@ โมเดิร์นคอนโด...
สายสนทนา...
“อาทิตย์นี้ข้าวยังไม่กลับค่ะแม่ ข้าวมีงานเดินแบบค่ะ”
หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ทำให้ ‘เกวลิน’ เครียดอย่างที่สุดมาแล้ว เธอตกลงกับ ‘อลินดา’ เพื่อนสุดเลิฟของเธอไว้ว่า จะ Move on เรื่องราวร้ายๆ ของเธอทั้งสองไป เริ่มต้นใหม่ก้าวต่อไป และตั้งใจที่จะเรียน ทำงานเพื่ออนาคตของตัวเอง
“พ่อเค้าบ่นถึงลูก ข้าวไม่กลับบ้านสองอาทิตย์แล้ว เรื่องงานแม่ว่า ข้าวรับเยอะเกินไปหรือเปล่าลูก”
‘กิรณา’ ไม่เข้าใจลูกสาวของเธอเหมือนกัน ทั้งที่ครอบครัวของกิรณา ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากมาย แต่ลูกสาวของเธอกลับทำงานพิเศษ เกวลินควรจะตั้งใจเรียนหนังสือ ถึงแม้ไม่ทำงาน เธอกับสามีก็ส่งลูกสาวเรียนจนจบได้ เงินเดือนครู กับเงินเดือนหมอ ก็เพียงพอที่จะเลี้ยงบุตรสาวบุตรชายทั้งสองคน ได้อย่างสบายไม่ติดขัดเลย
“มันเป็นคิวงานที่ข้าวรับไว้เมื่อเดือนที่แล้วค่ะแม่ ข้าวไม่ให้เป็นปัญหากระทบเรื่องเรียนหรอกค่ะ แม่สบายใจได้”
“ไม่กระทบได้ยังไง ปกติ ถ้าข้าวไม่รับงาน ข้าวก็กลับบ้านเราแล้ว พ่อของลูกบ่นทุกวัน จนแม่ไม่รู้จะแก้ตัวให้ข้าวยังไงแล้ว”
“แล้วนายตังไปไหนล่ะคะแม่”
เกวลินเอ่ยถึงน้องชายของเธอ เกวลินกับน้องชาย อายุห่างกันสามปี เกวลินเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่หนึ่ง ส่วนน้องชายเรียนอยู่มัธยมตอนปลายชั้นปีที่สี่
“ข้าวตังเหรอ รายนั้น ไม่ค่อยจะอยู่บ้านเลย ออกไปเตะฟุตบอลซ้อมดนตรีทุกเย็น ไม่เคยจะมีเวลาให้พ่อกับแม่ซักวัน”
“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าข้าวไม่มีงานแล้ว จะรีบกลับตั้งแต่เย็นวันศุกร์เลยค่ะแม่ ต่อไปข้าวจะไม่ค่อยรับงานแล้วค่ะ”
“เลิกรับไปเลยดีกว่า พ่อกับแม่จะได้สบายใจนะ”
“ข้าวขอคิดดูอีกทีนะคะ รายได้ดีขนาดนี้ จะให้ข้าวทิ้งไปได้ยังไงกันคะ พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงข้าวนะคะ เรื่องนี้ ข้าวดูแลตัวเองได้ สบายมากเลยค่ะ”
“ความจริง นนทบุรีกับกรุงเทพฯ ก็ไม่ไกลกันเลย ข้าวขับรถไม่ถึงชั่วโมง ก็ถึงบ้านเราแล้ว น่าจะมา ให้พ่อกับแม่ได้เห็นหน้าบ้าง นี่ก็สองสัปดาห์แล้ว ที่ข้าวไม่กลับบ้าน สงสัยพ่อกับแม่ต้องขึ้นไปหาข้าวที่กรุงเทพฯ แล้วมั้ง”
“งั้น ข้าวหาเวลาว่างกลับก็ได้ค่ะ เดี๋ยวยังไง ข้าวจะโทรบอกแม่อีกทีนะคะ แม่จะได้เตรียมกับข้าวอร่อยๆ ไว้รอข้าวไงคะ”
ต่อให้เกวลินผ่านเรื่องราวร้ายๆ มามากแค่ไหน เกวลินก็มีครอบครัวที่อบอุ่น พ่อแม่ และน้องชาย คอยห่วงใยดูแลและซัพพอร์ตเกวลินเสมอ...
“เฮ้อ...” หลังจากที่วางสายจากผู้เป็นแม่ เกวลินก็คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอ และก็อดนึกถึงเหตุการณ์อันเลวร้ายที่สุดของเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สภาพของเกวลินในตอนนั้น ราวกับแมวป่าบ้าพลัง จู่โจมพี่รหัสของเธออย่างไร้ความเขินอายใดๆ เกวลินถูกยาปลุกเซ็กส์เล่นงาน เรื่องนี้ เธอจะโทษใครได้ล่ะ ในเมื่อเธอเป็นคนเริ่มทุกอย่างเอง
...
เหตุการณ์เมื่อห้าวันที่แล้ว...
บนรถสปอร์ตของพี่รหัส...
“น้องข้าวตู แน่ใจนะ ว่าจะไม่ไปหาหมอ”
“ไม่ค่ะ พี่ชินทร์ช่วยไปส่งข้าวที่คอนโดก็พอค่ะ”
ทั้งที่ร่างกายของเกวลินกำลังร้อนผ่าวไปทั่วร่าง แต่เธอก็กัดฟันสู้ อดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เกวลินคิดว่า พอเธออาบน้ำ มันก็จะสามารถช่วยบรรเทาฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ได้ เกวลินเห็นในซีรี่ย์ มักจะเป็นแบบนั้น
“แต่...พี่ว่า อาการข้าวตูหนักมากเลยนะครับ ไอ้บาสมันเลวมากจริงๆ มันทำจนเป็นอาชีพ พี่คิดว่า มันคงใส่ยาชนิดแรงลงไปแน่นอน ไปหาหมอ จะดีกว่านะ”
“ไม่ค่ะ ข้าวอายค่ะ ไม่อยากไปเจอหมอในสภาพนี้หรอกค่ะ พี่แค่ช่วยส่งข้าวให้ไปถึงที่คอนโดก็พอ”
ตอนนี้ลำคอของเธอแห้งผากไปหมดแล้ว ความร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วเรือนกายของเธอ ถ้าได้อาบน้ำก็คงดี ริมฝีปากบางกัดเม้มจนเป็นเส้นตรง มือบางกำเข้าหากันแน่น เพื่อระงับอาการความต้องการของตัวเองเอาไว้
แต่ทว่า...พอมาถึงคอนโดที่พักของเธอ เกวลินกลับไม่เป็นอย่างที่ตัวเองพูดไว้เลย
“พี่ชินทร์...ชะ-ช่วยพยุงข้าวไปหน่อยได้มั้ยคะ”
เสียงหวานพร่าเอ่ยร้องขอ ลืมสิ้นความอายใดๆ ร่างกายของเกวลินมันร้อนรุ่ม ดั่งโดนไฟร้อนแผดเผา เพราะฤทธิ์ยากำหนัดกำลังแสดงอนุภาพอันร้ายแรง ยิ่งเจอสัมผัสจากฝ่ามือหนา ที่แตะบนแผ่นหลังเธอเพื่อประคองนั้น มันกลับเพิ่มทวีขึ้นไปอีกเท่าตัว
“ได้ครับ...”
เตชินทร์ประคองร่างหญิงสาวเข้าไปในลิฟต์ นิ้วเรียวแกร่งกดไปยังชั้นที่เธอพักอาศัยอยู่ วันนี้เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายพอสมควร เขากับกลุ่มแก๊งเพื่อนวิศวะ ได้ช่วยรุ่นน้องออกจากคลับ และเตชินทร์เอง ก็อาสาพาน้องรหัสของเขามาส่งที่นี่
ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงกดของรหัสหน้าประตูดังขึ้น
ชายหนุ่มพาหญิงสาวเดินเข้ามาภายในห้องพัก ซึ่งตรงกลางเป็นห้องรับแขก ที่มีโซฟาใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง เพราะความกระสันต้องการ ทำให้ร่างอวบอิ่มสั่นสะท้านขึ้นมาเป็นระยะ ผลจากฤทธิ์ของยาเป็นตัวควบคุม
“ขะ-ขอบคุณค่ะพี่ชินทร์”
มือบางแตะไปที่ลำแขนอันแข็งแกร่งของชายหนุ่ม กระแสไฟฟ้าวิ่งไหลผ่านจากปลายนิ้ว สู่เรือนร่างอวบอิ่มทันที ความต้องการในบุรุษเพศแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง โดยเฉพาะท้องน้อยของเธอนั้น เหมือนมีผีเสื้อนับล้านตัวบินวนอยู่ ความกระสันทำให้ร่างบางสั่นสะท้านราวกับจับไข้
“ต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า พี่จะไปซื้อให้ครับ”
เตชินทร์เอ่ยถามหญิงสาวด้วยความห่วงใย เธอเป็นน้องรหัสเขา สายตาคมกวาดไปทั่วดวงหน้าอันแดงก่ำของเธอ ในเวลาที่เธอแต่งตัวแบบนี้ แทบจะเป็นคนละคนกับที่เขาเคยเจอในมหาวิทยาลัย ลุคนี้ เตชินทร์ไม่เคยเห็นเลย เธอสวยมาก สวยจนเขาตะลึงเลยทีเดียว แววตาวิบวับของเขาเปล่งประกายความพึงพอใจอย่างชัดเจน
“พี่ชินทร์คะ คือ ตอนนี้ ข้าวร้อนไปหมดแล้วค่ะ”
มือบางเริ่มลูบไล้จากแขนสู่ไหล่กว้าง ร่างอวบอิ่มขยับเข้าหาเรือนกายกำยำ มือข้างหนึ่ง ดึงโน้มร่างเขาเข้าหาเธอ ในยามปกติ เกวลินจะไม่มีวันทำแบบนี้แน่นอน เธอไม่เคยคิดที่จะชอบพี่รหัสของเธอเลยสักนิด ตรงกันข้าม เธอไม่ถูกชะตา ไม่ชอบความหลงตัวเอง และไม่ชอบความเพลย์บอยของเขาเลย
“ข้าวโดนยาปลุกเซ็กส์ชนิดแรงเข้าไป พี่ว่า ไปหาหมอดีกว่านะ ถ้าไม่ได้ปลอดปล่อย ข้าวอาจจะช็อกได้นะ”
เตชินทร์มีประสบการณ์เรื่องนี้มาพอสมควร ความเพลย์บอย ของเขา ทำให้เจอผู้หญิงมากหน้าหลายตา บางคนโผเข้าหาเขา แต่บางคนก็ใช้ยาปลุกตัวเอง เพื่อต้องการให้เตชินทร์ช่วย แต่กับน้องรหัสเขาคนนี้ เธอคือเหยื่อที่โดนโดยไม่ตั้งใจ เขาไม่ควรที่จะฉวยโอกาสกับเธอ
“มะ-ไม่ค่ะ ข้าวอาย ไม่อยากไปหาหมอ พี่ชินทร์ช่วยข้าวหน่อยได้มั้ยคะ”
มือบางลูบไล้ไปทั่วอกกว้าง พร้อมกับดันร่างเขาให้ล้มลงนอนบนโซฟาตัวใหญ่ ขนาดและความกว้างของโซฟาสามารถรองรับน้ำหนักของคนสองคนได้อย่างพอเหมาะ
“ให้พี่ช่วยอะไร เราต้องคิดให้ดีนะ เรื่องแบบนี้ เธอจะอาจจะต้องเสียใจภายหลังนะ ปล่อยพี่เถอะ”
เตชินทร์พยายามแกะมือน้อยๆ ออกจากการเกาะกุมเขา ใบหน้าหวานอยู่ใกล้แค่เอื้อม ห่างกันไม่ถึงคืบ ลมหายใจร้อนเป่ารดลงบนใบหน้าคม ความเย้ายวนของวัยสาว ทำให้เตชินทร์พยายามระงับอาการพลุ้งพล่านของตัวเองเอาไว้ และพูดเตือนสติเธออยู่ตลอดเวลา...
**************