ไม่อ่านไม่ตอบ เลยทำให้เจ้าตัวต้องดั้นด้นมาหาเธอเองถึงหน้าบริษัท
ภูมินทร์ยืนทิ้งสะโพกกับประตูรถสสปอร์ตสีดำสนิทของตัวเอง มือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยกยิ้มมุมปากมองมาทางเธอที่เพิ่งเดินออกมาจากบริษัท
“เธอไม่รับโทรศัพท์ฉัน ไม่ตอบข้อความ ฉันเลยมาหาถึงที่นี่”
รดาเพียงแค่ยืนฟังเขานิ่ง ไม่คิดจะตอบโต้กลับ พอคิดว่าเขาพูดจบแล้วร่างเล็กก็เดินเบี่ยงไปด้านซ้ายเพื่อไปขึ้นรถของตัวเองที่จอดอยู่ทันที
ทว่าไม่ทันได้ถึงตัวรถ ภูมินทร์ที่ตั้งใจมาหาเธอถึงที่ เพราะเขามีเรื่องอยากคุยกับเธอ จึงเดินเข้าไปคว้าเรียวแขนเล็กพลางกระชากให้เดินมาขึ้นรถเขา
“ปล่อย! ภูมินทร์!” รดาทั้งขัดขืน ทั้งแกะมือเขาออก ทว่าแรงของเธอนั้นไม่สามารถไปสู้อะไรจากคนอย่างเขาได้เลย
“ขึ้นรถ!” ภูมินทร์เอียงหน้าเล็กน้อย พลางสั่งให้เธอขึ้นรถด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะหงุดหงิด
“ไม่! ฉันจะไม่ไปไหนกับคุณ”
“อย่าดื้อรดา เธอต้องฟังฉัน”
“ทำไมฉันต้องฟังคุณ คุณไม่ใช่เจ้าชีวิตฉันนะ”
“แต่ฉันเป็นผัว! เหตุผลแค่นี้พอหรือยัง”
รดาอึ้งกับสถานะที่เขายัดเยียดให้เธอเมื่อสักครู่
“ว่าไงนะ ผัวเหรอ? ฉันเคยนอนกับคุณตอนไหนไม่ทราบ” กล้าดียังไงมายื่นสถานะนี้ให้กับเธอ เขามันบ้าที่สุด
“ยังไม่เคยนอน งั้นก็นอนด้วยกันคืนนี้เลยเป็นไง เธอจะได้เข้าใจว่าฉันเป็นใครสักที”
“ไม่! ภูมินทร์ ปล่อย! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ไป ปล่อย”
ปัง!
เสียงของรดาเงียบหายไป หลังจากที่ภูมินทร์ปิดประตูรถของเขาลง และอย่าคิดว่าเขาโง่ที่จะปล่อยให้เธอหนีออกมาได้ง่ายๆ ในระหว่างที่เขากำลังเดินอ้อมไปยังที่นั่งฝั่งคนขับ
ปัง!
เสียงประตูรถดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ร่างสูงขึ้นรถมานั่งประจำที่ของตัวเองแล้วเรียบร้อย
“คุณเป็นบ้าอะไรฮะ มาล็อกมือฉันไว้แบบนี้ได้ยังไง ไอ้บ้า!” เสียงโวยวายของรดาดังขึ้นทันที พร้อมกับมืออีกข้างที่เป็นอิสระ ฟาดเข้าใส่แขนแกร่งข้างซ้ายของเขาไม่ยั้ง
“หยุด!” พอเริ่มทนไม่ไหว มือหนาก็รวบมือของเธอแล้วยกขึ้นเหนือหัว จากนั้นก็ดันร่างเธอให้แนบชิดกับกระจก ตามด้วยเขาที่ยื่นตัวเข้าไปใกล้เธอราวกับกำลังจะจูบ แต่เขาก็ไม่ได้ทำ เพราะเขายั้งตัวเองเอาไว้
“เลิกโวยวายสักที ไม่งั้นเธอเจ็บตัวแน่รดา” ภูมินทร์กัดฟันกรอดแล้วเปล่งเสียงออกมาตามไรฟัน พลางใช้สายตาเกรี้ยวกราดจ้องมองเธอเป็นการข่มขู่
“คิดว่าฉันกลัวเหรอ ฉันรอดไปเมื่อไหร่ ฉันแจ้งตำรวจจับคุณแน่”
“เอาเลยรดา ถ้าคิดว่าตำรวจประเทศนี้ทำอะไรผมได้ เชิญคุณแจ้งได้เลย แต่เตือนไว้ก่อนนะ ว่าหลังจากตำรวจปล่อยตัวผมเมื่อไหร่ ผมเอาคืนคุณหนักกว่าเดิมแน่”
“คุณจะทำอะไรฉัน”
“คนเป็นสามีภรรยากัน เขาทำอะไรกันตอนอยู่บนเตียงล่ะ” ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มมุมปาก เท่านั้นไม่พอเพราะคิดว่าหญิงสาวคงไม่ยอมหยุดเถียงเขาต่อแน่ พอจังหวะที่เธอกำลังจะอ้าปากด่า เขาเลยโน้มใบหน้าเข้าไปประกบปิดปากเธอจากส่วนเดียวกันซะ เท่านี้เสียงโวยวายแหลมๆของรดาก็กลืนหายเข้าไปในลำคอ และมีแต่เสียงที่ดังอู้อี้ออกมาเท่านั้น
รดาแข็งกล้ากับคนอย่างเขา เธอไม่เพียงแค่ดิ้นเท่านั้น แต่ว่าเธอยังใช้ฟันเพื่อกัดปากเขาจนได้กลิ่นคาวเลือด แต่คิดเหรอว่าเขาจะปล่อย กัดมากัดตอบ ให้ได้เลือดกันทั้งคู่ไปเลย
“อี๊ดดดดดด/////” เสียงกรี๊ดที่ดังอยู่ในลำคอ รดาร้องออกมาด้วยความเจ็บที่เขากัดเธอ เธอว่าเธอกัดเขาไม่ได้แรงเท่านี้ด้วยซ้ำ แต่เขากัดเธอจนเธอเจ็บจนน้ำตาไหล
“นี่คือบทลงโทษที่เธอกัดฉัน เจ็บไหมรดา ถ้าเจ็บก็เงียบซะ แล้วก็รู้ไว้ด้วย เธอทำฉันเจ็บตัวแค่ไหน ฉันจะทำให้เธอเจ็บตัวมากกว่าฉันสองเท่า!”
“ไอ้...!”
“หรือจะลอง?”
สิ้นเสียงท้าทายของเขา รดาก็เม้มริมฝีปากตัวเองแน่น ไม่กล้าส่งเสียงใดๆออกมาอีก เพราะรู้ว่าคนอย่างเขาเอาจริงไม่เคยพูดเล่น หากเขาคิดจะทำอะไรแล้วทุกอย่างเขาต้องได้อย่างที่เขาพูด
คอนโด SKY LAKE
ระยะทางกว่าสามสิบกิโลเมตรที่ภูมินทร์ขับรถออกมาจากบริษัท รดารู้หน้าที่ของตัวเองดีว่าควรทำตัวยังไงจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว และแน่นอนว่าเธอปิดปากตัวเองแน่น ไม่ส่งเสียงใดๆออกมาเลยแม้แต่คำเดียว
เพนท์เฮ้าส์ชั้นบนสุดของตึก ภูมินทร์ใช้ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัย เพราะที่นี่ก็เปรียบเสมือนบ้านหลังหนึ่ง เพราะห้องที่เรียกว่าเพนท์เฮ้าส์นี้กินพื้นที่ของชั้นนี้ไปแล้วหมดทั้งชั้น
“เข้าไป” มือหนาดันหลังคนตัวเล็กที่เขาปล่อยให้เธอเดินนำให้เข้าไปในห้อง
“ดื่มอะไรก่อนไหม” ทันทีที่เข้าห้องมาได้ ชายหนุ่มก็เปลี่ยนอารมณ์ลง และเอ่ยถามเธอขณะที่เขากำลังเดินเข้าไปในห้องครัว
“รีบพูดธุระของคุณมาซะ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่นานๆ” รดายอมแพ้ ไม่รั้นกับเขาต่อ แต่เพื่อให้ตัวเองได้รีบออกไปจากที่นี่ เธอจึงเร่งให้เขาพูดธุระที่เขาต้องการมาให้เร็วที่สุด
“ใครบอกว่าฉันมีธุระกับเธอ”
“ก็คุณพาฉันมาที่นี่ แล้วก็ลักพาตัวฉันมา ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรแล้วคุณพาฉันมาทำไม” รดาโมโหขึ้นอีกครั้ง เพราะเขาที่ทำให้เธออารมณ์สวิงไม่รู้จบ
“ฉันคงปล่อยให้เธอทำอะไรตามใจนานไปสินะ เธอถึงได้ลืมสถานะของตัวเองไป” ร่างสูงเดินเข้ามาหาร่างบางช้าๆ
รดาเห็นการกระทำของเขาแล้วก็เริ่มหวาดหวั่น เธอรีบลุกขึ้นและกำลังจะวิ่งหนี แต่ก็ไม่ทันที่จะถูกเขาจับแขนแล้วกระชากเธอให้มานั่งอยู่บนตัก
สถานะของเราสองคนเธอไม่เคยลืม แต่เพราะไม่อยากได้จึงพยายามหนีเขาทุกทางที่ทำได้ การแต่งงานของเราสองคนไม่ได้เกิดจากความรัก และไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดอะไรใดๆ แต่เป็นการถูกบังคับแต่งเพื่อให้ธุรกิจของพ่อเธอนั้นมั่นคง ถามว่ามันเป็นหน้าที่ของเธอเหรอ บอกเลยว่าไม่! แต่เพราะเธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เลยต้องจำใจแต่งแล้วต้องทนอยู่ในนรกที่เรียกว่ากรงอยู่แบบนี้ไง
“อย่าทำหน้าแบบนั้นรดา ฉันปล่อยให้เธอเป็นอิสระมาเป็นปี” เขาปล่อยให้เธอทำตามใจตัวเองมาตั้งนาน ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาต้องควบคุมเธอได้แล้ว
“คุณต้องการอะไร” เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นรอง รดาก็ไม่กล้าที่จะแข็งข้อกับคนอย่างเขาอีก
“เธอกำลังลำบากรดา แค่ขอร้องฉันคำเดียว ฉันก็ยื่นมือเข้าช่วยเธอแล้ว”
“แต่ฉันไม่ต้องการ” มันเป็นสิ่งที่เธอสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง ทำไมเธอจะต้องไปขอร้องให้เขามาช่วยเธอด้วย
“ลูกค้าประจำที่ทิ้งเธอไปอยู่กับเจ้าอื่น เธอรู้ไหมว่าพวกนั้นไปอยู่ที่ไหน” ภูมินทร์หมายถึงลูกค้าที่ทิ้งเธอไป หลังจากที่เธอถูกเพื่อนโกง
“เห็นว่าเป็นเจ้าที่เพิ่งเปิดใหม่ แต่ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ”
“เธออยากรู้ไหมว่าเจ้าของคือใคร”
รดาหันกลับมามองใบหน้าที่ยกยิ้ม คงไม่แปลกถ้าเรื่องนี้ภูมินทร์จะรู้ เพราะคนอย่างเขาถ้าให้คนตามสืบ ไม่กี่วันก็ได้เรื่อง
“พ่อเธอไง”
“ว่าไงนะ” รดาขมวดคิ้วมุ่น
“เจ้าของใหม่ที่แย่งลูกค้าเธอไป คนที่ทำให้เธอถูกโกง แล้วก็คนที่วางแผนให้เพื่อนเธอหักหลัง...คุณเรวัต พ่อเธอไง”