ความเดิม- "อืมดี เดี๋ยวพ่อจะได้ฝากฝังอาเค้าให้ เราเองถ้าคิดจะทำต้องหนักแน่น ระวังตัวด้วย ทุกอย่างมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรอกนะ" พงษ์ศักดิ์ได้แต่เตือนลูกชายคนเล็กหวังว่าจะซึมซับไม่มากก็น้อยเพราะเขาต้องเจออะไรอีกเยอะ
……………………………………………
สาย ๆ ของวันใหม่
เกียรติพงษ์ เดินลงจากชั้นบนแล้วตรงมาหาบิดามารดาที่นั่งที่ห้องโถงกลางเพื่อลากลับไปยังที่ที่จากมา
"จะกลับแล้วเหรอลูกมาให้แม่ชื่นใจแค่วันเดียวเอง ไม่อยู่ต่ออีกล่ะ ไม่มีใครพอจะฝากดูแลแทนได้เลยเหรอ แล้วจะเสียเงินจ้างไปทำไม" คุณนายกานดาเริ่มจะงอแงพอรู้ว่าลูกชายจะทำฟาร์มหอยมุกด้วยความเป็นแม่
"เอาน่า เมื่อลูกตั้งใจแล้วเราก็ต้องคอยสนับสนุนซิ ไม่ต้องกังวลไป"
"พ่อครับแม่ครับผมสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดีแล้วจะกลับมาเยี่ยมบ้านบ่อย ๆ นะครับ ผมลาละครับ" เกียรติพงษ์ยกมือกระพุ่มไหว้ไปที่อกบิดาและมารดาแล้วเดินออกไปที่รถยนต์คันหรูที่คนของบิดาจอดรออยู่ก่อนแล้ว ส่วนสองสามีภรรยาได้แต่ลูบผมลูกชายคนเล็กของบ้านอย่างเบามือ แต่ทุกครั้งที่ลูบสองสามีภรรยาได้ประสาทพรอันประเสริฐและลงยันต์ขจัดเภทภัยอันตรายและขวากหนามให้ลูกชายของพวกเขาแล้ว
………………………….
@สนามบิน
เกียรติพงษ์เดินออกจากช่องทางผู้โดยสารขาออกและเดินมาเรื่อย ๆ สายตาพลางสอดส่ายหาใครบางคน
"นายครับ ทางนี้ครับ" เทศ หรือ เทศกาล โปกมือฉายไฟให้เจ้านายอย่างกระตือรือร้น
"เป็นไงบ้างไม่ได้เจอสองวัน" เกียรติพงษ์เอ่ยทักทายลูกน้องหนุ่มยิ้ม ๆ
"ก็ดีครับนาย นายจะเข้าโรงแรมหรือไปเกาะเลยครับ" เทศกาลพูดยิ้ม ๆ เช่นกัน
"ยังครับ ผมอยากกลับไปอาบน้ำอาบเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดก่อนน่ะครับ แล้วไปเกาะก่อนครับคุณเทศ" เกียรติพงษ์พูดแล้วค้อมตัวให้ลูกน้องหนุ่มเป็นเชิงหยอกล้อกับลูกน้องคนสนิทที่รักเหมือนน้องชาย
"ได้ครับเจ้านาย งั้นเชิญครับ" เทศกาลพูดยิ้ม ๆ อย่างรู้อารมณ์เจ้านาย เพราะเวลาที่เจ้านายเหนื่อยหรือจะทำอะไรสักอย่างเขามักจะเริ่มต้นด้วยการตั้งหลักโดยการอาบน้ำผ่อนคลายก่อนเสมอ ๆ
ด้านเกียรติพงษ์แม้วันนี้เป็นวันหยุดก็จริงแต่บิดาของเขาได้นัดลูกน้องในพื้นที่นี้ไว้ว่าให้พาไปที่เกาะของอานนท์เพื่อไปดูสถานที่เขาทำกันจริง ๆ และได้คุยรายละเอียดทั้งหมดจากคนที่ไว้ใจได้ก่อนการตัดสินใจ ซึ่งชายหนุ่มก็เห็นด้วยในข้อนี้จึงคิดจะไปหาอานนท์ในวันนี้เลย
หลังจากกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เกียรติพงษ์เดินทางไปที่เกาะXXของอานนท์เพื่อศึกษาข้อมูลเชิงลึกกับของจริงไปเลย โดยมีเทศกาลลูกน้องคนสนิทคอยติดสอยห้อยตามไปด้วย พวกเขาเดินเรือจากชายหาดตะวันออกใช้เวลาเพียง 20 นาทีก็เกาะXX ลูกน้องของเขาจอดเรือไว้และมัดไว้อย่างมั่นคงแล้วพากันเดินไปยังศาลาที่เจ้าบ้านรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว
"มากันแล้วเหรอ พ่อเกียรติ การเดินทางเป็นยังไงบ้าง" อานนท์เอ่ยทักทายลูกชายของพี่ชายที่นับถืออย่างเป็นกันเอง
"สวัสดีครับอานนท์/เทศ นี่คุณอานนท์เพื่อนรุ่นน้องของคุณพ่อนะ รู้จักไว้ซ๊ะซิ" เกียรติพงษ์ยกมือกระพุ่มไหว้เพื่อนรุ่นน้องของบิดาอย่างนอบน้อม และแนะนำให้ลูกน้องรู้จักกับอานนท์เอาไว้
"วันนี้ผมจะมาขอความรู้เรื่องการเลี้ยงหอยมุกจากอานนท์เสียหน่อยครับ ส่วนนี่นายเทศลูกน้องคนสนิทของผม..มาด้วยกัน..ไว้ใจได้ครับ"
"ออ ตามสบายเถอะหลานชาย จอดเรือไว้ตรงไหนล่ะ"
"อ๋อตรงโน้นน่ะครับ ที่มีศาลาครับ"
"อ้อ…เหรอ ปลอดภัยอยู่ เดี๋ยวจะให้เด็ก ๆ ดูแลให้ มะ มาทางนี้ มะ คุณพ่อกับคุณแม่สบายดีมั๊ย ไม่ได้ไปเยี่ยมไปหาเลย มัวแต่ยุ่งอยู่กับคุณมุกเค้านี่แหละ เมียเค้าจะตัดหางปล่อยทะเลแล้ว มีแต่ลูกนี่แหละที่หนีแม่มันมาหาอยู่เรื่อย มันบอกว่ากลัวพ่อจะพาสาวมาแอบไว้ที่ฟาร์มหอยนี่มันต้องคอยตามมาดู" อานนท์พูดกลั้วหัวเราะในตอนท้ายที่พูดถึงลูกสาว
"อ้อ..น้องลีอาใช่มั๊ยครับ หึหึ ครับ คุณแม่ก็บ่นมาแล้วครับไม่อยากให้ทำ กลัวลูกชายไม่กลับบ้านมั๊งครับ"
อานนท์พาชายหนุ่มเดินดูฟาร์มหอยตั้งแต่อนุบาลจนถึงผลผลิตที่สามารถขายได้ เพื่อให้ชายหนุ่มได้ตัดสินใจด้วยตนเองอีกครั้ง เขาแอบหวังไว้ลึก ๆ ว่าชายหนุ่มจะไปต่อ
"เป็นยังไงบ้างล่ะหลานชาย จากที่ดู ๆ แล้วพอจะไหวมั๊ย งานโรงแรม รีสอร์ทก็หนักอยู่นะ" อานนท์หยั่งถามชายหนุ่มคราวหลานอีกครั้งมุมปากยกยิ้ม
"ผมคิดว่าผมทำได้ครับ ใจมันชอบครับ งานโรงแรมก็เป็นกิจการของครอบครัวครับยังไงคุณพ่อก็ไม่ปล่อยอยู่แล้ว แต่อันนี้เป็นของผมคนเดียว ผมอยากทำมันให้ดีครับ" เกียรติพงษ์พูดมันออกมาด้วยความสัตย์เพราะเขาชอบและความฝันอยากจะทำมานานแล้ว
"เดี๋ยวกินข้าวกับอานะ นี่ก็บ่ายแล้ว หิวหรือยัง"
"หิวครับอา ผมออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ทานข้าวเลย กินอาหารบนเครื่องไปนิดนึง" เกียรติพงษ์ตอบยิ้ม ๆ อย่างเด็กน้อยน่ารัก
ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า.. “หิวละซิ งั้นไปเดี๋ยวนี้เลย ป่านนี้โรงครัวเค้าทำกับข้าวเสร็จแล้วมั๊ง กินได้มั๊ยอาหารพื้นบ้านน่ะ มีน้ำพริกจิ้มสาหร่ายทะเล ปลาทอด แกงไตปลาน่ะ” อานนท์พูดยิ้ม ๆ
"โอ้โห..ของโปรดครับ อยากกินครับ"
"อ้าว..งั้นไป มะ..ตามมา ทั้งสองคนเลย พ่อหนุ่มผู้ติดตามก็คงหิวเหมือนกันใช่มั๊ย"
"ครับ/ครับ" สองหนุ่มตอบรับอย่างแข็งขันแล้วเดินตามเจ้าถิ่นไปยังโรงครัว