ตอนที่ 6

3979 คำ
“โอเคจ้ะ ป้าจะบอกคุณย่าให้นะลูก” คนเป็นป้ารู้ทันหลานชายสุดที่รักดีว่าซิ่งหนีการจับคู่อีกแล้วซึ่งเป็นแบบนี้ทุกครั้ง “ขอบคุณครับป้านวล ผมรักป้าครับ” เสียงห้าวบอกรักป้าที่เข้าใจเขาทุกอย่างและรู้ใจเขาพอๆกับแม่ถึงแม้ไม่ได้อยู่กับท่านแต่แม่ก็เข้าใจเขาดี “จ้าพ่อคุณ จะรักป้าก็ตอนที่ให้ป้าเป็นทับหน้ากับคุณย่าของเราเท่านั้นละสิ” นวพรรณพูดกระเซ้าหลานชายที่เธอรักเหมือนลูกชายของเธอเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่น้องสะใภ้เลิกกับน้องชาย “ไม่ใช่สักหน่อยครับ ผมรักป้านวลที่สุดครับแค่นี้นะครับผมต้องไปแล้ว” จุลภัทรพูดจบก็วางสายแล้วขึ้นรถขับออกไปจากบ้านอย่างรวดเร็วทั้งที่เพิ่งเข้าบ้านยังไม่ถึงสามสิบนาที “พี่จุลไม่อยู่ทานข้าวกับพวกเราเหรอคะคุณป้านวล” ฉัตรธิดาถามเพื่อนของแม่ทันทีที่วางสายเธอได้ยินแว่วๆว่าจุลภัทรมีธุระไม่ได้อยู่ทานอาหารเย็นกับคุณหญิงย่า “พอดีตาจุลมีธุระน่ะจ้ะ พ่อคนนี้เขาธุระเยอะวันๆมีแต่งานแทบไม่ได้อยู่บ้านเลยจ้ะ” นวลพรรณพูดถึงหลนชายทำไมเธอจะไม่รู้ว่าหลานชายหนีการดูตัวของย่าและเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่แม่นัดสาวๆมาให้ดูตัว “พี่จุลเก่งจังเลยนะคะทำให้เป็นเคเอสพีติดอันดับหนึ่งในสามของเมืองไทยได้ ลูกปัดอยากฝึกงานกับคนเก่งเพื่อจะได้ไปช่วยงานบริษัทของคุณพ่อได้ค่ะ” ฉัตรธิดาพูดขึ้นเพื่อให้ป้านวลช่วยเหลือให้เธอได้ฝึกงานกับจุลภัทร “พี่ชายของหนูลูกปัดก็เก่งและสายตรงน่าจะสอนน้องได้ดีกว่า ส่วนตาจุลเขางานเยอะคงไม่มีเวลาสอนใครขนาดป้ากับคุณย่ายังไม่ค่อยได้เจอเลยจ้ะ” นวลพรรณรู้แล้วว่าหลานชายไม่ชอบฉัตรธิดาไม่งั้นก็คงอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันและนี่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่นับครั้งไม่ถ้วนจนเธอถอดใจแต่แม่ของเธอยังหมายมั่นปั้นมือให้หลานชายแต่งงานให้จงได้เพราะหลานสาวหลานชายอีกสี่คนยังไม่ถึงวัยจะแต่งงานและไม่อยากให้ความหวังลูกสาวเพื่อน “ค่ะคุณป้านวล” ฉัตรธิดาคิดว่าป้านวลจะสนับสนุนเธอให้หลานชายแต่เปล่าเลยท่านไม่ช่วยพูดให้และยังบอกให้พี่ชายของเธอสอนงานให้อีกแล้วแบบนี้เธอจะใกล้ชิดจุลภัทรได้ยังไง “อาหารเสร็จหรือยังเวียน” นวลพรรณถามแม่บ้านที่จัดการเรื่องอาหารอยู่ในครัว “เสร็จแล้วค่ะคุณนวล จะให้ฉันตั้งโต้ะเลยมั้ยคะ” เวียนแม่บ้านเก่าแก่ที่อยู่มานานกว่าสามสิบปีตอบเจ้านายสาวใหญ่เพราะอาหารเสร็จแล้วรอขึ้นโต้ะอย่างเดียวและยังเป็นอาหารจานโปรดของจุลภัทรเป็นส่วนใหญ่แต่เจ้าตัวขับรถออกไปจากบ้านแล้ว “งั้นตั้งโต้ะเลยละกัน เย็นนี้ตาจุลมีธุระน่ะ” เป็นอันรู้กันระหว่างเจ้านายกับแม่บ้านคนสนิทที่เป็นอดีตพี่เลี้ยงของคุณหนูจุลจนตอนนี้โตเป็นหนุ่มและยังหลบหลีกเรื่องดูตัวเก่งมากไม่เคยอยู่ทานข้าวกับผู้หญิงที่ย่ากับป้าหาให้จึงหนีไปนอนเพนท์เฮ้าส์ทุกครั้ง “ค่ะคุณนวล เอ้าสาวๆเร็วเข้าตั้งโต้ะเลยจ้ะ” เวียนบอกทุกคนให้ช่วยกันตั้งโต้ะอาหารให้เจ้านายกับแขกของท่าน “ลูกปัดช่วยค่ะ” ไฮโซสาวแสดงน้ำใจจะช่วยยกอาหาร “ไม่เป็นไรค่ะคุณลูกปัด เด็กๆเยอะแยะค่ะ เชิญคุณนวลกับคุณลูกปัดที่โต้ะอาหารเถอะค่ะ” เวียนบอกเจ้านายสาวและแขกแค่ตั้งโตะก็เป็นหน้าที่ของคนรับใช้อย่างพวกเธออยู่แล้ว “แล้วตาวิตยังไม่กลับอีกเหรอเวียน” นวลพรรณถามแม่บ้านขณะเดินไปห้องอาหาร “คุณจุลมีธุระแบบนี้ก็คงนอนที่เพนท์เฮ้าส์โน่นแหละค่ะ” เวียนตอบเจ้านายว่าลูกชายของเธอคงค้างที่เพนท์เฮ้าส์เพราะสาวิตทำงานกับจุลภัทรในตำแหน่งเลขาตามที่นวลพรรณส่งเสียให้เรียนเลขานุการและการตลาดจนจบปริญญาโทจากอังกฤษแล้วมาช่วยงานจุลภัทร “ดีกันจริงๆ ฉันไม่น่าซื้อเพนท์เฮ้าส์ให้สองคนนั่นเลยให้ตายสิ” นวลพรรณพูดขึ้นเพราะจุลภัทรว่ายังไงสาวิตก็ว่าอย่างนั้น “จริงค่ะ”เวียนเห็นด้วยเพราะเจ้านายหนุ่มกับลูกชายของเธอเลยมีหลุมหลบภัยชั้นดีที่ไม่มีใครเข้าถึงขนาดเธอเป็นแม่ยังถูกห้ามไม่รู้ว่าซ่อนอะไรไว้หรือเปล่าแม้แต่คุณหญิงและคุณนวลยังไม่กล้าไปยุ่ง “หนูลูกปัดไปตามคุณหญิงย่ากับคุณแม่ของหนูมากินข้าวหน่อยสิจ้ะ” นวลพรรณบอกลูกสาวของเพื่อนอย่างเอ็นดูถึงไม่ได้เป็นหลานสะใภ้แต่ก็เป็นหลานสาวเหมือนเดิมก็ได้ “ค่ะคุณป้านวล” ฉัตรธิดาเดินไปที่ห้องรับแขกเพื่อตามแม่กับคุณหญิงย่ามาทานอาหารเย็นอย่างเซ็งๆเมื่อจุลภัทรไม่ได้อยู่ทานอาหารเย็นด้วย ส่วนคนที่โทรหาแม่เสร็จก็ขับรถออกจากบ้านไปเพนท์เฮ้าส์เพื่ออาบน้ำและบอกให้เลขาสั่งอาหารมาทานด้วยกันเย็นนี้แต่เพื่อนรักโทรมาชวนไปดื่มก็ยกเลิกอาหารเย็นแล้วจุลภัทร์กับสาวิตก็ไปดื่มที่คลับหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เขากับเพื่อนไปดื่มเป็นประจำเพราะบรรยากาศดี “แม่โทรมาบอกผมว่าวันนี้คุณหญิงท่านนัดบอดให้คุณจุลเหรอครับ” สาวิตถามเจ้านายหนุ่มแล้วยิ้มช่วงหลังนี่จะถี่ขึ้นเพราะคุณหญิงไม่ชอบแฟนสาวของหลานชายที่ไม่รู้จักทำงานได้แต่เฉิดฉายอยู่ในสังคมและข่าววงในบอกว่าธุรกิจที่บ้านของพัชรียากำลังมีปัญหาด้วย “อย่าพูดเลยเซ็งว่ะ” จุลภัทรพูดอย่างเซ็งๆเขาบอกย่าไปแล้วว่ายังไม่พร้อมจะมีครอบครัวส่วนแฟนสาวที่คบกันมาสองปีก็ยังไม่ได้คิดจะแต่งงานกันตอนนี้ท่านก็ไม่ฟังยังนัดลูกหลานของเพื่อนท่านกับป้านวลมาให้เขาดูตัวและไม่รู้ว่าคนที่เท่าไหร่แล้ว “แล้วไม่ไปหาคุณปุ้มเหรอครับ” สาวิตถามเจ้านายหนุ่มที่พักหลังไม่ได้ไปหาแฟนสาว “ไม่ไปอ่ะ เบื่อ” เสียงห้าวตอบคนสนิทชัดเจนว่าเบื่อกับความเรื่องมากชอบโวยวายและเรียกร้องเอาโน่นนี่นั่นไม่หยุดของพัชรียา ผิดจากที่คบกันแรกๆสุดท้ายผู้หญิงก็เหมือนกันทุกคนยกเว้นแม่ของเขาที่ไม่ได้เห็นแก่เงินท่านยึดมั่นความจริงและหยิ่งในศักดิ์ศรีในเมื่อท่านทำไม่ได้ก็ยอมปล่อยมือจากพ่อและยอมเจ็บปวดแต่ท่านไม่เคยทิ้งเขาแม้ตอนเด็กจะไม่เข้าใจแต่พอโตขึ้นเขาก็เข้าใจทีละน้อยจนกระทั่งตอนนี้เขาแอบดื้อกับย่าก็เพราะไม่อยากเป็นเหมือนพ่อที่ยอมเลิกกับภรรยาเพื่อแม่ซึ่งเขาจะไม่ทำแบบนั้น หากมีปัญหาเขาก็จะสู้ไปพร้อมกับผู้หญิงที่เขารักไม่มีทางปล่อยมือจากเธอแน่ “อ้าว..เป็นงั้นไป” สาวิตงงกับเจ้านายหนุ่มปกติก็จะไปหาแฟนสาวและค้างที่คอนโดของพัชรียาบางครั้งก็มาค้างที่คอนโดของจุลภัทรแต่ไม่ใช่ที่เพนท์เฮาส์ที่เจ้านายหนุ่มกับเขาเรียกว่าบ้านและยังไม่มีผู้หญิงคนไหนได้เข้ามาในห้องยกเว้นแม่บ้านกับพ่อบ้านที่จ้างมาทำความสะอาดบ้านและรู้วาตอนนี้จุลภัทรห่างกับพัชรียามาเป็นเดือน “บางทีฉันกับเขาคงจะจบกันแค่นี้แล้วมั้ง” จุลภัทรพูดกับเลขาหนุ่มที่เขารักเหมือนน้องเพราะโตมาด้วยกันตอนแม่เลิกกับพ่อเขาอายุสี่ขวบแล้วสาทิตสองขวบจึงเป็นเพื่อนเล่นต่างวัยกันมาและไปเรียนที่เดียวกันพอเขาจบมอหกก็ไปเรียนต่อที่อเมริกาส่วนสาทิตเลือกไปเรียนที่อังกฤษพอจบก็มาเป็นเลขาของเขาตามคำสั่งของป้านวลที่เป็นเจ้าของทุนการศึกษาส่งสาทิตเรียนจบปริญญาโท “พูดจริงป่ะเนี่ยคุณจุล” สาวิตรู้ปัญหาของเจ้านายทุกอย่างเพราะจุลภัทรมาระบายให้เขาฟังตลอดว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองและแฟนสาวทำให้ความรักจืดจางและยังรู้ด้วยว่าครั้งล่าสุดพัชรียาไปเที่ยวกับเพื่อและยังมีไฮโซหนุ่มหล่อตามไปด้วย “แกก็คอยดูต่อไปสิ” เขาคิดว่าพัชรียาจะบอกเลิกเขาเร็วๆนี้เพราะตอนนี้เขาได้ข่าวว่าพ่อแม่เธอจะให้แต่งงานกับไฮโซหนุ่มลูกหลานผู้ดีเก่าและทั้งสองแอบไปเที่ยวฮ่องกงด้วยกันเขารู้ได้ยังไงเหรอเรื่องอย่างนี้มันปิดกันไม่ได้หรอกแต่เขาให้เธอเป็นฝ่ายออกมาพูดเอง เมื่อไปถึงคลับหรูสาวิตก็ขับรถไปจอดหน้าคลับแล้วลงจากรถยื่นกุญแจรถซุปเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลีราคายี่สิบกว่าล้านให้พนักงานนำรถไปจอดให้แล้วสองหนุ่มก็เดินเข้าไปในคลับหรูและตรงไปที่ห้องประจำที่มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาและอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพรยะก็มีโรงแรมคอนโดร้านอาหารริมน้ำประดับประดาไฟสวยงามทำให้ผ่อนคลายและยังมีระเบียงยื่นออกไปให้สัมผัสอากาศยามค่ำคืน “พระเอกของเรามาแล้วโว้ย” พยนต์เห็นเพื่อนเดินตามพนักงานเข้ามในห้องก็บอกเพื่อนอีกสองคนที่นั่งอยู่ให้รู้ว่าคนที่พวกเขารอมาถึงแล้ว “กว่าจะมาได้นะมึง” ศานันท์มองเพื่อนยิ้มๆ “ติดหญิงอยู่ล่ะสิ” ทัศน์แซวเพื่อนขำๆ “ไอ้เห้พวกนี้นิ กูไปทำงานมาโว้ย” คนที่ถูกเพื่อว่าติดหญิงตอบเพื่อน “จริงเหรอวะวิต” ศานันท์ หรือโต๋ถามเพื่อนรุ่นน้องที่ทำหน้าที่เลขาให้เพื่อนพวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเพราะพ่อเป็นเพื่อนกันพอมาถึงรุ่นลูกก็เป็นเพื่อนสนิทกันอีกชั้นหนึ่ง หลังจากเรียนจบกลับมาศานันท์ก็ขอทุนจากพ่อทำธุรกิจฟิตเนสและประสบความสำเร็จและขยายสาขาทุกจังหวัดใหญ่เกือบทั่วประเทศในระยะเวลาห้าปี “คุณจุลติดงานจริงครับพี่โต๋ ช่วงนี้เลยหงุดหงิดหน่อยที่ไม่ได้เล่นของ” สาวิตว่าเจ้านายเพราะนอกเวลางานพวกเขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องกัน “ถึงว่าสิ แฟนมันถึงได้ไปเที่ยวกับ เอ่อ..” พยนต์พูดไม่จบชะงักไว้ก่อนเพราะเรื่องนี้เขายังไม่ได้คุยให้เพื่อนคนไหนฟัง พยนต์หรือโยเป็นนักบินและครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของสายการบินด้วย แล้วพอดีวันนั้นนักบินที่ต้องบินไปฮ่องกงเกิดอุบัติเหตุและไม่สามารถทำงานได้และเขาก็ถูกหัวหน้าเรียกไปบินแทนจึงได้เห็นแฟนของเพื่อนไปเที่ยวกับเพื่อนและมีผู้ชายไปด้วยถึงจะไปกันเป็นกลุ่มแต่ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่าพัชรียากับไฮโซหนุ่มหล่อตระกูลผู้ดีเก่ามีอะไรในกอไผ่แต่พอรู้ว่าเขาทำหน้าที่บินไฟล์ทเดียวกันเธอก็ไม่แสดงอะไรให้เห็นอีกเขาก็เลยไม่มั่นใจว่าพัชรียานั้นนอกใจนอกกายเพื่อนของเขาจริงหรือเปล่า “อะไรของมึงไอ้โยพูดให้จบสิวะ มึงพูดครึ่งๆกลางๆแบบนี้ต่อมเผือกกูกระตุกเลยเพื่อน” ทัศน์ หนุ่มหล่อพ่อรวยมากเป็นทายาทคนโตของเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังมีสาขาอยู่ทุกหลายจังหวัดเกือบครึ่งประเทศและทัศน์ก็เป็นหมอโรคหัวใจ “เออๆ..พูดก็ได้ ที่จริงก็มี่อะไรกูแค่เห็นปุ้มไปเที่ยวฮ่องกงกับเพื่อนน่ะ พอดีวันนั้นนักบินของเที่ยวบินนั้นเกิดอุบัติเหตุกูกเลยได้บินแทนน่ะ” พยนต์ก็พูดเรื่องที่เขาเจอพัชรียาให้เพื่อนฟัง “มีผู้ชายไปด้วยใช่มั้ย” “เฮ้ย..มึงรู้ได้ยังไงอ่ะไอ้จุล” เขายังไม่ได้พูดเลยนะว่ามีผู้ชายไปด้วยแล้วเพื่อนรู้ได้ยังไง “กูฉลาดไง บ้านกูเขาเลี้ยงด้วยข้าวปลาอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมองน่ะสิวะ” คนฉลาดตอบเพื่อนแล้วยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อนเขาแค่อยู่เฉยๆก็พอรอให้ฝ่ายหญิงเปิดตัวเอง "แรงงงส์..." ทัศน์พูดเสียงยานคางเพราะ “จริงเหรอวะไอ้คนฉลาด นี่มึงทำใจได้เหรอวะที่แฟนไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นน่ะแล้วไอ้ผู้ดีนั่นก็ขาฟันด้วยนะมึง” พยนต์พูดอย่างหมั่นไส้เพื่อนที่รู้แล้วยังอมพะนำอยู่ได้ทำให้เขาเป็นห่วง “ตกลงมึงกับกับคุณปุ้มยังไงกันแน่วะ” ศานันท์ถามเพื่อนเพราะช่วงนี้จุลภัทรไม่ควงแฟนสาวมาดื่มด้วย “ก็ไม่มีอะไร กูกับปุ้มก็ห่างกันมาสักพักแล้วล่ะ” ชายหนุ่มตอบเพื่อนแล้วยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มอย่งสบายอารมณ์ไม่ได้เครียดเรื่องแฟนสาว “ทำไมวะ ปกติกูเห็นตัวติดกันตลอดนี่” ทัศน์พูดขึ้นปกตินัดเจอกันเมื่อไหร่จุลภัทร์ก็จะมาพร้อมกับแฟนสาว “ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันน่ะ เขาอยากแต่งงานแต่กูไม่พร้อมก็เลยถอยกันคนละก้าวเพื่อทบทวนความรู้สึกของตัวเอง” จุลภัทรตอบเพื่อนด้วยท่าทางเฉยชาเพราะแบบนี้พัชรียาถึงได้ไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น “ตอบยังกับดาราเลยนะมึง” พยนต์ว่าเพื่อนที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวที่รู้ว่าแฟนสาวไปเที่ยวกับผุู้ชายคนอื่น “แล้วจะให้กูตอบยังไงล่ะ เธอชอบกินเที่ยวช้อปปิ้งออกงานสังคมแต่กูมีแต่งานเต็มหัวยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะถ้าเอาแต่กินเที่ยวช้อปปิ้งออกงานสังคมไม่ได้ทำมาหากินกันจะหมดตัวก่อนแก่ตายน่ะสิ” เขาสายเปย์ก็จริงแต่มันก็มีขอบเขตเพราะเป็นแค่แฟนไม่ใช่เมีย “อุ้ย..เพื่อนกูมีความคิดมากเลยว่ะ” ศานันท์ว่าเพื่อนอย่างหมั่นไส้แต่พวกเขาเหมือนกันอย่างหนึ่งคือยอมจ่ายเพื่อความสุขความสนุกของตัวเองใจเต็มที่หากแต่งงานไปพวกเขาก้ต้องรับผิดชอบครอบครัวจึงใช้ชีวิตตอนยังโสดให้เต็มที่ “กูบอกแล้วไงว่ากูฉลาด” คนฉลาดพูดแล้วยิ้ม “มึงไม่เสียใจจริงเหรอถ้าแฟนมึงมีแฟนใหม่” พยนต์ถามเพื่อนอย่างแปลกใจที่มันทำใจได้ “บางทีกูกับเค้าไม่ได้รักกันตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ แค่ดูความเหมาะสมและมีความชอบเหมือนกันจึงคบกันได้นานกว่าคนอื่นพอมันอิ่มตัวไม่มีอะไรตื่นเต้นเร้าใจอีกมันก็จืดจางและสุดท้ายก็จบความสัมพันธ์กันมันก็เท่านั้นแหละ” ชายหนุ่มผู้ช่ำชองในเรื่องรักๆใคร่ๆพูดกับเพื่อนเสียงเรียบไร้ความรู้สึก “เย็นชาได้อีกนะมึง” “คาสโนว่าเจอคาสโนวี่สุดท้ายก็จบเกมแบบเสมอกัน มิน่าล่ะคุณปุ้มถึงได้ไปเที่ยวกับผู้ชายคนใหม่อย่างหน้าชื่นตาบานและคงรู้ว่ากูต้องคุยให้มึงฟังแน่” พยนต์พูดกับเพื่อนเพราะเขาเห็นเหตุการณ์พอดีและตอนนั้นไม่รู้ว่าเพื่อนห่างจากพัชรียา “งั้นดื่มฉลองไอ้จุลโสดกันหน่อยเพื่อน” ทัศน์ยกแก้วขึ้นชนกับเพื่อนๆและสาวิต “ไอ้จุลมึงไม่ฉลองความโสดสักหน่อยเหรอวะ” ทัศน์บุ้ยปากออกไปนอกห้องวีไอพีเพราะด้านนอกมีสาวสวยทั้งดารา นางแบบ ไฮโซ คนดังมาเที่ยวกันมากมายเพราะที่นี่เป็นคลับหรูมีระดับและคนที่มาใช้บริการก็ต้องมีเงินด้วย “ไม่มีอารมณ์ว่ะ” “เป็นไปได้ยังไงครับคุณเพื่อนจุล อย่าบอกนะว่าตายด้านวิตนายพาเจ้านายไปตรวจเช็คร่ากายด่วนเลยนะ” นักบินหนุ่มนักรักแซวเพื่อนรักยิ้มๆและเป็นครั้งแรกที่จุลภัทรบอกว่าไม่มีอารมณ์ “กูไม่ได้ติดเซ็กส์นะเว้ย ก็ช่วงนี้กูงานเยอะเลยก็เลยมีอารมณ์แค่นั้นเองกูผิดปกติตรงไหนวะ หรือว่าพวกมึงไม่เคยเป็น” จุลภัทรตอบเพื่อนเขาแค่เบื่อๆแล้ววันนี้ย่ายังนัดสาวมาให้เขาดูตัวอีก “งั้นรออะไรล่ะ ดื่มสิวะ” จากนั้นหนุ่มๆทั้งห้าคนก็ดื่มกินคุยกันล้อเลียนแซวกันเสียงดังสนุกสนานและในกลุ่มยังไม่มีใครแต่งงานแต่ก็มีผู้หญิงที่คุยกันจีบกันอยู่ยังไม่ถึงขั้นคบหาเป็นแฟนเพราะพวกเขายังไม่เจอคนที่ใช่ “หัวเราะสนุกอะไรกันจ้ะหนุ่มๆ มาดื่มไม่ชวนเชอรี่เลยนะ” ธนภรณ์ไฮโซสาวคนสวยพ่วงตำแหน่งนางแบบเปิดประตูห้องเดินเข้ามาและว่าเพื่อนที่ไม่ชวนเธอ “อ้าวเชอรี่มาได้ยังไง” ศานันท์ถามสาวสวยที่เดินนวยนาดเข้ามาในห้องวีไอพี่ที่พวกเขานั่งดื่มกันอยุ่ “ทำไมเชอรี่จะมาได้ล่ะ ไม่คิดว่าจุลจะมาด้วยไม่เจอกันนานสบายดีมั้ยคะ” สาวสวยพูดจบก็เลือกนั่งข้างจุลภัทรหนุ่มหล่อที่เธอหลงรักมาตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอเป็นผู้หญิงมีชาติมีตระกูลและมีศักดิ์ศรีจึงไม่กล้าแสดงออกว่าชอบเขาจนกระทั่งวันหนึ่งเธอเมาจึงสารภาพรักเขาและยังแก้ผ้ายั่วเขาสุดท้ายทำให้จุลภัทรเหินห่างกับเธอแล้วเธอเองก็ยังไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆของเขาในกลุ่มเพราะอยากอยู่ใกล้ชิดเขาและตอนนี้เธอก็มีคนที่คบอยู่แต่ไม่ได้จริงจังและกำลังจะเลิกถ้าจุลภัทรโสดเธอก็จะเป็นโสดเช่นกัน “ก็เห็นเธอเพิ่งกลับมาจากเกาหลีก็เลยไม่ได้ชวนนะ ว่าแต่ไม่พาเพื่อนสาวมาด้วยเหรอ” ทัศน์ถามเพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่มเจอกันตอนไปเรียนอเมริกาก็หกปีมาแล้วส่วนเขากับจุลภัทร พยนต์ ศานันท์คบกันมาตั้งแต่เด็กเรียนมาด้วยกันตลอดแล้วมาแยกกันตอนเรียมหาวิทยาลัยแต่ก็เลือกเรียนที่อเมริกาแค่คนละรัฐเท่านั้นเอง “บินแค่ไม่กี่ชั่วโมงจะไปเหนื่อยอะไรยะ แล้วนี่ฉลองอะไรกันเหรอแล้วแฟนของจุลไม่มาด้วยเหรอ” ธนภรณ์ถามเพื่อนเพราะเธอได้ข่าววงในมาว่าครอบครัวของพัชรียาแนะนำไฮโซหนุ่มหล่อให้ลูกสาวเพราะเพื่อนของเธอไม่ยอมแต่งงานด้วยและตอนนี้พวกเขาก็สานสัมพันธ์กันไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันเพราะเธอเจอที่เกาหลีเมื่อสามอาทิตย์ก่อนตอนไปดูงาน “ไม่ได้มา” จุลภัทรตอบเสียงเรียบเขาไม่สนิทกับธนภรณ์ตั้งแต่เธอสารภาพว่าเธอชอบเขาต้องการคบกับเขาและยังมายั่วเขาถึงที่พักทำให้เขาปลีกตัวออกห่างเพราะไม่ได้ชอบเธอและเพื่อนสนิทของเขารู้ทุกคนเพียงแต่ไม่พูดและคอยกันเวลาธนภรณ์เข้าหาตอนเขาเมา “เธอจะดื่มอะไรเชอรี่” พยนต์ถามเพื่อนสาวที่วางตัวดีต่อหน้าทุกคนและสื่อแต่ผู้หญิงก็เป็นผู้หญิงอยู่วันยังค่ำมีมายามากมายหลายร้อยหลายพันเล่มเกวียนจึงต้องระวังตัวให้ดีเดี๋ยวจะมีเมียสายฟ้าแล่บ “จุลดื่มอะไรค่ะ เอาเหมือนจุลละกันยังไงคืนนี้จุลช่วยไปส่งเชอรี่ด้วยนะคะพอดีติดรถเพื่อนมาน่ะ” ไฮโซสาวพูดกับเพื่อนหนุ่มที่เธออยากเป็นมากกว่าเพื่อนมาตลอดแต่จุลภัทรไม่เคยเปิดโอกาสให้เธออีกเลย “ก็โทรตามแฟนเธอมารับสิเชอรี่ ให้ไอ้จุลไปส่งเดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก” ทัศน์พูดขึ้นอย่างไม่เห็นด้วยในเมื่อธนภรณ์มีแฟนก็ให้แฟนมารับสิถึงจุลภัทรจะเป็นเพื่อนแต่ก็เป็นชายหญิงและเป็นคนดังทั้งคู่หากเป็นข่าวขึ้นมาก็เสียหายกันทั้งสองฝ่ายเพราะต่างก็มีแฟนถึงแม้จุลภัทรจะห่างกับพัชรียาแต่ก็ยังไม่ได้เลิกกันอย่างเป็นทางการ “ไม่เป็นไรหรอก คุณป้อนเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไรจ้ะ เอ้าดื่มสิยะ” ธนภรณ์แกล้งพูดเสียงดังแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นชนกับจุลภัทรและเพื่อนทั้งสามและคนสนิทของจุลภัทรคนที่เธอเกลียดมากที่สุดเพราะสาวิตมักจะอยู่ข้างกายของจุลภัทรตลอดทำให้เธอทำอะไรไม่สะดวกแต่ต่อไปไม่แน่เพราะเขากำลังจะเลิกกับแฟน จากที่หนุ่มๆคุยกันสนุสนานเฮฮาก็กร่อยลงแต่ก็คุยกันเรื่อยๆเฉื่อยๆมีแต่ไฮโซสาวคนเดียวที่พูดไม่หยุดและทเอนตัวพิงจุลภัทรทำตัวอ่อนราวกับไม่มีกระดูกจนชายหนุ่มทนไม่ไหวขอตัวไปห้องน้ำ “เดี๋ยวฉันมานะ” จุลภัทรลุกขึ้นเพื่อไปห้องน้ำจนเพื่อนสาวที่เอนตัวพิงเขาเกือบล้ม “ไปสิกูปวดฉี่พอดี” ทัศน์พูดจบลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องวีไอพีพร้อมเพื่อนอย่างรู้ใจ สองหนุ่มกอดคอกันเดินออกไปจากห้องวีไอพีไปห้องน้ำส่วนที่เหลืออยู่ในห้องวีไอพีก็ดื่มกินคุยกันไปตามปกติจะมีแต่สาวสวยคนเดียวในห้องที่ไม่ปกติเพราะอยากรู้เรื่องของจุลภัทรกับแฟนสาวที่เธอไม่ชอบแต่จำต้องคบหาเพราะเป็นแฟนเพื่อน “นายรู้เรื่องของปุ้มหรือเปล่าโย” ธนภรณ์ถามหนุ่มหล่อทายาทสายการบินดัง “เรื่องอะไรเหรอ” พยนต์แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ “ไม่ต้องมาทำไก๋เลยนะโย นายหูตากว้างไกลจะตายตกลงจุลกับปุ้มเลิกกันจริงหรือเปล่า” ไฮโซสาวถามเพื่อนหนุ่มขี้เล่นหูตาแพรวพราวเจ้าชู้เป็นที่หนึ่งเปลี่ยนผู้หญิงถี่ยิ่งกว่ารองเท้าเสียอีก ป่านนี้แอร์โฮสเตสในบริษัทคงถูกกินไม่เหลือแล้วมั้ง “ฉันจะไปรู้เรื่องของมันได้ยังไงกันไม่ได้อยู่ใต้เตียงมันนะ เธอไม่ถามไอ้จุลเองสิ” พยนต์ไม่ตอบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเพื่อนถ้าใครอยากรู้ก็ต้องถามเจ้าตัวเอาเอง “เชอรี่ถามดีๆนะ นายก็แค่ตอบจะเป็นอะไรนักหนายังไงก็เพื่อนกันทั้งนั้น” ธนภรณ์ว่าเพื่อนหนุ่มที่ไม่พูดเรื่องของจุลภัทรกับแฟนสาว “ฉันตอบไม่ดีตรงไหนล่ะเชอรี่ เธอต้องเข้าใจนะว่าฉันกับไอ้จุลเป็นเพื่อนรักกันแต่เรื่องส่วนตัวของเพื่อนเราไม่ควรไปยุ่งหากเพื่อนไม่ขอความเห็นหรือความช่วยเหลือถูกมั้ย เธอเองก็เป็นแค่เพื่อนรู้ในสิ่งที่เพื่อนอยากให้รู้ก็พอ” พยนต์พูดไปตรามตรงเขารู้ทุกอย่างเท่าที่เพื่อนอยากให้รู้และพวกเขาก็ไม่มีเรื่องอะไรต้องปิดบังกันแต่กับธนภรณ์พวกเขาไม่สนิทใจจะพูดเรื่องพวกนี้ให้เพื่อนผู้หญิงฟัง โดยเฉพาะไฮโซสาวที่เข้ากลุ่มของเขาเพราะอยากใกล้ชิดจุลภัทรทั้งที่เพื่อนของเขาไม่ได้คิดเกินเลยไปมากกว่าเพื่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม