ณ ห้องของนอนของฟิโอน่า
ค่ำคืนอันเเสนยาวนานของเด็กสาวตัวน้อยซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงที่เปียกชุ่มไปด้วยโลหิตสีเเดงฉาน เเสงจันทร์ยามราตรีสาดส่องผ่านหน้าต่าง เผยใบหน้าของตุ๊กตาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาเเห่งความสิ้นหวังปนความเสียดาย ข้างๆตัวของเธอคือมือสังหารที่มีใบหน้าอันเยือกเย็นเเละไร้ความปราณี
เสียงลม...ที่พัดความหนาวเหน็บเข้ามาผ่านหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ เสียงหายใจที่สั่นไหวไม่คงที่ เสียงโอดครวญอันน่าสังเวชของฟิโอน่าที่ดังจนน่ารำคาญ...
อึก!..ไม่นะ ฉันจะมาตายเเบบนี้ไม่ได้ เจ็บ..เหลือเกิน
ฟิโอน่าพยายามที่คลานหนีออกจากเตียงของตัวเอง เธอไม่เคยคิดเลยว่าทำไมเตียงถึงได้ดูกว้างขนาดนี้
ดาบยาวสองคมที่ถูกเเทงเข้ามากลางหลังของเด็กน้อยที่กำลังดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด เสียงร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นมาอีกครั้ง
เลือดไหลอาบคมดาบของมือสังหาร..ด้ามจับของดาบปรากฏให้เห็นตราประจำตระกูล...หัวงูสองหัวที่พันอยู่รอบๆดาบสีเหลืองทอง
นี่มัน..ตราประจำตระกูลของ------ทำไม...ฉันไม่รู้ตัวให้เร็วกว่านี้กันนะ..
7ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุการณ์ปัจจุบัน
น่า..เบื่อออ เฮ้อ ทำไม่วันนี้มันช่างน่าเบื่ออย่างงี้หลังจากที่ฉันพยามที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับพลังเวทเเละมานาเพื่อที่จะเอาไปเเก้เเค้นเจ้าโจวชัวน์นั่น เเต่ร่างกายของฉันมันอ่อนเเอเกินไป
ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก เเหวนทองที่ท่านเเม่ให้ฉันมาก็ดูเเลมันไว้ไม่ได้...
ฟิโอน่าที่กำลังนั่งอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้สีขาวที่ลายล้อมรอบตัว กับใบหน้าที่ดูสิ้นหวังพลางตัดพ้อตัวเองในใจ
...อยากตายจัง
“ฟิโอน่า” เสียงเรียกของเด็กหนุ่มที่ดังมาจากข้างหลังของฟิโอน่า
ฟิโอน่าหันกลับไปอย่างรวดเร็วพลางมีท่าทีตกใจกับเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหลังเธอ
“ทะ...ท่านพี่!” ฟิโอน่าลงจากเก้าอี้เเล้ววิ่งไปโผกอดเด็กหนุ่มทันที
เด็กหนุ่มผมสั้นสีดำขรับ นัยน์ตาสีดำสนิทพร้อมใบหน้าที่ดูอ่อนโยน กับชุดขุนนางสีดำสนิท เขาเอามือไปสัมผัสที่หัวของฟิโอน่าอย่างอ่อนโยน
“ฟิโอน่าน้องพี่ วันนี้ก็มาที่สวนอีกเเล้วเหรอ?”
“อื้อ! ท่านพี่ชาล น้องคิดถึงพี่จัง ทำไมเดี๋ยวท่านพี่ไม่มาหาน้องบ้างเลย” ฟิโอน่ามองไปที่ชาลพลางกอดเเน่นพร้อมหัวใจที่นุ่มฟู
[ชาลฮาเลน ฟาริเอล] เป็นพี่ชายคนที่สองของฟิโอน่า มีนิสัยที่อ่อนโยน เเละรักฟิโอน่าที่เป็นน้องสาวของตัวเองเป็นอย่างมาก...
ฉันชอบท่านพี่ชาลฮาเลนมากเพราะเขาเป็นคนที่อ่อนโยนเเละใจดีกับฉัน หวังว่าเขาจะช่วยฉันได้นะ...ฉันเคยหวังไว้เเบบนั้น
“ฟิโอน่า ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันทำไมเธอดูผอมลงเเบบนี้” ชาลอุ้มฟิโอน่าขึ้นมาใบหน้าของเขาดูเป็นห่วงฟิโอน่าเป็นอย่างมาก
“อ่าา ท่านพี่ปล่อยน้องลงนะคะ” ฟิโอน่าพยามดิ้นไปดิ้นมาอย่างน่าเอ็นดู
“โอ้! ขอโทษที” ชาลค่อยๆวางฟิโอน่าลงอย่างนุ่มนวลก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบใบไม้ที่ติดอยู่บนผมของฟิโอน่า
“ฟิโอน่า”
“หื้อ? มีอะไรเหรอคะท่านพี่”
“...เปล่า ไม่มีอะไร” ชาลหยุดพูดไปกระทันหันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยู่ในใจเเต่ไม่พูดออกมา
“ว่าเเต่ ทำไมท่านพี่ถึงไม่ค่อยมาหาน้องบ้างเลยละ”
“...อ๋อ พอดีช่วงนี้พี่ค่อนข้างยุ่งน่ะ มีงานหลายๆอย่างที่ต้องสะสาง ว่าเเต่ทำไมน้องพี่ถึงดูผอมลงเเบบนี้น้องได้กินข้าวบ้างรึเปล่า?”
“ค่ะ...น้องได้กินเเต่ของอร่อยเลยละค่ะ ไม่ขาดเหลืออะไรหรอก”
“งั้นเหรอๆ พี่ว่าต้องให้น้องกินเนื้อเยอะๆเเล้วละ ดูสิ น้องผอมจนเห็นกระดูกเเล้วเนี่ย”
“อุ๊บ ฮาฮาฮา! ท่านพี่นี่ละก็” ฟิโอน่าเผลอหลุดหัวเราะออกมาด้วยท่าทางที่น่าเอ็นดู
ทั้งสองพี่น้องที่กำลังยืนคุยกันอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ที่พลิ้วไหวไปตามลม ผีเสื้อหลากสีที่กำลังบินไปมา เเสงอุ่นๆที่กระทบผ่านเเก้มเเดงระเรื่อของฟิโอน่า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขเเละความหวังเล็กๆ
นั่น..เป็นเเค่ความสุขชั่วคราวก็เพียงเท่านั้น
.................
ณ ห้องนอนของฟิโอน่า
....เหนื่อยจัง เเต่ก็มีความสุขที่สุดเลย นี่สินะที่เรียกว่าความรัก...ฮินะ ถ้าฉันรู้ตัวให้เร็วกว่านี้พวกเราก็คง...ฮินะ ฉันคิดถึงเธอ อยากขอโทษเธอ ถ้าเธอยังอยู่เธอจะให้อภัยฉันไหมนะ?
เอ๊ะ!
จู่ๆฟิโอน่าก็ลุกพรวดขึ้นมาพร้อมคิดอะไรได้บางอย่าง
เดี๋ยวนะ ถ้าฉันตายเเล้วก็มาเกิดใหม่ที่โลกนี้ เเล้วฮินะละ เธอไปอยู่ไหน ฉันคิดไม่ตกจริงๆกับเรื่องนี้ เป็นไปได้ไหมว่าเธออาจจะเกิดใหม่พร้อมกับฉัน
ถึงเเม้มันจะเป็นเเค่การคาดเดาเเต่ก็มีความเป็นไปได้...หรือว่าไม่มีทางเป็นไปได้... งั้นในโลกเก่าคนที่ฉันฆ่าไปพวกเขาไปอยู่ไหนกันละ?
อืมม..เป็นเรื่องที่น่าฉงนใจยิ่งนัก ถึงเเม้จะมีความเป็นไปได้เเต่ก็เป็นไปไม่ได้
อ๊ากก!! ช่างมันละกันปวดหัวเเล้ววว
เฮ้อ! รีบนอนเเล้วพรุ้งนี้มาเรียนเวทมนต์ต่อดีกว่า..
.............
ยามราตรีมนุษย์ผู้โดดเดี่ยวยืนท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา เพื่อชำระล้างความเหนื่อยหน่ายของเหล่ามนุษย์ผู้ไร้ยางอาย ความปรารถนาที่ไร้ซึ่งเเก่นเเท้ของความต้องการอันหยั่งรากลึกเหนือจินตนา
ความโลภที่ไร้จุดสิ้นสุดของมนุษย์ผู้โง่เขล่าจะนำพาความหายนะ มาสู่ดินเเดนเเห่งความผาสุก เเละจะถูกดึงให้ต่ำลงสู่ดินเเดนเเห่งบาปของพระเจ้าที่เคยพลาดพลั้ง ไม่มีใครหลีกหนีชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้
เเละนั่นคือฟันเฟืองเเห่งโลกที่ได้หมุนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เป็นนิรันดร์ เป็นอนันต์ อยู่เเบบนั้นชั่วกัปชั่วกัลป์ เเม้โลกจะสูญสลายเป็นเถ้าธุลี
ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก
ฟี้~ ฟี่~
เเกร๊ก
ชายในเสื้อคลุมสีดำสนิทที่ย่างกรายเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบพร้อมดาบในมือ ใบหน้าที่เยือกเย็นเหมือนกับเตรียมพร้อมที่จะสังหารใครก็ตามอย่างไม่ลังเล
หื้อ? ให้ข้ามาสังหารเจ้าเด็กนี้เหรอ? เด็กที่ดูอ่อนเเบบนี้มันมีอะไรที่ต้องกังวลใจขนาดเลยรึอย่างไร
ดาบเหล็กที่ค่อยๆง้างขึ้นอยู่เหนือศรีษะของฟิโอน่า
ใบดาบที่ถูกกดลงมาอย่างเเรงทำให้หมอนสีขาวถึงกับขาดครึ่ง
“เเกเป็นใคร?” ฟิโอน่าหลบใบดาบของมือสังหารได้ทันก่อนจะรีบถอยออกมา
“.......ไม่ต้องรู้หรอก” มือสังหารพุ้งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็วพร้อมที่จะฟันไปที่คอของฟิโอน่า
ฟิโอน่าเอาหมอนที่ถูกตัดขาดครึ่งขว้างไปที่มือสังหารก่อนจะรีบหนีออกไปจากห้อง
นี่มัน..เรื่องบ้าอะไรกัน! เเค่นี่ฉันยังใช้ชีวิตไม่ยากพอรึไง จะมีอุปสรรคอะไรนักหนา!! เราต้องตะโกนขอให้คนช่วย โซเฟีย..ไม่ได้เราจะเรียกเธอไม่ได้ฉันไม่อยากให้โซเฟียต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายเเบบนี้
*ฟึบ!*
อ๊าา!! อุ๊บ!! มือของมือสังหารที่พุ้งเข้าอุดปากของฟิโอน่า
คมดาบที่ตัดผ่านหัวไหลข้างซ้ายลากยาวจนไปถึงเอวทำให้เห็นกระดูกสันหลังที่ถูกตัด ฟิโอน่าที่ล้มฟุบลงไปก็ถูกมือสังหารอุ้มขึ้นพลางเอามืออุดปากเธอไว้ไม่ให้ส่งเสียง
ฟิโอน่าที่ดิ้นไปมาเพราะความเจ็บปวดก็เริ่มรู้สึกชาไปทั้งตัว ความหวาดกลัวอย่างสุดขีดทำให้น้ำตาของฟิโอน่าเอ่อล้นออกมา ความทรงจำที่เลวร้ายได้ถาโถมเข้ามาเปรียบดั่งคลื่นพายุ
มือสังหารที่เดินกลับเข้ามาในห้องเเล้วก็โยนร่างของฟิโอน่าขึ้นไปบนเตียงที่เธอเคยนอน
เสียงลม...ที่พัดความหนาวเหน็บเข้ามาผ่านหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ เสียงหายใจที่สั่นไหวไม่คงที่ เสียงโอดครวญอันน่าสังเวชของฟิโอน่าที่ดังจนน่ารำคาญ...มันคือสิ่งที่เธอสมควรที่จะได้รับมัน
[เจ้าเด็กน้อย ที่พยามจะดิ้นรนเพื่อหาหนทางเพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไร้ซึ่งสามันสำนึก การมีตัวตนของเธอมันช่างน่ารังเกียจเกินไปเสียเเล้ว เธอควรจะรับรู้ได้เสียทีว่าเธอนั้น มันไร้ค่าเกินกว่าที่จะถูกก้อนหินขว้างปาใส่ สิ่งที่รอเธออยู่ภายภาคหน้ามีเพียงบ่วงเชือกที่ถูกเเขวนอยู่บนกิ่งไม้ที่ไร้ชีวา เเละนั่นคือสิ่งที่เจ้าสมควรจะได้รับมันอย่างสาสม...ฟิโอน่า]
คมดาบที่ถูกปักอยู่กลางอกของเด็กน้อย ลมหายใจที่เเผ่วเบาลงช้าๆก่อนจะกลายเป็นความเงียบ มือสังหารที่วางใจก็ได้เดินถอยออกจากหน้าต่างไปเเละทิ้งร่างของเด็กสาวเอาไว้อย่างงั้น ใบหน้าของเธอยังคงความหวาดกลัวเหมือนถูกหยุดเวลาเอาไว้ณ ตรงนั้น
ช่างเป็นภาพที่....น่าดูเสียนี่กระไร