คุณคนโหด 01 บอดี้การ์ดคนโหด

1243 คำ
CHAPTER 01 ‘คุณหนูเมเบล’ เป็นชื่อที่ทุกคนเรียกฉัน เป็นคำนิยามที่เมื่อใครเอ่ยขึ้นมาแล้วจะคาดหวังว่าฉันจะต้องเป็นคนที่เพอร์เฟ็กส์ทุกระเบียบนิ้ว และใช่.. ฉันถูกเสี้ยมสอนให้เป็นคนที่อยู่ในกรอบมาโดยตลอด เมื่อมีความสุขฉันยิ้มได้เพียงแค่มุมปาก เมื่อเศร้าฉันทำได้แค่ร้องไห้เงียบ ๆ และเมื่อโกรธฉันก็ทำได้แค่นิ่งและค่อย ๆ ให้ความรู้สึกนั้นจางหายไปเอง “เมเบล วันนี้ฉันเห็นคู่หมั้นแกควงดาวสายการบินไปกินข้าวเที่ยงด้วยแหละ” ‘อีฟ’ เพื่อนร่วมห้องที่เรียนกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งเอ่ยขึ้นมา ฉันเก็บอุปกรณ์การเรียนทุกอย่างใส่กระเป๋าแล้วเงยหน้าไปมองเพื่อนที่หยิบข่าวสารมาบอกกัน “อื้ม เราจัดการได้” นั้นคือคำตอบที่ฉันมักจะตอบเพื่อนไปแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “พรุ่งนี้มีนัดทำรายงานบ่ายโมงตรงแกอย่าลืมนะ ฉันจะรอดูคู่หมั้นแกมาส่งนะ” อีฟยิ้มให้ฉัน แม้จะดูเหมือนเป็นเพื่อนสนิทกันแต่ทุกคนที่อยู่รอบตัวฉันไม่มีใครจริงใจกับฉันสักคน ทุกคนล้วนเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ ไม่จากฉันก็จากครอบครัวฉัน แค่นั้นเลย ฉันหยิบมือถือออกมาต่อสายหา ‘คริส’ คู่หมั้นที่ถูกจับหมั้นตั้งแต่ฉันลืมตาขึ้นมาดูโลก แต่คริสกลับไม่รับสายกัน ฉันไม่ได้แสดงท่าทีโกรธหรือโมโหแต่อย่างใดเพราะถูกฝึกมาเยอะจนกลายเป็นคนเย็นชา ไม่ถึงห้านาทีรถสีดำคันหรูที่คุ้นเคยก็ขับมาจอดรออยู่หน้าคณะ ประตูรถฝั่งคนขับถูกเปิดออกปรากฏให้เห็นชายร่างสูงที่มีหูฟังอินเทอร์คอมเสียบไว้ที่หูเสมอ เขายืนตัวตรงแล้วมองตรงมาที่ฉันด้วยสายตาที่ถือดีพอสมควร แตกต่างจากบอดี้การ์ดคนอื่นที่มักจะเคารพฉันแต่ ‘ฮาร์ดิน’ ไม่ใช่หนึ่งในนั้น เขาเป็นบอดี้การ์ดที่มีอำนาจและถือดีจนฉันอยากกางเล็บแล้วข่วนใบหน้าหล่อ ๆ นั้นให้เละคามือ เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้ฉันมีอารมณ์โกรธทุกครั้งที่ขัดขืนเขาไม่ได้ “ขึ้นรถครับ ผมจะไปส่งคุณแทนคุณคริส” แม้จะฟังดูเหมือนพูดสุภาพแต่สายตาที่มองมากลับแปลได้อีกความหมาย ‘รีบขึ้นรถมา ก่อนที่ผมจะหมดความอดทน’ นั้นคือความหมายที่ฉันแปลได้จากผู้ชายคนนี้ “ฉันจะกลับบ้านเอง” ฮาร์ดินไม่ไหวติง เขาจ้องฉันอย่างดุดันแล้วบีบบังคับฉันผ่านสายตาคู่ดุคู่นั้น “คุณก็รู้ว่าถ้าผมรายงานพ่อคุณว่าคุณไม่กลับกับคู่หมั้นตัวเองจะเกิดอะไรขึ้น” แววตาฉันมีกระแสความไม่พอใจแสดงออกเพียงเล็กน้อยก่อนจะกลืนหายไป “แต่พี่คริสไม่ได้เป็นคนมารับฉัน” “ผมเป็นตัวแทน” ฮาร์ดินแย้งขึ้นเสียงแข็ง แววตาเขาเริ่มหมดความอดทน ผู้ชายคนนี้ความอดทนต่ำและอารมณ์ฉุนเฉียว ฉันเมินสายตาจากคนตรงหน้าแล้วเดินไปหน้ารถที่จอดอยู่ ฮาร์ดินเปิดประตูรถให้ฉัน ฉันจ้องมือที่กำประตูรถเอาไว้ก่อนจะลากสายตาขึ้นไปมองหน้าผู้ชายที่ใบหน้าคมชัดแทบทุกส่วน “นายเป็นบอดี้การ์ด อย่าลืมสิ” พูดเพียงเท่านั้นฉันก็ขึ้นไปนั่งประจำที่ของตัวเอง ฮาร์ดินปิดประตูแล้วขึ้นมานั่งตำแหน่งคนขับรถของตัวเอง “วันนี้ผมได้รับคำสั่งให้พาคุณไปลองชุดคอลใหม่ของน้องสาวคุณคริส เตรียมตัวไว้ด้วยครับ” “ฉันจะไปกับพี่คริส ฉันไม่ได้จะไปกับนาย” น้องสาวพี่คริสเปิดร้านเสื้อผ้าแบรนด์ตัวเอง เธอเป็นเด็กอายุน้อยที่มีพรสวรรค์ด้านการออกแบบเลยเปิดร้านเสื้อผ้าตั้งแต่อายุยังน้อย ส่วนพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ก์ก็เป็นฉันที่เป็นคู่หมั้นของพี่ชายเธอ “นี้เป็นคำสั่งครับ ผมไม่ได้ถามความเห็น” ฉันกำมือเข้าหากระโปรง จิกปลายเล็บลงไปเพื่อเป็นการระบายความโกรธทั้งที่ใบหน้ายังเรียบตึงเหมือนเดิม สักวันหนึ่งฉันจะต้องกรี๊ดใส่หน้าฮาร์ดินให้ได้ คอยดูเถอะ ฮาร์ดินขับรถพาฉันมาถึงร้านที่มีเพียงพนักงานที่มาดูแลเรื่องเสื้อผ้าเพื่อหาไซซ์ที่เข้ากับฉันเพื่อถ่ายแบบโปรโมทสินค้า “คุณเมเบลลองตัวนี้ดูนะคะแล้วออกมาให้ดิฉันดูว่าต้องแก้ส่วนไหนบ้าง” “ค่ะ” เมแกนพนักงานที่ดูแลเรื่องเสื้อผ้ายื่นชุดคอลใหม่มาให้ฉันลองใส่ ฉันรับชุดนั้นมาแล้วเดินเข้าห้องลองชุดโดยมีฮาร์ดินเดินตามมาเฝ้าถึงหน้าห้อง “เข้าไปดูฉันเปลี่ยนในห้องลองเลยมั้ยคะ เผื่อคุณจะกลัวว่าตัวเองจะทำงานบกพร่อง” ปากฉันเริ่มเก็บเอาไว้ไม่อยู่ ฮาร์ดินดันลิ้นเล่นกับกระพุ้งแก้ม เขาเกาหัวคิ้วตัวเองเบา ๆ ก่อนจะดันฉันเข้าห้องลองเสื้อพร้อมตัวเอง “ออกไป” ฉันถอยหลัง ฮาร์ดินกดล็อกห้องแล้วเดินต้อนจนฉันชิดกับกำแพงห้อง “เหมือนคุณจะท้าผม” ฮาร์ดินจ้องหน้าอย่างท้าทาย เขายื่นมือมาขังฉันเอาไว้ทั้งสองข้าง ฉันกำชุดที่อยู่ในมือเอาไว้แน่น “ฉะ ฉัน..” เมื่อถึงทางตันฉันกลายเป็นคนดีแต่ปาก ฮาร์ดินบิดยิ้ม เวลาเขากวนประสาทเขาสามารถทำให้ฉันคลั่งได้เลย แต่เวลาเขาดุ แววตาจะเย็นชาและน่ากลัวจนฉันไม่กล้าพยศใส่ “คุณปากดีทั้งที่รู้ว่าผมเอาจริง” ฉันหายใจติดขัด ฮาร์ดินขยับนิ้วแตะตรงกระดุมเม็ดแรกของเสื้อนักศึกษาที่ฉันใส่อยู่ “ฮาร์ดิน ถ้านายยังล้ำเส้นไม่เลิกฉันจะฟ้องพี่คริส!” เสียงฉันเริ่มเข้มขึ้นแต่คนตรงหน้าไม่ได้แยแสแต่อย่างใด ฮาร์ดินยกยิ้มอย่างดูแคลน สายตาเขาย่ำยีจนฉันรู้สึกร้อนผ่าว “หน้าที่ดูแลคุณคือผมทั้งที่ควรเป็นคู่หมั้นคุณแต่เขายกให้ผมจัดการทุกอย่างได้อย่างไม่มีข้อจำกัดแล้วคุณคิดว่าถ้าคุณฟ้องเขาจะแยแสคุณมั้ย?” ฮาร์ดินใช้คำพูดที่จี้ใจดำจนฉันโกรธจนร่างกายสั่นเทาแต่กลับระเบิดอารมณ์ออกมาไม่ได้ แต่ฉันกลับไม่อยากอดทนน่ะสิ ฉันดึงมือฮาร์ดินที่แตะกระดุมเสื้อฉันอยู่ขึ้นมากัดจนจมเขี้ยวเพื่อระบายความโกรธแค้นของตัวเองก่อนดันออกไปแล้วมองผลงานตัวเองที่ต้นแขนเขามีรอยฟันฉันอยู่ “เก็บกดมากสินะครับ คุณหนู” มือหนาที่มีรอยฟันขยับมากุมใบหน้าฉันเอาไว้ “ผมชักอยากเห็นแล้วสิว่าคุณจะทนถูกทิ้งได้นานสักเท่าไหร่กัน” ฮาร์ดินทิ้งคำพูดใจร้ายเอาไว้แล้วเดินออกจากห้องไปเหลือทิ้งไว้แค่ฉันกับชุดในมือที่ตอนนี้ฉันยกมันขึ้นมาอุดปากแล้วกรี๊ดใส่แบบไร้เสียงเพื่อระบายออกมาราวกับคนเก็บกด Talk เรื่องนี้ไรต์ตั้งใจแต่งเพื่อพัฒนา Nc ของตัวเองนะคะ ะนั้นเรื่องราวของสองคนนี้ก็จะค่อนข้างแซ่บซี๊ดส์กว่าเรื่องอื่น ๆ ใครชอบรีบกดติดตามเลยน้า ><
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม