ตอนที่1เตชินทร์

1407 คำ
คฤหาสน์สไตล์ยุโรปคลาสสิกหลังใหญ่สีขาวขลิบทองอร่าม ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนอันกว้างใหญ่ โอบล้อมด้วยกําแพงหินอ่อนสีขาวสลักลวดลายอันประณีต ประตูทางเข้าขนาดใหญ่ประดับด้วยทองคําแกะสลักลวดลายอันละเอียดละออ โคมไฟระย้าคริสตัลขนาดใหญ่ส่องแสงระยิบระยับเหนือเพดานสูง ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงด้วยเฟอร์นิเจอร์หลุยส์ชั้นสูง ผ้าม่านกํามะหยี่สีแดงสด “เนียม...หล่อนลองโทรตามตาชินทร์อีกรอบซิ เลยเวลานัดเกือบชั่วโมงแล้ว ทำไมยังไม่กลับมาอีก” ‘คุณหญิงจันทร์ทิพย์’ เอ่ยกับสาวใช้คนสนิท ถึงบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ นัดสำคัญที่จันทร์ทิพย์จะต้องพูดกับลูกชายของเธอให้รู้เรื่องเสียให้ได้ในวันนี้ ก็คือการหมั้นหมายที่ทางผู้ใหญ่ได้หารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าลูกชายตัวดีของเธอนี่สิ กลับสร้างปัญหาให้จันทร์ทิพย์ต้องปวดหัวอยู่ตอนนี้ “คุณหนูบอกอีกห้านาทีถึงเจ้าค่ะ คุณผู้หญิง” “ตาชินทร์นี่ยังไง ปล่อยให้แม่รอเป็นชั่วโมงแล้ว” “คุณผู้หญิงใจเย็นๆ นะเจ้าคะ ช่วงนี้ คุณหนูชินทร์ เธอแปลกไปนะเจ้าคะ ไม่ค่อยพูด และไม่สดใสเหมือนอย่างแต่ก่อนเลยเจ้าค่ะ” “แปลกเหรอ?” “หรือคุณหนูจะอกหักหรือเปล่าเจ้าคะ เนียมสังเกตคุณหนู มาหลายวันแล้ว ดูคุณหนูชินทร์จะซึมๆ ไปเจ้าค่ะ” เนียมหอมเลี้ยงคุณหนูชินทร์ของเธอมาตั้งแต่แบเบาะ เธอจะรู้ถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคุณหนูตัวเองเสมอ “หล่อนคิดมากเกินไปหรือเปล่า ตาชินทร์อาจจะเหนื่อยเรื่องเรียนเรื่องเที่ยวหรือเปล่า ลูกชายฉันจะมีเรื่องเครียดอะไรได้” จันทร์ทิพย์ถอนหายใจกับความเสเพลของบุตรชาย เธออาจจะเลี้ยงลูกชายแบบตามใจจนเกินไป เตชินทร์ถึงได้เป็นแบบนี้ “มาแล้วเจ้าค่ะ คุณผู้หญิง คุณหนูมาแล้ว” เนียมหอมรีบเดินเข้าไปต้อนรับด้วยความโล่งใจ ที่คุณหนูของเธอมาทันเวลา ก่อนที่คุณหญิงท่านจะระเบิดอารมณ์ลูกใหญ่ “ทำไมมาช้าจัง ม๊ารอเกือบชั่วโมงแล้วนะตาชินทร์ ลูกไปอยู่ไหนมา รู้มั้ยว่าม๊ารอลูกอยู่” พอเห็นหน้าเจ้าลูกชายของเธอโผล่พ้นประตูเข้ามา จันทร์ทิพย์ก็รัวคำพูดปนความขุ่นเคืองใส่ลูกชายของเธอทันที “นัดของม๊า คือเรื่องเดิม ผมไม่จำเป็นต้องรีบหรอกครับ” ‘เตชินทร์’ โต้กลับมารดา พร้อมกับทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาใหญ่ ตรงข้ามกับผู้เป็นแม่ ‘แม่ของเขาจะมีเรื่องอะไร...นอกจากการจับคู่ให้เขา และรีบที่จะจัดการให้เขาแต่งงาน’ “ทำไมลูกพูดแบบนี้ ทางผู้ใหญ่เขาตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ฤกษ์งานหมั้น ลูกจะถอนหงอกผู้ใหญ่ไม่ได้นะ” “ม๊าครับ ผมอายุ 21 เองนะครับ ม๊าจะรีบให้ผมแต่งงานไปทำไมครับ” สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้นไปอีก ที่แม่เขาพูดมา มันเป็นเรื่องที่ไกลจากความคิดของเตชินทร์มาก เขายังเรียนอยู่ปีสาม อายุก็ยังน้อย ทำไมจะต้องรีบให้เตชินทร์มีครอบครัว “เกิน 20 ก็แต่งได้แล้ว ไม่เห็นจะเกี่ยวกับอายุเลย ชินทร์เป็นลูกคนเดียวของป๊ากับม๊านะ รีบๆ แต่งมีหลานม๊าจะได้สบายใจ” นั่นก็เป็นเพราะว่าจันทร์ทิพย์มีทายาทสืบสายเลือดเพียงคนเดียว เธอเลยต้องการที่จะให้ลูกชายแต่งงานโดยเร็ว ความกังวลเกิดจากการมีทรัพย์สมบัติที่มากมายมหาศาล จะหาใครมาช่วยแบ่งเบาลูกชายของเธอได้ นอกจากหลานๆ ที่เกิดจากสายเลือดของตระกูลเชาวกรกุล “แต่ผมยังไม่อยากแต่งนี่ครับม๊า” ถ้าเป็นก่อนหน้านั้น ก่อนที่เตชินทร์จะมีเหตุการณ์วันไนท์สแตนด์ (One Night Stand) กับน้องรหัสของตัวเองล่ะก็ เขาจะไม่ขัดเลย ความรู้สึกของเตชินทร์ในเวลานี้ มันแปลกประหลาดอย่างที่สุด ‘ทำไมเขาจะต้องแคร์ความรู้สึกของเธอด้วย ในเมื่อเธอเอง ไม่เคยจะสนใจสักนิด’ “ถึงชินทร์จะขัดใจม๊าได้ แต่ว่า ชินทร์ก็ขัดใจป๊าของลูกไม่ได้หรอกนะ ยิ่งทางคุณหญิงมุกดามาเร่งถามม๊าทุกวัน ม๊าก็ยิ่งร้อนใจ ชินทร์คงเข้าใจม๊านะลูก” บุตรสาวของคุณหญิงมุกดา ‘หนูเพนนี’ เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปโฉมความงาม ฐานะครอบครัว ผ่านจันทร์ทิพย์ตรวจสอบมาเรียบร้อยแล้ว อีกทั้ง ยังเหมาะสมที่จะเป็นแม่พันธุ์ในการสร้างทายาทสืบสกุลของเธออีกด้วย “ทำไมต้องเป็นคนที่ป๊ากับม๊าเลือกด้วยครับ” ถ้าเตชินทร์หาคนที่เขาถูกใจและเหมาะสมกับเขาได้ล่ะ พ่อกับแม่เขา จะยินดีให้เขาได้ทำตามใจหรือเปล่า “ลูกหมายถึง?” “ถ้าผมมีคนที่ถูกใจอยู่แล้ว มาแต่งงานและมีหลานให้กับม๊าล่ะครับ...ม๊าจะโอเคหรือเปล่า” แต่ทว่า เตชินทร์ก็ยังไม่มั่นใจ ที่จะพาคนที่ถูกใจ มาแต่งงานกับเขาได้เลยนะ แต่ ไม่เป็นไรหรอก แก้ปัญหาแบบนี้ไปก่อนก็แล้วกัน “ไม่โอเค! ทำไม...หนูเพนนีไม่ถูกใจชินทร์เหรอลูก? ทางผู้ใหญ่ก็คุยกันไปหมดแล้ว ลูกจะมาถอนหงอกพวกผู้ใหญ่ไม่ได้นะ ม๊าจะไม่ยอมเด็ดขาด” “ผมไม่ได้ชอบผู้หญิงที่ม๊าหามาให้ จะแต่งงานกันได้ยังไงกันครับ” “แต่งกันไป เดี๋ยวก็ชอบกันไปเองแหละ ชินทร์จะทำให้ผู้ใหญ่ผิดใจกันนะลูก...แต่งกันก่อน แล้วค่อยไปทำความรู้จักกันทีหลังก็ได้” “ผมไม่รัก ก็จะไม่แต่งครับ ม๊ากับป๊าไปตกลงกันเอง ไม่ถามผมสักคำ ผมยังไม่พร้อมที่จะเป็นสามี และเป็นพ่อใครหรอกครับ” ชีวิตของเตชินทร์ ยังสนุกกับชีวิตวัยรุ่น สนุกกับการเรียน มีเพื่อน ไม่อยากที่จะรับผิดชอบชีวิตของใครในตอนนี้หรอก “ชินทร์จะขัดใจป๊าไม่ได้นะ ป๊าของลูกจะต้องไม่ยอมแน่นอน ม๊าอยากให้ลูกลองทบทวนอีกสักหน่อย ดีมั้ย” “ผม คิดหมดแล้วครับม๊า ไม่ใช่ผมจะพูดเพราะพึ่งคิด ผมไม่พร้อมที่จะแต่งงาน รอให้ผมเรียนจบก่อนไม่ได้เหรอครับ ทำไมป๊ากับม๊าจะต้องรีบให้ผมแต่งล่ะครับ การแต่งงาน มันควรจะรักกันก่อน ไม่ใช่เหรอครับ ป๊ากับม๊าก็ยังรักกันเป็นแฟนกันมาก่อน ผมก็อยากจะเป็นเหมือนป๊ากับม๊านะครับ” “แต่ ผู้ใหญ่คุยกันหมดแล้ว ลูกช่วยหมั้นกันไปก่อนก็ได้นี่ จะไม่ได้ไม่ผิดใจกันทั้งสองฝ่าย ลูกต้องคิดถึงหน้าตาป๊ากับม๊าด้วยนะชินทร์” “ป๊ากับม๊า ควรจะคิดถึงผม ก่อนที่จะตกลงอะไร ผมไม่ชอบแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์เพราะธุรกิจแบบนี้นะครับม๊า” “สรุป ชินทร์จะไม่ยอมแต่งไม่ยอมหมั้นใช่มั้ย” “ครับ รอให้ผมเรียนจบ ตอนนั้น ผมจะอาจจะพาผู้หญิงที่ผมรักมาแต่งงานครับ” “ม๊า ไม่ต้องการผู้หญิงหน้าไหน นอกจากหนูเพนนี เพราะฉะนั้น ม๊าจะไม่ยอมรับใครทั้งนั้น ลูกควรลองคบกับหนูเพนนีก่อนก็ได้ ช่วยรักษาหน้าป๊ากับม๊าหน่อย ไม่ได้หรือไง” “ผมเคยเจอเพนนี ผมไม่ได้ชอบเธอ ม๊าจะดันทุรังให้ผมไปคบกับเธอทำไมครับ เรื่องธุรกิจของบริษัทเรา มันก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ที่จะต้องพึ่งพาการแต่งงานนี่ครับ” “ป๊ากับเจ้าสัวเอกรินทร์พ่อของหนูเพนนี เป็นเพื่อนสมัยเรียนด้วยกัน ป๊าของลูกสัญญากับเพื่อนของเขาไว้ว่า ลูกกับหนูเพนนีจะต้องแต่งงานกัน” “ผมไม่แต่งครับ ป๊ากับม๊าจะบังคับผมยังไง ผมมีคนที่ผมชอบอยู่แล้วครับ” “งั้น...ลูกก็พาคนที่ลูกบอกว่าชอบ มาพบป๊ากับม๊าหน่อย” “อืม...ได้ครับ ผมจะพาเธอมาเจอป๊ากับม๊าแน่นอนครับ” เตชินทร์รับปากผู้เป็นแม่ แต่ทว่า ความเป็นจริง เขาจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ‘คนที่ชอบงั้นเหรอ? แต่ว่าเธอจะชอบเขาหรือเปล่า นี่แหละ คือปัญหา’ **************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม