ตอนที่ 2

3904 คำ
ส่วนเขมินทร์ก็เข้าไปดูงานที่ท่าเรือก่อนเพื่อจะคุยกับผู้จัดการหนุ่มใหญ่ที่ดูแลงานที่ท่าเรือซึ่งช่วงเดือนพฤษจิกายนจนถึงเดือนมีนาคมเป็นไฮซีซั่นมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันเยอะทางบริษัทก็มีโปรโมชั่นมากมายบริการลูกค้าและพนักงานทุกคนก็กระตือรือล้นต้องรับลูกค้าและบริการให้ประทับใจมากที่สุดแล้วจะได้กลับมาใช้บริการอีก “อาทิตย์หน้าเรียกพนักงานที่ไม่ได้ออกทริปเข้าประชุมด้วยนะครับคุณทวี” เขมินทร์บอกทวีผู้จัดการหนุ่มใหญ่วัยห้าสิบปีที่ทำงานใกล้ชิดกับพ่อของเขามานานจนได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นผู้จัดการเพราะความซื่อสัตย์และความสามารถรับมือกับสถาณการณ์ต่างๆได้ดีทั้งที่จบปวส.และเขามีความขยันใฝ่รู้จึงเรียนภาคค่ำจนจบปริญญาตรีและเรียนภาษาอังกฤษ จีนและได้อินเดียพอประมาณ “ได้ครับคุณคราม” “แล้วอีกเรื่องหนึ่งผมอยากให้คุณทวีช่วยจัดการตามกฎระเบียบของบริษัทเมื่อคุณปาณตมาสมัครงานจะต้องไม่มีการใช้เส้นสายหรืออภิสิทธิ์ใดๆแม้แต่พ่อของผมหรือคุณปานวาดจะฝากขอให้จัดการตำแหน่งตามวุฒิการศึกษาและความสามารถเหมือนทุกคนไม่มีข้อยกเว้นนะครับ” เขมินทร์พูดกับผู้จัดการบริษัทเพราะทุกคนทำงานที่นี่เพราะความสามารถทั้งนั้น “ได้ครับคุณคราม ยังไงผมก็ต้องทำตามกฎบริษัทอยู่แล้วครับ” ทุกคนอยากมาทำงานที่บริษัทท่องเที่ยวและให้เช่าเรือยอร์ชเพราะเงินดีแต่ก็ต้องมีความสามารถตามที่บริษัทต้องการและส่วนมากก็ทำงานกันมานานทั้งนั้นไม่ค่อยมีใครออกหากไม่จำเป็นเพราะเงินดีมีสวัสดิการดีครอบคลุมถึงครอบครัว “ขอบคุณครับ ผมขอตัวนะครับเดี๋ยวต้องเข้าไปดูโรงงานปาล์ม” เขมินทร์ยิ้มให้ผู้จัดการก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาพร้อมกับทวีเดินไปส่งเจ้าหนายหนุ่มที่รถ เมื่อขึ้นรถเขมินทร์ก็เอนตัวพิงเบาะแล้วหลับตาลงเขาทำงานทุกวันเดินทางไปโน่นนี่นั่นตลอดหากไม่ได้ไปตรวจงานก็จะวีดีโอคอลกับผู้จัดการทั้งหลายเพื่อสั่งงานยกเว้นการประชุมที่เขาจะต้องเข้าประชุมด้วยตัวเองก็ถือว่าทำงานหนักและไม่รู้ว่าปู่กับพ่อของเขาจะทำอะไรหนักหนาแค่นี้ก็กินทั้งชาติไม่หมดแล้ว “ตู้ดด..” “สวัสดีครับคุณโอปอล อ่อ เจ้านายเหรอครับ ไม่ว่างครับ ได้ครับเดี๋ยวผมจะบอกเจ้านายให้ครับ” พงษรับสายของโอปอลที่โทรมาหาเจ้านายแต่เขมมินทร์ยกมือโบกไปมาบอกว่าไม่รับสายเขาจึงปฏิเสธบอกว่าเจ้านายไม่ว่าง “มีอะไร” “คุณโอปอลบอกว่าโกเล่งนัดคุณครามทานข้าวที่บ้านเย็นนี้ครับ” “สงสัยต้องคุยกันแล้วล่ะงั้นนัดโอปอลมาทานข้าวเย็นที่โรงแรมให้ด้วยครับพี่พงษ์” ชายหนุ่มพูดอย่างเบื่อหน่ายช่วงนี้มีแต่ผู้หญิงตามตื้อสงสัยต้องโล้ะทิ้งให้หมดจะได้จบๆกันไป “ครับคุณคราม” พงษ์ยิ้มขำเจ้านายหนุ่มเนื้อหอมที่สาวอยากใกล้ชิดเพราะเขมินทร์ใจป้ำไม่เอาเปรียบหากถูกใจเขาจ่ายหนัก “สงสัยเราจะได้นายหญิงกันแล้วมั้งพงษ์” ทัตติพูดกับรุ่นพี่คู่หูล้อเจ้านายยิ้มๆ “แค่เสียงกรี้ดพี่ก็ไม่ไหวแล้วว่ะทัต แต่ถ้าคุณครามโอเคพี่ก็ไม่มีปัญหา หึหึๆๆ..” พงษ์พูดขำๆต่างก็รู้ว่าโอปอลนั้นเอาแต่ใจมากแค่ไหนและเกาะติดเขมมินทร์มานานหลายปีและช่วงสองปีหลังเขมินทร์ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเธอแต่เพราะพ่อเป็นเพื่อนกันก็ไปมาหาสู่และบางทีก็ออกงานด้วยกันทำให้ฝ่ายหญิงปักใจว่าเขมินทร์คือว่าที่สามีเพราะเจ้านายของเขาไม่ยอมแต่งงาน “ผมก็ไม่ไหวเหมือนกัน ที่ผมไม่พูดก็คิดว่าเป็นเพื่อนกันถ้าเธอรักผมจริงก็คงไม่ไปก็ผู้ชายคนอื่นและข่าวที่ออกไปโอปอลก็เป็นคนให้ทั้งนั้นที่ผมไม่พูดก็เพราะเห็นแก่โกเล่งแต่เป็นแบบนี้ก็ต้องคุยกันครับ ช่วงนี้พงษ์ให้คนตามดูเธอหน่อยหากได้ภาพด้วยก็จะดีมากครับ” แค่งานก็ปวดหัวมากพอแล้วยังจะมายุ่งเรื่องไร้สาระอีก “อ้อ แล้วให้คนตามดูนายปาณตว่ายังทำงานให้นายเชษฐ์อยู่หรือเปล่า” “ผมให้คนของเราตามนายปาณตแล้วเดี๋ยวผมจะบอกให้ตามคุณโอปอลด้วยครับ” พงษ์ตอบเจ้านายเขาสั่งลูกน้องตั้งแต่รู้ว่าน้องชายของปานวาดอยากมาทำงานที่ท่าเรือแล้ว เพราะคนไม่เอาถ่านอย่างปาณตอยากทำงานมันผิดปกติจึงให้ลูกน้องติดตามดูพฤติกรรมและมันก็จริงอย่างที่เขาคิดนายปาณตเข้าออกบ้านของนายเชษฐ เจ้าของ Co Co Club & Bar (โคโค คลับ แอนด์ บาร์) คู่แข่งของ The Dark Knight Club เขมินทร์ก็เข้าไปดูงานที่สวนปาล์ม สวนยางและโรงงานรับซื้อปาล์มกับยางของนายหัวเข้มปู่ของเขาที่ทำมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวดที่พังงาห่างจากสะพานสารสินไปประมาณยี่สิบกิโลเมตร ก่อนจะมาทำกิจการขนส่งข้ามชายแดนไทยมาเลย์เซียและฟาร์มเลี้ยงไข่มุก พอมายุคของนายหัวทศพลก็ทำโรงแรม ท่าเรือ มีเรือนำเที่ยวและเรือยอร์ชให้เช่า มีคลับหรูหลายแห่งและภรรยาคนแรกก็เปิดบริษัทผลิตเครื่องประดับไข่มุกที่ได้มาจากฟาร์มเลี้ยงไข่มุกแต่เธอเสียชีวิตไปก่อนเขาก็สานต่อจนมีชื่อเสียงด้วนไข่มุกอันดามันและเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในยุคของเขมินทร์ที่เข้ามาดูแลกิจการทุกอย่างของตระกูลธนกิตติศักดิ์ “กลับภูเก็ตเลยทัต” วันนี้เขาทำงานทั้งวันก่อนซึ่งเป็นเรื่องปกติเหมือนทุกวันจะเวียนไปดูแลกิจการทุกที่หากไปไกลถึงเขาก็จะค้างแต่ถ้าไม่จำเป็นเขาก็จะกลับภูเก็ตซึ่งเป็นบ้านของเขาจะสลับนอนที่บ้านปู่บ้างคอนโดบ้างแล้วแต่สะดวก “ตู้ดด..” “ครับคุณโอปอล ตอนนี้คุณครามกำลังกลับครับอีกครึ่งชั่วโมงน่าจะถึงครับ ได้ครับ” พงษ์วางสายจากโอปอล “คุณโอปอลรออยู่ที่โรงแรมครับ” “งั้นไปที่โรงแรมเลย วันนี้เหนื่อยมากผมอยากพักผ่อน” เขมินทร์บอกคนสนิททั้งสองที่เหนื่อยไม่แพ้เขาเพราะต้องติดตามไปทุกที่และช่วยเหลืองานของเขาทุกอย่าง เมื่อถึงโรงแรม ป่าตองบีช แอนด์ รีสอร์ท ร่างสูงใหญ่ของหนุ่มลูกครึ่งที่แทบจะไม่เหมือนคนไทยเขาได้เลือดแม่มาเยอะหากคนไม่รู้จักก็จะคิดว่าเขาเป็นชาวต่างชาติและเขมินทร์ก็ไม่ชอบออกสื่อก็ลงจากรถตู้หรูเดินเข้าไปที่ห้องอาหารพร้อมกับคนสนิทพอเห็นโอปอลนั่งอยู่ในมุมส่วนตัวก็เดินไปหา “สวัสดีค่ะคราม” “สวัสดีโอปอล สั่งอาหารหรือยัง” เสียงห้าวถามโอปอลที่เขามีความสัมพันธ์ด้วยแต่ตอนหลังเขาก็ทิ้งระยะห่างเพราะไม่ชอบที่เธอแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของและเขาก็ไม่ได้มีแค่โอปอลคนเดียวเพราะตัวเองยังโสดไม่มีแฟนไม่ได้คบใครมีแต่เพื่อนกันกันทั้งนั้น “สั่งแล้วค่ะ ปอลสั่งแต่ของชอบของครามค่ะ” โอปอลพูดเสียงหวานออดอ้อนหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อที่เธอได้ใกล้ชิดออกงานกับเขาถึงเขมินทร์จะมีผู้หญิงคนอื่นเธอก็ไม่สนใจหากแต่งงานเมื่อไหร่เธอจะจัดการให้สิ้นซากเพราะตอนนี้มีแค่เธอคนเดียวที่ได้ออกงานกับเขาส่วนปาริตาก็เจอกันตามงานแต่เป็นคนที่เขมินทร์มีความสัมพันธ์ด้วยในตอนนี้และเธอก็ไม่แคร์ “ขอบใจ แล้วพ่อของคุณชวนผมไปกินข้าวที่บ้านมีเรื่องอะไรหรือเปล่าพอดีช่วงนี้ผมไม่ว่าง” ชายหนุ่มยกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟมาหา “เอาเบียร์เย็นมาให้หน่อย” “คุณพ่ออยากเจอครามค่ะ ท่านอยากถามเรื่องของเราค่ะ” “เรื่องของเราเหรอ” “ก็ข่าวที่ออกไปน่ะสิคะคราม มีแต่คนถามท่านคุณพ่อก็เลยอยากคุยกับครามว่าจะเอายังไงกับเรื่องของเราค่ะ” โอปลอยิ้มหวานให้หนุ่มหล่อ “เราเป็นแค่เพื่อนกันไม่ใช่หรือไงโอปอลแล้วจะให้ผมทำอะไรล่ะ” “แต่ปอลรักครามนะคะ” “แต่ผมไม่ได้รักคุณและคุณก็รู้ดีนี่ว่าที่เป็นข่าวก็เพราะคุณไม่ใช่เหรอเป็นคนให้ข่าวแล้วที่ผมไม่แก้ข่าวก็เพราะมันไม่เป็นความจริงจึงไม่ได้สนใจผมรู้ว่าคุณหวังอะไรขอให้หยุดซะเพราะคุณจะไม่สมหวัง” เขมินทร์พูดเสียงเรียบไม่สนใจโฮปอลที่หน้าแดงด้วยความไม่พอใจ “ครามคะ” “คุณต้องไปคุยกับพ่อของคุณเองว่าเราสองคนไม่มีทางเป็นไปได้หากผมพูดคุณอาจจะรับความจริงไม่ได้” “ครามคะ คุณจะทำแบบนี้กับปอลไม่ได้นะใครๆเขาก็รู้ว่าเราคบกันมานานแล้วคุณพ่อก็เร่งให้เราแต่งงานกันและท่านไปคุยกับคุณลุงคิดแล้วด้วยค่ะ” เรื่องอะไรเธอจะปล่อยเขาไปกว่าจะได้ออกงานยืนเคียงข้างเขาได้เธอต้องอดทนมากแค่ไหนและเธอกับเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันมานานกว่าสองปีแล้วก็ตามแต่เธอก็ไม่เคยขาดเรื่องเซ็กส์ “เราคงคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะโอปอล กลับไปคิดให้ดีว่าจะคุยกับพ่อของคุณเองหรือจะให้ผมคุย ขอตัวนะ” เขมินทร์พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปอย่างไม่สนใจ “ครามคะ คราม” โอปอลเรียกชายหนุ่มเสียงดังจนทำให้ลูกค้าในห้องอาหารของโรงแรมมองแต่เธอไม่สนใจวิ่งตามเขมินทร์ออกไปจากห้องอาหาร “ผมว่าผมพูดชัดแล้วนะโอปอล อย่าทำให้ผมต้องใจร้ายกับคุณเลย” ร่างสูงหยุดเดินหันไปหาโอปอลที่เดินมากอดแขนเขาและมองด้วยสายตาไม่พอใจทำให้โอปอลเอามือออก “ครามคะ ฟังโอปอลก่อนสิคะ” “คิดให้ดีนะโอปอล ถ้าคุณยังล้ำเส้นผมก็จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น” เขาไม่ได้ขู่แต่เอาจริง “ครามกล้าขัดใจคุณพ่อของโอปอลเหรอคะ” โอปอลคิดว่าพ่อของเธอเหนือกว่าเขมินทร์แต่ที่จริงไม่ใช่เลยตอนนี้โกเล่งมีแต่เปลือกเพราะหมดไปกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาและยังมายืมเงินเขาไปยี่สิบกว่าล้านแล้วเอาที่ดินของเขามาฝากไว้แต่เรื่องนี้ไม่มีใครรู้แม้แต่พ่อของเขา “ผมไม่ได้ขัดใจกับผู้ใหญ่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอด คุณเองน่าจะรู้นะว่าทำไมผมถึงไม่เอาคุณทั้งที่คุณเสนอให้ตลอดเวลาเพราะอะไรรู้มั้ย ผมไม่ชอบผู้หญิงที่มั่วไม่เลือกคุณคงจำได้นะนะว่าไปกับใครมาบ้าง พอเถอะโอปอลก่อนที่ผมจะไม่เหลือความเป็นเพื่อนที่ผมให้คุณ” เขมินทร์ก้มพูดกับเธอเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคนเขาไม่อยากกินในที่ลับไขในที่แจ้ง “ครามคะ โอปอล...” โอปอลพูดไม่ออกเมื่อชายหนุ่มพูดออกมาเธอจำได้ว่าครั้งนั้นเมาแล้วมีความสัมพันธ์กับเชษฐคู่แข่งทางธุรกิจของเขมินทร์หลังจากนั้นชายหนุ่มก็บ่ายเบี่ยงไม่มีความสัมพันธ์กับเธออีกเลยจนถึงตอนนี้ก็สองปีกว่าแล้วแต่เขาก็มีผู้หญิงคนอื่นและเธอก็ไม่กล้าไปก้าวก่ายนอกจากพูดจากระทบกระทั่งสาวคู่ควงของเขาเท่านั้นแต่เขมินทร์ยังออกงานกับเธอปกติและเธอเองก็ยังแอบเจอเชษฐ์อยู่แต่ไม่บ่อยแล้วยังมีผู้ชายรายทางอีกหลายคนที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วยเพราะคิดว่าเขมินทร์ไม่รู้แล้วมองตามหลังเขาเดินจากไปและตัดสินใจเดินไปที่รถแล้วขับออกไปจากโรงแรมไปหาผู้ชายที่เขารักเธอดีกว่า เขมินทร์พูดจบก็เดินตรงไปที่รถเพื่อกลับคอนโดตอนแรกจะไปบ้านปู่แต่เปลี่ยนใจเอาไว้ไปพรุ่งอย่างน้อยวันนี้ท่านก็มีลูกชายทานอาหารเป็นเพื่อน เมื่ออาบน้ำเสร็จเขาก็ใส่แต่เสื้อคลุมเดินถึงเบียร์สองกระป๋องไปนั่งปล่อยอารมณ์ริมสระว่ายน้ำที่ยื่นออกไปจากห้องพักมองเห็นทะเลฝั่งอันดามันที่มืดมิดในยามค่ำคืนแต่ก็มีแสงไฟวิบวับจากเรือหาปลาเรือท่องเที่ยว “ตู้ดๆๆ..” “ว่าไงไอ้กร” “กูได้ข่าวว่าไอ้บอยจะไปร้องเพลงที่คลับของมึงเหรอวะ” พนมกร ภิรมย์ระวิน หรือกร ไฮโซหนุ่มหล่อคนดังถามนายหัวหนุ่มใต้คนดังที่เป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่สมัยไปเรียนที่อเมริกาและทำธุรกิจนำเข้ารถหรูของครอบครัวและให้เช่ารถหรูที่ขยายสาขาไปทุกจังหวัดใหญ่แหล่งท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย “ผู้จัดการติดต่อมันเองเห็นว่าช่วงนี้มันกำลังดังก็เลยเชิญมาจัดมินิคอนเสิร์ตที่คลับน่ะ มึงจะมาหรือเปล่าล่ะ” เขมินทร์ก็ถามเพื่อไปอย่างนั้นแหละหากไม่ติดงานพวกมันไม่มีทางพลาด “ไปสิวะ กูก็เบื่อกรุงเทพแล้วเหมือนกันไปฟังเสียงเป็ดแหกปากร้องเพลงที่คลับมึงดีกว่า” พนมกรพูดหยอกเย้า สินทร พรประสิทธิ์ พระเอกหนุ่มหล่อชื่อดังที่แสดงหนังแสดงละครเรื่องไหนก็ดังเปรี้ยงปร้างและขึ้นชื่อว่าฟาดเรียบหากผู้หญิงเต็มใจและครั้งเดียวจบและเขาต้องเป็นคนจัดการเรื่องสถานที่แต่ก็มีกลุ่มเพื่อนดาราที่แฮงเอาท์ด้วยกันบ่อยๆและแอบกินกันเองเงียบๆหากมีเป็นข่าวก็บอกเป็นเพื่อนกัน “เดี๋ยวกูจองห้องไว้ให้” “ขอบใจมากเพื่อน เดี๋ยวกูจะชวนไอ้ภูไปด้วยไม่รู้มันจะไปหรือเปล่า” “มึงก็บอกให้มันพาเมียมาด้วยเลยสิ เดี๋ยวกูจะจัดทริปฮันนีมูนให้มึงสองคนเต็มที่เลย” เขมินทร์บอกเพื่อนไหนๆทุกคนก็ว่างเขาจะได้พักผ่อนบ้างก็ดีเหมือนกัน “โอเค เดี๋ยวกูจัดการเองแค่นี้นะเดี๋ยวมึงจะขาดตอน ฮ่าๆๆ..” พนมกรพูจบก็หัวเราะเสียงดังแล้ววางสาย “ไอ้บ้านี่กูไม่ได้ปี้หญิงสักหน่อย” เขมินทร์พูดยิ้มๆยกเบียร์ขึ้นดื่มแล้วปล่อยอารมณ์ไปกับสายลมเย็นสบายในยามคำคืนอย่างโดดเดี่ยวไร้สาวข้างกายแต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดีที่ไม่มีใครมาตามกวนใจเรียกร้องโน่นนี่นั่นจนกระทั่งเบียร์หมดไปสองกระป๋องก็เข้านอน ณ.กรุงเทพมหานคร ที่บ้านหลังใหญ่ชานเมืองย่านพระรามสองหมู่บ้านเศรษฐีแต่ละหลังราคาสามสิบล้านบาทขึ้นไปและใกล้มห้างสรรพสินค้าใหญ่และยังบริษัทโรงงานมากมายและบ้านหลังนี้อยู่กันห้าคนมีเจ้าของบ้านสองคนและคนงานในบ้านสามคนแต่ส่วนมากจะมีแต่เจ้านายที่เป็นผู้หญิงอยู่บ้านส่วนเจ้านายผู้ชายจะนอนที่คอนโดมากกว่า “ป้าไมคะเย็นนี้ทำอาหารเผื่อพี่เดียวด้วยนะคะ” เสียงหวานของเจ้านายคนสวยบอกแม่บ้านทันทีที่กลับเข้าบ้านหลังจากไปทำงานมา “ค่ะคุณอามี่” ละไมยิ้มให้เจ้านายสาวแล้วเดินไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นขึ้นตั้งโต้ะเวลาหนึ่งทุ่มตรงของทุกวันยกเว้นเจ้านายจะโทรมาบอกว่าไม่ทานอาหารที่บ้าน มิรันดา พงษ์พิริยะ หรือ อามี่ ภรรยาสาวแสนสวยวัย30ปีของ อดิศักดิ์ พงษ์พิริยะ หรือเดียวนักธุรกิจหนุ่มหล่อมาดเนี้ยบวัย32ปีเจ้าของบริษัทตกแต่งรถหรูและเซอร์วิสซุปเปอร์คาร์ทายาทของนักธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศที่แต่งงานกันมาได้สามปีแต่ยังไม่มีวี่แววจะมีทายาทจึงถูกพ่อแม่ฝ่ายชายที่อยากมีหลานเร่งรัดและเธอเพิ่งลับมาจากบ้านของพ่อแม่สามีที่เรียกไปคุยแต่สามีของเธอติดประชุมจึงไม่ได้ไปก็เลยโทรไปบอกเขาให้มาคุยกันที่บ้าน เมื่ออาบน้ำเสร็จก็ใส่ชุดเดรสยาวอยู่กับบ้านแล้วลงมาชั้นล่างรอสามีที่บอกว่าจะมารับประทานอาหารเย็นด้วยจึงเปิดทีวีดูข่าวทั่วไปและคิดถึงคำพูดของพ่อแม่และย่าของสามีก่อนจะถอนหายใจ “เฮ้ออ..” “เป็นอะไรอามี่ถอนหายใจเสียงดังเชียว” อดิกันต์เดินเข้ามาในบ้านก็เห็นภรรยานั่งดูทีวีถอนหายใจเสียงดัง “พี่เดียวมาแล้วเหรอคะ” “นี่อามี่ไม่ได้ยินเสียงรถของพี่จริงเหรอ” อดิกันต์ถามภรรยาก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามเธอแล้วยิ้ม “ไม่ได้ยินค่ะ มี่ว่าพี่เดียวไปอาบน้ำก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวทานข้าวแล้วค่อยคุยกันค่ะ” มิรันดาบอกสามีเบาๆตอนนี้เธอหิวข้าวแล้ว “โอเค,งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะแต่คืนนี้พี่จะกลับไปนอนที่คอนโดนะ” ร่างสูงสมารทเจ้าสำอางลุกขึ้นเดินขึ้นไปชั้นบนแล้วเลี้ยวไปที่ห้องนอนของเขาซึ่งแยกกันนอนกับภรรยาตั้งแต่แต่งงานกันคืนแรกจนถึงตอนนี้ก็สามปีกว่าแล้ว “คุณอามี่จะให้หนูตั้งโต้ะเลยมั้ยคะ” จินตาถามเจ้านายสาวที่นั่งเหม่ออยู่หน้าทีวี “จ้ะจินตา” มิรันดาตอบจินตาแล้วปิดทีวีเดินไปที่ห้องอาหารแล้วหยิบไวน์มาเทใส่แก้วเดินไปนั่งที่โต้ะรอสามีที่ไม่เคยนอนห้องเดียวกันตั้งแต่เข้าหอคืนแรก หญิงสาวรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอดิกันต์ไม่ได้ชอบผู้หญิงแต่ที่ยอมแต่เพื่อให้พ่อแม่สบายใจเท่านั้นและเธอเองก็ไม่มีปัญหาเพราะแต่งงานใช้หนี้ตามคำขอของพ่อแม่ที่เป็นหนี้พ่อของอดิกันต์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่พ่อแม่ของเธอไม่ได้มีฐานะร่ำรวยเหมือนพ่อแม่ของอดิกันต์และท่านไปยืมเงินพ่อของอดิกันต์มาให้เธอลงทุนทำธุรกิจร้านนวดสปาแม้มันก็พอมีกำไรแต่ไม่ได้มากมายพอใช้หนี้ พ่อแม่ของอดิกันต์ก็มาพูดกับพ่อขอให้เธอแต่งงานเพราะทางพ่อแม่ของอดิกันต์อยากได้เธอเป็นลูกสะใภ้และอดิกันต์ยอมแต่งงานกับเธอตามที่พ่อแม่ต้องการเธอจำใจต้องแต่งงานและตกลงกับอดิกันต์ได้ เขาบอกเธอว่ามีคนรักและพามาแนะนำให้รู้จักก็คือเพื่อนของเขานั่นเองและครอบครัวของทั้งสองฝ่ายไม่มีใครรู้ว่าลูกของตัวเองเป็นเกย์ “วันนี้ถึงกับดื่มเลยเหรออามี่” อดิกันต์ถามภรรยาในนามและยิ้มอย่างอารมณ์ดีหลังจากอาบน้ำแต่งตัวหล่อเนี้ยบกลิ่นน้ำหอมฟุ้งพร้อมจะออกไปข้างนอกแล้วนั่งลงหัวโต้ะ “พี่เดียวไม่ถูกกดดันเหมือนมี่นี่คะ” “พ่อแม่พี่บ่นอยากมีหลานอีกแล้วล่ะสิ” อดิกันต์พูดยิ้มๆเขาไม่ได้เครียดเรื่องนี้เลยยังไงเขาก็มีลูกไม่ได้และเคยไปรีดน้ำเชื้อแล้วแต่น้ำเชื้อของเขาไม่แข็งแรงเพราะกินฮอโมนเพศหญิงมานานตั้งแต่สมัยเรียนและเขารับอย่างเดียวแต่อวัยวะเพศชายไม่ได้ฝ่อ “ค่ะ,มี่ไม่รู้จะตอบท่านยังไงแล้วค่ะ” “เดี๋ยวพี่จะเข้าไปคุยกับท่านเอง” อดิกันต์พูดขึ้นเขาตั้งใจจะบอกพ่อแม่หลายครั้งแล้วกลัวพวกท่านรับไม่ได้ “ทำไมพี่เดียวไม่บอกท่านไปตรงๆเลยล่ะคะ ยิ่งนานไปมันจะทำให้พวกเราลำบากและพวกท่านก็มีความหวังที่ไม่มีทางสมหวังมี่สงสารท่านค่ะ” อารดาพูดกับสามีเบาๆเพราะปัญหานี้เริ่มตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาตอนนี้ก็เข้าปีใหม่มาสองเดือนแล้วท่านก็ยังพูดเรื่องทายาททุกรั้งที่เจอกัน “พี่ลองหลายครั้งแล้วแต่พอเห็นหน้าท่านพี่ก็พูดไม่ออกยิ่งท่านอยากได้ทายาทจากพี่อีก ช่วงนี้พี่ก็ยุ่งเรื่องงานต้องไปต่างประเทศและอามี่เองก็เพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ภูเก็ตพี่ว่าเราใช้เรื่องงานนี่แหละเดี๋ยวพี่จัดการเองอย่างน้อยก็ยืดเวลาออกไปได้อีกสักปีก็ยังดี” “ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะค่ะ” “งั้นพี่ไปนะนัดยอสไว้” อดิกันต์พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องอาหารโดยไม่แตะอาหารเย็นสักคำ “เฮ้ออ..” มิรันดาถอนหายใจแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มจนหมดแก้วแล้วทานอาหารค่ำคนเดียวเมื่ออิ่มแล้วก็ไปนั่งดูทีวีและโทรหา เพื่อนรักที่อยู่ภูเก็ต “ว่าไงคะคุณอามี่คนสวยเมื่อไหร่แกจะมาภูเก็ตสักทีล่ะยะ” ไรวินหนุ่มหล่อตี๋ทั้งที่เป็นคนใต้แต่เขามีเชื้อสายจีนจึงไม่ได้คมเข้มเหมือนหนุ่มใต้จริงๆแต่เขาเป็นเพื่อนสาวของเธอ “ขอเคลียร์งานทางนี้ก่อนอาทิตย์หน้าจะไปจ้ะ แต่มีแกดูแลอยู่แล้วมี่ไม่จำเป็นต้องไปก็ได้” มิรันดาตอบเพื่อนรักที่ตัวเป็นชายใจเป็นหญิงและเป็นคนสแกนสามีของเธอและบอกว่าเขาแอ๊บแมนซึ่งจริงอย่างที่เพื่อนพูดเธอจึงกล้าตกลงกับเขาและแต่งงานกับอดิกันต์ “ดีเลยแกแล้วแกจะอยู่กี่วันล่ะ ฉันจะได้หยุดพักไปอ่อยผู้กับแก ฮิฮิๆๆ..” “ถ้างานไม่มีปัญหามี่ว่าจะไปสักสองอาทิตย์จะได้พักสมองบ้าง” “เครียดเรื่องผัวของแกหรือไงยะนังมี่” ไรวินล้อเพื่อนขำๆเขารู้ว่าอดิกันต์กับมิรันดารักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง “เปล่าหรอก พี่เดียวน่ะไม่มีปัญหาอยู่แล้วแต่พ่อแม่ของเขานี่สิอยากให้มี่กับพี่เดียวมีหลานให้ แกก็รู้นี่ว่ามันเป็นไปไม่ได้” มิรันดาตอบเพื่อนเพราะไรวินรู้เรื่องของเธอกับสามีมาตั้งแต่ก่อนแต่งงานและอยู่ในเหตุการณ์ที่เธอกับอดิกันต์ทำข้อตกลงกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม