองคนเช่นนี้จะมีสิ่งของมีค่าจริงๆเหรอลูกพี่” ลูกน้องกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะพวกมันกลัวเหลือเกินว่าจะลงทุนเสียแผนเปล่าถ้ามันไม่มีทรัพย์สินมีค่าใดๆติดตัว “เหอ เหอ เจ้าไม่เห็นที่มันซื้อเสบียงอย่างงั้นเหรอ การที่ตัวของมันซื้อเสบียงเก็บไว้มากมายขนาดนั้นแสดงว่าตัวของมันจะต้องมีเงินระดับนึงเป็นแน่” ผู้เป็นลูกพี่ของพวกมันนั้นกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าพวกมันนั้นจะไม่ลงมือเสียเที่ยวอย่างเด็ดขาดอย่างน้อยมันจะต้องได้มากพอคุ้มค่าเหนื่อยเป็นแน่ ทางด้านตัวของคุณเหลียงเองก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าตัวของเขานั้นกำลังถูกแอบสะกดรอยตามจากในเมืองจนกระทั่งเขาเดินทางออกมาสู่นอกเมืองฝีเท้าของเจ้าคนพวกนี้นั้นเต็มไปด้วยความแผ่วเบาและความเงียบเชียบอย่างถึงที่สุด ดูเหมือนว่าตัวของพวกมันจะกระทำการเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งและนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกมันลงมือทำ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม