EP.10-01
เปิดเทอมใหม่หัวใจว้าวุ่น
หลังจากทั้งคู่รู้จักกันมานับครึ่งปี ก็ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่มากขึ้น เรื่องนี้คงต้องยกความดีความชอบให้แม่ของไทม์ ที่ชอบเล่าวีรกรรมตอนไทม์เลี้ยงทอร์ชให้แม่ของน้ำตาลฟังตอนมารับขนมที่บ้านช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แม่น้องจึงเข้าใจพฤติกรรมการโอ๋เด็ก การรักเด็กของไทม์มากขึ้น
ความสนิทสนมนี้เริ่มจากที่แม่น้องน้ำตาลนำคุกกี้ที่แม่ของไทม์ทำให้ไปกินที่ทำงานด้วย ได้มีการแบ่งปันให้กับคนอื่นชิมและแน่นอนว่ามีคนติดใจอยากซื้อ ธุรกิจเล็ก ๆ จึงเกิดขึ้นเมื่อแม่ของไทม์ก็เห็นดีเห็นงามที่จะทำขนมให้แม่น้องไปขาย เดิมคือชอบทำเบเกอรี่อยู่แล้วแต่นำไปวางขายที่ร้านทองก็ขายไม่ค่อยได้ เสียดายทำแต่ละครั้งขายไม่หมดก็ต้องทิ้ง
และจากคุกกี้ก็เริ่มสลับสับเปลี่ยนเป็นขนมชนิดอื่นเพื่อขยายฐานลูกค้า แม่น้องจะเข้ามารับขนมช่วงวันอาทิตย์ตลอดหนึ่งเดือนมานี้ บางสัปดาห์ขายดีก็มีการเข้ามาวันอื่นด้วย บรรดาแม่ ๆ ได้แอดไลน์คุยกันเองโดยไม่ผ่านไทม์อีกเลยตั้งแต่ขายของร่วมกัน แต่ละครั้งที่มาหากันก็จะอยู่กินข้าวด้วยกันตลอด บางครั้งแม่ไทม์ทำอาหารเอง หรือบางครั้งแม่น้องก็ซื้อกับข้าวร้านอร่อยจากข้างนอกมากินด้วยกัน
แน่นอนว่าทุกครั้งที่มาน้ำตาลก็จะถูกพ่วงมาเล่นที่บ้านด้วยตลอด เจ้าตัวเล็กสนุกสนานร่าเริงเสียจนคนเป็นแม่แปลกใจ เพราะน้องไม่เคยหัวเราะได้ทั้งวันขนาดนี้มาก่อน ลูกแม่คงติดพี่ชายใจดีอย่างไทม์เข้าแล้วจริง ๆ
และความไว้เนื้อเชื่อใจที่มากขึ้นทำให้ไทม์ได้รับข้อความจากแม่ของน้ำตาลเมื่อไม่กี่นาทีมานี้เอง
BAITOEY : วันนี้น้องไทม์เลิกเรียนเย็นมากไหมคะ
ขณะที่ไทม์เห็นข้อความก็ยังไม่รีบเปิดอ่าน เขานั่งคิดวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้อยู่ว่าแม่น้องถามทำไม ทุกทีแทบไม่ค่อยทักทายกันในไลน์สักเท่าไหร่ สังหรณ์ใจว่าจะเกี่ยวกับน้ำตาลน่ะสิ แต่ยังไม่ทันที่ไทม์จะได้คิดอะไรต่อ แม่ก็ส่งข้อความมาอีกครั้งราวกับมาเฉลยสิ่งที่ไทม์กำลังคิด
BAITOEY : น้าติดทำโอแทนเพื่อนแบบกะทันหัน กลับดึก น้ำตาลไม่มีเพื่อน
BAITOEY : ดูพยากรณ์อากาศเห็นว่าคืนนี้ฝนจะตกหนักอีกแล้ว
ไทม์คลี่ยิ้มกว้างและหัวเราะออกมาเหมือนเจอสิ่งที่ถูกใจ เพื่อนรอบข้างถึงกับเอียงหน้ามองว่าไทม์หัวเราะอะไรนัก อาจารย์สอนอยู่หน้าชั้นไม่มีเนื้อหาตรงไหนน่าขำขันเลยสักนิด วิชาการจราจรทางอากาศของเด็กการบินแน่นอนว่าเนื้อหาเข้มข้น ไม่มีใครขำออกนอกจากไทม์ในตอนนี้
The Time : อีกยี่สิบนาทีก็เลิกแล้วครับ วันนี้ผมเลิกบ่าย 2 ครึ่ง
The Time : เดี๋ยววันนี้ผมอยู่เป็นเพื่อนน้ำตาลเองครับ น้าเตยไม่ต้องเป็นห่วง
BAITOEY : รบกวนน้องไทม์หน่อยนะ
The Time : แต่วันนี้ผมต้องแวะซื้อของที่ห้างแล้วมีเคลียร์รายงานนิดหน่อย
The Time : งั้นผมไปรับน้องที่โรงเรียนแล้วมาเล่นที่บ้านผมได้ไหมครับ
ได้คืบจะเอาศอก คำนี้ก็คงไม่ได้เกินไปสำหรับไทม์ที่กำลังคาดหวังกับคำตอบว่าจะเป็นอย่างที่ใจเขาคิด และเพราะตอนนี้ไทม์กับแม่ของน้ำตาลก็สนิทกันมากขึ้น จากที่เรียกคุณแม่ก็เรียกน้าแทน หลังจากที่แม่ ๆ สนิทกันไทม์ก็ได้รับอานิสงส์ความสนิทไปด้วย
BAITOEY : น้าเข้าไปรับน้องดึกเลยนะคะ เกรงใจพ่อแม่น้องไทม์
The Time : ไม่เป็นไรเลยครับ พ่อกับแม่เพิ่งบ่นหาน้องไปเองว่าเมื่อไหร่จะมาเล่นที่บ้านอีก วันนี้น้องมาก็ดีเลยครับ
BAITOEY : โอเค ฝากน้ำตาลไปซนที่บ้านอีกวันนะน้องไทม์
ไทม์ส่งสติ๊กเกอร์กลับไปพร้อมกับวางโทรศัพท์และนั่งยิ้มจนหมดคาบเรียน ทันทีที่อาจารย์สั่งเลิกคลาสเรียนไทม์ก็รีบเก็บของแล้วร่ำลาเพื่อน วันนี้คงไปหาอะไรกินก่อนกลับบ้านอย่างเช่นทุกวันไม่ได้เพราะไทม์มีภารกิจสำคัญต้องไปรับน้ำตาลที่โรงเรียนโดยมีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงในการเดินทาง ก่อนที่น้องจะเลิกเรียนเสียก่อน
รถแท็กซี่คือยานพาหานะชั้นดีหากต้องการเดินทางที่มีเวลาจำกัด ถ้าใกล้หน่อยไทม์คงนั่งวินมอเตอร์ไซค์แล้วเพราะใจเขารีบร้อนมาก
15.20 น.
เขามาถึงก่อนเวลาน้องจะเลิกเรียนเพียงสิบนาที จึงกึ่งเดินกึ่งวิ่งมานั่งรอใต้ตึกประถมที่ไทม์เคยมารอแล้วครั้งหนึ่ง และไม่นานเจ้าเด็กแก้มกลมก็เดินสะพายกระเป๋าลงบันไดมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงอีกสามคน ร่างสูงนั่งมองเจ้าตัวเล็กโบกมือร่ำลาเพื่อนเสร็จถึงจะเดินเข้าไปหา
“หนู เอากระเป๋ามาเดี๋ยวพี่ถือให้”
“พี่ไทม์ งื้อออออ หนูคิดถึงงงงง”
น้ำตาลรีบกระโดดกอดไทม์เต็มแรง คงจะคิดถึงพี่ไทม์อย่างที่น้องว่า เพราะตั้งแต่ไทม์เปิดเทอมก็ไม่ค่อยได้เจอกันตอนเช้าเลย เจอแค่สัปดาห์ละวันที่ไทม์มีเรียนเช้าเท่านั้น แล้วก็เจอวันอาทิตย์ที่แม่ของน้องต้องเข้าไปเอาขนม ทว่าวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไทม์ไม่อยู่บ้านเพราะเพื่อนนัดทำรายงานและเขาเลี่ยงไม่ได้
หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ถือว่าได้เจอกันน้อยมาก แม้แต่การโทรหากันทุกสองทุ่มก็ไม่สม่ำเสมอเหมือนเมื่อเทอมก่อน ใช่อยู่ที่ว่าน้ำตาลว่างที่จะโทรมาหาไทม์ตรงเวลาเพื่อให้พี่ไทม์โทรกลับมาคุยกัน แต่เป็นไทม์เองที่ว่างไม่ตรงเวลา บางวันอยู่กับเพื่อนต่อหลังเลิกเรียน บางวันอยู่บนรถเมล์ไม่สะดวกคุยนาน ไทม์ได้แต่โทรกลับไปคุยกันไม่กี่นาทีก็ต้องวางสาย พอตัวเขามีเวลาที่จะคุยกับน้องนานหน่อยก็ดึกแล้ว แน่นอนว่าน้ำตาลคงหลับไปนานแล้ว
วันนี้ไทม์ถึงดีใจมากที่จะได้เจอน้ำตาล ได้พาไปเล่นที่บ้านจนดึก คิดไว้แล้วว่าจะนอนกอดให้หายคิดถึงเลย
“หนูหิวไหม อยากกินอะไรเดี๋ยวพี่พาไปกิน”
“พี่มารับหนูเหรอ”
“ใช่ครับ แม่หนูให้พี่มารับ วันนี้หนูต้องไปอยู่บ้านพี่จนดึกเลย แม่หนูติดทำโอแทนเพื่อนกะทันหันจะมารับหนูที่บ้านพี่ตอนดึก ๆ”
“เย้ ดีจัง หนูอยากไปนอนเล่นเต็นท์ที่สวนบ้านพี่ไทม์”
“ได้ครับ ถ้าฝนไม่ตกก่อนนะ”
ไทม์เดินจูงมือน้องออกจากโรงเรียนไปขึ้นแท็กซี่เพื่อกลับบ้านทันที ระหว่างทางได้ตกลงกันไว้แล้วว่าวันนี้จะกินพิซซ่า น้ำตาลอยากกินเพราะเห็นในโฆษณาทีวีบ่อยว่ามีโปรโมชั่นซื้อหนึ่งถาดแถมอีกหนึ่งถาด คนพี่ก็ตามใจรีบพยักหน้ารับแล้วคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าหน้าเว็บ ให้น้องเลือกหน้าที่อยากกิน เพื่อที่ไทม์จะได้โทรสั่งให้
เมื่อมาถึงบ้านไทม์ก็จัดการกางเต็นท์ทรงกระโจมสูงสีขาวที่สวนหน้าบ้านทันที ซึ่งเจ้าเต็นท์อันนี้พ่อไทม์ซื้อมาให้น้ำตาลหลังจากครั้งแรกที่มาเล่นที่บ้านน้องดูการ์ตูนแล้วบอกว่าชอบ อยากได้ พ่อของไทม์สัญญาว่าถ้ามาคราวหน้าจะซื้อไว้ให้แล้วก็ซื้อตามที่ว่าจริง ๆ น้ำตาลมาที่นี่กี่ครั้งก็ชอบให้กางเต็นท์ให้แล้วเข้าไปนอนเล่นเหมือนในการ์ตูน
หลังจากไทม์กางเต็นท์ให้เสร็จเจ้าตัวเล็กก็หอบกระเป๋านักเรียนเข้าไปนอน ดีหน่อยที่แดดร่มลงมากแล้วด้านในจึงไม่ร้อน
ไทม์ปล่อยให้น้องทำการบ้านไปก่อน ส่วนตัวเขาก็ออกไปรับพิซซ่าที่สั่ง จากนั้นก็เดินเข้าครัวเพื่อตระเตรียมขนมและผลไม้ให้น้องต่อ ไทม์รู้ว่าน้องกินเก่งแค่ไหน แค่ของคาวน่ะไม่พอหรอก ไทม์จึงแบ่งคุกกี้กับบราวนี่ที่แม่ทำใส่จานมาให้น้ำตาลด้วย แค่นั้นยังไม่พอ พี่ไทม์คนที่ตามใจยืนปอกแอปเปิ้ลกับสาลี่ก่อนหั่นเป็นชิ้นและนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นฉ่ำ เพื่อที่ตอนน้องกินจะได้อร่อย ๆ
พิซซ่าและขนมถูกนำไปเสิร์ฟถึงเต็นท์หน้าบ้าน น้ำตาลผุดลุกขึ้นนั่งด้วยแววตาลุกวาว เด็กน้อยถูกไล่ไปล้างมือให้สะอาดก่อนถึงจะหยิบอาหารกินได้ แน่นอนว่าไทม์ไม่จำเป็นต้องเดินไปส่งล้างมือเพราะน้ำตาลคุ้นเคยกับบ้านของไทม์เข้าแล้ว อะไรอยู่ตรงไหนน้องรู้หมด
ความหิวโหยทำให้น้ำตาลกินพิซซ่าไปสองชิ้นรวด พร้อมกับคุกกี้และบราวนี่เกือบหมด เด็กน้อยเอนหลังพิงร่างสูงพลางยกมือขึ้นลูบพุงตัวเองอยู่หลายที
“พี่ไทม์ หนูอิ่มมาก”
“เข้าไปนั่งในบ้านไหม พี่ว่าฝนจะตกแล้วล่ะ ฟ้ามืดมาโน่นแล้ว”
“ก็ได้ครับ”
“หนูถือของเข้าบ้านนะ เดี๋ยวพี่จะเก็บเต็นท์”
เจ้าตัวเล็กวิ่งเก็บของเข้าบ้านอยู่หลายรอบเพราะถือไปทั้งหมดในรอบเดียวไม่ไหว ทั้งกระเป๋านักเรียน ทั้งพิซซ่าถาดใหญ่ ไหนจะจานขนม แก้วน้ำและน้ำอัดลมขวดใหญ่อีก ถึงจะวิ่งหลายรอบน้ำตาลก็ไม่บ่นสักคำแถมยังคงยิ้มร่าเริงได้อยู่เมื่อถือของชิ้นไหนได้ไทม์ก็จะชมน้องว่าเก่งมาก แค่นี้น้ำตาลก็ดีใจแล้ว
20.30 น.
หลังจากพ่อกับแม่กลับมาจากร้านก็เล่นกับน้ำตาลอีกพักใหญ่ พากันเฝ้าน้องจนทำการบ้านเสร็จและให้อมยิ้มหนึ่งแท่งเป็นรางวัล เจ้าตัวเล็กก็ได้นั่งพุงกางดูทีวีกับผู้ใหญ่โดยมีอมยิ้มในมือที่ผลุดเข้าออกปากไม่หยุด
“หนูครับ ไปอาบน้ำได้แล้ว”
“อ้าว แล้วน้องมีชุดเหรอไทม์ น้องนอนนี่เหรอเตยไม่เห็นบอกแม่เลย ไลน์มาบอกแค่ว่าฝากน้องมาเล่นที่บ้านเพราะต้องทำโอกลับดึกแค่นั้นเอง”
คนเป็นแม่ตกใจเล็กน้อยเพราะไม่ได้ตระเตรียมอะไรไว้ให้น้ำตาลเลย น้องไม่มีชุดจะใส่นอนด้วยซ้ำ
“เปล่า น้องเล่นจนเหงื่อออกตัวเหนียวหมดแล้ว ไทม์เลยให้อาบน้ำเฉย ๆ เสื้อผ้าก็ใส่ของไทม์ก็ได้ ใส่กันได้แหละแค่ใส่ฉุกเฉินไปก่อน เดี๋ยวน้าเตยก็มารับแล้ว”
“เอางั้นเหรอ อืม ๆ พาน้องไปอาบน้ำเถอะไป”
“มาครับตัวเล็ก”
น้ำตาลกระโดดจากโซฟาแล้วเดินตามไทม์ไปที่ห้องน้ำทันที ไทม์เตรียมทุกอย่างไว้ให้น้องหมดแล้วทั้งเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม ถูกเตรียมวางไว้ในตำแหน่งที่เด็กเจ็ดขวบจะหยิบถึง
ขณะที่ไทม์เปิดฝักบัวเพื่อปรับน้ำอุ่นให้ มือเรียวยื่นไปสัมผัสน้ำพลางปรับความร้อนให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เจ้าตัวเล็กก็ถอดเสื้อถอดผ้าออกมาอย่างไม่อาย อาจเพราะสนิทใจกับไทม์มากเป็นพิเศษ แต่เป็นไทม์เองที่ปรับน้ำผิด ๆ ถูก ๆ เพราะสติเริ่มกระจัดกระจาย สายตาจับจ้องอยู่กับน้ำตรงหน้าแต่ใจกลับคิดถึงเด็กที่แก้ผ้าอยู่ด้านหลัง
“หนูเอาเสื้อผ้าแขวนไม่ถึง หนูวางไว้บนอ่างล้างหน้าก่อนได้ไหมครับพี่ไทม์”
“ครับ ๆ วางเลย อาบเสร็จแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแล้วกันนะ นุ่งผ้าเช็ดตัวออกไปก่อน พี่เตรียมเสื้อไว้ให้แล้ว”
“พี่ไทม์ดูพุงหนูดิ ใหญ่มาก วันนี้หนูกินเยอะมากเลย”
“...”
“พี่ไทม์ค้าบบ หันมาดูพุงหนูหน่อยยยย”
ไม่ว่าเปล่า น้ำตาลตีพุงตัวเองจนเกิดเสียงแปะ ๆ เบา ๆ เป็นการเชิญชวนให้ไทม์หันมา อยากจะอวดพุงกลม ๆ ของตัวเองเสียเหลือเกิน ติดอย่างเดียวตรงที่พี่มันตัวแข็งทื่อไปหมดแล้ว ไทม์รู้ว่าน้องถอดเสื้อผ้าออกหมดและโป๊อยู่ แน่นอนว่าเขาไม่กล้ามอง ทั้งที่ตอนทอร์ชเจ็ดขวบไทม์ยังอาบน้ำให้อยู่เลยด้วยซ้ำ แต่พอเป็นน้ำตาลแล้วไทม์กลับไม่กล้าแม้แต่จะหันมอง
“จ้า เห็นแล้วว่าพุงกลม หนูมาอาบเร็ว พี่จะไปรอในห้องนะ”
“เห็นตอนไหน พี่หันมาก่อน”
“ก็หนูโป๊ พี่ไม่อยากเห็นเด็กโป๊”
“แต่หนูไม่อายพี่ไทม์สักหน่อย มองได้”
“ไว้ค่อยมองตอนโตเนอะ มาอาบเถอะ น้ำอุ่นกำลังดีแล้ว”
ไทม์หันตัวเดินสวนน้องออกมานอกห้องน้ำ โดยที่สายตาของเขาโฟกัสแค่กับฝ้าเพดานด้านบน ไม่ยอมมองต่ำเลย หัวใจกระสับกระส่ายอย่างหนักอีกรอบเมื่อน้ำตาลดันทะเล้นส่งจูบดังมั้วะให้ไทม์ทีหนึ่งก่อนที่ไทม์จะปิดประตูห้องน้ำลง ร่างสูงถึงกับผ่อนลมหายใจออกมายาวพรืด รีบวิ่งกลับห้องไปตะโกนอัดหมอนเพื่อระบายความในใจ
ตะโกนออกไปว่าน้ำตาลน่ารักมาก มากจนจะทนไม่ไหวแล้วโว้ย...
เป็นอีกครั้งที่ไทม์ต้องลุกขึ้นมานั่งนับนิ้วว่าอีกกี่ปีน้องจะบรรลุนิติภาวะ...