EP.10-01
เปิดเทอมใหม่หัวใจว้าวุ่น
ผ่านไปพักหนึ่งที่น้ำตาลอาบน้ำเสร็จ เจ้าตัวเล็กก็เดินนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่เป็นกระโจมอกเข้ามาในห้องนอนของไทม์ เมื่อผิวบางสัมผัสกับแอร์เย็นก็กระโดดโหยงเหยงบ่นว่าหนาว
“นี่เสื้อพี่ไทม์ที่จะให้หนูใส่เหรอครับ”
“ใช่ครับ”
“แล้ว...กางเกงในตัวนี้ด้วยเหรอ หนูจะใส่ได้ไหมอ่า”
“คงหลวมไปแหละ แต่ว่าหนูดึงขึ้นสูงหน่อยแล้วกัน พุงเราน่าจะรั้งขอบมันได้อยู่”
“ว่าหนูอ้วนเหรอ”
“ไม่อ้วนหรอกจ้า ตัวแค่นี้กำลังดี กอดอุ่นดีครับ”
ไทม์ไม่ได้สนใจที่น้องแต่งตัว เขาคว้าผ้าเช็ดตัวอีกผืนออกไปอาบน้ำบ้างเหมือนกัน อาบเสร็จก็รวบเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและของน้องติดมือกลับเข้าห้องมาด้วย ไทม์ใส่ชุดนอนสีเข้มขายาวตัวโปรด จากนั้นก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้างกับน้องและเช็ดผมให้น้ำตาลอย่างเบามือ ส่วนเจ้าตัวเล็กพอรู้รหัสโทรศัพท์ของไทม์ก็ชอบเข้ามาเล่นเกม และไทม์ก็ไม่เคยว่าอะไรน้องเลย
“ว้า ตายอีกแล้ว ทำไมด่านนี้ยากจัง”
“ตอนแรกบอกแค่เกมเขี่ยเพชรหนูเล่นได้ พี่บอกแล้วว่าด่านหลัง ๆ มันยาก หนูก็ค่อย ๆ เล่นไป”
“แบตฯพี่ไทม์จะหมดแล้วอ่า”
“ครับ เดี๋ยวพี่ชาร์ตนะ ถ้าหนูจะเล่นอีกก็ไปเอาไอแพดมาเล่นก็ได้ พี่โหลดเกมไว้ให้แล้ว”
เด็กน้อยลุกไปชาร์ตแบตฯมือถือให้ไทม์ จากนั้นเลยรวบหยิบไอแพดของไทม์มาเล่นอย่างที่ไทม์บอก แต่เพราะกางเกงที่น้องใส่มันไม่สบายตัวเท่าไหร่น้ำตาลเลยนั่งยุกยิกเป็นพิเศษ
“พี่ไทม์ หนูว่ากางเกงในพี่ไทม์มันแปลก ตรงนี้มันพอง มันมีรูด้วยอ่ะครับ”
น้ำตาลวางไอแพดและถกชายเสื้อยืดตัวใหญ่ขึ้นมาเพื่อให้ไทม์เห็นเจ้าปัญหาที่น้องเผชิญ กางเกงที่ไทม์ให้น้ำตาลใส่มันคือกางเกงผู้ชายแบบรัดรูป ที่ขอบกางเกงเป็นยางยืดสกรีนยี่ห้อเอาไว้ ส่วนขาจะยาวมาถึงต้นขาบน และเป้ากางเกงสามารถเปิดออกมาทำธุระได้
“พี่ใส่มันก็พอดี หนูตัวเล็กไงเลยหลวมหน่อย”
“แต่มันมีรู แล้วทำไมเป้ามันใหญ่ หนูไม่เคยใส่กางเกงในแบบนี้”
“มันก็โตตามตัวไงครับ หนูโตขึ้นก็จะใส่กางเกงแบบนี้ได้เองแหละ”
เจ้าตัวเล็กถอนหายใจเพราะคิดว่าคงอีกหลายปีเลยกว่าจะโตจนเป้ากางเกงที่พองนี่มันจะพอดีตัวได้ แล้วพี่ไทม์โตมากแน่เลย ตรงเป้าถึงใส่ได้ ซึ่งขนาดมันห่างไกลจากน้องมากจนน้องคิดว่าคงโตตามพี่ไม่ทันแล้ว ของน้องยังอันจิ๋วอยู่เลย
21.40 น.
หลังจากฝนตกมาสักพักน้ำตาลก็ได้แต่นอนขดตัวให้ไทม์กอด ต่อให้วันนี้ฟ้าจะไม่แรง ไม่มีเสียงฟ้าผ่าเสียงดังก็ตามที แต่เมื่อไหร่ที่ฝนตกน้องจะกลัวเป็นพิเศษเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ฟ้าจะร้องเสียงดังขึ้นมาตอนไหน น้องกลัวมาก ไม่เคยอยู่คนเดียวได้ตั้งแต่ยังเล็ก
ไทม์นอนตะแคงกอดน้อง มองดูน้องเล่นเกมในไอแพดไปด้วย ซุกจมูกดอมดมหลังคอของน้องไปด้วย จนไม่รู้ว่าคนพี่หรือคนน้องเพลิดเพลินไปกว่ากัน
“พี่ไทม์ หนูง่วง”
“ง่วงก็นอนครับ มา พี่เก็บไอแพดให้”
“แล้วแม่จะมารับหนูกี่โมง หนูเล่นกับพี่รอแม่ก็ได้”
“นอนเถอะ เดี๋ยวแม่มาพี่ค่อยปลุก”
“ก็ได้ครับ”
เด็กน้อยพลิกตัวไปหอมแก้มไทม์ฟอดใหญ่ก่อนจะบอกฝันดี ปิดท้ายด้วยการจุ๊บปากหยักของพี่ไทม์ เล่นเอาร่างสูงนอนแข็ง... หมายถึงนอนตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้เพราะทำอะไรไม่ถูก ปกติไม่ค่อยได้จุ๊บปากกัน โดยมากแค่หอมแก้ม ทว่านี่เป็นการจุ๊บครั้งที่สองที่ยังรู้สึกตื่นตระหนกไม่ต่างจากครั้งแรกเลย
แล้วก็เป็นไทม์ที่พลิกตัวขึ้นคร่อมน้องก่อนโน้มหน้าลงไปห้อมแก้มกลมข้างละห้าที ไทม์ดอมดมแก้มเนียนนั่นเข้าเต็มปอดอย่างหนำใจ
“รอบนี้ไม่รวมกับที่หนูทำการบ้านถูกรอบที่แล้วนะ รอบนั้นพี่ติดหอมแก้มหนูอยู่อีกยี่สิบสองครั้ง”
“ก็เหลือเท่าเดิมเหรอครับ”
“ใช่ครับ ยี่สิบสองครั้งนั้นไว้จะหอมในโอกาสอื่นเป็นรางวัล แต่ที่หอมเมื่อกี้เพราะหนูน่ารักพี่เลยอยากหอม”
“หนูน่ารักมากไหมครับ”
“น่ารักที่สุดเลยครับ”
“แล้วพี่ไทม์รักหนูไหม?”
“อืม...พี่รักหนูเหมือนที่หนูรักพี่นั่นแหละ รักแบบไหนก็แบบนั้น ไว้โตขึ้นจะรู้เอง รีบ ๆ โต”
“พี่ไทม์ชอบไล่ให้หนูไปโต หนูก็ตัวแค่เนี้ย ไม่รู้จะโตยังไงให้พี่ไทม์แล้วนะ กินนมทุกวันตัวก็เท่าเดิม กินเยอะก็ออกแต่พุง”
น้ำตาลเบะปากล่างลงด้วยความรู้สึกน้อยใจ พี่ไทม์ของน้องชอบบอกให้รีบโต อะไร ๆ ก็บอกรอให้โตก่อนตลอดเลย แล้วโตเท่าไหร่ถึงจะพอใจ ตั้งอีกสิบเอ็ดปีอย่างนั้นหรือน้องถึงจะโตในสายตาไทม์ได้ น้ำตาลก็ไม่รู้จะเร่งเวลามาเอาใจคนพี่ยังไง
“พี่ก็ไม่ได้ไล่ให้หนูไปโตกับคนอื่นนี่ครับ หนูก็โตไปกับพี่นี่แหละ โตไปด้วยกันแบบนี้ก็ดีแล้ว”
“ถ้าหนูโตเท่าพี่ไทม์ ตอนนั้นพี่ไทม์จะแก่แล้วหรือเปล่า”
“ก็...พี่อายุมากกว่าหนูสิบสองปีอะ”
“โห ห่างกันเยอะจัง พี่ไทม์อย่าเพิ่งรีบแก่ตายนะ รอหนูโตก่อน”
“เอ่อ น้ำตาล...”
“หมายถึงว่ารอหนูโตก่อน ถึงพี่ไทม์จะแก่หนูก็จะดูแลพี่ไทม์เอง”
พวกเขาคุยตอบโต้กันในอ้อมกอดอีกหลายประโยค ไม่นานเสียงเจื้อยแจ้วก็เปลี่ยนมาเป็นการอ้าปากหาววอด ๆ และเงียบไปในที่สุด เมื่อน้ำตาลหลับสนิทไปแล้วไทม์ก็ยกยิ้มพอใจที่แผนของเขาดำเนินไปอย่างแยบยล
ไทม์ถ่ายรูปตอนน้องนอนหลับปุ๋ยไว้หลายรูป หลายมุม และเลือกรูปที่เรียบร้อยที่สุดส่งไปให้แม่ของน้องเพื่อรายงานสถานการณ์ หลังจากที่รู้ว่าวันนี้แม่ของน้องจะเข้ามารับน้องได้ตอนประมาณเที่ยงคืน ไทม์จึงกล่อมน้องนอนตั้งแต่สามทุ่มกว่า เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะทำให้น้ำตาลได้นอนค้างคืนไปกับไทม์ด้วย
The Time : น้องนอนหลับไปแล้วนะครับน้าเตย วันนี้คงเล่นมาเหนื่อย ผมให้น้องอาบน้ำนอนไปแล้ว
The Time : นี่เพิ่ง 4 ทุ่มกว่าน้องก็หลับแล้ว ถ้าน้าเตยมารับตอนดึกน้องคงจะงอแงน่าดู
The Time : จริง ๆ ให้น้องค้างที่นี่ก็ได้นะครับ พรุ่งนี้ก็วันเสาร์แล้ว ไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน
The Time : น้าเตยจะได้ไม่ต้องนั่งรถวนไปมาด้วย ดึกดื่นอันตรายครับ
ร่างสูงกลัวแผนไม่สำเร็จเลยรีบเดินออกมาหาแม่ที่ดูทีวีอยู่ พร้อมบอกว่าน้ำตาลหลับไปแล้ว ให้น้องนอนค้างที่บ้านเถอะเพราะวันนี้น้ำตาลเล่นซนมา กินเยอะ และดูเพลีย สงสารน้องจะต้องหลับ ๆ ตื่น ๆ เพื่อนั่งรถ
คนเป็นแม่ก็เห็นด้วยเพราะเห็นว่าน้ำตาลเป็นลูกเป็นหลานอีกคน อีกอย่างแค่เด็กคนหนึ่งมาอยู่ด้วยก็ไม่ได้ลำบากอะไรเลย
“เดี๋ยวแม่บอกเตยแล้วกันว่าน้องนอนนี่ เราก็ไปเอาผ้ามาปูนอนพื้นนะ อย่าไปนอนเบียดน้องบนเตียง ตัวเองยิ่งชอบนอนดิ้นอยู่”
“โอเค”
ไทม์เดินไปขนผ้ามาปูนอนเป็นพิธีให้พ่อกับแม่เห็นไปอย่างนั้น ทั้งที่จริงเขาก็ขึ้นไปนอนกอดน้องบนเตียงอยู่ดี และไม่นานเสียงแจ้งเตือนไลน์ก็ดังขึ้นไทม์จึงรีบเปิดอ่าน
BAITOEY : น้าเพิ่งคุยกับแม่ไทม์เมื่อกี้เลย
BAITOEY : วันนี้ฝากน้องอีกสักคืนนะไทม์
The Time : ยินดีครับน้าเตย ไม่ต้องห่วงครับ
เมื่อตอบข้อความเสร็จไทม์ก็คว่ำโทรศัพท์ลงที่ข้างหมอน พลิกตัวตะแคงกอดน้องแล้วซุกหน้าเข้าที่หลังคอของน้ำตาลอย่างมีความสุข ตัวเขานั้นไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่ได้นอนค้างอ้างแรมและนอนกอดน้ำตาลทั้งคืน
รู้ทั้งรู้ว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยเพราะเทอมนี้เวลาของเขากับน้องไม่ลงตัวเลย แทบไม่ได้เจอ ไม่ได้คุย การเจอกันวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายมาก และไม่รู้ว่าทั้งเทอมนี้จะมีโอกาสแบบนี้อีกไหม น่าจะเอนเอียงไปทางไม่เสียมากกว่า
ช่วงเวลาเทอมนี้คงต้องทำใจไว้เลยว่าจะได้เจอกับน้องน้อยมากแค่ไหน แต่ไทม์ก็สัญญากับตัวเองไว้อย่างหนึ่งว่าทุกครั้งที่ได้เจอ ไทม์จะดูแลน้อง คอยสร้างรอยยิ้มให้น้องให้ได้มากที่สุด
ทว่าความคิดถึงของไทม์ก็ไม่รู้ว่ามีขีดจำกัดอยู่ที่ตรงไหน ไม่แน่อาจมีสักวันหนึ่งที่ไทม์โดดเรียนเพื่อไปรับน้องก็เป็นได้ หรือไม่ก็ยอมอ่อนเพลียตื่นเช้าเพื่อมาเจอน้องบ่อย ๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ถ้าแลกคำการได้กอด ได้หอม ได้เห็นรอยยิ้มหวาน ๆ ของน้อง ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนไทม์ก็ว่ามันคุ้ม