EP.03
อยากเป็นแฟนพี่
เมื่อการเรียนในมหาวิทยาลัยเริ่มเข้มข้นขึ้น แน่นอนว่าไทม์เองต้องปรับตัว เขามีรายงานต้องทำถึงสามวิชาพร้อมกันโดยกำหนดส่งคือสัปดาห์หน้าทั้งหมด พอหักโหมทำงานก็นำพามาสู่การนอนดึก ซึ่งพอนอนดึกก็กระทบไปถึงเรื่องราวตอนเช้า ไทม์อยากจะฝืนตัวเองให้ตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารไปให้น้องน้ำตาลแค่ไหนเขาก็ฝืนไม่ไหว ทำให้สัปดาห์นี้เขาได้เจอน้องไปครั้งเดียว
แต่...ไทม์กลับเจอน้องในฝันเกือบทุกคืน จิตใจต้องโหยหาน้องขนาดไหนกันถึงได้เก็บใบหน้ากลม ๆ นั้นมาฝันเป็นเรื่องเป็นราว
อย่างเช่นคืนก่อนที่เขาฝันก็ช่างเป็นจินตนาการที่ลึกล้ำเหลือเกิน ไทม์ฝันว่าน้องมาอยู่ด้วยที่บ้าน ไม่รู้ว่ามาอยู่ได้ยังไงแต่เขากำลังโดนเด็กน้อยอ้อนอย่างหนักให้เขาอาบน้ำให้ ซึ่งจากประสบการณ์จริงไทม์เคยอาบน้ำให้หลานมาตั้งแต่แบเบาะจนถึงชั้นอนุบาล การอาบน้ำให้เด็กป.2 ก็คงไม่ต่างกัน ในฝันเขาจึงตอบรับความออดอ้อนนี้อย่างไม่ลังเล
การอาบน้ำในครั้งนี้ใช้เวลาเพียงไม่นาน ตามมาด้วยการพาน้องเข้าห้องนอนมาแต่งตัว ไทม์เลือกชุดนอนลายไดโดเสาร์ให้ใส่ ปะแป้งที่แก้มกลมจนขาวโพลน ก่อนจะพากันขึ้นไปนอนบนเตียง
เด็กน้อยนอนซุกอกกว้างโหยหาความอบอุ่น แขนป้อมโอบกอดเอวสอบไว้แน่น น้ำตาลซุกใบหน้าคลอเคลียไปกับแผงอกของไทม์ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองง่วงเต็มทีจึงผงกหัวขึ้นไปหอมแก้มพี่ไทม์พร้อมบอกฝันดี ไทม์เองเมื่อโดนน้องหอมแก้มหนึ่งครั้ง เขาจะหอมแก้มน้องกลับถึงห้าครั้งจนเด็กน้อยเริ่มงอแงที่ไรหนวดมาจิ้มแก้มตัวเอง
นี่คือความฝันล่าสุดของไทม์ซึ่งเมื่อตื่นมาตอนเช้าเขาจะถามตัวเองเสมอว่าทำไมเขาถึงเป็นเอามากขนาดนี้ ฝันอะไรเป็นตุเป็นตะเกินความเป็นจริงไปมาก เป็นตุเป็นตะไม่เท่าไหร่ ที่น่าแปลกคือทำไมถึงฝันหาแค่คนเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เพียงแต่เรื่องราวต่างกันไปในแต่ละคืนเท่านั้นเอง
‘คิดถึงน้องว่ะ พรุ่งนี้ต้องไปหาให้ได้!’
ร่างสูงบอกตัวเองเบา ๆ หลังจากนั่งนึกถึงความฝันต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยไม่รู้เลยว่าคำว่า ‘คิดถึง’ ที่เขาเพิ่งพูดออกมาอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึกบางอย่างที่กำลังก่อตัวอยู่ในหัวใจก็เป็นได้
สำหรับไทม์ เขารู้สึกแค่ถูกชะตากับน้องน้ำตาลมาก แต่เขากลับตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น กระทั่งเผลอพูดคำว่าคิดถึงออกมาโดยไม่รู้ตัว คนเพิ่งรู้จักกันได้ประมาณหนึ่งเดือนนี่น่ะหรือที่เขากำลังคิดถึง เด็กป.2 คนที่น่ารัก ๆ คนนั้นทำให้ไทม์เสียสละเวลานอนเพื่อตื่นแต่เช้ามาทำอาหารแล้วรีบออกไปหา ยอมนั่งรถเมล์จากตรงนั้นไปเรียนทั้งที่คนเบียดเสียดกันเยอะและไม่สบายตัว แต่เขาก็มีความสุขที่ได้ทำ
วันต่อมา
เช้านี้ความมุ่งมั่นที่จะไปหาน้องคนน่ารักของพี่ไทม์นั้นแรงกล้ากว่าทุกครั้ง มุ่งมั่นมากเกินเหตุจนทำอาหารไม่ทัน มัวแต่แต่งตัวให้หล่อ เซ็ตผมให้เนี้ยบ ฉีดน้ำหอมกลิ่นสดชื่นให้ดูเป็นผู้ชายสะอาดสะอ้าน วันนี้เขาไม่มีเรียนแต่ตั้งใจตื่นเช้าเพื่อจะไปหาน้องเท่านั้น แถมไปมือเปล่าอีก เพราะเอาเวลาทำอาหารที่เคยทำนั้นไปแต่งหล่อหมดแล้ว
ไทม์หันไปมองกองเสื้อผ้าบนเตียงที่เขาเพิ่งผลัดเปลี่ยนจนได้ชุดที่ลงตัวอย่างที่เขาใส่ก็ถอนหายใจยาวพรืด ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะทำตัวหล่อไปทำไมกัน ไม่ได้ออกเดตกับสาวที่ไหนสักหน่อย ทว่าคิดได้ป่านนี้ก็ไม่มีเวลาแก้ตัวแล้ว เขารีบออกจากบ้านโดยวันนี้ไม่ได้นั่งรถเมล์ แต่เป็นแท็กซี่ ซึ่งสามารถเลี่ยงรถติดโดยขึ้นทางด่วนไปได้ ไทม์คิดว่าหากไปถึงเร็วกว่าทุกทีอาจจะพาน้องไปหาอะไรกินด้วยได้เลยเลือกโดยสารแท็กซี่แทน
ด้วยระยะทางที่ต้องใช้เวลาในการเดินทาง ประกอบกับการจราจรที่ติดขัดเป็นระยะ เขาจึงมีเวลานั่งจินตนาการว่าวันนี้เด็กน้อยจะเป็นอย่างไรเมื่อเจอเขา จะร้องไห้ไหม ดีใจไหม จะพูดว่าคิดถึงกันหรือเปล่าหลังจากไม่เจอกันหลายวัน แต่ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหนที่เคยผ่านมาไทม์ก็รับมือได้ทั้งนั้น
เมื่อใกล้ถึงป้ายรถเมล์ที่เขาต้องการลง ไทม์จึงชะเง้อมองเพื่อหาเจ้าตัวเล็กที่เขาอยากเจอก่อนที่แท็กซี่จะเคลื่อนตัวไปถึงเสียอีก แต่ไม่เจอน้องนั่งอยู่ที่นั่น ทว่าหางตากลับเห็นเด็กน้อยกำลังสะพายกระเป๋าเดินมุ่งหน้าไปที่ป้ายรถเมล์แทน
ริมฝีปากหยักยกยิ้มดีใจ รีบบอกให้แท็กซี่จอดดักหน้าน้องน้ำตาลเอาไว้ ไทม์รีบจ่ายเงินตามจำนวนค่าโดยสารแล้วลงจากรถทันที เขาเดินย่องไปแอบอยู่หลังต้นไม้ เมื่อน้องเดินมาถึงตรงนั้นไทม์ก็...
“แฮ่!!!”
“เฮ้ย! ช่วยด้...”
ร่างเล็กตกใจที่จู่ ๆ ก็มีตัวอะไรโผล่ออกมาจากหลังต้นไม้ ยังไม่ได้ทันเงยหน้ามองเลยว่าเป็นตัวอะไรน้องก็เตรียมจะวิ่งหนีแล้ว ดีที่คนขายาวกว่ารีบเดินไปดักแล้วคว้าตัวไว้ได้ทัน ไทม์ใช้มือหนึ่งปิดปากอวบอิ่มไว้ไม่ให้ตะโกนเสียงดังขอความช่วยเหลือ ก่อนที่เขาจะหยัดตัวลงนั่งแล้วมองหน้าน้องตรง ๆ
ไทม์ส่งยิ้มหวานไปให้ ไม่ต่างจากน้องที่พอเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใครก็โผลเข้ากอดแน่น
“ไม่เจอกันหลายวัน ผอมลงหรือเปล่าเราน่ะ”
“ทำไมถึงดูว่าน้ำตาลผอมลง น้ำตาลกอดไม่อุ่นแล้วเหรอครับ?”
“หะ หืม..ก็เปล่า... กอดอุ่นเหมือนเดิมแหละ”
“พี่ไทม์หายไปไหนตั้งหลายวันครับ”
“พี่ไทม์ติดทำรายงานหลายวิชาเลย พอนอนดึกก็ตื่นเช้ามาหาไม่ไหว ขอโทษนะครับ แล้วหนูคิดถึงพี่ไทม์ไหม?”
“หนูคิดถึงสิครับ น้ำตาลคิดถึงพี่ไทม์ พอไม่เจอพี่ไทม์ก็ไม่ได้กินข้าวเช้าอร่อย ๆ เลย”
ไทม์มองหน้าน้องนิ่งด้วยความรู้สึกประหลาด ทำไมเวลาดวงตากลมช้อนมองหน้าเขาพร้อมกับพูดคำว่าคิดถึง ตัวเขาเองถึงรู้สึกว่ามือไม้มันเกะกะไปหมดแบบนี้นะ เสียอาการเพราะมีเด็กป.2 มาบอกว่าคิดถึงงั้นเหรอ? ไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย
“เอ่อ พี่เรียนหนัก แต่วันนี้พี่ตั้งใจมาหาหนูเลยนะ”
“เย้ ๆ ดีใจที่มาหาจัง แต่ตอนนี้น้ำตาลหิว พี่ไทม์มีอะไรให้กินไหมครับ เมื่อเช้าแม่ทำข้าวผัดให้แต่ไม่อร่อยเท่าพี่ไทม์ทำให้ น้ำตาลเลยไม่กิน รีบเดินออกมาเผื่อจะเจอพี่น่ะครับ แล้วก็เจอจริง ๆ”
“พี่ไม่ได้เตรียมมาเลยครับ แต่เดี๋ยวพี่พาข้ามไปกินโจ๊กร้านฝั่งโน้นดีกว่า”
“โอ๊ะ วันนี้พี่ไทม์ตัวหอมจัง”
ขณะที่ร่างสูงจะหยัดตัวลุกขึ้นยืนน้องก็รีบทักเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมที่ติดตัวไทม์ เด็กน้อยทำจมูกฟุดฟิดไปตามกลิ่นกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ซอกคอขาวของเขา ไทม์นั่งนิ่ง เอียงคอให้น้องดอมดมอยู่อย่างนั้นจนพอใจ
“ชอบไหม วันหลังจะได้ฉีดมาบ่อย ๆ”
“ดมใกล้ ๆ ยิ่งหอมครับ น้ำตาลอยากตัวหอมแบบนี้บ้างอะ”
“หนูยังเด็กอยู่ เดี๋ยวแพ้ ไว้โตกว่านี้เดี๋ยวพี่ซื้อให้ โอเคไหมครับ ไปกินโจ๊กกันเถอะ เดี๋ยวสายนะ”
มือเล็กคว้ามือใหญ่หมับเมื่อไทม์ยืนขึ้นเต็มความสูง เพียงชั่วอึดใจไทม์ก็กระชับมือน้องแน่นแล้วจูงเดินไปด้วยกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนพากันเดินไปที่อื่นนอกจากป้ายรถเมล์ เป็นครั้งแรกที่ได้จับมือกันเดินแบบนี้
ไทม์พาน้องเดินข้ามสะพานลอยลงมายังอีกฝั่งหนึ่งของถนน แต่ขณะที่เดินผ่านป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้ทางลงสะพานลอย จู่ ๆ น้องก็ปล่อยมือจากเขาแล้ววิ่งไปหาใครบางคน ไทม์ตกใจรีบวิ่งตามทันที และแล้วก็ต้องชะงักฝีเท้าเมื่อน้องวิ่งมากอดแม่
ไทม์จำแม่ของน้องได้ดี เราเคยเจอกันบ้างแล้ว แต่ก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าแม่ของน้องยืนรอรถที่ฝั่งนี้เพื่อไปทำงาน เขาเห็นแม่ใส่ชุดพนักงานบริษัทหนึ่งที่หลายคนตรงป้ายรถเมล์นี้ก็ใส่แบบเดียวกัน คงจะยืนรอรถมารับเหมือนกัน
ถ้างั้น...ที่ผ่านมาเขามาหาน้อง นั่งเล่นกับน้อง ป้อนข้าวน้อง ก็อยู่ในสายตาแม่น้องหมดเลยงั้นสิ?
“สะ สวัสดีครับคุณแม่”
“อื้ม จะพากันไปไหน?”
แม่ฟาดสายตาไม่ไว้วางใจใส่ไทม์แวบหนึ่ง
“ผมพาน้องข้ามมากินโจ๊กครับ น้องบ่นหิวข้าว”
“แล้วจะกลับไปขึ้นรถทันเหรอ?”
“ถ้าไม่ทันเดี๋ยวผมไปส่งน้องที่โรงเรียนเองครับ วันนี้ผมไม่ได้ไปเรียน ผมไม่ต้องรีบไปไหน พาน้องไปส่งให้ได้ครับ คุณแม่ไม่ต้องห่วง”
“ไม่ได้ไปเรียนก็ไม่ได้ผ่านมาทางนี้ แล้วไทม์มาทำไม?”
ร่างสูงชะงักกึก พลางถามตัวเองด้วยคำถามเดียวกัน ทำไมวันนี้เขาถึงได้ตื่นแต่เช้าออกมาทั้งที่มีโอกาสได้นอนตื่นสายในรอบสัปดาห์เลยก็ว่าได้ ทำไมไม่มาหาน้องวันอื่นที่ตัวเองก็มีเรียนแล้วต้องใช้เส้นทางนี้เป็นทางผ่านแทนล่ะ
“แม่จ๋าอย่าดุพี่ไทม์ น้ำตาลคิดถึงพี่ไทม์มากแม่ก็รู้ อยากเจอพี่ไทม์ทุกวันเลยยยยย”
ไทม์ยืนยิ้มไปกับคำพูดของเด็กน้อยที่มักจะพูดอะไรตรงกับความรู้สึก แค่ได้ยินว่าน้องคิดถึงและอยากเจอเขา ไทม์ก็หุบยิ้มไม่ได้แล้ว
“แม่ไม่รู้นะว่าเราสองคนนี่ยังไง แต่น้องติดไทม์มาก พูดถึงไทม์ทุกวัน น้ำตาลไม่เคยติดใครขนาดนี้ วันก่อนพาไปห้างพอเจอของเล่นก็บอกอยากได้มาเล่นกับพี่ไทม์ อะไร ๆ ก็พี่ไทม์ทุกอย่างเลย”
“คุณแม่ไม่ไว้ใจผมใช่ไหมครับ เอ่อ คือผมไม่ได้คิดไม่ดีกับน้องแบบนั้น ไม่ได้จะมาสร้างอันตราย ผมแค่..ชอบน้องน่ะครับ ถูกชะตามากเหมือนเป็นลูกหลานตัวเองจริง ๆ คุณแม่ตรวจสอบผมได้ทุกอย่างเลย ไปบ้านผม คุยกับพ่อแม่ผมก็ได้ พ่อแม่ผมก็รู้เรื่องน้องนะครับ ผมกลับไปเล่าให้ฟังบ่อย ๆ หรือจะเอาเบอร์ไว้ไหมครับ? โทรหาผมได้ตลอดถ้ากลัวผมพาน้องไปนอกลู่นอกทาง หรือจะถ่ายบัตรประชาชนเอาไว้ก็ได้ครับ”
ไทม์ไม่ได้พูดเล่น เขาต้องการแสดงความจริงใจจริง ๆ ก่อนหน้านี้เจอกับแม่น้องก็ในวันที่แม่หยุดงานแล้วมาส่งน้องไปเรียน แต่ยังไม่เคยเจอในลักษณะที่พาน้องเดินไปไหนลำพัง ไม่แปลกที่จะโดนระแวง แต่...แม่ก็ไม่ได้พูดเล่นเหมือนกัน แม่แลกเบอร์กับไทม์และถ่ายบัตรประชาชนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกำชับว่าจะโทรตรวจสอบกับทางโรงเรียน อย่าให้น้องไปเรียนสายเด็ดขาด
ก่อนแม่จะขึ้นรถของบริษัท ก็ไม่ลืมหันมาถ่ายรูปไทม์กับน้องไว้เป็นหลักฐาน ถ้าเกิดอะไรขึ้นโดนแจ้งความจับแน่ ๆ ร่างสูงถึงกับยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่จู่ ๆ ก็เหมือนตกเป็นผู้ต้องสงสัย
“เฮ้ออ แค่พามากินโจ๊ก ต้องผ่านด่านแม่อย่างกับจะพาลูกเขามาทำอะไรไม่ดีซะงั้น เพราะน่ารักมากไงแม่เลยหวงขนาดนี้”
ไทม์พูดไม่ได้ดังมากคล้ายกับกำลังพูดกับตัวเอง ทว่าเด็กหูดีกลับได้ยินแล้วเกิดความสงสัย
“แม่หวงน้ำตาลเหรอ แล้วพี่ไทม์หวงน้ำตาลไหม แล้วหวงกับห่วงต่างกันยังไง?”
“เอ่อ ห่วงก็คือเป็นห่วงเป็นใย เหมือนที่แม่เราห่วงไงครับ หวงก็จะเป็นความรู้สึกพิเศษหน่อยส่วนมากจะรู้สึกเฉพาะกับแฟน”
“น้ำตาลอยากเป็นแบบนั้น งั้นน้ำตาลขอเป็นแฟนพี่ไทม์นะครับ! นะ ๆ ๆ ๆ ๆ น้ำตาลอยากมีอะไรพิเศษบ้าง”
ไทม์ยกมือเรียวขึ้นตบหน้าผากตัวเองดังป้าบ ทำหน้าไม่ถูกเลยเมื่อมีเด็กป.2 มาขอเป็นแฟน
“ตอนนี้ยังไม่ได้ น้ำตาลไม่ต้องคิดเรื่องพวกนี้หรอกครับมันยังไม่ถึงเวลา รอโตก่อนนะ”
ไทม์จูงมือน้องเดินไปร้านโจ๊กพลางตอบคำถามส่งๆ ไทม์เบี่ยงเบนความสนใจให้น้องลืมเรื่องนี้โดยการสั่งโจ๊ก หาโต๊ะนั่ง แล้วชวนคุยเรื่องอื่น แต่ไม่นานน้องก็วนกลับมาถามเรื่องนี้อยู่ดี ราวกับน้องอยากเข้าใจคำว่าแฟนเต็มที เห็นบอกว่าที่โรงเรียนมีรุ่นมีเป็นแฟนกันด้วยแต่ตัวน้ำตาลเองไม่เคยมีแฟน ไทม์จึงตอบปัดไปอีกครั้งว่าไม่ต้องรีบมี น้องยังเด็กมาก ไม่ต้องคิดเรื่องแบบนี้หรอกแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุขในทุกวันก็พอแล้ว
เรื่องที่น้องสงสัยก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตเถอะ...